เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 27 เมษายน 2024, 11:19:37
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ห้องนั่งเล่น (ผู้ดูแล: แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-., ©®*)
| | |-+  “ ตำราแห่งชีวิต ” "สูตรแห่งชีวิตประจำวัน ”
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน “ ตำราแห่งชีวิต ” "สูตรแห่งชีวิตประจำวัน ”  (อ่าน 1528 ครั้ง)
whomail
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: วันที่ 27 มกราคม 2010, 22:31:07 »

  พรรคพวกส่งจดหมายเวียนผ่านอีเมล์มาให้...บอกว่าเป็น “ สูตรแห่งชีวิตประจำวัน ”
ที่ควรจะส่งต่อไปให้คนที่เรารัก, ห่วงใยและต้องการให้เขาหรือเธอมีความสุขทั้งกายและใจ...ทำนองเดียวกันที่ชาวชีวจิตมีความห่วงหาอาทรต่อกันอย่างไม่ลดละ
             เพื่อนเรียกสูตรนี้ว่าเป็น Lifebook หรือเป็น “ ตำราแห่งชีวิต ” ซึ่งเหมาะเจาะกับเนื้อหาและคำแนะนำที่น่าสนใจยิ่ง
ทั้งง่ายและตรงไปตรงมา, ใครจะทำก็ได้, ไม่ทำก็ได้, เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล, ไม่บังคับยัดเยียดกัน, ไม่ต่อว่าต่อขานกัน, แต่ถ้าหากมีความมุ่งมั่นจะทำอะไรให้กับชีวิตของตนเอง, ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าส่งเสริมสนับสนุนสมควรจะให้กำลังใจแก่กันและกันอย่างยิ่ง
             
               สูตรที่ว่านี้มีง่าย ๆ อย่างนี้

         ๑.   ดื่มน้ำให้มาก     
         ๒.   กินอาหารเช้าเหมือนราชา, รับประทานอาหารเที่ยงเหมือนเจ้าชายและเมื่อถึงอาหารเย็น, ให้วาดภาพว่าตัวเองเป็นแค่ขอทาน (แปลว่ากินมือหนักที่สุดตอนเช้า, และกลาง ๆ ตอนเที่ยงและตกเย็นแล้ว, ทำตัวเป็นยาจก, ไม่มีอะไรจะกิน...สุขภาพจะเป็นอย่างเทวดาทีเดียวเชียวแหละ)
         ๓.  กินอาหารที่โตบนต้นและบนดิน, พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ผลิตจากโรงงาน
         ๔. ใช้ชีวิตบนหลักการ 3 E...นั่นคือ energy หรือพลังงาน, enthusiasm หรือกระตือตือร้น และ empathy คือเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มาก ๆ
         ๕.  หาเวลาทำสมาธิหรือสวดมนต์เสมอ
         ๖.   เล่นเกมสนุก ๆ เสียบ้าง, อย่าเครียดกันนักเลย
         ๗.  อ่านหนังสือให้มากขึ้น...ตั้งเป้าว่าปีนี้จะอ่านมากกว่าปีที่ผ่านมา
         ๘.  นั่งเงียบ ๆ อยู่กับตัวเองสักวันละ 10 นาทีให้ได้
         ๙.   นอนวันละ 7 ชั่วโมง
         ๑๐.เดินสักวันละ 10 ถึง 30 นาที, แล้วแต่จะสะดวก, ไม่ต้องเครียดกับมัน, วันไหนไม่ได้เดิน, ก็อย่าหงุดหงิดกับมัน
         ๑๑.ระหว่างเดิน, อย่าลืมยิ้ม

              นั่นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพกายและใจที่ผสมปนเปกันได้เสมอ, หากทำเป็นกิจวัตร, ชีวิตก็จะแจ่มใส, แต่อย่าทำให้ตัวเองเครียดด้วยการรู้สึกผิดถ้าหากวันไหนทำไม่ได้ตามที่วางกำหนดเวลาของตนเอาไว้

                                        วันนี้ทำไม่ได้ , พรุ่งนี้ทำก็ได ้

              แต่การไม่เอาจริงเอาจังกับตัวเองเกินไปไม่ได้หมายถึงการผัดวันประกันพรุ่ง, ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน

         
                สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่กับสูตรสุขภาพมีอย่างนี้

         ๑.  อย่าเปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับคนอื่น คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขามีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไรบ้าง
         ๒.   อย่าคิดทางลบเกี่ยวกับเรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้ แทนที่จะมองโลกในแง่ร้าย, ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิดทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย
         ๓.  อย่าทำอะไรเกินกว่าที่ตัวเองทำได้...รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน
         ๔.  อย่าเอาจริงเอาจังกับตัวเองนัก เพราะคนอื่นเขาไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก
         ๕.  อย่าเสียเวลาและพลังงานอันมีค่าของคุณกับเรื่องหยุมหยิมหรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง
         ๖.  จงฝันตอนตื่นมากกว่าตอนหลับ
         ๗. ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว
         ๘. ลืมเรื่องขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามีหรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่ายหนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ
         ๙.  ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร...จงอย่าเกลียดคนอื่น
         ๑๐.ประกาศสงบศึกกับอดีตให้สิ้น, จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ
         ๑๑.ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง
         ๑๒.จงเข้าใจเสียว่าชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียนรู้ และปัญหาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักสูตรซึ่งมาแล้วก็หายไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอดชีวิต
         ๑๓. จงยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
         ๑๔. คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถกแถลงกับคนอื่นหรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่างกันได้...เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร
             
               แล้ว เราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้างเราล่ะ ?

         ๑.      อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อย ๆ
         ๒.    จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน
         ๓.     จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง
         ๔.     จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และต่ำกว่า 6 ขวบ
         ๕.     พยายามทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน
         ๖.      คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่เรื่องของคุณสัก  หน่อย
         ๗.  งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณในยามคุณมีปัญหาสุขภาพ ดังนั้น, อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็นอันขาด
 
            และ ถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้ , ก็ควรจะทำดังต่อไปนี้

         ๑.   ทำสิ่งที่ควรทำ
         ๒.   อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์, ไม่สวย, ไม่น่ารื่นรมย์, จงทิ้ง ไปเสีย...เก็บไว้ทำไม?
         ๓.   เวลาและพระเจ้าย่อมรักษาแผลทุกอย่างได้
         ๔.  ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด, เดี๋ยวมันก็เปลี่ยน
         ๕.  ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน, จงลุก จากเตียง, แต่งตัวและปรากฎตัวต่อหน้าคนที่เราร่วมงาน ด้วย...get up, dress up and show up.
         ๖.   สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
         ๗.   ถ้าคุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้, อย่าลืมขอบคุณพระเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือเสียด้วย
         ๘.  เชื่อเถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุข เสมอ...ดังนั้น, ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า?
         
          และสุดท้ายที่สำคัญที่สุด

        " ส่งบทความที่ต่อไปให้คนที่คุณรักและห่วงหาอาทรด้วย... "
 

 

 
 
 
 


* __fwdDer.jpg (35.08 KB, 360x218 - ดู 213 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 31 มกราคม 2010, 12:34:53 »

  พรรคพวกส่งจดหมายเวียนผ่านอีเมล์มาให้...บอกว่าเป็น “ สูตรแห่งชีวิตประจำวัน ”
ที่ควรจะส่งต่อไปให้คนที่เรารัก, ห่วงใยและต้องการให้เขาหรือเธอมีความสุขทั้งกายและใจ...ทำนองเดียวกันที่ชาวชีวจิตมีความห่วงหาอาทรต่อกันอย่างไม่ลดละ
             เพื่อนเรียกสูตรนี้ว่าเป็น Lifebook หรือเป็น “ ตำราแห่งชีวิต ” ซึ่งเหมาะเจาะกับเนื้อหาและคำแนะนำที่น่าสนใจยิ่ง
ทั้งง่ายและตรงไปตรงมา, ใครจะทำก็ได้, ไม่ทำก็ได้, เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล, ไม่บังคับยัดเยียดกัน, ไม่ต่อว่าต่อขานกัน, แต่ถ้าหากมีความมุ่งมั่นจะทำอะไรให้กับชีวิตของตนเอง, ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าส่งเสริมสนับสนุนสมควรจะให้กำลังใจแก่กันและกันอย่างยิ่ง
             
               สูตรที่ว่านี้มีง่าย ๆ อย่างนี้
ข้อ 11 สูตรแรก ไม่กล้าทำครับ...

