เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 26 เมษายน 2024, 09:45:55
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0
ห้ามประกาศซื้อขาย แลกเปลี่ยน สัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครองทุกชนิด บนเว็บไซต์แห่งนี้ เจอกระทู้ไหนประกาศ จะดำเนินการลบออก โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ตลาดกลางซื้อขายสินค้าออนไลน์
| |-+  สัตว์เลี้ยง (ผู้ดูแล: ตาต้อม, Active Oper, “๏.๎฿ @ ์ N ' K๎.๏™”)
| | |-+  ลบค่ะ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ... 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 [53] พิมพ์
ผู้เขียน ลบค่ะ  (อ่าน 94635 ครั้ง)
๑Sam jubu๑
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,832



« ตอบ #1040 เมื่อ: วันที่ 06 สิงหาคม 2012, 19:25:39 »

มาช่วยดันครับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

สนใจกล้องฟิล์ม กล้องดิจิตอล เลนส์canon sony เลนส์มือหมุน ทยอยลงของในเพจครับ ขออยู่เชียงราย

https://www.facebook.com/SM-Camera-200088610346370/

สนใจโทร 0987470006
Line samjubuu
Be fish aqua shop
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,617


คิดถึง มฟล จัง


« ตอบ #1041 เมื่อ: วันที่ 07 สิงหาคม 2012, 18:36:44 »

 ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า

Be fish aqua shop
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,617


คิดถึง มฟล จัง


« ตอบ #1042 เมื่อ: วันที่ 09 สิงหาคม 2012, 21:08:21 »

 ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า

Be fish aqua shop
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,617


คิดถึง มฟล จัง


« ตอบ #1043 เมื่อ: วันที่ 10 สิงหาคม 2012, 09:35:50 »

 ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า

Be fish aqua shop
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,617


คิดถึง มฟล จัง


« ตอบ #1044 เมื่อ: วันที่ 10 กันยายน 2012, 10:00:56 »

 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

Be fish aqua shop
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,617


คิดถึง มฟล จัง


« ตอบ #1045 เมื่อ: วันที่ 02 ตุลาคม 2012, 17:26:03 »

 Dwarf Shrimp
จัดอยู่ในกลุ่มกุ้งขนาดจิ๋ว ซึ่งกินตะไคร่น้ำเป็นอาหารหลัก ขนาดลำตัวนั้นจะไม่ใหญ่โตไปกว่า4cm ส่วนมากแล้วจะมีsizeลำตัวแค่2.5cmเท่านั้น กุ้งตัวเล็กพริกขี้หนูเหล่านี้ เลื่องชื่อในสีสันของลำตัวที่สดใสงดงาม โดยปัจจุบันมีการคัดแยกสายพันธ์กุ้งแคระได้มากกว่า120สายพันธุ์ แต่ถ้านับเฉพาะกุ้งแคระที่พบได้ในแหล่งน้ำธรรมชาติแล้ว คงมีไม่กี่สิบชนิดเท่านั้น เพราะกุ้งแคระที่มีสีสันสวยงามส่วนใหญ่ เกิดจากากรคัดเลือกสายพันธุ์(selective breeding)โดยมนุษย์ทั้งสิ้น นักเลี้ยงกุ้งสวยงามในต่างประเทศที่มีความสนใจในสัตว์น้ำตัวน้อยเหล่านี้ นำพวกกุ้งแคระทั้งหลายมาขยายพันธุ์ขึ้นในที่เลี้ยงและพัฒนาสายพันธุ์ให้มีสีสันลวดลายสวยงามมากขึ้นในปัจจุบัน กุ้งแคระในธรรมชาตินั้นจะมีถิ่นกำเนิดอยู่ในโซนทวีปเอเชียตะวันออก เช่น จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และทางเอเชียใต้ อย่างอินเดีย และศรีลังกา รวมถึงไทยเราเองก็มีการค้นพบกุ้งแคระในธรรมชาติด้วยเช่นกัน


 ตู้เลี้ยง
ขนาดตู้ที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงกุ้งแคระนั้น ก็ไม่มีกฏเกณฑ์ตายตัวอะไร ตู้ใบเล็กจิ๋วขนาดไม่กี่นิ้วก็สามารถเลี้ยงกุ้งแคระได้ หรืออาจจะเลี้ยงในตู้ไมน้ำนาโน ทรงลูกบาศก์ขนาด1ฟุต ตกแต่งด้วยพรรณไม้น้ำสวยงาม ก็กำลังเป็นที่นิยม ตู้เลี้ยงที่มีขนาดใหญ่โตก็เหมาะสมดีเช่นกัน เพราะว่าตู้เลี้ยงจะมีปริมาตรน้ำมากพอที่จะรองรับปริมาณของเสีย รักษาค่าต่างๆของน้ำ และอุณหภูมิให้ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะว่ากุ้งแคระนั้นค่อนข้างsensitiveต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของอุณหภูมิและค่าไนเตรท ไนไตรท์ การเลี้ยงในตู้ใบเล็กจึงเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ เป็นเหตุให้กุ้งอ่อนแอและตายได้ง่าย กุ้งแคระส่วนมากชอบค่าphเป็นกรดอ่อนph6.5-7 ซึ่งการใส่ขอนไม้ลงไปในตู้เลี้ยงอาจจะช่วยเรื่องค่าphได้ และขอนไม้ยังเป็นแหล่งอาหารของกุ้งแคระด้วย ในธรรมชาติแล้วกุ้งแคระเหล่านี้ จะอาศัยอยู่ตามลำธารของน้ำตกสูง ที่ตั้งอยู่ตามทำเลค่อนข้างห่างไกล ซึ่งความบริสุทธิ์ของน้ำยังปลอดภัยจากมลพิษในเมือง ด้วยเหตุที่แหล่งอยู่อาศัยตามธรรมชาตินั้นห่างไกลจากทะเล จึงทำให้กุ้งแคระเหล่านี้ไม่ค่อยค่อยชอบความเค็มเสียเท่าไหร่ ผู้เลี้ยงไม่ควรใส่เกลือลงในตู้เลี้ยง


การตกแต่งตู้เลี้ยง
ในตู้เลี้ยงกุ้งแคระ ควรจะมีพืชน้ำบ้างเพื่อให้เป็นที่หลบซ่อนสำหรับพ่อแม่กุ้ง และเป็นที่หลบภัยสำหรับตัวอ่อนไว้สักหน่อย พืชน้ำที่นิยมใช้กันคือชวามอส กุ้งแคระนั้นชอบชวามอสมาก เพราะเป็นทั้งที่หลบซ่อนและเป็นอาหารโปรดด้วย กุ้งมักจะไปเกาะเก็บกินอาหารตามดงชวามอส ชวามอสที่ขายกันเป็นขอนๆมาใส่เลยก็สะดวกดี หรือจะซื้อแบบที่เป็นขยุยๆ หรือเป็นแผ่นมาตกแต่งตู้เลี้ยงก็ได้ การใส่ขอนไม้ลงไปในตู้เลี้ยงนั้นจะช่วยเรื่องสภาพน้ำที่เป็นกรดอ่อนๆ และเป็นแหล่งอาหารอย่างดีสำหรับกุ้งแคระ


ระบบกรอง
ระบบกรองนั้นค่อนข้างจำเป็นมากสำหรับการเลี้ยงกุ้งแคระ เพราะว่าเมื่อคุณภาพน้ำเริ่มลดต่ำลง กุ้งแคระจะตายได้ง่ายและรวดเร็วมาก เนื่องจากกุ้งแคระนั้นsensitiveต่อปริมาณแอมโมเนียไนเตรทและไนไตรท์อย่างที่สุด ระบบกรองอาจจะใช้กรองแขวนหลังตู้ เลือกซื้อให้มีปริมาณน้ำหมุนเวียนพอดีกับความจุของตู้ แต่อย่าให้มีกระแสน้ำที่รุนแรงเกินไปเพราะอาจจะกลายเป็นวันน้ำวนสำหรับกุ้งน้อยๆได้ ระบบกรองข้างนั้นก็สามารถใช้ได้ เพราะกุ้งแคระนั้นจะเป็นกุ้งที่ค่อนข้างชอบเกาะกับกรวดทรายรองตู้ หรือกิ่งไม้ขอนไม้ และพรรณไมน้ำ ไม่ค่อยว่ายไปในกรองข้าง แต่ในกรณีที่ต้องการเพาะพันธุ์กุ้งแคระ ก็อาจจะปิดกรองข้างแล้วใช้กรองฟองน้ำในช่วงเวลาที่กุ้งแคระตั้งท้องเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันลูกกุ้งน้อยๆ จะไถลเข้าไปในระบบกรองเสียหมด แต่ถ้าจะให้ว่ากันจริงๆสำหรับระบบกรองแบบฟองน้ำนั้นก็เพียงพอแล้ว สำหรับกุ้งแคระชนิดที่เลี้ยงง่ายอย่างกุ้งเชอรี่, กุ้งพินอคคิโอ ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อกรองนอก กรองถังเครื่องละหลายตังค์ แต่ถ้ากุ้งแคระที่ค่อนข้างsensitiveอย่างกุ้งคริสตัลเรด หรือBee Shrimp ระบบกรองที่มีประสิทธิภาพในการบำบัดของเสีย และรักษาคุณภาพน้ำอย่างกรองนอก หรือกรองข้างจะดูเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

ซิลเลอร์หรือเครื่องทำความเย็น
จากที่กล่าวมา กุ้งแคระหลายสายพันธุ์ที่มาจากแถบเอเชียตะวันออก อย่างญี่ปุ่นหรือประเทศจีนนั้น ต้องการอุณหภูมิน้ำที่ค่อนข้างเย็น ซึ่งควรอยุ่ที่ประมาณ25-28องศา เพราะฉนั้นการเลี้ยงกุ้งแคระเหล่านั้นให้ได้ในระยะยาวในประเทศเมืองร้อนอย่างบ้านเรานั้น ชิลเลอร์สามารถช่วยได้เยอะเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้กุ้งคริสเตัลเรดหรือบีชริมนั้น จึงเหมาะสำหรับเลี้ยงในตู้ไม้น้ำที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามอลังการ มีการติดตั้งชิลเลอร์ไว้อย่างเพียบพร้อม


แสง
ตู้เลี้ยงควรได้รับแสงเพื่อให้เกิดตะไคร่เพื่อเป็นอาหารหลัก และอาหารตามธรรมชาติของเหล่ากุ้งตัวน้อย แต่ข้อควรระวังเมื่อติดดวงไฟสำหรับให้แสงสว่างคือ กุ้งแคระเป็นกุ้งที่อาศัยในน้ำที่มีอุณหภูมิค่อนข้างเย็น ระหว่าง21-28องศา เพราะฉนั้นตู้ที่รับแสงไฟหรือแสงแดดตลอดเวลา อาจจะทำให้น้ำร้อนและเป็นสาเหตุให้กุ้งตายได้ สรุปคือแค่จัดให้มีแสงเพียงพอเพื่อให้พืชน้ำเจริญเติบโตได้ และระวังอุณหภูมิที่สูงเกินไปเท่านั้น


อาหารการกิน
นอกจากกุ้งแคระจะเก็บตะใคร่ตามขอนไม้ ซากใบ รากไม้ของพืชน้ำ เศษอาหารตามพื้นตู้กินเป็นหลักแล้ว อาหารสำเร็จรูปเป็นอีกทางเลือกที่ผู้เลี้ยงสามารถเลือกใช้ได้ อาหารสำเร็จรูปที่ให้ควรเป็นชนิดจมเพราะกุ้งแคระจะไม่ค่อยว่ายขึ้นมากินอาหารที่ผิวน้ำ อาหารที่แนะนำคืออาหารเม็ดจมสำหรับปลาแพะ และสำหรับปลาซักเกอร์ กุ้งแคระจะชื่นชอบมาก เพราะในอาหารเหล่านี้มีส่วนผสมของสาหร่ายและตะไคร่ ซึ่งเป็นอาหารตามธรรมชาติของกุ้งอยุ่แล้ว นอกจากนี้อาหารสำเร็จรูปชนิดกึ่งจมกึ่งลอยที่มีส่วนผสมของสารเร่งสี จะทำให้กุ้งมีสีสันจัดจ้านสวยงามมากขึ้นด้วย ข้อควรระวังคืออาหารสำเร็จรูปเหล่านี้ ไม่ควรให้เยอะจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้น้ำเน่าเสียทำให้กุ้งตายได้ เพียงแค่อาหารไม่กี่เกล็ดหรืออาหารเม็ดจมหนึ่งแผ่น ก็เพียงพอสำหรับกุ้งน้อยทั้งฝูงแล้ว เพราะในตู้เลี้ยงก็มีอาหารตามธรรมชาติเพียงพอสำหรับกุ้งแคระแล้ว อย่างที่เราสามารถเห็นได้ว่า เจ้ากุ้งน้อยใช้ก้ามจิ๋วๆหยิบคีบตะกอนต่างๆตามพื้นตู้ กินเป็นอาหารได้ตลอดเวลา หรือสามารถใช้ผักขมหรือคะน้าลวกพอสุกแล้วจุ่มลงไปให้กุ้งแทะเล็มก็ได้ แต่ต้องระวังเรื่องน้ำเน่าเสีย ต้องทำการเปลี่ยนผักชิ้นใหม่ให้ทุกวัน

การเปลี่ยนน้ำ
การเปลี่ยนน้ำ10-20%แค่อาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอ การทำความสะอาดตู้บ่อยเกิน หรือสะอาดเกินไม่ดีสำหรับกุ้งแคระ เพราะจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของน้ำฉับพลันมากไป หรือถ้าเราใช้สายยางดูดสิ่งสกปรกตามพื้นตู้บ่อยเกินไป อาหารที่เป็นประโยชน์ตามธรรมชาติสำหรับกุ้งอย่างเช่น ซากพืชน้ำ, ตะไคร่ที่เกาะตามพื้นกรวด จะถูกดูดออกไปหมด ปล่อยก้นตู้ไว้ดูรกๆเขรอะๆนั้น ยังเป็นประโยชน์สำหรับลูกกุ้งไว้หลบซ่อนตัว ควรเปลี่ยนน้ำทีละน้อยๆแต่บ่อยๆจะเหมาะสมกว่า

การเลี้ยงรวมกับปลาสวยงาม
การเลี้ยงรวามกับปลาสวยงามนั้น ควรเลือกเลี้ยงรวมกับปลาขนาดเล็กที่มีนิสัยเรียบร้อยไม่ก้าวร้าว เช่นพวกแตตร้า พวกปลาซิวขนาดเล็กจิ๋ว ส่วนปลาสวยงามที่กินอาหารที่มีชีวิตเป็นอาหาร หรือมีสัญชาตญาณนักล่า อย่างปลาหมอแคระชนิดต่างๆ ปลาหมู ปลาปักเป้า ควรหลีกเลี่ยง

การเพาะพันธุ์
ตู้ที่ใช้ขยายพันธุ์กุ้งแคระนั้น อาจเป็นตู้เดียวกะตู้เลี้ยงได้เลย ไม่ต้องแยกต่างหากให้ยุ่ง หลังจากที่เตรียมตู้แล้ว ก็สามารถปล่อยกุ้งลงเลี้ยงได้เลย สีสันของตัวผู้และตัวเมียค่อนข้างเหมือนกัน เรื่องสีสันลำตัวไม่สามารถนำมาเป็นเกณฑ์แบ่งแยกเพศได้อย่างแน่นอน ดูเรื่องสรีระร่างกายนั้นค่อนข้างจะworkกว่าเยอะ โดยกุ้งแคระตัวผุ้จะมีลำตัวผอมบางและยาว มีขนาดลำตัวเล็กกว่าตัวเมีย สำหรับตัวเมียจะอ้วนป้อมและมีขนาดโตเต็มที่ใหญ่กว่า เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันจะเห็นได้ว่ากุ้งแคระตัวผู้จะมีช่วงขาที่ยาวกว่า เพราะกุ้งตัวเมียจะมีเปลือกที่ยาวกว่า เพื่อไว้ห่อหุ้มขาว่ายน้ำซึ่งเป็นอวัยวะที่โอบอุ้มไข่เวลาตั้งท้อง วิธีเลือกซื้อกุ้งแคระตัวเมียที่ง่ายและชัวร์ที่สุดคือ สังเกตใต้ท้องว่าถ้ามีไข่ใต้ท้องละก็ตัวเมียชัวร์ ตามธรรมชาติแล้วกุ้งแคระจะอาศัยอยู่รวมกันเป็นชุมชนหนาแน่น เพราะฉนั้นควรเลี้ยงเป็นกลุ่มเล็กๆอย่างน้อย7-10ตัว นอกจากนี้การซื้อกุ้งแคระทีละเยอะๆยังช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าได้ทั้งผู้และเมียมา เมื่อกุ้งแคระมีความพร้อมที่จะผสมพันธุ์ มันจะจัดการกันเองโดยธรรมชาติไม่ต้องไปเตรียมอุปกรณ์จัดให้ ไข่ของกุ้งแคระจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่ากุ้งฝอยเล็กน้อย สีสันของไข่หลากหลายมาก แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ มีทั้งเหลือง, เขียว, ดำ, ฟ้า

เนื่องจากไข่มีขนาดใหญ่จึงทำให้จำนวนไข่มีปริมาณน้อย แต่ละครั้งแม่กุ้งจะโอบอุ้มไข่ประมาณ7-25ฟองเท่านั้น ไข่จะเกาะติดใต้ท้องแม่กุ้งและเริ่มพัฒนาเป็นตัวอ่อนภายใน28-33วัน ในช่วงสองอาทิตย์แรกไข่จะมีลักษณะกลมติดที่บริเวณขาใต้ท้องของแม่กุ้ง และยังไม่สามารถเห็นการพัฒนาของลูกกุ้ง ในอาทินย์ที่สามเป็นต้นไปไข่มีการพัฒนาอย่างเห็นได้ชัด เราจะเริ่มสังเกตเห็นจุดดวงตาของลูกกุ้งและลูกกุ้งจะเริ่มมีขาว่ายน้ำแต่ยังติดอยู่กะท้องแม่ ในช่วงนี้แม่กุ้งจะหาที่หลบซ่อนที่ปลอดภัย เช่น ใต้ขอนไม้ โคนต้นไมน้ำ หรือใต้เศษกระถาง เพราะฉนั้น ในตู้ควรมีที่หลบซ่อนให้เพียบพอต่อจำนวนของแม่พันธุ์ด้วย เมื่อแม่กุ้งพบที่หลบซ่อนที่ปลอดภัยมันจะปล่อยลูกน้อยให้ว่ายอย่างอิสระ เมื่อสังเกตว่าแม่กุ้งได้ปล่อยลูกน้อยออกจากหน้าท้องให้ว่ายอย่างอิสระแล้ว ควรปล่อยให้ลูกกุ้งเติบโตเองตามธรรมชาติ ไม่ต้องทำการแยกพ่อแม่กุ้งออก หรือดูดออกเพื่อแยกลูกกุ้งไปอนุบาล เพราะพ่อแม่กุ้งจะไม่กินลูกกุ้ง ลูกกุ้งจะกินอาหารเหมือนพ่อแม่ของมัน ช่วงนี้ไม่ควรให้อาหารสดเพราะอาจทำให้น้ำเน่าเสียได้ ซึ่งลูกกุ้งเหล่านี้กินไม่เยอะ เพียงแค่เศษเสี้ยวเล็กๆของปริมาณที่มีอยู่ ก็สามารถแบ่งปันถึงกุ้งจิ๋วๆได้อย่างทั่วถึง ลูกกุ้งเหล่านี้จะมีพัฒนาการและเจริญเติบโตที่รวดเร็วมาก เราสามารถสังเกตเห็นลูกกุ้งขึ้นมาเพ่นพ่านเกาะกระจกบริเวณหน้าตู้ได้อย่างชัดเจน หลังจากปล่อยลูกน้อยเป็นอิสระ แม่กุ้งจะเริ่มตั้งท้องใหม่ภายในสองอาทิตย์ และให้ลูกครอกใหม่ภายใน28-33วัน และลูกกุ้งจะเติบโตเป็นกุ้งโตเต็มวัยเมื่ออายุครบ3เดือน

วิธีเลือกซื้อกุ้งแคระ
1. กุ้งแคระที่แข็งแรงควรมีลำตัวสีสดใส ตลอดลำตัว ว่ายน้ำได้เป็นปกติ ไม่ว่ายควงสว่านไปมา ไม่ควรมีส่วนหนึ่งส่วนใดของลำตัวเป็นขาวขุ่นหรือสีแดง เพราะแสดงถึงบริเวณเนื้อที่ตายแล้วนั่นเอง
2. กุ้งแคระควรจะแสดงพฤติกรรมหาอาหารตลอดเวลา คือจะใช้ก้ามคู่น้อยๆคีบไปตามขอนไม้ ดงชวามอส หรือตามกรวดทรายรองตู้เก็นเศษอาหารใส่ปากอยู่ตลอดเวลา
3. หลังจากซื้อแล้ว ควรใส่พรรณไม้น้ำลงไปในถุงเล็กน้อย เพื่อให้กุ้งแคระเกาะยึด ป้องกันการกระทบกระเทือนในกรณีที่ต้องเดินทางไกล บ่อยครั้งที่มันกพบว่ากุ้งแคระจะเกาะกันเองเป็นก้อนใหญ่เมื่อไม่มีวัสดุสำหรับยึดเกาะ อาจเป็นเหตุให้กุ้งแคระตัวที่อ่อนแอเสียชีวิตได้ง่าย

credit http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=7.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 02 ตุลาคม 2012, 17:34:06 โดย Be fish aqua shop » IP : บันทึกการเข้า

Be fish aqua shop
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,617


คิดถึง มฟล จัง


« ตอบ #1046 เมื่อ: วันที่ 02 ตุลาคม 2012, 18:01:31 »

ตัวแรกเลย กุ้ง เชอร์รี่

Common Name: Red Cherry Shrimp
Scientific Name: Neocaridina denticulata sinensis (red)
Size: 2.5-3.5cm
Ph: 6.6-7.0
Temp: 25-32c.
Food: Algae, fish food (flake, pellets etc)
Origin: Taiwan and northern Vietnam
กุ้งแคระที่สุดแสนจะเบสิคตลอดการ(ถ้าไม่นับกุ้งฝอยนะ) เลี้ยงดูง่าย-ง่ายมาก ออกลูกก็ง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่เพิ่งเริ่มมากที่สุด อดทนต่อสภาพน้ำใด้ในหลายสภาวะ แต่ก็ไม่ใด้หมายความว่าไม่จำเป็นต้องดูแลสภาพน้ำเลยนะ(อย่าขี้เกียจเชียว) อาหารหลักก็คือตะไคร่ ในที่เลี้ยงควรมีมอสใว้ให้มันหลบภัยและจะใด้เกิดตะไคร่ให้มันกินด้วย ทั้งยังสามารถกินอย่างอื่นใด้อีกหลากหลาย แนะนำเตตร้าบิตสำหรับปลาปอมแล้วก็อาหารปลาแพะของฮิคาริ มันชอบมากๆ ส่วนในเรื่องสีสันก็สดใสสวยงามเกินค่าตัวซะอีก แต่ถ้าออกลูกมาเยอะแล้วก็ควรจะหากุ้งเชอรี่ของคนอื่นมาสับสายบ้างเพื่อแก้ปัญหาเลือดชิดที่อาจทำให้สีสันในลูกกุ้งรุ่นต่อๆไปด้อยลง
กุ้งเชอรี่หาซื้อใด้ค่อนข้างง่ายในตลาดปลาสวยงาม ไม่ค่อยจะขาดตลาดซักเท่าไร ราคาก็อยู่ประมาณ5-10บาท



กุ้ง Tiger
Common Name: Tiger Shrimp
Scientific Name: Caridina sp. "Tiger" (belongs to the Caridina serrata species complex)
Size: 2.5-3.5cm
Ph: 6.6-7.0
Temp: best kept at 25-28c.
Food: Algae, fish food (flake pellets etc.)
Origin: probably southern China

กุ้งไทเกอร์ รูปร่างค่อนข้างหนากว่ากุ้งแคระชนิดอื่นๆเล็กน้อย การดูแลทั่วๆไปก็เหมือนๆกับเชอรี่ หลายๆคนบอกว่าเลี้ยงง่าย แต่ความเห็นส่วนตัวรู้สึกว่าดูแลยากกว่าเชอรี่พอสมควร มีทะยอยๆร่วงไปหลังจากซื้อมาเหมือนกัน แต่อาจจะเป็นเพราะกุ้งไทเกอร์ที่ซื้อมาบอบช้ำจากการขนส่ง ส่วนเรื่องการขยายพันธุ์นั้น ค่อนข้างยากกว่า แต่ก็มีหลายๆคนใด้ลูกกันบ้างแล้ว อัตราการให้ลูกค่อนข้างต่ำกว่าเชอรี่อย่างเห็นใด้ชัดเลย
กุ้งไทเกอร์จัดเป็นกุ้งที่หาซื้อใด้ไม่ยาก  ราคา 100+



กุ้งยามาโตะ คับ
Common Name: Yamato, Amano shrimp, Yamatonuma Ebi
Scientific Name: Caridina japonica
Size: 5 cm
PH: 6.5-7.2
Temp: 22-28°C
Food: Algae, fish food (flake pellets etc.)
Origin: Japan, Taiwan
พระเอกในการจัดการตะไคร่ในแบบธรรมชาติของตู้ไม้น้ำเลย กับเจ้ากุ้งยามาโตะ อดทนต่อสภาพน้ำต่างๆใด้อย่างค่อนข้างดีมากเลยทีเดียว แต่เจ้านี่ค่อนข้างกร้าวร้าวเล็กน้อย คือในกรณีที่อาหารไม่เพียงพอ อาจจะตะครุบจับปลาเล็กๆหรือกุ้งแคระชนิดอื่นๆที่ตัวเล็กกว่าและเพิ่งจะลอกคราบมากินเป็นอาหารใด้ แต่ที่เลี้ยงๆมาก็ไม่มีปัญหาใดๆถ้าอาหารถึง แถมยังโตเอาๆใด้ถึง 5 cm.อีกด้วย คิดว่าเจ้านี่เป็นกุ้งแคระที่ตัวใหญ่ที่สุดในกลุ่มCaridina
ส่วนเรื่องการวางไข่นั้น ปกติแล้วเจ้ากุ้งยามาโตะจะไปวางไข่บริเวณน้ำกร่อย ฉะนั้นจึงเป็นไปใด้ยากที่ลูกๆของมันจะเติบโตในตู้กุ้งธรรมดา นอกจากว่าเราจำลองสภาพน้ำด้วยการค่อยๆเพิ่มความเค็มลงไปทีละน้อย มีรายงานว่าเริ่มมีการเพาะพันธุ์เจ้ายามาโตะสำเร็จในที่เลี้ยงกันบ้างแล้ว


ตัวนี้ กุ้งเขียว
Common Name: Green Shrimp
Scientific Name: Caridina cf. babaulti
Size: 2.5-3.5cm
Temp: 20-28°C
Ph: 6.8-7.5
Food: Algae, fish food (flake, pellets etc)
Origin: India
กุ้งแคระแสนสวยที่มาจากอินเดียตัวนี้ ค่อนข้างชอบค่าน้ำออกไปทางกระด้างเล็กน้อย เริ่มผสมพันธุ์ใด้เมื่อมีอายุใด้ประมาณ4เดือน และอุ้มท้องประมาณ4สัปดาห์
ส่วนสีสันของกุ้งกรีนนั้น ไม่ใด้มีแค่สีเขียวเพียงสีเดียว ยังสามารถเปลี่ยนสีจากเขียว เป็นเขียวเข้มน้ำตาล ไปจนถึงสีน้ำตาลไปเลยก็มี โดยขึ้นอยู่กับสถาพแวดล้อมรวมทั้งอุณหภูมิด้วย



Bee shrimp
Common Name: Bee Shrimp, "Crystal Black" Shrimp, Diamond Shrimp (in Singapore)
Scientific Name: Caridina sp. "Bee" (belongs to the Caridina serrata species complex)
Size: 2.5-3.5cm
Temp: 21-28°C
Ph: 6.5-7.2
Food: Algae, fish food (flake, pellets etc)
Origin: Southern China, Hong Kong
เจ้านี่ค่อนข้างจะเลี้ยงยากในระดับหนึ่ง ถ้าน้ำอุณหภูมิต่ำกว่า 25 c.ใด้นี่ยิ่งดีเลย
กุ้งบีเป็นกุ้งที่ถูกนำมาพัฒนาสายพันธุ์จนกลายเป็น กุ้งCrystal red, red bee และ black bee นั่นเอง และยังสามารถนำกุ้งบีไปผสมพันธุ์กับกุ้งไทเกอร์เพื่อให้ใด้ลูกที่แข็งแรงขึ้นใด้อีกด้วย



bumblebee shrimp
Common Name: Bumblebee Shrimp
Scientific Name: Caridina sp. "Bumblebee" (not the same species as Caridina cf. breviata)
Size: 2.5-3.5cm
Ph: 6.8-7.5
Temp: 21-26°C
Food: Algae, fish food (flake, pellets etc)
Origin: Southern China, Hong Kong
กุ้งบัมเบิลบีนั้นมองดูคล้ายกับกุ้งบีมาก แต่แตกต่างตรงที่ไม่มีสีส้มหรือน้ำตาลบริเวณจงอยปากหรือหาง และส่วนหัวมีสีออกน้ำตาล และสีของปล้องที่แบ่งกันใด้ชัดเจนกว่า นอกจากนั้นแล้วบัมเบิลบียังมีเฉดสีหลากหลายเช่นกัน แต่ส่วนมากที่พบคือปล้องสีดำหรือน้ำตาลสลับใส การเลี้ยงดูก็เหมือนกับกุ้งบี คือต้องการน้ำที่มีอุณหภูมิค่อนข้างต่ำกว่า25องศาใด้จะยิ่งดี จะทำให้มีโอกาสรอดสูงและสามารถขยายพันธุ์ในที่เลี้ยงใด้


สโนว์บอล
Common Name: Snowball Shrimp
Scientific Name: Neocaridina cf. zhangjiajiensis "white"
Size: 2.5-3.5cm
Temp: 20-28°C
PH: 6.6-7.0
Food: Algae, fish food (flake, pellets etc)
Origin: Wild form from Southern China (this white variety does not occur naturally anywhere, originally bred in Germany)
สโนว์บอลเป็นกุ้งแคระชนิดใหม่ที่เริ่มเป็นที่แพร่หลายสำหรับนักเลี้ยงกุ้งชาวอเมริกัน กุ้งชนิดนี้ถูกพัฒนามาจาก Neocaridina zhangjiajiensis โดยชาวเยอรมัน มันเป็นที่นิยมเนื่องจากสามารถเพาะพันธุ์ใด้ง่ายกับเหมือนกุ้งเชอรี่ โดดเด่นเป็นพิเศษด้วยสีขาวสวยงามดูตัดกับสีเขียวของต้นไม้น้ำ ยิ่งเวลาอุ้มไข่ด้วยแล้วยิ่งดูสวยขึ้นไปอีก อดทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเหมือนกุ้งเชอรี่


บลูบี
Common Name: Caribbean Dwarf Filter Shrimp
Scientific Name: Micratya poeyi
Size:ฮืม-less than 5cm
Temp: 22-28°C
PH: can probably live under a wide range of ph and hardness conditions from acidic to alkaline.
Food: Filters floating food items from the water, can be given very small flake food or crushed/powderized food. Also takes food from the ground if there is nothing to filter.
Origin: Caribbean,Cuba
กุ้งชนิดนี้เป็นพวก Filter Shrimp แบบเดียวกับกุ้งกล้วยหอมของบ้านเรา คือมีขาหน้าที่เป็นพู่2คู่ใว้สำหรับดักอาหาร เช่นแพลงตอนเล็กๆที่ลอยปะปนอยู่ในน้ำมากิน ในขณะนี้ยังไม่ค่อยมีข้อมูลเกี่ยวกับกุ้งชนิดนี้มากนัก และยังไม่มีรายงานความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ในที่เลี้ยง อย่างไรก็ดี การเลี้ยงก็ไม่ค่อยแตกต่างจากการเลี้ยงกุ้งแคระทั่วๆไป คือควรเลี้ยงในตู้เฉพาะ และไม่มีสัตว์น้ำชนิดอื่นที่อาจทำอันตรายมันใด้



เรดบี
Common name : Cystal Red, Red bee, Zebra red, Diamomd shrimp
Scientific Name: Caridina sp.var cystal red (ผ่าเหล่าและพัฒนาสายพันธุ์มาจาก Normal Bee shrimp
Distribution : Original bee shrimp come from Chaina and Red bee is new breed and keep developing for 10 years in Japan
Size : 2.5 - 3.5 cm. (Female biggger than Male)
Temp: 20 - 25 C (24 C will be the best if controlable)
Ph : 6.5 not over 7.2 will be very dangerous for shrimp
Food : Algae, boil Spinish, red insect, shrimp food etc

ในประเทศไทย เราเรียกกุ้งชนิดนี้ว่า เรดบี และ คริสตัลเรด ซึ่ง เรดบี ชื่อนี้คนไทยเราเข้าใจว่า มีความหมายว่ากุ้งเกรดธรรมดา เช่นเกรด C, B ส่วนคริสตัลเรด
ในวงการกุ้งของไทยหมายถึง กุ้งเกรดสูงๆขึ้นไป

แต่ในญี่ปุ่น ประเทศที่ให้กำเนิดและพัฒนาสายพันธุ์ของมัน เรียกพวกมันทั้งหมด รวมทุกๆเกรดว่า Red Bee Shrimp

เจ้ากุ้งชนิดนี้ ผ่าเหล่ามาจากกุ้ง บี ธรรมดา มีลักษณะเป็นปล้องแดงสลับใส ในระยะแรก (สีแดงใสนี่เองเป็นที่มาของชื่อ cystal red)
จากนั้นได้มีการพัฒนาสายพันให้กุ้งมีสีขาวมากขึ้นเรื่อยๆจากการผสม inbreed ให้กุ้งมีเลือดชิดมากขึ้น ส่งผลให้กุ้งมีสีขาวมากขึ้น และ selection breed
คือการคัดเอากุ้งที่มีลักษณะเด่นมาพัฒนาสายพันธุ์ต่อไป การจัดระดับเกรด ตั้งแต่ C, B, A, S, SS ส่วนตำราบางเล่มจัดระดับของกุ้งเป็นตัวเลข
เริ่มจาก 1,2,3,4,4.5.........ไปเรื่อยๆ ยิ่งระดับยิ่งสูง สีขาวในตัวกุ้งยิ่งหนาและเยอะขึ้น ราคาก็แพงขึ้นตามมาเรื่อยๆ ทั้งนี้เพราะว่า กุ้งที่อยู่ในระดับสูงๆ
มีความเปราะสูงมากๆ และยังให้ลูกในจำนวนที่น้อยมากๆอีกด้วย ดังนั้นการที่จะเลี้ยงกุ้งในระดับสูงๆนี้ให้รอด ก็ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมจำนวนมาก
จึงทำให้ต้นทุนสูงตามไปด้วยครับ
นักเลี้ยงกุ้งส่วนมากคิดว่า เจ้านี่เลี้ยงยาก และเรื่องมาก ซึ่งถ้าคิดในด้านกรรมพันธุ์ของพวกเค้าแล้ว เราต้องเห็นใจและเอาใจใส่พวกเค้าเป็นพิเศษหน่อย
เพราะว่ากุ้งชนิดนี้เกิดในที่เลี้ยง ไม่ต้องหาทางปรับตัวดิ้นรนให้อยู่รอดเหมือนกุ้งชนิดอื่นๆในธรรมชาติ และแน่นอนว่า
คุณจะไม่มีทางพบพวกมันตามแหล่งน้ำในธรรมชาติได้เลย เพราะว่า พวกมันไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ในธรรมชาติได้
ทั้งในด้านการพลางตัวและความไวต่อสิ่งรอบด้านต่างๆ เช่นเคมีเป็นต้น

ไว้มาลงต่อ มีเยอะมากๆๆ
credit web เพื่อนบ้าน aqua.c1ub.net
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 03 ตุลาคม 2012, 21:00:25 โดย Be fish aqua shop » IP : บันทึกการเข้า

khwanchai
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 218


« ตอบ #1047 เมื่อ: วันที่ 03 ตุลาคม 2012, 17:56:51 »

อยากเลี้ยงบ้างจัง หาซื้อได้ที่ไหนบ้างคับ รบกวนชวยแนะนำหน่อยคับ..... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
(ขอบคุณคับ) ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
Be fish aqua shop
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,617


คิดถึง มฟล จัง


« ตอบ #1048 เมื่อ: วันที่ 03 ตุลาคม 2012, 19:18:48 »

อยากเลี้ยงบ้างจัง หาซื้อได้ที่ไหนบ้างคับ รบกวนชวยแนะนำหน่อยคับ..... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
(ขอบคุณคับ) ยิ้มกว้างๆ
ปกติ เราสั่งเน็ตค่ะ เพราส่วนใหญ่เชียงรายขายแพงไปอะ  ยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 03 ตุลาคม 2012, 21:03:13 โดย Be fish aqua shop » IP : บันทึกการเข้า

Be fish aqua shop
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,617


คิดถึง มฟล จัง


« ตอบ #1049 เมื่อ: วันที่ 03 ตุลาคม 2012, 21:03:55 »

ตาราง redbee   ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

khwanchai
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 218


« ตอบ #1050 เมื่อ: วันที่ 03 ตุลาคม 2012, 21:45:28 »

อยากเลี้ยงบ้างจัง หาซื้อได้ที่ไหนบ้างคับ รบกวนชวยแนะนำหน่อยคับ..... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
(ขอบคุณคับ) ยิ้มกว้างๆ
ปกติ เราสั่งเน็ตค่ะ เพราส่วนใหญ่เชียงรายขายแพงไปอะ  ยิ้ม

รบกวนขอ ซื่อเว็ปสั่งซื้อ หน่อยคับ
 
IP : บันทึกการเข้า
Be fish aqua shop
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,617


คิดถึง มฟล จัง


« ตอบ #1051 เมื่อ: วันที่ 03 ตุลาคม 2012, 21:53:44 »

อยากเลี้ยงบ้างจัง หาซื้อได้ที่ไหนบ้างคับ รบกวนชวยแนะนำหน่อยคับ..... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
(ขอบคุณคับ) ยิ้มกว้างๆ
ปกติ เราสั่งเน็ตค่ะ เพราส่วนใหญ่เชียงรายขายแพงไปอะ  ยิ้ม

รบกวนขอ ซื่อเว็ปสั่งซื้อ หน่อยคับ
 

http://aqua.c1ub.net/forum/index.php คะ
IP : บันทึกการเข้า

หน้า: 1 ... 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 [53] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!