เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 27 เมษายน 2024, 05:25:19
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ธุรกิจเครือข่าย MLM งานออนไลน์
| |-+  ธุรกิจเครือข่าย MLM - ขายประกัน
| | |-+  • ลงทุนกับเราวันนี้...ให้เงินทำงานรวยได้ไม่ต้องเหนื่อย!!! (ไม่ใช่การขายของ) •
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 3 4 5 6 พิมพ์
ผู้เขียน • ลงทุนกับเราวันนี้...ให้เงินทำงานรวยได้ไม่ต้องเหนื่อย!!! (ไม่ใช่การขายของ) •  (อ่าน 6032 ครั้ง)
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« เมื่อ: วันที่ 22 มกราคม 2016, 12:13:30 »

หากท่านไหนต้องการให้เงินทำงานแทนเรา...รวยได้ไม่ต้องเหนื่อย!!!!

ติดต่อสอบถามรายละเอียดและร่วมธุรกิจได้ที่ :
คุณกิ๊ฟ 081-884-8987 AIS ,
086-917-1411 Dtac
Line Id : iapkai
Gmail : akarawit2535@gmail.com

เข้าไปกด Like แฟนเพจ และดูรายละเอียดแฟนเพจเราได้นะ
https://www.facebook.com/invest.gift1411/
https://www.facebook.com/iapeye


✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿.。。✿

การลงทุนมีความเสี่ยง
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
แต่...การไม่ลงทุนมีความเสี่ยงมากกว่า!!!! (เพราะชีวิตย่ำอยู่กับที่!!!!)


✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿.。。✿


• บอกลาความจนซะ!! อยากรวยต้องคิดต่างแบบคนรวย •

เบื่อความจนกันหรือยัง?! ถ้าอยากสร้างเนื้อสร้างตัวเป็นคนรวยมีฐานะอย่างคนอื่น ก็ต้องคิดต่างอย่างคนรวย!! กดปุ่มรีสตาร์ตตัวเองซะใหม่ ทิ้งไปเลยนิสัยเดิมๆที่ทำให้จมปลักอยู่กับอดีตสุดแสนโลโซ

อย่าไปอายที่จะบอกใครว่า ฉันอยากรวย!! เพราะมันคือพลังบวกที่ทำให้เราไปสู่จุดมุ่งหมายที่เป็นจริง “สตีฟ ไซโบลด์” นักคิดนักเขียนยุคใหม่ที่สร้างเนื้อสร้างตัวจนรวยเป็นเศรษฐี จับปากกาเขียนหนังสือ “How Rich People Think” ไว้อย่างน่าสนใจ โดยรวบรวมข้อมูลจากการศึกษาแนวคิดของมหาเศรษฐีทั่วโลกมากกว่า 1,200 คน ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา

สิ่งที่สตีฟค้นพบนั้นน่าทึ่งและเป็นประโยชน์จนอยากนำมาแชร์ ถ้าอยากรวยจริงๆต้องมีความมุ่งมั่นที่จะเป็น “คนรวย” ให้ได้เป็นอันดับแรก คนที่อยากรวย แต่ยังพร่ำบอกตัวเอง ฉันคิดไม่ออกว่าจะทำมาหากินอะไรนอกจากกินเงินเดือนไปวันๆ ชาตินี้ไม่มีทางได้จับเงินล้าน!! เพราะแม้แต่ความตั้งใจแน่วแน่ที่จะรวยยังไม่มีกับใครเค้า แล้วจะเอาพลังจากไหนมาผลักดันตัวเองไปสู่เป้าหมาย

คนที่จมปลักอยู่กับอดีตก็หมดสิทธิ์จะรวย เพราะคนจำพวกนี้มักไม่มีความสุขง่ายๆ และเต็มไปด้วยอดีตฝังใจหดหู่ สตีฟอธิบายว่า เศรษฐีส่วนใหญ่ที่สร้างเนื้อสร้างตัวมาจากศูนย์จนร่ำรวยได้ ก็เพราะพวกเขาทุ่มสุดพลังให้กับสิ่งที่ฝัน สำหรับพวกเขาแล้วเป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน จึงพร้อมเสี่ยงที่จะลุยแหลกไปข้างหน้า ถ้ามัวแต่กลัวโน่นกลัวนี่ก็พอดีไม่ต้องทำอะไรกัน อย่างไรก็ดี สตีฟย้ำว่า การกำหนดเป้าหมายในอนาคตอย่างชัดเจน ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องลบอดีตทิ้งจากความทรงจำ พวกมหาเศรษฐีทั้งหลายต่างเรียนรู้บทเรียนจากอดีตทั้งสิ้น

การฝึกจิตใจให้เข้มแข็ง ไม่ยอมแพ้ต่อความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า จะทำให้เราแกร่งขึ้นๆๆ จนวันหนึ่งสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างที่หวัง คนขี้แพ้และขี้กลัวย่อมจะก้าวไปไม่ถึงไหน ไม่ว่าจะเรื่องความรวยหรืออาชีพการงาน เชื่อเถอะว่าการสร้างเนื้อสร้างตัวให้ร่ำรวยไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆแค่วันสองวัน และต้องอาศัยความขยันมุ่งมั่นทุ่มเทกว่าคนอื่นเป็นร้อยเท่า ถามว่าเหนื่อยไหม มันต้องเหนื่อยสาหัสสากรรจ์อยู่แล้ว เพราะเราไม่มีต้นทุนมาก่อน ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง ถ้าอยากรวยก็ต้องสู้ยิบตา

คนจนอยากรวยไม่ใช่ของแปลก เพราะแม้แต่คนรวยอยู่แล้ว ยังเกลียดกลัวความจนที่สุด!! ในขณะที่คนทั่วไปคิดว่า “ความเห็นแก่ตัว” เป็นสิ่งน่ารังเกียจ จนกลายเป็นอุปสรรคฉุดรั้งความสำเร็จ พวกคนรวยกลับคิดตรงกันข้ามว่า ความเห็นแก่ตัวและรักตัวเอง คือสิ่งถูกต้องดีงาม!! ถ้าอยากมีความสุขก็ต้องพยายามทำทุกทางให้ตัวเองแฮปปี้ พวกเขาจะไม่ยอมเสแสร้งว่ารักษ์โลกรักเพื่อนมนุษย์ให้เสียเวลาทำมาหากิน คนรวยคิดต่างกับคนจนตรงที่พวกเขาต้องตักตวงความสุขให้ตัวเองก่อน แล้วค่อยแบ่งปันโอกาสให้คนอื่น ถ้าเรายังกินไม่อิ่ม จะคิดถึงปากท้องคนอื่นได้ยังไง

คนธรรมดาอย่างพวกเรามักคิดว่าถนนสู่ความรวยต้องมาพร้อมกับการศึกษาสูงๆที่หาเรียนได้ตามมหาวิทยาลัยชั้นนำ แต่เอาจริงๆแล้ว คนรวยที่สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยลำแข้งตัวเอง มักจะขวนขวายหาความรู้เฉพาะทางอย่างลึกซึ้งจริงจัง โดยไม่สนใบปริญญา การส่งลูกหลานให้เรียนสูงที่สุดเพื่อจะได้มีอนาคตไกลๆ อาจเป็นวิธีไต่เต้าทางสังคมของคนชั้นกลางยุคนี้ แต่สตีฟยืนกรานว่ามันไม่เวิร์กสักนิด เพราะเท่ากับเราเสียเวลาติดกับดักอยู่ในห้องเรียนตั้งหลายปี แทนที่จะออกมาเผชิญโลกแห่งความเป็นจริง และตามหาความฝันก่อนคนอื่น

คนธรรมดาเห็นเงินเป็นพระเจ้า และกระหายใคร่ดีอยากได้เงิน แต่พวกคนรวยไม่เคยบูชาเงิน และมองว่าเงินเป็นแค่เครื่องมือแลกเปลี่ยนความสุข ความสะดวกสบายในชีวิตก็เท่านั้น

“รักในสิ่งที่ทำ และทำเฉพาะในสิ่งที่รัก” คือหัวใจสำคัญของการสร้างเนื้อสร้างตัวให้ร่ำรวย ในขณะที่คนธรรมดาอดทนทำงานหาเงินจากสิ่งที่ไม่รักได้ทั้งชีวิต เพราะต้องการเงิน!! พวกคนรวยกลับเลือกทำแต่สิ่งที่รักและอยากทำจริงๆ แล้วค่อยหาวิธีทำเงินสร้างรายได้จากมันเกิดเป็นคนธรรมดาต้องเจียมตัว จึงมักตั้งเป้าหมายและความคาดหวังในชีวิตไว้ต่ำ เพราะกลัวความผิดหวังซ้ำซาก แต่พวกคนรวยมีนิสัยเหมือนกันอย่างหนึ่งคือ จะกล้าคิดใหญ่ทำใหญ่หวังสูงไว้ก่อน อยากรวยต้องกล้ารวย ไม่งั้นเมื่อไหร่จะลืมตาอ้าปากได้.

เครดิต : มิสแซฟไฟร์
ที่มา http://www.thairath.co.th/content/521323



* 12570959_595462743939607_167773101_n.jpg (16.29 KB, 480x270 - ดู 1922 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 31 มีนาคม 2016, 12:16:01 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 22 มกราคม 2016, 12:17:39 »

• ไม่กล้าลงทุนอะไรเลย เพราะสารพัดความคิดที่ประเดประดังว่า "กลัว" กลัวไปหมดทุกอย่าง !!!!
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
แต่...การไม่ลงทุนมีความเสี่ยงมากกว่า •

ปกติเรามักจะได้ยินประโยคเตือนนักลงทุนที่ว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนทุกครั้ง” เป็นประโยคที่ใช้เตือนผู้คนที่กำลังกล้าๆ กลัวๆ ว่าจะลงทุนดีหรือไม่ แต่แทนที่ประโยคดังกล่าวจะเป็นการเตือนสติ อาจกลับกลายเป็นว่าทำให้บางคนกลัวการลงทุนกันจนขี้หดตดหาย ยิ่งมีตัวอย่างคนที่ล้มเหลวและขาดทุนจากการลงทุนให้เห็นอยู่ทั่วไป ยิ่งทำให้การลงทุนดูเป็นเรื่องน่ากลัวมากยิ่งขึ้นไปอีก
แต่ช้าก่อน! หากคุณคิดจะหันหลังให้กับการลงทุน เพราะผมมีอยู่หนึ่งประโยคที่จะขอเตือนผู้ที่ไม่คิดจะลงทุนทุกท่านว่า “การ ไม่ลงทุน มีความเสี่ยง ผู้ ไม่ลงทุน โปรดศึกษาความเสี่ยงก่อนการไม่ลงทุนทุกครั้ง” อันนี้ไม่ใช่มุกนะครับ เพราะคนที่ ไม่ลงทุน นั้น มีความเสี่ยงกว่าคนที่คิดจะลงทุนเสียอีก ที่สำคัญการไม่ลงทุนนั้น เป็นการการันตีได้เลยว่าคุณขาดทุนแน่นอน!