         ๑.   ดื่มน้ำให้มาก     
         ๒.   กินอาหารเช้าเหมือนราชา, รับประทานอาหารเที่ยงเหมือนเจ้าชายและเมื่อถึงอาหารเย็น, ให้วาดภาพว่าตัวเองเป็นแค่ขอทาน (แปลว่ากินมือหนักที่สุดตอนเช้า, และกลาง ๆ ตอนเที่ยงและตกเย็นแล้ว, ทำตัวเป็นยาจก, ไม่มีอะไรจะกิน...สุขภาพจะเป็นอย่างเทวดาทีเดียวเชียวแหละ)
         ๓.  กินอาหารที่โตบนต้นและบนดิน, พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ผลิตจากโรงงาน
         ๔. ใช้ชีวิตบนหลักการ 3 E...นั่นคือ energy หรือพลังงาน, enthusiasm หรือกระตือตือร้น และ empathy คือเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มาก ๆ
         ๕.  หาเวลาทำสมาธิหรือสวดมนต์เสมอ
         ๖.   เล่นเกมสนุก ๆ เสียบ้าง, อย่าเครียดกันนักเลย
         ๗.  อ่านหนังสือให้มากขึ้น...ตั้งเป้าว่าปีนี้จะอ่านมากกว่าปีที่ผ่านมา
         ๘.  นั่งเงียบ ๆ อยู่กับตัวเองสักวันละ 10 นาทีให้ได้
         ๙.   นอนวันละ 7 ชั่วโมง
         ๑๐.เดินสักวันละ 10 ถึง 30 นาที, แล้วแต่จะสะดวก, ไม่ต้องเครียดกับมัน, วันไหนไม่ได้เดิน, ก็อย่าหงุดหงิดกับมัน
         ๑๑.ระหว่างเดิน, อย่าลืมยิ้ม

              นั่นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพกายและใจที่ผสมปนเปกันได้เสมอ, หากทำเป็นกิจวัตร, ชีวิตก็จะแจ่มใส, แต่อย่าทำให้ตัวเองเครียดด้วยการรู้สึกผิดถ้าหากวันไหนทำไม่ได้ตามที่วางกำหนดเวลาของตนเอาไว้

                                        วันนี้ทำไม่ได้ , พรุ่งนี้ทำก็ได ้

              แต่การไม่เอาจริงเอาจังกับตัวเองเกินไปไม่ได้หมายถึงการผัดวันประกันพรุ่ง, ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน

         
                สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่กับสูตรสุขภาพมีอย่างนี้

         ๑.  อย่าเปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับคนอื่น คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขามีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไรบ้าง
         ๒.   อย่าคิดทางลบเกี่ยวกับเรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้ แทนที่จะมองโลกในแง่ร้าย, ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิดทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย
         ๓.  อย่าทำอะไรเกินกว่าที่ตัวเองทำได้...รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน
         ๔.  อย่าเอาจริงเอาจังกับตัวเองนัก เพราะคนอื่นเขาไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก
         ๕.  อย่าเสียเวลาและพลังงานอันมีค่าของคุณกับเรื่องหยุมหยิมหรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง
         ๖.  จงฝันตอนตื่นมากกว่าตอนหลับ
         ๗. ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว
         ๘. ลืมเรื่องขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามีหรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่ายหนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ
         ๙.  ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร...จงอย่าเกลียดคนอื่น
         ๑๐.ประกาศสงบศึกกับอดีตให้สิ้น, จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ
         ๑๑.ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง
         ๑๒.จงเข้าใจเสียว่าชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียนรู้ และปัญหาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักสูตรซึ่งมาแล้วก็หายไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอดชีวิต
         ๑๓. จงยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
         ๑๔. คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถกแถลงกับคนอื่นหรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่างกันได้...เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร
             
               แล้ว เราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้างเราล่ะ ?

