กอปภ.จ.เชียงราย ขอความร่วมมืองดการเผาในที่โล่งทุกชนิด ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 13 กุมภาพันธ์ 2569 พร้อมกำหนดมาตรการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้ออกประกาศขอความร่วมมืองดการเผาในที่โล่งทุกชนิด และกำหนดมาตรการเพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ประจำปี 2569 เนื่องด้วยในช่วงฤดูหนาวต่อเนื่องจนถึงฤดูร้อนของทุกปี มักเกิดสถานการณ์ปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) มีค่าสูงเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดวิกฤตมลพิษหมอกควัน ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต เศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ คุณภาพสิ่งแวดล้อม และทัศนวิสัยในการคมนาคมทั้งทางบกและทางอากาศ


เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เกินค่ามาตรฐาน และลดผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย จึงขอความร่วมมืองดการเผาในที่โล่งทุกชนิด ในห้วงวันที่ 1 มกราคม – 13 กุมภาพันธ์ 2569 พร้อมกำหนดมาตรการเพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติและปรับใช้ตามความเหมาะสม ดังนี้
ขอความร่วมมืองดการเผาทุกประเภท : ทั้งเศษวัสดุทางการเกษตรและขยะมูลฝอยในที่โล่ง ทั้งในเขตเมืองและเขตชนบท รวมถึงในสถานที่ราชการ เอกชน ที่สาธารณประโยชน์ พื้นที่เกษตรกรรม บ้านเรือนที่อยู่อาศัย และพื้นที่อื่น ๆ โดยให้ปรับเปลี่ยนวิธีการกำจัดจากการเผา เป็นการนำไปใช้ประโยชน์หรือย่อยสลายด้วยวิธีที่เหมาะสม
กำหนดให้มีการบริหารจัดการแหล่งกำเนิดมลพิษฝุ่นละอองและฝุ่นควัน ทั้งบนถนน การก่อสร้างอาคาร การประกอบกิจการอุตสาหกรรม โรงงาน และการประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ต้องไม่ก่อให้เกิดการแพร่กระจายของฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือในการป้องกัน มีการเก็บกวาดวัสดุที่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง การล้างถนนและสถานที่ประกอบการ รวมถึงการฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ ทั้งนี้ ในช่วงที่ค่ามลพิษทางอากาศอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ให้เพิ่มความถี่ในการกวาดล้างทำความสะอาดถนน และการฉีดพ่นละอองน้ำในอากาศ ในช่วงเวลา 06.00 – 08.00 น. และ 18.00 – 20.00 น. หรือตามความเหมาะสม
กำหนดให้มีการจัดการแหล่งมลพิษจากการจราจรและการขนส่ง โดยการตรวจและแก้ไขปัญหารถควันดำ ทั้งรถยนต์ขนาดเล็ก รถยนต์ขนาดใหญ่ และรถโดยสารสาธารณะ รวมทั้งเข้มงวดให้รถบรรทุก รถขนส่งสินค้า รถขนย้ายวัสดุก่อสร้าง และรถขนส่งพืชผลทางการเกษตรที่อาจก่อให้เกิดการฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง ต้องใช้ผ้าใบปกคลุมให้มิดชิด กำชับรถที่ออกจากแหล่งก่อสร้างและการใช้งานต่าง ๆ ให้มีการล้างล้อรถและทำความสะอาดฝุ่นอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งรณรงค์ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวในช่วงเวลาที่ค่ามลพิษทางอากาศสูงหรือในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น และงดติดเครื่องยนต์ขณะจอดในสถานที่ราชการ โรงพยาบาล โรงเรียน พื้นที่สาธารณะ และพื้นที่เสี่ยงที่มีมลพิษทางอากาศสูง
กำหนดให้ส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตรวจสอบและบำรุงรักษายานพาหนะ ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์ต่าง ๆ ของทางราชการให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน หากพบว่ามีปัญหาก่อให้เกิดมลพิษ ให้หยุดใช้งานจนกว่าจะดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขแล้วเสร็จ ทั้งนี้ หน่วยงานราชการและผู้ปฏิบัติงาน ต้องปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ภาคเอกชนและประชาชนอย่างจริงจัง
กำหนดให้มีการควบคุมและกำกับดูแลแหล่งกำเนิดมลพิษประเภทโรงงานอุตสาหกรรม โดยให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบโรงงานที่มีความเสี่ยงในการปล่อยฝุ่นละออง รวมถึงพื้นที่ประกอบกิจการด้านการเกษตรและการปศุสัตว์ หากตรวจพบว่ามีการปล่อยมลพิษทางอากาศเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนด ให้ดำเนินการแก้ไขตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จัดทำห้องปลอดฝุ่น (Safety Zone) ในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์วิกฤตหมอกควันที่มีค่าฝุ่นละอองสูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน
กำหนดให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ดำเนินการประชาสัมพันธ์และแจ้งข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้อง ทั้งข้อมูลสถานการณ์ฝุ่นละอองที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แนวทางการดูแลรักษาสุขภาพ ตลอดจนผลกระทบด้านอื่น ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และสามารถปฏิบัติตามมาตรการได้อย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงราย ขอให้ทุกส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ตลอดจนประชาชนทุกภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ให้ความร่วมมือและร่วมดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เพื่อร่วมกันลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก และดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน