ผมขออาศัยพื้นที่ครับ
ชัยชนะที่ปลายจมูก ผมชอบการตลาดนอกตำรา คำว่า “มาร์เก็ตติ้ง” ในการทำธุรกิจของผม เรียนรู้จากศาสตร์ชีวิตประจำวันรอบตัว ผมเรียกมันว่าวิชา
“ตลาดกลิ้ง”กลิ้งเข้าไปสัมผัสคลุกคลีกับลูกค้า กลิ้งไปดูทุกรายละเอียด เข้าไปนั่งอยู่ในใจลูกค้ารู้ว่าเขาต้องการอะไร รายละเอียดพวกนี้หาไม่ได้บนโต๊ะทำงานของคุณนะครับ แต่ถ้าคุณขยันเก็บรายละเอียด ยิ่งเก็บมากเท่าไหร่ โอกาสพัฒนาสินค้าให้โดนใจก็มีมากเท่านั้น
วิชาสามัญที่ผมใช้ตลอดทุกครั้ง คือ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ใส่ใจทุกรายละเอียด ไม่มองข้ามแม้เพียงเรื่องเล็กน้อยเพราะความแตกต่างเพียง “นิดเดียว” นี่แหละครับ คือ ความสำเร็จปลายจมูกที่เฉือนเอาชนะคู่แข่ง
ผมได้บทเรียนนี้จากครั้งแรกและครั้งเดียวที่เข้าสนามม้าเสียท่าหมดเงิน 50 บาทเพราะอยากรู้อยากลองคราวนั้น สอนผมจดจำไปทั้งชีวิต ในสนามแข่งม้า ชัยชนะเขาวัดกันที่การถึง “เส้นชัย” ไม่ใช่ที่ “ปลายเท้า” แต่แพ้-ชนะกันที่ “ปลายจมูก” ระหว่างทางต่อให้โชว์ฟอร์มดิบดีแค่ไหน แต่ถ้าพลาดจังหวะสุดท้ายลืมพุ่งจมูกเข้าถึงเส้นชัยก่อนคู่แข่งก็เท่ากับตายตอนจบ..พุ่งไปไม่ถึงความสำเร็จการทำธุรกิจก็เหมือนกัน ไม่มีกติกาว่าใครคิดก่อน รู้ก่อน ทำก่อนแล้วจะสำเร็จ แต่มันขึ้นอยู่กับว่านาทีสุดท้ายคุณทำทันหรือเปล่าหรือทำถูกจังหวะเวลาหรือเปล่า ชีวิตจริงคนเราก็แบบนี้ บางทีมันอยู่ที่ “นิดเดียว” จริงๆ ครับ ใครเก่งกว่าใคร ใครสวยกว่ากันอาจเฉือนกันไม่ลง โค้งสุดท้ายสาวงามคนไหนตอบคำถามได้ชนะใจกรรมการก็อาจคว้ามงกุฎกับสายสะพายไปครอง
ยิงปืนจะโดนไม่โดน จังหวะลั่นไกอยู่แค่เสี้ยววินาที ระหว่างน้ำท่วมปากกับท่วมจมูก ความแตกต่างแค่เส้นยาแดงนิดเดียว แต่ผลลัพธ์แตกต่างไม่ใช่แค่หน้ามือกับหลังมือ ผมเชื่อว่าความลับความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่ใครเก่งกว่า ดีกว่าเท่านั้นถึงจะเป็นที่หนึ่ง ตอนเริ่มต้นธุรกิจ ผมไม่ได้มีอะไรเหนือไปกว่าคนอื่นๆ แต่เพราะเชื่อในชัยชนะปลายจมูก ผมจึงแตกต่างด้วยวิธีคิดและทำมากกว่าคนอื่นอีก “นิดหนึ่ง” เสมอสมัยเริ่มธุรกิจแผงขายหนังสือเล็กๆ ร้านผมกับคู่แข่งทำเลก็พอๆ กัน แต่ขายดีกว่าเพราะผมได้เปรียบอีกนิดหนึ่งตรงที่ลูกขยัน ร้านเราเปิดก่อนแต่ปิดทีหลังสุด คนอื่นเฝ้าร้านนั่งอ่านหนังสือ แต่ผมใช้สายตาส่งยิ้มให้ลูกค้า คอยจดจำว่าใครเป็นแฟนหนังสือเล่มไหน หลายต่อหลายธุรกิจที่ผมชนะได้ก็เพราะ “ใจ” ล้วนๆ หลักการง่ายๆ คือ โดนใจ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ทำอะไรให้ลูกค้าเกิดความประทับใจสุดๆตอนทำแคมเปญรวยฟ้าผ่า 30 ฝา 30 ล้าน เราไม่ใช่เจ้าแรกที่กล้าแจกเงินล้าน แต่เราแตกต่างตรงที่แจกจริง แจกเร็ว ผมไปแจกเองทันทีใน 24 ชั่วโมง รุ่งเช้ากลายเป็นข่าวทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์
อะไรที่คนอื่นทำไม่ถึง ทำไม่ได้ ไม่เคยทำ แต่คุณทำได้ คุณจะได้ใจลูกค้าไปเต็มๆบางทีถึงไม่ได้เงิน แต่ก็ได้แบรนด์ แต่ถ้าทำดีๆ คุณก็อาจจะได้ทั้งแบรนด์ ได้ทั้งเงิน แคมเปญยอดนิยม “ไปแต่ตัว ทัวร์ยกแก๊ง” ที่เข้าไปอยู่ในใจลูกค้าได้ เพราะให้ในสิ่งที่ลูกค้าคาดไม่ถึง ปาฏิหาริย์ยอดขายจึงเกิดขึ้นหลายแคมเปญที่ประสบความสำเร็จ เพราะเราคิดมากกว่าเจ้าอื่นที่เคยทำเพียงนิดเดียวถ้าคิดจะทำแคมเปญ “ให้” แล้ว ผมชอบคำว่าสุดๆ จะถึงใจ..ใจต้องถึง อย่าทำครึ่งๆ กลางๆ ตัวอย่างเช่นแคมเปญแจกรถยนต์ มีแต่คนให้รถแต่ไม่รวมภาษี แต่ผมชอบแจกจริง ออกภาษีทำประกันทุกอย่างให้ฟรี แถมเติมน้ำมันให้อีกเต็มถัง คุณคิดว่าอย่างไหนลูกค้าประทับใจมากกว่ากันครับบางทีแค่ทำมากกว่าอีกนิดเดียว แต่ชัยชนะแค่ปลายจมูกอาจเทียบกันไม่ติด
คำว่า “มาร์เก็ตติ้ง” จึงหมายถึง “ตลาดกลิ้ง” ที่สอนให้ผมไม่เคยคิดอะไรแค่มุมเดียว ทุกโจทย์การแข่งขันต้องกลิ้งไปให้ลงลึกถึงรายละเอียดใครคิดและทำมากกว่าอีกด้านหนึ่ง พิชิตใจลูกค้าได้มากกว่าคู่แข่ง คนนั้นคือผู้ชนะครับ