การไม่ลงทุนมีความเสี่ยง
การไม่ลงทุนมีความเสี่ยง

ผมเชื่อแน่ว่า ต่อไปในอนาคตพวกเราทุกคนจะไม่สามารถหลีกหนีเรื่องการลงทุนไปได้ ไม่ใช่แค่ “ควร” ศึกษานะครับ แต่เราทุกคน “จำเป็นต้อง” ศึกษาเรื่องการลงทุนกันเลยทีเดียว ผมมี 2 เหตุผลสำคัญ ที่จะเป็นเครื่องยืนยันว่า การลงทุนนั้นมีความสำคัญเพียงไร
1. เงินเฟ้อ
คุณมักจะเคยได้ยินใครหลายคนที่มักจะบ่นเกี่ยวกับข้าวของที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้นอยู่เสมอใช่มั้ยครับ? คุณรู้มั้ยครับว่าคนที่บ่นเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ มันเป็นการบ่งบอกให้รู้ว่าคนๆ นั้นไม่เข้าใจเรื่องเงินเฟ้อเลย แล้วเงินเฟ้อมันคืออะไร? เรามาทำความรู้จักกับมันก่อนนะครับ

เงินเฟ้อ หรือ Inflation คือการที่ราคาสินค้าหรือบริการมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง คุณลองคิดดูสิว่าเงิน 100 บาทในสมัยนี้กับสมัยก่อนมันมีกำลังซื้อเท่ากันหรือไม่? แต่ก่อนเงิน 100 บาทอาจสามารถซื้อข้าวแกงได้ 3-4 จาน แต่ปัจจุบันอาจซื้อได้แค่ 2-3 จาน ประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว ค่าโดยสารรถประจำทางราคา 3.50 บาท แต่ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 6.50 บาท ยาคูลย์ตอนนั้นราคาขวดละ 4 บาท ปัจจุบันราคา 8 บาท (ราคาเพิ่มขึ้น 100% ในเวลา 20 ปี) พอจะเข้าใจเกี่ยวกับเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมั้ยครับ

เงินเฟ้อเป็นภัยเงียบ มันจะค่อยๆ กัดกินมูลค่าเงินของคุณโดยที่คุณไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เมื่อเวลาผ่านไปเงินของคุณจะมีอำนาจการซื้อลดลงเรื่อยๆ และคุณอย่าได้คิดเชียวว่าการเอาเงินฝากไว้ในบัญชีธนาคารเพื่อหวังดอกเบี้ยเงินฝากจะสามารถเอาชนะอัตราเงินเฟ้อได้ อย่างเก่งสำหรับบัญชีฝากประจำจะมีดอกเบี้ยให้คุณแค่ประมาณ 3% ต่อปีเท่านั้น แต่อัตราเงินเฟ้อนั้นประมาณ 3-5% ต่อปี และไม่มีทางต่ำกว่านี้แน่นอน ดังนั้นการออมเงินไว้กับธนาคารนั้นถือได้ว่าเป็นการลงทุนที่มีรัฐบาลเป็นประกันว่า “คุณขาดทุนแน่” เพราะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารจะไม่มีวันไล่ตามอัตราเงินเฟ้อได้ทันแน่นอน ที่น่าเจ็บใจก็คือ คุณเห็นหรือไม่ว่าต่อให้คุณไม่ได้นำเงินไปทำอะไรเลย คุณก็ขาดทุนแล้วนะครับ (เป็นการขาดทุนแบบงงๆ เพราะคุณขาดทุนทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ลงทุนอะไรเลยด้วยซ้ำ)

2. คุณไม่สามารถทำงานได้ทั้งชีวิต
ในวันที่คุณยังคงมีแรงทำมาหากิน คุณอาจจะไม่ค่อยสนใจหรอกว่า ในวันที่คุณไม่สามารถทำงานได้แล้วนั้น คุณจะหารายได้มาจากไหน แต่ไม่ว่าคุณจะใส่ใจในเรื่องนี้หรือไม่ก็ตาม วันนั้นจะมาถึงอย่างแน่นอนครับ!

ผมไม่รู้หรอกว่าในวันที่คุณไม่สามารถทำงานได้แล้วนั้น คุณจะรวยหรือมีเงินมากพอที่จะเลี้ยงดูตัวคุณเอง รวมถึงคนในครอบครับของคุณหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คุณต้องมีวันแก่ และคุณต้องมีวันที่เจ็บป่วย สิ่งนี้เป็นเรื่องที่เราทุกคนหลีกหนีไม่พ้น

คนทั่วไปมักทำงานแบบใช้ชีวิตไปวันๆ โดยขาดการวางแผน บางคนทำงานไปจนถึงวันที่ตัวเองเกษียณ แล้วมารู้ตัวอีกทีว่าเงินที่ตัวเองเก็บมานั้น ไม่พอใช้สำหรับชีวิตในวัยเกษียณซะแล้ว ในเมื่อรายได้หยุด แต่รายจ่ายไม่ได้หยุดตามไปด้วย ผู้สูงอายุบางคนถึงกับต้องออกมาหางานหาเงินเพื่อเลี้ยงดูตัวเองในวัยชรา จะหวังพึ่งลูกหลานก็ลำบาก เพราะแต่ละคนก็มีภาระค่าใช้จ่ายของตัวเองของตัวเองมากพออยู่แล้ว ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าคุณจะแข็งแรงหรือขยันทำงานสักแค่ไหน คุณก็ต้องพ่ายแพ้แก่สังขารของตัวเองอยู่วันยังค่ำ นี่คือสิ่งที่คุณต้องตระหนักถึงตั้งแต่ในวัยที่คุณทำงานเลยทีเดียว คุณต้องระลึกอยู่เสมอว่า “คุณไม่สามารถทำงานได้ทั้งชีวิต”

ผมมีข่าวร้ายจะมาบอกคุณว่า ไม่ว่ายังไงก็ตาม คุณไม่สามารถหลีกหนีเรื่องของ “เงินเฟ้อ” กับความจริงที่ว่า “คุณไม่สามารถทำงานได้ทั้งชีวิต” ได้ แต่ข่าวดีคือ คุณสามารถอยู่กับมันอย่างมีความสุขได้นะครับ ถ้าคุณมีความรู้เรื่อง “การลงทุน”

ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือ หาช่องทางการลงทุนที่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ ซึ่งหมายความว่า การลงทุนนั้นต้องให้ผลตอบแทนที่มากกว่า 3-5% ต่อปี (ไม่ยากเกินความสามารถใช่มั้ยล่ะครับ?) นอกจากนี้คุณต้องวางแผนการลงทุนในการที่จะสะสมทรัพย์สินของคุณให้มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะในอนาคตรายได้จากทรัพย์สินนี้เอง ที่จะเลี้ยงดูคุณในวันที่คุณเกษียณ หรือในวันที่คุณไม่สามารถทำงานหาเงินได้อีกต่อไปแล้ว

การลงทุน ไม่ได้เป็นเรื่องของคนรวยอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับทุกๆ คน ถ้าไม่อยากมีปัญหาเรื่องการเงินในภายภาคหน้า รีบศึกษาและเริ่มลงทุนตั้งแต่วันนี้นะครับ!


* novice-01@2x.png (16.28 KB, 544x479 - ดู 1984 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2016, 11:49:39 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 22 มกราคม 2016, 12:21:16 »

• นิสัยที่ควรเลิกซะถ้าอยากรวย •

คนจนมักมีนิสัยเหมือนกัน และนี่คืออุปนิสัยที่คุณควรลด ละ เลิกถ้าอยากรวย เพียงแค่ลดพฤติกรรมแบบนี้ให้ได้เดือนละ 1 ข้อ ภายใน 2 ปี คุณจะมีฐานะดีขึ้นอย่างแน่นอน

1.ไม่ ชอบการเพิ่มรายได้  
ไม่ว่าคุณจะเชื่ออย่างไร การพยายามเพิ่มรายได้เป็นพื้นฐานของความรวย คนรวยส่วนใหญ่เลือกที่จะมีรายได้หลายทาง วันนี้คุณมีรายได้หลายทาง

2. หยิ่งยโส มโนไปเรื่อย  
คนรวยจะเป็นมิตรกับคนอื่น เพราะพวกเขารู้ดีว่ามิตรภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดูแล ส่วนคนจนมักจะมีความหยิ่งยโส ถือตัวอวดตัวว่าเก่งกาจเหนือใคร

3. คบคนที่มีความคิดลบๆ นินทากันเป็นว่าเล่น  
คนรวยไม่เสียเวลานินทาใคร เพราะทุกวินาทีเขาเป็นเงินเป็นทอง ส่วนคนจนนั้นชอบจับกลุ่มระบายอารมณ์ นินทาคนนู้นที นั้นที โน่นที่

4. เรียกร้องจะเอาความเห็นอกเห็นใจจากคนอื่น  
มันเป็นเรื่องน่าเศร้ามากมายที่คนส่วนใหญ่เสียเวลาพรรณนาเรื่องราวต่างๆเพื่อขอความเห็นใจจากคนอื่น ทั้งที่ความเป็นจริงเราไม่อาจจะได้ความเข้าใจจากใคร โดยปราศความเข้าใจที่เรามอบให้ไปก่อน

5. ไม่อดทน เปลี่ยนไปทำนู่นที นี่ที  
คนจนมักเอาแน่เอานอนไม่ได้ เห็นใครทำอะไรดีก็วิ่งตามไป แต่คนรวยเลือกทำกันตรงกันข้าม พวกเขามีเป้าหมายและมองเห็นภาพในอนาคตได้ชัดเจน

6. จบการเรียนรู้ที่ปริญญา  
คนรวยเรียนรู้ตลอดชีวิต แต่คนจนเรียนจบมหาลัย ก็ถือว่าสำเร็จการศึกษา ไม่ได้เรียนรู้อะไรอีกเลยจากการทำงานในชีวิตจริง

7. คนรวยไม่ดื่มเพื่อความสุข  
คนจนมักเอาเงินที่ได้จากค่าแรงมาดื่ม สังสรรค์ ปาร์ตี้ แล้วก็ทำให้ชีวิตของตัวเองล่มจมเพราะใช้เงินหมดไปกับเรื่องที่ไม่ได้เพิ่มมูลค่า

8. ขี้เกียจสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ  
คนรวยรู้ดีกว่าประสบการณ์เป็นสิ่งที่สำคัญ แต่คนจนไม่สนใจเรื่องนั้น อะไรก็ตามที่เขาอยากทำ เขาก็จะทำ อะไรที่ไม่อยากทำ ก็จะไม่ทำ

9. กลัวไปหมดทุกอย่าง  
คนจนกลัวๆๆๆๆๆ ส่วนคนรวยกล้าๆๆๆๆๆ คุณจะต้องกล้าให้มากกว่ากลัวให้ได้ ไม่เช่นนั้นโอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็มีน้อยเต็มทน

อยากรวย ทำไมจะรวยไม่ได้ แต่คนส่วนใหญ่ที่รวยไม่ได้ เพราะว่าไม่ยอมฝึกอุปนิสัยของคนรวย
แล้วใช้อุปนิสัยของคนจนแทน น่าเศร้าจริงๆ คุณเลิกไปได้กี่ข้อแล้วครับ !!!!!


✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿


• ตรงๆ ไม่อ้อมนิสัยของคนจน •

– สนุกกับรายจ่ายมากกว่ารายได้
– ไม่ประเมินตัวเองจนยอมเป็นหนี้ท่วม
– ไม่เห็นคุณค่าการออมเงิน
– ปิดหูปิดตา ไม่ยอมดูงบการเงิน

คนจนนั้นเป็นง่ายกว่าคนรวย ขอแค่มี 4 ข้อนี้ครบรับรองได้จนสมใจ
ขอบคุณมากๆที่ติดตามอ่านนะคะ ขอให้รวยและประสบความสำเร็จกันทุกคนเลย


* 00.0.jpg (35.04 KB, 640x360 - ดู 1386 ครั้ง.)

* magento-fashion-theme-Online-Holiday-Shopping-Banner-e1444916519463.png (319.28 KB, 630x374 - ดู 1526 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2016, 11:50:06 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2016, 10:35:20 »

• จิตใต้สำนึกของคนจะรวย •

- ทุกสิ่งสามารถเป็นไปได้
– มีเป้าหมายเรื่องเงิน ชัดเจน…!!!
– ค้นหาไอเดียทำเงิน
– อย่ากลัวการลงทุน
– ลุยเลยกูไม่กลัว


✿*゚‘゚・✿.。✿*゚‘゚・✿.。✿*゚‘゚・✿


• เคล็ดลับมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม 10 เท่า •

- ทำงานให้หนักและตั้งเป้าหมายเรื่องชีวิตเข้าไว้
– มีเพื่อนดีๆเคียงข้างเดินคู่กันเพื่อความสำเร็จ
– ลงมือทำให้ถึงความสำเร็จให้จงได้


✿*゚‘゚・✿.。✿*゚‘゚・✿.。✿*゚‘゚・✿


• วิธีสร้างจินตนาการเพื่อความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ •

- อยากได้เงิน 1 ล้าน ให้ตั้งเป้า 100 ล้าน
– ให้มองหาไอดอลที่ยิ่งใหญ่ เพื่อเลียนแบบ
– ทำก่อนแล้วค่อยคิดทีหลัง เดี๋ยวไม่ได้เริ่ม
– อย่าละเลย ห้ามหยุดฝันเด็ดขาด


✿*゚‘゚・✿.。✿*゚‘゚・✿.。✿*゚‘゚・✿


• ขั้นตอน สร้างพลังดึงดูด •

1. สร้างพลังแห่งจินตนาการ : รู้ไหมว่า ความคิดคือพลังงานอันมหาศาล จงคิดและพูดแต่ สิ่งที่ดีๆ หลีกเลี่ยงการนินทาว่าร้าย (คำพูดร้ายๆ จะนำสิ่งร้าย ๆ เข้ามาสู่ตัวเรา) จงจินตนาการถึงความสำเร็จที่เรา ต้องการ สร้างเป็นภาพในใจหรือนำภาพที่เราต้องการมาให้เราเห็นอยู่ตลอดเวลา2. ติดต่อกับจิตใต้สำนึกด้วยการสะกดจิตตัวเอง:เราต้องมีพลังอย่างแรงกล้าที่จะเชื่อว่า เราทำได้ จนความคิดนี้ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกของเรา เมื่อความคิดนั้นอยู่ในจิตใต้สำนึกแล้ว จากนั้นเราจะสามารถทำได้ทุกอย่างที่เราต้องการ
3. ชำระความคิด คำพูด และการกระทำอย่างสิ้นเชิง : ความคิด คำพูด การกระทำทุกสิ่งส่งผลโดยตรงต่อตัวเรา คนรอบข้าง ครอบครัว สังคม ประเทศ โลก รู้ไหมว่า เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว ทุกการกระทำ ความคิด คำพูดจะส่งผลต่อภาพรวมของโลก รู้อย่างนี้แล้ว ต้องคิด พูด และทำสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น สิ่งดี ๆ จึงจะเกิดขึ้น

4. ขจัดความสงสัย : อย่าสงสัย คลางแคลงใจเลยว่าจะ
เป็นไปได้หรือ จริงหรือ ให้รู้เถอะว่าเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ที่สุด คือ การเกิดมาเป็นคนบนโลกนี้ ก็เกิดขึ้นแล้ว ดังนี้ ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่วันนี้ก็ต้องเป็นสักวันหนึ่ง ต้องเป็นไปได้

5.หลีกเลี่ยงการถูกสะกดจิต จากสภาพแวดล้อม : คำพูด ความคิดการกระทำโดยตัวเราที่ต้องระวังที่สุดแล้ว ยังต้อง ระวังคำพูด ความคิด และการกระทำด้านลบจากผู้คน สิ่งแวดล้อม ข่าวสาร หนังสือแย่ๆ ทุกสิ่งรอบตัวส่งผลกับเราทั้งสิ้นจะต้องฉลาดที่จะเลือกรับ แต่สิ่งดีๆสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข สิ่งไม่ดีจะรับเข้ามาทำไมกัน

6. ปล่อยวาง : เมื่อทำดี คิดดี พูดดีแล้ว เราต้องปล่อยวาง
เพื่อให้โอกาสกับพลังดึงดูดของเราให้มันทำงาน ยิ่งปล่อยวางเราจะยิ่งมีพลัง หายใจลึก ๆ ช้าๆ เราจะมีสมาธิ

7. ฉลองความสำเร็จ : ต้องรู้จักชื่นชมตัวเอง กับความสำเร็จทุกวัน เพราะ Success Built Successes นั่นคือความสำเร็จ เล็กๆ น้อยๆ จะนำมาซึ่งความสำเร็จยิ่งใหญ่ ยังมีวิธีหากำไรง่ายๆที่แสนดี คือต้องรู้จักให้กำลังใจคนอื่นและชื่นชมคนอื่น แค่นี้ในแต่ละวันเราก็ได้ชื่นชมความสำเร็จ มากมาย จนนับไม่ถ้วนแล้ว ทั้งยังเป็นการสร้างความสุขกับตัวเองและผู้อื่น เมื่อคนใกล้ตัวเรามีความสุขก็ส่งผลให้เรามีความสุขด้วยเช่นกัน พลังแห่งแรงดึงดูดใช้ได้ผลกับครอบครัวตัวเองและหลายๆคนที่มีความเชื่อมาแล้ว...


✿*゚‘゚・✿.。✿*゚‘゚・✿.。✿*゚‘゚・✿


• วิธีค้นหาเป้าหมาย •

ถามตัวเอง ว่าอยากมีรายได้เท่าไหร่…???
ถามตัวเอง ชีวิตตอนนี้พาไปสู่รายได้ที่ต้องการได้หรือเปล่า…???
ถามตัวเอง ว่าจะต้องทำอะไรเพื่อสิ่งนั้น…???
ถามตัวเอง ว่าจะเชื่อมั่นในตัวเองได้หรือเปล่าก่อนลุย…???


* 0051-1024x530.png (410.21 KB, 1024x530 - ดู 1626 ครั้ง.)

* 00.0.jpg (139.52 KB, 1378x693 - ดู 1696 ครั้ง.)

* 00.1.jpg (208.4 KB, 1515x1171 - ดู 2148 ครั้ง.)

* 00.jpg (115.71 KB, 1609x1127 - ดู 2390 ครั้ง.)

* 00.2.jpg (59.29 KB, 728x546 - ดู 1404 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2016, 11:52:43 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 24 มกราคม 2016, 12:53:27 »

• ทำไม อะไร??? มนุษย์เงินเดือนไม่รวย •

– มีเงินเข้าทุกเดือน เลยคิดว่านี่คือความมั่นคง
– ไร้การวางแผน ไม่ทะเยอะทะยาน ทำไปวันๆ
– ไม่ยอมเพิ่มมูลค่าตัวเองให้ทันโลกเพื่อทำเงิน

ยุคนี้การทำเงินไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ขอเพียงคุณมีความเชื่อมั่น พัฒนาตัวเองอย่างบ้าคลั่ง
พร้อมกับสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้กับชีวิตตัวเองและผู้อื่นได้
แค่นี้คุณก็ได้สร้างสะพานแห่งการทำเงินเชื่อมต่อเข้ากับชีวิตตัวเองแล้ว




* 32 (1).jpg (40.43 KB, 620x400 - ดู 1668 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 08 มีนาคม 2016, 09:53:24 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 25 มกราคม 2016, 11:59:36 »

• คำถามเปลี่ยนชีวิต •

เราชอบชีวิตเราตอนนี้แล้วหรือยัง???
เรามีเป้าหมายที่อยากไปถึงแล้วหรือยัง???
ความสำเร็จของเรามันหน้าตาเป็นยังไง???
ชีวิตเรามีความหมายต่อคนอื่นแค่ไหน???
ความสุขของเราคืออะไร???
เราต้องการอะไรในชีวิตบ้าง???
ความรวยของเราแค่ไหนถึงพอ???
ทำอย่างไรเราถึงจะมีความสุขกว่าเดิม???


✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿


• วิธีเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ •

– ตั้งเป้าหมายที่ต้องการแล้วไปให้ถึง
– บอกตัวเองว่าเราทำได้
– ลงมือทำอย่างทุ่มเท
– รอดูความเปลี่ยนแปลงจนกว่าจะสำเร็จ

การเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก แต่จำเป็นต้องใช้ความใจถึง
ถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ขอให้นำเทคนิค 4 ข้อนี้ไปใช้ค่ะ


✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿


• ความรวยไม่มีขาย อยากได้ ต้อง…•

– ลงทุน
– ออมเงิน
– ฝันใหญ่
– มุ่งมั่น
– ทำเพื่อ (ใคร)

นโปเลียน ฮิลล์ นักเขียนหนังสือขายดีเรื่อง Think and grow rich บอกไว้ว่า
“ความรวยไม่ได้เป็นเรื่องลึกลับ แต่เป็นเรื่องของคนที่ปรารถนาอยากจะรวย”
5 ข้อนี้เป็น 5 ข้อทองคำสำหรับคนที่อยากประสบความสำเร็จและกลายเป็นคนรวย
อย่าลืม ความรวยไม่มีขาย…!!! อยากได้ต้อง…


* -6-638.jpg (141.09 KB, 640x336 - ดู 1410 ครั้ง.)

* 32.jpg (68.9 KB, 500x375 - ดู 1405 ครั้ง.)

* 615656.reg8rkyi6vh.jpg (38.54 KB, 575x314 - ดู 1362 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2016, 11:54:20 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 26 มกราคม 2016, 11:17:20 »

• หนี้สินที่ทำให้รวย •

หลายคนกลัวการเป็นหนี้ แต่การเป็นหนี้นั้นมี 2 ประเภท ทั้งหนี้ดีและหนี้เสีย ถ้าคุณพลาดการเรียนรู้ความแตกต่างระหว่างหนี้สองตัวนี้ไป รับประกันว่าคุณจะพลาดโอกาสดีๆในชีวิตอีกมากมาย

คุณเคยได้ยินไหมครับ คนรวยรวยด้วยเงินคนอื่น รวยด้วยเวลาในชีวิตของคนอื่น และรวยด้วยความสามารถของคนอื่น ทั้งนี้เพราะพวกเราเรียนรู้วิธีการที่จะใช้เงินทำงานให้ ใช้ทรัพย์ในการผลิตเงินให้กับตัวเอง ยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ ถ้าคุณอยากจะมีบ้านให้เช่าแต่คุณไม่มีเงิน ในขณะเดียวกันคุณเห็นแล้วว่าบ้านหลังนี้สามารถสร้างผลกำไรให้กับคุณได้อย่างแน่นอน อย่างนี้ควรจะทำอย่างไร…??? ใช่ คุณก็แค่ไปธนาคารเพื่อเอาเงินของเขามาลงทุนเท่านั้น ถ้าธนาคารคุณปล่อยกู้ไม่ผ่าน คุณก็หานายทุนที่จะมาสร้างรายได้ให้กับคุณแทน นี่เรียกว่ารวยด้วยเงินของคนอื่น

หรือถ้าคุณอยากทำธุรกิจ แต่เวลาของคุณมีน้อย ไม่สามารถเฝ้าร้านหรือทำงานได้ตลอดเวลา อย่างนี้คุณควรจะทำอย่างไร ง่ายมากๆครับ คุณก็แค่ประกาศหาลูกน้อง ลูกจ้าง หรือสร้างระบบที่จะมาทำงานแทนคุณเท่านั้น คุณอาจจะมีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้นจากการสร้างระบบ แต่ถ้าระบบสามารถผลิตเงินให้คุณมากกว่าที่คุณจ่ายออกไป มันก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก เพราะนั่นหมายถึงคุณใช้ทรัพยากรหรือเวลาของคนอื่นในการสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเอง

ใช่ คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าตัวเองจะรวยได้จากการทำงานหนัก แต่ในความเป็นจริง คนรวยรวยจากการใช้เงินและทรัพยากรของคนอื่น จากนั้นก็สร้างระบบให้ตัวเองเป็นคนคุม และคอยรับเงินจากการผลิตของระบบให้กับตัวเองนั่นเอง นี่คือหลักการที่หนังสือขายดีระดับโลกสอนเรา “พ่อรวยสอนลูก..!!!” นั่นเอง

ทุกวันนี้คุณมีรายได้ทางใดเป็นหลัก

E (Employee) – ลูกจ้าง
– รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน
– รายได้ตามตำแหน่งงานที่ได้รับมอบหมาย
– นายจ้างเป็นผู้กำหนดวิถีชีวิตและเงินเดือนให้คุณ
– ขาดอิสรภาพ ต้องเซ็นต์ชื่อ ตอกบัตร
– ตกงานเท่ากับล้มละลาย
(ตกงาน 3 เดือน ไม่ต่างจากคนล้มละลาย)
– อยู่ในวงจรหนี้สิน

B (Business Owner) – เจ้าของธุรกิจ
– มีทุน
– หาคนเก่งๆ มาทำงานให้
– ไม่ทำก็มีรายได้
B มีหลายประเภท
– บริษัท
– แฟรนไซน์
– การตลาดแบบเครือข่าย (เป็นช่องทางที่จะเป็นเจ้าของกิจการ ที่มีความเสี่ยงน้อย)

ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ฯลฯ

S (Self-employed) – ทำธุรกิจส่วนตัว
– ขายเวลาแลกกับเงิน จ้างตัวเองทำงาน
– ชอบคิดเองทำเอง, ควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง
– ขาดประสบการณ์
– เจอคู่แข่งที่มีทุนหนากว่า
– อาจจะทนทำ เพราะชอบ อิสระ แต่ไม่มี อิสรภาพ

I (Investor) – นักลงทุน
– ไม่ได้ทำงานเพื่อเงิน
– มองผลตอบแทนจากการปันผล ดอกเบี้ย
– ซื้อกิจการมาปรับปรุง แล้วขายต่อ

ใช่ คนรวยที่แท้จริงจะทุ่มเทในการสร้าง S และ I มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะพวกเขารู้ดีว่าการสร้าง Passive Income จะทำให้เรามีทั้งเงินและเวลาพร้อมๆกัน และวิธีการที่จะไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ คือการใช้ทรัพยากรและเงินของคนอื่นครับ

อยากรวย ต้องหยุดสร้างหนี้จน
อยากรวย ต้องสร้างหนี้สินที่ทำให้ตัวเองรวยเท่านั้น


* 00.0.jpg (25.13 KB, 316x208 - ดู 1393 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2016, 11:54:47 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 27 มกราคม 2016, 10:17:42 »

• ชายหูหนวกกับเสาที่สูงเกินไป •

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ หมู่บ้านหนึ่ง มีการแข่งขันเพื่อชิงเงินรางวัล
สำหรับใครก็ตามที่สามารถปีนเสาสูงลิบลิ่วได้ ปรากฏว่าผ่านไป 5 วันแล้ว
ก็ยังไม่มีใครสามารถพิชิตยอดธงได้

เวลามีคนปีน ทุกคนมักจะบอกว่า “ทำไม่ได้หรอก ยอมแพ้เถอะ มันสูงเกินไป”
และก็พาให้ชายในหมู่บ้านถอดใจ และยอมแพ้ในที่สุด

จนกระทั่งวันที่ 6 มีชายคนหนึ่งปีนพิชิตยอดธงสำเร็จ
ทุกคนต่างตกตะลึงมากๆ ทำไมเเกถึงทำได้ ทำไมคนอื่นทำไม่ได้
เขาไม่ได้ตอบอะไร ทุกคนคิดว่าชายหนุ่มหยิ่ง พยายามตะโกนด่าทอ แต่ไม่เป็นผล
ชายหนุ่มเดินไปพร้อมของรางวัลก้อนโต
จนกระทั่งสตรีนางหนึ่งบอกว่าที่ชายหนุ่มเขาไม่ตอบ ไม่ใช่เพราะเขาหยิ่ง
แต่เป็นเพราะเขาเป็นคนหูหนวก เขาเลยไม่ได้ยินแม้แต่คำว่า “ปีนไม่ได้หรอก มันสูงเกินไป”

บางครั้ง การไม่ยินเสียงคนรอบข้าง ก็ทำให้ชีวิตคุณดีกว่าเดิมได้เหมือนกัน !!!


* รูปภาพ31.jpg (20.1 KB, 340x515 - ดู 1299 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 10 มีนาคม 2016, 10:37:29 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 28 มกราคม 2016, 15:52:37 »

• คิดแบบเศรษฐี •

ชายหนุ่มคนหนึ่ง เดินเข้าไปในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
เขาเดินตรงไปหาเจ้าหน้าที่สินเชื่อ และยื่นกุญแจรถ Lamborghini มูลค่า 30 ล้านบาท
พร้อมกับขอกู้เงินเป็นจำนวน 200,000 บาท

เจ้าหน้าที่สินเชื่อตกใจ ขนหัวตั้ง พร้อมถามว่าคุณจะบ้าเหรอ สติคุณยังดีอยู่หรือเปล่า
ชายหนุ่มยิ้มพร้อมพยักหน้าเป็นสัญญาณว่าเอาจริง…!!! จากนั้นเขาก็เดินทางไปต่างประเทศ

เรื่องนี้ก็เป็นที่โจษจันของทุกคนที่รู้เรื่อง
ว่าทำไมบนโลกใบนี้มันยังมีคนโง่เอารถคันละ 30 ล้าน มาขอกู้แค่ 200,000 บาท
ทุกคนลงความเห็นตรงกันว่าชายหนุ่มคนนี้ “รวยอย่างเดียวไม่พอ ต้องโง่ด้วย…!!!”

ผ่านไป 2 สัปดาห์ ชายหนุ่มกลับมาพร้อมเอาเงิน 202,000 บาทมาคืน
ก่อนเขาจะขึ้นรถขับกลับบ้าน เจ้าหน้าที่สินเชื่อทนไม่ไหว
เลยถามความหาความจริงว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้
และคำตอบที่ได้ทำให้เจ้าหน้าที่สินค้าตบเข่าฉาด พร้อมอุทานว่า “ว่าแล้วทำไมหมอนี้ถึงรวย”

เพราะชายหนุ่มบอกว่า “ไม่มีที่ไหนในประเทศนี้อีกแล้ว ที่ผมจะฝากรถราคา 30 ล้าน
แถมมีธนาคารที่ดีที่สุดดูแลความปลอดภัยให้ด้วยราคาแค่ 200,000 บาท ”

รถ Lamborghini ขับออกไปแล้ว
เหลือเพียงแต่เจ้าหน้าที่ธนาคารยืนทึ่งในความคิดแบบเศรษฐีอยู่ตรงนั้น


* empoly.jpg (98.48 KB, 633x415 - ดู 2274 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 10 มีนาคม 2016, 10:39:28 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 29 มกราคม 2016, 12:30:56 »

• 17 วิธีคิดของเหล่าเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จในชีวิต •  

ได้ยินคำว่า “เศรษฐี” เชื่อได้เลยว่าใครๆก็อยากเป็นเศรษฐีกันทั้งนั้น แต่ว่าจะทำอย่างไรล่ะ ถึงจะได้เป็นเศรษฐีกับเขาบ้าง เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตบ้าง วันนี้เรานำเอาวิธีคิดของเหล่าเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จในชีวิต มากฝากครับ มีอะไรบ้างไปดูกันเลย

1. คนเราสามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้
คนรวยหรือคนที่ประสบความสำเร็จมักคิดว่า เราสามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้ โดยไม่ต้องรอให้โชคชะตา ดวง เทวดา สรวงสวรรค์ หรือสิ่งที่เรามองไม่เห็นมาเป็นผู้กำหนดตัวเอง เช่น การซื้อล็อตเตอรี่เพื่อหวังรวยทางลัด หรือการพึ่งหมอดูเพื่อทำนายโชคชะตา เป็นต้น แต่ในทางกลับกัน คนที่ยากจนมักจะโทษโชคชะตา สิ่งแวดล้อม หรือบุคคลรอบๆข้างว่า เป็นต้นเหตุแห่งความยากจนหรือความล้มเหลวของตน หรือมักคิดว่าทรัพย์สินเงินทองไม่ใช่เรื่องสำคัญเป็นเพียงของนอกกาย ตายไปก็เอาไปไม่ได้ เมื่อใดที่คิดเช่นนี้สติปัญญาที่จะใช้ขวนขวายหาเงินหาทองก็ย่อมหมดไปเป็นธรรมดา ในขณะที่คนรวยกลับคิดเสมอว่า เมื่อปรารถนาสิ่งใดก็ต้องสร้างเหตุและปัจจัยมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง ถ้ามัวแต่รอปัจจัยภายนอกแล้ว เมื่อไรสิ่งเหล่านั้นจะเกิดดอกและออกผล

2. มีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน
คนรวยคนประสบความสำเร็จจะกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจนว่า ตนเองจะมีเงินเท่าไร ในอีกกี่ปีข้างหน้า แต่คนทั่วไปมักจะคิดว่า ขอแค่มีเงินเดือนไว้แค่พอใช้ในแต่เดือนก็เพียงพอแล้ว คนที่ประสบความสำเร็จมักมองการณ์ไกล มีความฝัน มีจินตนาการ และกล้าที่จะลงมือกระทำเพราะเชื่อมั่นในศักยภาพของตน

3. เกิดมาแล้วต้องรวยและประสบความสำเร็จ
คนรวยจะคิดอยู่เสมอว่า เกิดมาแล้วต้องรวย ไม่ว่าจะต้องลงทุนลงแรงขนาดไหนก็ตาม ถึงแม้ตอนเกิดเราจะไม่สามารถเลือกได้ว่าเกิดมาแล้วจะรวยเลย แต่เราสามารถกำหนดชีวิตของเราเองได้ว่าต้องการรวย ต้องการประสบความสำเร็จมากขนาดไหน แต่คนทั่วไปจะคิดเพียงแค่ว่า อยากจะร่ำรวยแต่กลับไม่ขยันทำงาน เมื่อเจอปัญหาอุปสรรคก็มักจะบ่นและท้อถอยเพราะไม่ชอบทำงานหนัก

4. คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก
คนรวยจะคิดเสมอว่า ทุกอย่างสามารถเป็นไปได้ทั้งนั้นขอแค่เราเห็นโอกาสแล้ว ลองลงมือทำดูเท่านั้น ไม่ว่าสิ่งนั้นยากเพียงใดก็ตามแต่ และจะคิดหาหนทางในการพัฒนาสินค้าและบริการของตน เพื่อช่วยสร้างประโยชน์ให้แก่คนหมู่มาก


✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿


5. มองหาโอกาสต่างๆ และไม่เสียเวลาไปกับปัญหาที่เกิดขึ้น
เมื่อเกิดปัญหา คนรวยจะพยายามหาโอกาส หรือช่องทางที่จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ไม่ตีโพยตีพายหรือหมดหวังไปกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น คนที่ประสบความสำเร็จจะนิ่งสงบ เผชิญหน้ากับปัญหาอย่างมีสติ คิดพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วลงมือกระทำ และไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะว่าคนที่ประสบความสำเร็จรู้ว่าเวลามีความหมายต่อให้รวยแค่ไหนก็ไม่สามารถซื้อเวลาได้

6. ชื่นชมคนที่ประสบความสำเร็จเพื่อนำแนวความคิดมาปรับใช้ในชีวิตของตนเอง
คนรวยและคนที่ประสบความสำเร็จ สนใจและชอบที่จะศึกษาว่า คนที่เขาประสบความสำเร็จนั้นมีแนวคิดอย่างไรและทำอย่างไรถึงได้ร่ำรวยขนาดนั้นและนำมาเป็นไอดอลหรือเป็นแนวคิดในแก่ตัวเอง มากกว่าการรู้สึกคิดอิจฉาริษยาในความสำเร็จของผู้อื่น

7. ชอบคบหาสมาคมกับคนที่มองโลกในแง่ดี
คนรวยจะชอบคบหาสมาคมกับคนที่มองโลกในแง่ดี เพราะเขาเหล่านั้นจะมีแนวความคิด คำพูด และการกระทำที่เต็มไปด้วยความหวัง คนที่มองโลกในแง่ดีจะมองสามารถเห็นโอกาสในวิกฤตเสมอ และมักจะมองปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนคนที่มองโลกในแง่ร้ายจะชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่และมองปัญหาว่า เป็นสิ่งที่จะนำมาซึ่งความหายนะ ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด เกิดเป็นความท้อถอย ความอึดอัด จนต้องระบายความรู้สึกดังกล่าวออกมาในรูปของการกระทำต่างๆ เช่น การก้าวร้าว ด่าทอ ติฉินนินทา อิจฉาริษยา หรือคอยจับผิดผู้อื่น เป็นต้น การมองโลกในแง่ร้ายมากเท่าไร ยิ่งทำให้คิดอะไรไม่ออก ชีวิตก็ย่อมจะตกอยู่ในวังวนของความยากจนข้นแค้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉะนั้น คนที่ร่ำรวยจึงเลือกที่จะไม่สุงสิงกับคนที่มองโลกในแง่ร้าย เพราะจะเป็นการเพาะเชื้อแห่งการมองโลกในแง่ร้ายเข้าไปในจิตใจโดยไม่รู้ตัว

8. พร้อมที่จะนำเสนอสินค้าและบริการของตัวเอง
คนรวยพร้อมที่จะนำเสนอสินค้าของตนเองให้ผู้อื่นได้รับรู้อยู่เสมอ เพราะพวกเขาเชื่อว่า การรอคอยให้ผู้อื่นเข้ามาสอบถามถึงสินค้าของเรานั้นเป็นการเสียเวลา คนรวยและประสบความสำเร็จมักอยู่กับปัจจุบัน พวกเขาจะไม่จมปลักอยู่กับเรื่องในอดีต เพราะเขาตระหนักดีว่า ทุกอย่างในโลกล้วนเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และหากเขาหลงชื่นชมอยู่กับความสำเร็จในอดีต เขาก็จะประมาท หรือถ้าเขาหวาดกลัวหรือผิดหวังไปกับความล้มเหลวในอดีต เขาก็จะไม่กล้าที่จะทำสิ่งใดอีกต่อไป ฉะนั้น พวกเขาจึงไม่สนใจกับเรื่องในอดีตมากนัก แต่จะสนใจว่า ตอนนี้ควรจะทำอย่างไรต่อไปเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการให้ดียิ่งขึ้นมากกว่า


✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿


9. มองปัญหาเป็นเรื่องธรรมดา
คนรวยและประสบความสำเร็จจะมองปัญหาที่เกิดขึ้น เสมือนเครื่องมือที่ช่วยเสริมสร้างสติปัญญาให้เฉียบคมมากขึ้น และเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความรู้ เพิ่มความสามารถให้แก่ตนเองอีกต่างหาก ประสบการณ์ในการแก้ปัญหาที่ผ่านมานั้นเอง จะเป็นกำลังใจให้พวกเขากล้าที่จะทำในสิ่งใหม่และท้าทายมากยิ่งขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตามทุกๆ ปัญหาที่เขาต้องเผชิญนั้น พวกเขาจะคิดมาตรการเพื่อการป้องกันมิให้ปัญหานั้นเกิดซ้ำอีก

10. มีความเชื่อมั่นในตัวเอง
คนที่ร่ำรวยจะรู้สึกเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง พวกเขาจะรู้ว่าตัวเองสามารถทำอะไรบ้าง มีความสามารถทำได้แต่ไหน และจะลงมือทำอย่างสุดความารถของพวกเขาเองด้วยความเชื่อมั่น

11. ประเมินผลสำเร็จจากผลงานเป็นหลัก
คนรวยจะประเมินผลงานจากสินค้าที่ขายได้หรือผลกำไรของบริษัท แต่คนทั่วไปมักจะประเมินผลงานจากแรงงานที่ตัวเองเสียไป นอกจากนั้น คนทั่วไปมักเลือกที่จะเป็นลูกน้องในองค์กรที่มีความมั่นคง เพื่อที่ว่าตนเองจะได้ไม่ต้องลงทุนหรือมีความเสี่ยงในการทำธุรกิจมากนัก ในทางกลับกัน คนรวยจะทำงานในองค์กรสักระยะหนึ่งเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และหาโอกาสเปิดกิจการหรือมีธุรกิจเป็นของตนเองต่อไป

12. คิดหวังผลสองด้าน
คนรวยคิดว่า คนเราสามารถประสบความสำเร็จ มีความสุข และมีเวลาให้กับครอบครัวได้พร้อมๆกัน แต่คนทั่วไปกลับคิดว่า การที่จะประสบความสำเร็จได้จะต้องทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง เรื่องส่วนตัวเก็บไว้ทีหลัง การทำงานต้องเคร่งเครียด เอาจริงเอาจัง จนทำให้ละเลยคนที่รอบข้างไปหมด ละเลยสุขภาพของตัวเอง นอกจากนั้น คนรวยคิดว่า ยิ่งมีเงินทองมากขึ้น ยิ่งช่วยเปิดโอกาสให้ได้ทำประโยชน์ให้กับสังคมได้มากยิ่งขึ้น แต่คนทั่วไปกลับคิดว่า การจะร่ำรวยได้จะต้องเกิดจากการเอารัดเอาเปรียบผู้อื่นเสียเป็นส่วนใหญ่ พวกเขาจึงมองว่าคนรวยคือคนที่ไม่ดี


✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿


13. คิดว่าตนเองมีราคาเท่าไร
คนรวยจะประเมินมูลค่าของตนเองจากสินทรัพย์ที่มีอยู่ทั้งหมด หักลบกับหนี้สินทั้งหลาย ฉะนั้น คนรวยจึงคิดที่จะนำเงินไปลงทุนมากกว่านำไปใช้จ่ายจนหมด เพราะการลงทุนถือว่าเป็นการเพิ่มพูนรายได้โดยที่มูลค่าเดิมก็ยังคงอยู่ ในทางกลับกัน เมื่อมีเงินทองคนทั่วไปมักคิดที่จะจับจ่ายใช้สอยหรือไปท่องเที่ยวมากกกว่าการเก็บออมหรือนำไปลงทุน

14. รู้จักวางแผนในการจับจ่ายใช้สอย
คนรวยจะวางแผนเก็บออมเงินในระยะยาวมากกว่าการนำเงินไปใช้ มีการคิดตลอดเวลาก่อนที่จะตัดสินใจซื้อหรือเปลี่ยนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และในแต่ละวันแต่ละเดือน จะมีการจดบันทึกค่าใช้จ่ายไว้อย่างสม่ำเสมอ เพราะจะทำให้เรารู้ว่า เราใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง แล้วสิ่งนั้นจำเป็นมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะช่วยให้อนาคตเราจะไม่ขัดสนและลำบาก

15. รู้จักใช้เงินอย่างฉลาด
คนรวยจะรู้จักบริหารเงินให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ไม่ใช่ว่าหาเงินมาได้มากเท่าไหร่ ก็ใช้ไปเท่านั้น หรือมี 100 บาทแต่ใช้ 500 บาทแบบนี้เป็นต้น พวกเขาจะรู้จักหาวิธีที่สามารถช่วยทำให้เงินงอกเงย และช่วยเพิ่มพูนทรัพย์ให้พวกอย่างต่อเนื่อง รู้จักลงทุนโดยใช้ความคิดมากกว่าการใช้แรง

16. ไม่กลัวความล้มเหลว
คนรวยเมื่อเจอกับความล้มเหลวจะไม่ย่อท้อหรือหมดหวัง แต่จะตั้งสติ อดทน และพยายามหาหนทางแก้ไขและมองความล้มเหลวที่เกิดขึ้นเหล่านี้นี่แหละ เป็นสิ่งที่จะช่วยให้เกิดแรงกระตุ้น หรือเป็นตัวพัฒนาความรู้ ความสามารถของตัวเองมากกว่า แต่คนทั่วไปเมื่อเจอความผิดพลาด อุปสรรค ปัญหา หรือความล้มเหลวจะยอมแพ้ รู้สึกท้อ ผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น และคิดว่าตนเองหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างแล้วในชีวิต และจะหยุดการพัฒนาตัวเองโดยจมอยู่แต่กับความล้มเหลว

17. เรียนรู้ตลอดเวลา
คนรวยจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาและไม่เคยคิดว่าตนเองเก่งแล้ว แต่คนทั่วไปจะคิดว่า ประสบการณ์จะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความสามารถจึงทำให้หลงคิดว่าตนเองเก่งแล้ว เพราะผ่านประสบการณ์การทำงานมาหลายปี ฉะนั้น จึงมักไม่ยอมรับการสั่งสอนหรือคำแนะนำจากคนอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคนที่มีประสบการณ์น้อยกว่า เพราะถือว่าเป็นการเสียหน้าเป็นอย่างมาก ฉะนั้นอย่าลืมการเรียนรู้ตลอดเวลา ทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้วเข้าไว้ เพื่อจะได้เรียนรู้ พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา

หากท่านอยากรวยเป็นเศรษฐีบ้างลองนำวิธีคิดเหล่านี้ไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันของตัวเราดูกันนะครับ เพื่อเพิ่มโอกาสในความสำเร็จให้แก่ตัวเอง แล้วที่สำคัญจะเห็นได้เลยว่า แม้ว่าพวกเขาจะรวยแค่ไหน จะประสบความสำเร็จในชีวิตมากเพียงใด พวกเขาไม่เคยละทิ้งหรือหยุดที่จะเรียนรู้หรือพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเราควรเลียนข้อนี้เป็นอย่างยิ่ง ที่จะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาเพื่อความสำเร็จของตัวเราเอง

:: ขอบคุณบทความและภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต


* ConspiracyOfTheRich.gif (78.07 KB, 480x365 - ดู 9404 ครั้ง.)

* ธารทอง.jpg (42.54 KB, 510x510 - ดู 4058 ครั้ง.)

* walt_disney_dream.png (103.5 KB, 620x400 - ดู 14451 ครั้ง.)

* 1374140599-9414034765-o.jpg (35.02 KB, 679x459 - ดู 4398 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2016, 11:56:08 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 30 มกราคม 2016, 22:22:23 »

• เก่งอะไรให้ทำอันนั้น กุญแจสำคัญไขประตูความสำเร็จ •

ปัจจุบันปัญหาของนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่มักจะพบก็คือไม่รู้จักตัวเองครับ ความจริงแล้วปัญหานี้ไม่ได้มีแค่นักธุรกิจรุ่นใหม่เท่านั้น แม้แต่นักศึกษาจบใหม่หรือคนทำงานวัยใกล้เกษียณบางคนยังไม่รู้เลยว่าตัวเองถนัดอะไร ทำอะไรออกมาได้ดี รู้แค่ว่าชอบอะไรอยากทำอะไรแล้วใช้มันเป็นแรงผลักดันเพื่อทำความฝันเหล่านั้นให้เป็นจริง หากเป็นโลกปกติทั่วไปคงไม่เป็นไรหรอกครับ แต่กับโลกธุรกิจที่ต้องเดินไปด้วยความเป็นไปได้แล้วล่ะก็ ถือว่า “ผิดมหันต์” ครับที่ผมกล้าพูดก็เพราะได้ประสบพบเจอกับคนที่มีความรู้ความสามารถรอบด้านมาหลายคนครับ พวกเขามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือความกระหายใคร่รู้ มีความฝันอันยิ่งใหญ่ ประกอบกับความพยายามอย่างยิ่งยวด จึงทำให้พวกเขาเป็นเหมือนกับผู้รอบรู้แต่ไม่สามารถยกระดับไปสู่ผู้เชี่ยวชาญหรือกูรูได้ ก็เพราะมีกำแพงที่ชื่อว่า ความถนัด กั้นไม่ให้พวกเขาไปถึงความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้เหมือนนักดาบในนิทานเรื่องนี้ครับในอดีตมีนักดาบนามว่าฉ้ายโจว เขาเป็นนักดาบที่มีฝีมือชนิดที่ว่าประลองกับใครก็ไม่เคยแพ้ วันหนึ่งมีนักธนูมาท้าดวลธนู เขาเองก็เห็นว่าเคยฝึกธนูมาบ้างเลยรับคำท้า ผลออกมาคือพ่ายแพ้เสียยับ จึงขอท้าดวลใหม่ในวันหน้าหลังจากที่แอบฝึกธนูอย่างหนักจนไม่ได้ฝึกเพลงดาบเลย เมื่อถึงเวลามาดวลธนูเขาก็ยังแพ้อีก นักธนูเลยท้าดวลดาบกับเขา ฉ้ายโจวเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้กู้หน้าก็เลยรับคำท้า ผลก็ยังแพ้กลับมาอย่างเฉียดฉิว ทำให้เขาคิดว่าฝีมือดาบเขาตกไปแน่ จึงกลับไปปรึกษาอาจารย์หลังจากพบอาจารย์และประลองดาบกันแล้ว เพลงดาบเขาก็ไม่ได้ตกลงเลยแม้แต่น้อย มาถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านคิดว่าเป็นเพราะอะไรครับนั่นก็เพราะว่านักธนูฝึกยิงธนูทุกวันฝีมือจึงเฉียบคมยิ่งขึ้น ส่วนเพลงดาบเขาฝึกเหมือนกันแต่เอาแค่พอรู้ เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่เขาถนัด แต่นักดาบกลับฝืนตัวเองทำในสิ่งที่ไม่ถนัด และละทิ้งเพลงดาบของตน แทนที่ฝีมือจะพัฒนาขึ้นกลับย่ำอยู่ที่เดิมอาการแบบนี้คนไทยเรียกว่า เป็ด ครับ เพราะเป็ดว่ายน้ำได้แต่ไม่เก่งเท่าปลา บินได้แต่ก็ไม่เก่งเหมือนนก อย่างมากก็เฉียดฉิวแค่ไก่ วิ่งได้แต่ก็ไม่ไวเท่าห่าน เป็ดเลยเป็นสัตว์ที่ทำได้สารพัดอย่างแต่ไม่เก่งสักอย่างในการทำธุรกิจก็เหมือนกันครับ บางคนโตมากับโรงเหล็กรู้จักเหล็กเป็นอย่างดีแต่ไม่คิดจะทำเพราะเห็นว่ากำไรน้อยกว่า ความนิยมต่ำกว่าจึงหันไปจับธุรกิจตัวอื่นที่ตนไม่ได้รู้ลึกรู้จริง แทนที่จะแตกไลน์ไปทำโปรดักอื่นที่ทำมาจากเหล็ก สุดท้ายธุรกิจใหม่ก็ไปไม่รอดเพราะตัวเองไม่ได้มีความชำนาญเศรษฐีจีนแทบจะทุกคนให้ความสำคัญกับการรู้จักตัวเองของบุตรหลานเป็นอย่างมาก ยิ่งรู้จักตัวเองเร็ววันยิ่งดี เพื่อที่จะนำไปสู่การศึกษาแล้วกลับมาพัฒนาต่อยอดธุรกิจ เพราะพวกเขาถือว่าคนเราไม่มีใครเก่งไปทุกเรื่อง แต่ย่อมมีเรื่องที่ถนัดและโดดเด่นกว่าผู้อื่นจึงไม่แปลกที่เราจะเห็นบริษัทสัญชาติจีนจะมีเครือข่ายธุรกิจที่หลากหลายก็เพราะได้เรียนรู้นิทานเรื่องนี้แหละครับ“อย่าเอาแต่ความเพ้อฝันมาหลอกตัวเองไปวัน ๆ ว่าฉันทำได้

:: ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต


* 20160130221810.JPG (19.71 KB, 454x333 - ดู 1260 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2016, 11:56:40 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 01 กุมภาพันธ์ 2016, 11:49:05 »

• "Money is not everything in life.  But it is something you must have." •
•  "เงินไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต แต่มันเป็นสิ่งที่คุณต้องมี" •

เงินไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต  
แต่บางครั้งชีวิตจะรอดจากวันพรุ่งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงิน
ทำงานเก่งแทบตายถ้าไม่รู้วิธีทำเงินก็ไม่รวย
อยากรวยต้องเป็นนายเงินไม่ใช่ทาสเงิน ใช้เงินทำงานเยี่ยงทาส


✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿


คนเราส่วนใหญ่มักมีความคิดที่ว่าถ้าคุณมีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือน
และอยากมีรายได้ 60,000 บาทต่อเดือน จะต้องทำงานหนักมากกว่าคนอื่น 2-3 เท่า ไม่ใช่เลย !!!  
ในความเป็นจริงบนโลกใบนี้ มีคนมากมายที่สามารถหารายได้เยอะๆในขณะที่ทำงานน้อยลง
หรือใช้เวลาทำงานหาเงินน้อยกว่าคนกินเงินเดือนด้วยซ้ำ
เหตุผลเดียวที่เขาทำได้เพราะเขากล้ามากกว่าคนอื่น กล้าตัดสินใจ
ลงมือทำจริงจังมากกว่าคนอื่น และทุ่มเทสร้างอาณาจักรของตนเองมากกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง
พวกเขาสร้างทรัพย์สิน (asset) หรือเครื่องมือบางอย่างที่กล้าผลิตเงินหรือ leverage ให้เขาได้

สรุปคือคนรวยคือคนกล้าเสี่ยง กล้าได้กล้าเสียในเรื่องที่เขามั่นใจว่าต้องชนะ
ไม่กล้าได้กล้าเสียในเรื่องโชคชะตาโชคลาภ

คุณเป็นผู้กำหนดค่าของเงิน เงินไม่ได้กำหนดค่าของคุณ
ตัดสินใจทำความเข้าใจเรื่องตัวเองและเรื่องเงินทองให้ได้
เพราะเงินจะวิ่งเข้าหาคนที่เข้าใจมัน

:: ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต


* 000.jpg (43.32 KB, 489x262 - ดู 2201 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2016, 14:23:37 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2016, 10:56:32 »

 • ข้อดีการเป็น Freelance อาชีพ  •

– มีเวลาอิสระเป็นของตัวเอง ทำงานกี่โมงก็ได้
– เลือกรับรายได้ ตามกำลังความสามารถของตัวเอง
– เมื่อทำงานนานๆเข้า เเบรนด์ตัวเองจะเกิด
– ได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวที่เรารัก
– ทำงานที่ไหนก็ได้ตราบเท่าที่คุณทำงาน

ยุคนี้การเป็น Freelance ไม่ได้เป็นเรื่องยากอีกต่อไปแล้ว
ขอให้เพื่อนๆที่ปรารถนาอยากจะเป็นนายตัวเองได้เห็นข้อดี 5 ข้อนี้
แล้วมุ่งมั่นไปให้สุดกำลังนะครับ เพื่อชีวิตที่เราออกแบบด้วยตัวเอง



* employee-vs-freelancer-advantages.jpg (17.2 KB, 550x366 - ดู 1158 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2016, 11:57:31 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2016, 12:03:27 »

• ไม่ว่าจะเป็น...เพื่อสุขภาพ ความสุข
และความสำเร็จ...! นาฬิกากำลังเดิน...ทำวันนี้ให้ดีที่สุด. •

.....จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา หนึ่งปี
ให้ไปถามนักเรียนที่สอบตกต้องซ้ำชั้น

.....จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา หนึ่งเดือน
ให้ไปถามคุณแม่ที่คลอดลูกก่อนกำหนด
จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา หนึ่งสัปดาห์
ให้ไปถามนักเขียนหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์

.....จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา หนึ่งชั่วโมง
ให้ไปถามคนรักที่กำลังรอคอยตามนัดหมาย

.....จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา หนึ่งนาที
ให้ไปถามคนที่เพิ่งพลาดขบวนรถไฟ

.....จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา หนึ่งวินาที
ให้ไปถามคนที่เพิ่งรอดหวุดหวิดจากอุบัติเหตุ

.....จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา เสี้ยววินาที
ให้ไปถามคนที่เพิ่งชนะได้รางวัลเหรียญทองโอลิมปิค


✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿


ทำทุกขณะที่คุณมีให้มีคุณค่า...!
และทำให้มีคุณค่ามากขึ้นไปอีก
เพราะ คุณใช้มันร่วมกับ...คนพิเศษบางคนของคุณ
...ให้พิเศษเพียงพอที่จะใช้เวลาของคุณ

และจำไว้เสมอว่าเวลาไม่คอยใคร...แม้สักคนเดียว
เมื่อวานเป็นอดีต...พรุ่งนี้ยังยากที่จะอธิบาย...
วันนี้เป็นของขวัญ นั่นไงทำไมมันถึงถูกเรียกว่า... "Present"


* .0.jpg (99.99 KB, 960x720 - ดู 1150 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2016, 11:57:55 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2016, 15:52:23 »

• วิธีของคนจนทั้งชาติที่อยากรวย •

– ช่วยลูกช้างด้วย
– พึ่งฟ้าดิน
– ไม่ลงมือทำ
– ไร้ความตั้งใจจริง

อยากรวยไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องอาศัยความตั้งใจจริงเท่านั้น
เอาใจช่วยเพื่อนๆ ขอให้มีความสุขมากๆครับ




* 1415364359.jpg (28.51 KB, 723x482 - ดู 1197 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2016, 11:58:25 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2016, 16:18:23 »

• “ชีวิตจะมีความหมาย ถ้าคุณมีเป้าหมายชีวิต” •

5  วิธี ค้นหาเป้าหมายชีวิตคุณ
กติกาของวิธีนี้ก็คือ…
ให้คุณเตรียมกระดาษ กับ ปากกาให้พร้อม อ่านโจทย์แต่ละข้อจบปุ๊บ ตอบทันที !! OK

ถ้าพร้อมแล้ว…
เริ่ม…

1.ถ้าวันนี้คุณมีเงิน 1,000 ล้านบาท คุณยังจะทำงานที่ทำอยู่ทุกวันนี้หรือไม่
ถ้าไม่ คุณจะทำอย่างไร
อะไรที่คุณลงมือทำได้ทันที เดี๋ยวนี้ !! ไม่ใช่เดี๋ยวก่อน

2.งานที่คุณทำอยู่ปัจจุบัน ตอบโจทย์ความฝันของคุณหรือไม่
ถ้าไม่ คุณจะทำอย่างไร ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือกระโดดข้ามกำแพง Comfort Zone
คุณเท่านั้นที่ต้องเลือก ไม่ได้เลือกชีวิตเพียงอย่างเดียว แต่เลือกออกซิเจนให้กับชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งชีวิต

3.ถ้าหมอบอกคุณว่า คุณมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ 6 เดือน คุณอยากทำอะไรกับชีวิตที่เหลืออยู่ของคุณ ให้มีความสุขที่สุด ให้มีชีวิตที่ยอดเยี่ยมที่สุด ชนิดที่ว่ายิงธนูทะลุเป้าหมายทุกข้อของชีวิต ถ้าฟังคนอื่นมาเยอะแล้ว ลองฟังเสียงหัวใจคุณบ้างนะครับ

4.ความจริง คุณเกิดมาแค่ชีวิตเดียว แต่หลายคนทำงานเหมือนมี 9 ชีวิต (ไม่ใช่แมว) คำถามคือ… ปัจจุบันคุณกำลังทำฝันของคนอื่นให้เป็นจริง หรือหาทางทำฝันของตัวเองให้สำเร็จ เคยถามคำถามนี้กับตัวเองบ้างไหม ถ้าเป็นอย่างแรก คุณจะทำยังไงให้ความฝันของคุณเป็นจริงเร็วที่สุด

5.ครอบครัว พ่อแม่ ลูก ภรรยา สามี รอความสำเร็จคุณได้นานแค่ไหน 10 ปี 20 ปี 30 ปี หรือนานกว่านั้น ความจริงไม่มีใครรอความสำเร็จได้ ทุกคนมีวันหมดอายุ และโชคร้ายที่สุดที่คุณไม่มีทางรู้ว่าเมื่อไหร่วันนั้นจะมาถึง ทางเดียวที่คุณต้องทำก็คือ สำเร็จให้พวกเขาเห็นเร็วที่สุด

ทำให้คนที่คุณรักมีความสุขในวันที่มีลมหายใจ ดีกว่าดีใจในวันที่ไม่เหลือใครสักคน
แม้ว่าคุณสำเร็จรวยพันล้านก็ไม่มีประโยชน์
ถ้าไม่มีคนในครอบครัวแสดงความยินดีกับคุณแม้แต่คนเดียว
คำถาม… วันนี้คุณสำเร็จเป้าหมายชีวิตแล้วกี่ข้อ
ถ้ายังไม่ได้เริ่ม ยังไม่ถึงครึ่งทาง จะรออะไร… จัดไป!


✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿


ไม่มีใครรู้ว่า ‘พรุ่งนี้’ หรือ ‘ความตาย’ อะไรจะมาถึงก่อนกัน
วันนี้ ! คุณทำตามใจสั่งมา แล้วหรือยัง ?

ขอบคุณบทความโดย…
พชร พูลเพิ่ม (ป๊อป)
Content Creator
Leader Wings Co., Ltd.


* .3.jpg (21.21 KB, 451x389 - ดู 1128 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2016, 11:58:52 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 04 กุมภาพันธ์ 2016, 10:00:22 »

• นิทานเรื่อง ลิง 5 ตัว •

การทดลองหนึ่งโดยนักวิทยาศาสตร์นั้น เขานำลิง 5 ตัวมาอยู่ในห้องซึ่งมีบันไดสูงและวางกล้วยไว้บนนั้น ถ้ามีลิงตัวไหนพยายามปีนบันไดเพื่อไปหยิบกล้วน ระบบอัตโนมัติจะทำการฉีดน้ำลงมาทันที ยิ่งปีน ยิ่งเปียก

ไม่นานนักเจ้าลิงทั้ง 5 ได้เรียนรู้ว่าถ้ามีลิงตัวไหนพยายามปีนขึ้นไป ทุกตัวที่เหลือจะต้องเปียกแน่ๆ ดังนั้นเมื่อมีตัวไหนพยายามปีนขึ้นไป มันจะไล่ทุบตีทันที

นักวิทยาศาสตร์จับเอาลิงออกจากกลุ่ม 1 ตัว และเอาลิงใหม่เข้ามา 1 ตัว ลิงใหม่จะไม่รู้เรื่องก็จะวิ่งไปปีนบันได ลิงเก่าทั้งสีก็จะวิ่งเข้าตีลิงใหม่ทันที

การทดลองยังไม่จบ นักวิทยาศาสตร์เอาลิงเก่าออก 1 ตัว เอาลิงใหม่ใส่ 1 ตัวไปเรื่อยๆจน 5 ตัวที่เคยเปียกไม่อยู่ในกลุ่มแล้ว มีแต่ลิงที่ไม่เคยแม้แต่จะโดนน้ำซักครั้งเดียวในกลุ่ม พวกมันไม่รู้ว่าการปีนบันไดขึ้นไปจะเกิดอะไรขึ้น แต่ทุกๆครั้งที่มันพยายามปีนบันไดขึ้นไป มันก็จะถูกตัวอื่นๆไล่ทุบเสมอ

ลิงตัวใหม่ได้แต่งงว่าเพราะอะไรฟร่ะ ส่วนลิงตัวใหม่ก็คงบอกว่า “ก็เขาทำตามๆกันมานี่หว่า”

ในโลกยุคนี้การทำอะไรตามๆกันเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดสิ้นดี ถ้าคุณอยากจะประสบความสำเร็จ มันมีแต่ต้องคิดใหม่ ทำใหม่เท่านั้น อย่าเชื่อเรื่องใดๆก็ตามที่เขาว่ากันตามกันมา ในความเป็นจริงโลกของเรามีหลายอย่างให้เรียนรู้และผจญภัยมากนัก




* 1 (2).gif (13.71 KB, 306x203 - ดู 1153 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2016, 11:59:18 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 04 กุมภาพันธ์ 2016, 11:41:06 »

• โอกาสเหมือนไอติม หากไม่กินก็"ละลาย" •
• การลงทุนมีความเสี่ยง แต่การไม่ลงทุนมีความเสี่ยงมากกว่า •·3 กุมภาพันธ์ 2016
อ่านแล้ว 1 ครั้ง
"โอกาสก็เหมือนไอติม..หากคุณไม่กินมันก็ละลาย"
สัจธรรมแห่งโลกความเป็นจริง แค่เราลองเปิดใจกับสิ่งใหม่ๆ
แล้วไขว่คว้ามันมา ความสำเร็จจะหนีไปไหนเสีย จริงไหม...?
มุ่งมั่นและลงมือทำ

คนที่บอกว่า ไม่มีโอกาส ไม่ใช่เพราะโอกาสไม่มี แต่เป็นเพราะเขามองไม่เห็นโอกาสนั่นต่างหาก ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเรา เรามีโอกาสเลือกได้ทั้งนั้น แล้ววันนี้ เราพร้อมจะเลือกหรือยัง

การเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างเป็นเรื่องยาก แต่ที่ยากกว่าก็คือการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทั้งด้านความคิดและการกระทำทุกอย่าง ต้องปรับเปลี่ยนไปในทางที่พัฒนาขึ้น คนส่วนมากไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่ เพราะการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านความคิดและการกระทำต่างๆเป็นเรื่องค่อนข้างทำใจลำบาก บางคนเอาชนะใจตัวเองไม่ได้ ก็ยอมพ่ายแพ้ให้กับพฤติกรรมเดิม ถ้าคุณต้องการมีชีวิตที่ดีกว่า จงเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยจิตใจที่เด็ดเดี่ยว แต่ขอให้เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ถ้าคุณเอาชนะจิตใจของตัวเองได้ คุณก็สามารถเอาชนะทุกอย่างได้

 ✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿

เรามักเสียโอกาสกับทางที่เราเลือกมาแล้ว ความเสียดายนี้แหล่ะที่เป็น อุปสรรค  บางทีหากเรามีเป้าหมายที่มุ่งมั่นจริงๆในชีวิต เราจะเห็นว่าโอกาสมันมาหาเราอยู่ทุกวัน เพียงแค่เรายังไม่กล้าเลือกมัน มันจะผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเป็นอย่างนี้เรื่อยไปไม่จบไม่สิ้น วันแล้ววันเล่าเพราะบางที สิ่งที่เราเรียกว่า “โอกาส” อาจมีและเข้าหาเราไม่บ่อยมากนักในชีวิต เพราะมันก็ผ่านมาแล้วก็ผ่านเลยไป!

:: ขอบคุณบทความผสมผสานกันจากอินเตอร์เน็ต


* .0.jpg (69.81 KB, 642x492 - ดู 1145 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2016, 11:59:46 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 05 กุมภาพันธ์ 2016, 09:44:48 »

• เวลาเท่ากัน แต่เวลาก็ไม่เท่ากัน : เวลาผ่านไป เราก็แก่ไปตามนั้น •

เมื่อกำหนดให้ 1 ปีคือ 365 วัน ทุกคนจึงมีเวลา 365 เท่ากันหมด แต่ 12 เดือน ของแต่ละคนนานไม่เท่ากัน บ้างรู้สึก 1 ปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว บ้างรู้สึกเชื่องช้าทั้งความช้าและความเร็วของเวลามีใจเป็นตัวกำหนด 1 ชั่วโมงของผู้ที่กำลังรอคอยย่อมแตกต่างจาก 1 ชั่วโมงของผู้ที่กำลังมีความสุข

และความทุกข์มักผ่านชีวิตผู้คนอย่างเชื่องช้า 1 คืนของคนทุกข์จึงยาวนาน และสำหรับผู้ที่นอนไม่หลับ...1, 2, 3 ชั่วโมงที่พยายามจะข่มตาหลับช่างทรมาน ส่วนคนหลับสบายไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใดแล้ว

ชีวิตมนุษย์ถูกเวลาควบคุมและบงการเอาไว้ เมื่อเขาบอกว่า 31 ธันวาคมคือวันสิ้นปี วันที่ 1 มกราคมเป็นวันแรกของปี เราก็เชื่อไปตามนั้น และความเชื่อดังกล่าวฝังแน่นอยู่ในความรู้สึกนึกคิด ผู้คนพากันคล้อยตามว่าวันสิ้นปีและวันขึ้นปีใหม่มีอยู่จริง รู้สึกรู้สมกับการสมมุติ แต่สัตว์ทั้งหลายไม่รู้ รู้แค่กลางวันกลางคืน ไม่รู้ว่าบางเดือนมี 30 วัน บางเดือนมี 31 วัน ไม่รู้จักวันจันทร์ ไม่รู้จักวันศุกร์ ไม่มีเสาร์-อาทิตย์ไม่มีวันหยุดยาว เวลาของสัตว์อิงกับธรรมชาติและกลมกลืนไปด้วยกัน เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ก็ผสมพันธุ์ และสัตว์บางชนิดจำศีลเมื่อฤดูหนาวมาถึง พวกมันกินและสะสมอาหารไว้ให้มาก หาที่สงบและปลอดภัยจากนั้นก็อยู่นิ่ง ๆ รอจนกว่าหน้าหนาวหมดไปและอากาศอบอุ่นจึงออกจากการจำศีล

มนุษย์สมมุติเรื่องเวลาขึ้นมาเพื่อใช้สอย และการสมมุติยังเล็กลงไปเกินกว่าหน่วยวินาทีอีกด้วย แต่ชีวิตคนส่วนใหญ่ใช้สอยแค่วินาที เช่นรถติดไฟแดง 30, 60, 90 วินาที ระหว่างนั้นเราก็รอคอยกัน บางคนรู้สึกนานเพราะรีบ หลังจากการรอคอยสิ้นสุดลงและไฟเขียวทำงาน ผู้คนก็รีบเร่ง เพราะกลัวไฟเขียวที่มีอยู่ 20, 30 วินาทีจะหมดลงและไม่อยากติดไฟแดงอีก ความรีบความเร่งของคนเรานั้นมีใจและเวลาคอยบงการ เมื่อรีบเสียแล้วใจก็เดินทางเร็ว ยิ่งรีบเวลายิ่งเร็ว ยิ่งไม่อยากให้มาถึง--วัน, เดือน, ปี ยิ่งผ่านหน้าไปรวดเร็ว


ที่ใดมีเวลาที่นั่นมีความเปลี่ยนแปลง ถึงแม้จะไม่สมมุตินาที, ชั่วโมง, วัน ขึ้นมา ความเปลี่ยนแปลงก็ไม่เคยหายไปไหน มันอยู่ในทุกสรรพสิ่ง การเกิดและการตายคือความเปลี่ยนแปลงที่ต่อเนื่องไม่ขาดสาย เมื่อถึงเวลาก็เกิด เมื่อหมดเวลาก็ตาย จะเอาเฉพาะเกิดไม่เอาตายไม่ได้ เพราะทั้งคู่เป็นเรื่องเดียวกัน เหมือนที่กลางวันคือเรื่องเดียวกับกลางคืนแต่อยู่ต่างด้าน ความเปลี่ยนแปลงทำให้เด็กโตขึ้น ทำให้เส้นผมสีดำกลายเป็นสีเทาหรือสีขาว ทำให้แผ่นหลังที่เคยหยัดตรงโค้งเข้าหาแผ่นดิน

แม้ผู้คนจะมีเวลา 1 วัน 1 เดือน 1 ปีเท่ากัน แต่มีเวลาในชีวิตไม่เท่ากัน บางคนอยู่ดูโลกแค่ 7-8 ปี ก็อำลา บางคนอยู่จนอายุ 80-90 ปี เราไม่รู้เลยว่ามีเวลาคนละเท่าไร นี่คือความลับของชีวิต และยังมีอีกหลายความลับ--จนกระทั่งถึงเวลา ความลับก็เปิดเผยออกมา เรารู้ว่าปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้างกับชีวิต แต่รู้หรือว่าปีหน้าชีวิตจะเป็นอย่างไร อย่าว่าแต่ปีหน้าเลย แค่พรุ่งนี้หรือสัปดาห์หน้าก็ไม่รู้ เรารู้แค่เมื่อธันวาฯสิ้นสุดลงจะตามมาด้วยมกราฯ เมื่อวันอาทิตย์หมดไปก็ได้เวลาของวันจันทร์

7 วันใน 1 สัปดาห์วนเวียนซ้ำไปซ้ำมา 12 เดือนใน 1 ปีก็ซ้ำ มีแต่ศักราชที่เคลื่อนไปข้างหน้าและไม่วนกลับยกเว้นเริ่มต้นใหม่ ตั้งศักราชใหม่ ๆ ขึ้นมา ว่ากันว่าอายุโลกคือ 4.6 พันล้านปี นึกออกไหมว่าเวลาเท่านี้นานเพียงใด? บางเรื่องก็มากเกินกว่าจะจินตนาการได้ การที่โลกอายุเท่านี้ต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงมหาศาลอย่างไม่ต้องสงสัยและความเปลี่ยนแปลงของโลกยังคงดำเนินต่อไปไม่ขาดสาย เราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของสายดังกล่าว ก่อนมีมนุษย์มีไดโนเสาร์มาก่อน พวกเรามาถึงโลกทีหลังสัตว์หลายชนิดด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับอายุของโลก--ผู้คนก็เพิ่งมาพักอาศัยได้ไม่นาน แต่มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับปูมหลังของโลก หมา, แมวไม่รู้หรอกว่าโลกนี้เคยมีไดโนเสาร์และพวกมันไม่จำเป็นต้องรู้

บางคนสงสัย--สัตว์รู้หรือเปล่า? พวกมันเกิดมาแล้วต้องตาย แต่คนรู้--ยังไม่รู้วันนี้ก็จะรู้วันหน้า เด็กเล็กไม่กลัวตาย พวกเขาอยู่ในวัยที่ไม่รู้ว่าความตายคืออะไร หลังจากนั้นไม่นานจะค่อย ๆ รับรู้ว่า ‘ตาย’ มีความหมายอย่างไร คนเมื่อ 2,000-3,000 ปีที่แล้วกลัวตายไม่ต่างจากคนรุ่นปัจจุบัน ถ้าไม่มีใครตายเลย โลกก็จะมีพื้นที่ไม่เพียงพอสำหรับพักอาศัย...ตายเพื่อเกิด และเกิดเพื่อตาย


 ✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿


แม้ 1 วันของทุกคนจะเท่ากับ 24 ชั่วโมงเหมือนกันแต่ไม่เหมือนกัน 24 ชั่วโมงของคนป่วยที่ต้องนอนบนเตียงย่อมยาวนานกว่า 24 ชั่วโมงของคนที่ออกจากบ้านตอนเช้าเพื่อไปทำงาน 24 ชั่วโมงของคนที่เพิ่งอกหักแตกต่างจาก 24 ชั่วโมงของคนที่เพิ่งพบรัก 24 ชั่วโมงของเด็กเคลื่อนที่กระฉับกระเฉงกว่า 24 ชั่วโมงของคนแก่ 24 ชั่วโมงของคนขี้เกียจจะหมดไปอย่างไร้ความหมาย เมื่อ 1 วันหมดไป วันในชีวิตก็พร่องลงอีก 1 วัน ไม่มีใครใช้ชีวิตแล้วได้เวลาในชีวิตเพิ่มขึ้น มีแต่ค่อย ๆ ลดลงเพื่อจะหมดไปในที่สุดและที่สำคัญ--เราไม่รู้ว่าจะหมดเมื่อไร บางคนวันนี้ยังมีชีวิตอยู่เลย แต่พรุ่งนี้ไม่อยู่เสียแล้ว บางทีเส้นแบ่งระหว่างความเป็นกับความตายก็บางมาก

1 เดือนของคนที่ขัดสนเรื่องเงินทองย่อมยุ่งเหยิงกว่า 1 เดือนของคนที่พอกินพอใช้ 1 เดือนของคนฟุ่มเฟือยจะตามมาด้วยความเดือดร้อนขัดสนในเดือนต่อไปหรือในปีต่อไป วันนี้มีส่วนในการกำหนดว่าวันหน้าจะเป็นเช่นไร เดือนนี้กำหนดเดือนหน้า และปีนี้กำหนดปีหน้า บ้างตั้งเป้าหมายไว้ว่าอีก 5 ปีจะร่ำรวย บ้างบอกอีก 5 ปีจะเลิกจะทำงาน ส่วนที่บอกอีก 3 ปีจะแต่งงาน หรืออีก 2 ปีจะมีลูก ล้วนตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของเวลา...มีใครบ้างที่อยู่เหนือเวลาได้

เวลาคือสายอันยาวเหยียดที่เริ่มต้นเมื่อไรก็ไม่รู้ แต่นั่นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือทุกคนมีเวลาอันจำกัด ใช้สอยแล้วก็หมดไป เมื่อปีเก่าสิ้นลง ชีวิตเราก็พร่องไป 1 ปี การพยายามเติมชีวิตที่พร่องลง, พร่องลงให้เต็มขึ้น, เต็มขึ้น...ไม่ใช่เรื่องที่คนมีสติปัญญาจะทำกัน

:: ญามิลา
คอลัมน์ นับ ‘หนึ่ง’ จนถึง ‘ศูนย์’
นิตยสารขวัญเรือน ฉบับที่ 1058 ปักษ์หลังธันวาคม 2558


* .0.jpg (36.07 KB, 630x378 - ดู 1163 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2016, 12:00:12 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
IAPKAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


• เราเป็นผู้เลือกชีวิตให้กับตัวเราเอง!!! •


« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 05 กุมภาพันธ์ 2016, 09:55:13 »

Fate exists but it can only take you so far, because
once you're there. It's up to you to make it happen.

ชะตาชีวิตน่ะ มันมีอยู่แล้ว
แต่ว่ามันพาคุณไปได้ไม่ไกลหรอก
เพราะชีวิตของคุณขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเอง

✿ can't hardly wait ✿


✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿.。。✿*゚‘゚・✿


การจะผ่านช่วงชีวิตที่ "โหดร้าย"
คงไม่มีอะไรดีกว่า "อดทน" และสู้กับมัน

“หากคุณล้ม คุณก็จะอดตาย แต่ถ้าคุณลุกขึ้นสู้ คุณก็จะเป็นผู้ชนะ”
ขอเพียงแค่เรายึดคติที่ว่าหากคุณยอมแพ้และยังมีความท้อแท้
คุณก็จะทำอะไรไม่ได้ ไม่สามารถเอาชนะอุปสรรคได้
แต่ถ้าคุณสู้ไม่ยอมถอยเพียงเท่านั้นแหละครับ
ยังไงคุณก็สามารถผ่านช่วงเวลาที่โหดร้ายนี้ไปได้แน่นอน

บางคนอาจจะมีความฝังใจกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
มันอาจจะเป็นทั้งการเลิกรากับคนที่เราเคยคบด้วยกันมาก่อน
หรืออาจจะเป็นเรื่องไม่ดีที่เราเคยทำมา
แต่หากเราลืมมันได้ เราก็จะทำตัวได้ดีกว่าเดิม และดำเนินชีวิตต่อไปได้นั่นเอง
เหมือนอย่างคำคมที่ว่า “คนที่ลืมได้ก่อนคือคนที่มีความสุขที่สุด”

จงหยุด “จำกัด” ความสามารถของตัวเอง
ด้วยความคิดว่า “ฉันทำไม่ได้”
เพราะนั่นหมายถึง คุณกำลังกำหนดให้ความสามารถของตัวเองด้อยลง!!!

.. เพราะชีวิต ..
คือลมหายใจที่ไม่หยุดนิ่ง ..
.. และหัวใจ .. ที่ไม่เคยหยุดทำงาน ..
.. ชีวิต .. เข้มแข็งได้ถึงขนาดนี้ ..
.. ก็อย่าทำให้มันอ่อนแอลง ..
เพียงเพราะปัญหาเล็กๆ .. แค่ไม่กี่ครั้งเลย ..

:: ขอบคุณคำคมดีๆจากภาพยนต์ และ คำคมโดนๆ-สำหรับผู้ที่กำลังมีปัญหาในชีวิต


* .0.jpg (86.89 KB, 730x960 - ดู 1127 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2016, 12:00:40 โดย IAPKAI » IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 4 5 6 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!