         ๑.      อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อย ๆ
         ๒.    จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน
         ๓.     จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง
         ๔.     จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และต่ำกว่า 6 ขวบ
         ๕.     พยายามทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน
         ๖.      คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่เรื่องของคุณสัก  หน่อย
         ๗.  งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณในยามคุณมีปัญหาสุขภาพ ดังนั้น, อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็นอันขาด
 
            และ ถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้ , ก็ควรจะทำดังต่อไปนี้

         ๑.   ทำสิ่งที่ควรทำ
         ๒.   อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์, ไม่สวย, ไม่น่ารื่นรมย์, จงทิ้ง ไปเสีย...เก็บไว้ทำไม?
         ๓.   เวลาและพระเจ้าย่อมรักษาแผลทุกอย่างได้
         ๔.  ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด, เดี๋ยวมันก็เปลี่ยน
         ๕.  ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน, จงลุก จากเตียง, แต่งตัวและปรากฎตัวต่อหน้าคนที่เราร่วมงาน ด้วย...get up, dress up and show up.
         ๖.   สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
         ๗.   ถ้าคุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้, อย่าลืมขอบคุณพระเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือเสียด้วย
         ๘.  เชื่อเถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุข เสมอ...ดังนั้น, ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า?
         
          และสุดท้ายที่สำคัญที่สุด

        " ส่งบทความที่ต่อไปให้คนที่คุณรักและห่วงหาอาทรด้วย... "
 

 

 
 
 
 

:oข้อ 11 สูตรแรกไม่กล้าทำครับ... ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
ตาต้อม
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,562


รับสร้างบ่อปลาแฟนซีคาร์ฟ สระว่ายน้ำราคาประหยัด


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2010, 08:30:17 »

  พรรคพวกส่งจดหมายเวียนผ่านอีเมล์มาให้...บอกว่าเป็น “ สูตรแห่งชีวิตประจำวัน ”
ที่ควรจะส่งต่อไปให้คนที่เรารัก, ห่วงใยและต้องการให้เขาหรือเธอมีความสุขทั้งกายและใจ...ทำนองเดียวกันที่ชาวชีวจิตมีความห่วงหาอาทรต่อกันอย่างไม่ลดละ
             เพื่อนเรียกสูตรนี้ว่าเป็น Lifebook หรือเป็น “ ตำราแห่งชีวิต ” ซึ่งเหมาะเจาะกับเนื้อหาและคำแนะนำที่น่าสนใจยิ่ง
ทั้งง่ายและตรงไปตรงมา, ใครจะทำก็ได้, ไม่ทำก็ได้, เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล, ไม่บังคับยัดเยียดกัน, ไม่ต่อว่าต่อขานกัน, แต่ถ้าหากมีความมุ่งมั่นจะทำอะไรให้กับชีวิตของตนเอง, ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าส่งเสริมสนับสนุนสมควรจะให้กำลังใจแก่กันและกันอย่างยิ่ง
             
               สูตรที่ว่านี้มีง่าย ๆ อย่างนี้
ข้อ 11 สูตรแรก ไม่กล้าทำครับ...

         ๑.   ดื่มน้ำให้มาก     
         ๒.   กินอาหารเช้าเหมือนราชา, รับประทานอาหารเที่ยงเหมือนเจ้าชายและเมื่อถึงอาหารเย็น, ให้วาดภาพว่าตัวเองเป็นแค่ขอทาน (แปลว่ากินมือหนักที่สุดตอนเช้า, และกลาง ๆ ตอนเที่ยงและตกเย็นแล้ว, ทำตัวเป็นยาจก, ไม่มีอะไรจะกิน...สุขภาพจะเป็นอย่างเทวดาทีเดียวเชียวแหละ)
         ๓.  กินอาหารที่โตบนต้นและบนดิน, พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ผลิตจากโรงงาน
         ๔. ใช้ชีวิตบนหลักการ 3 E...นั่นคือ energy หรือพลังงาน, enthusiasm หรือกระตือตือร้น และ empathy คือเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มาก ๆ
         ๕.  หาเวลาทำสมาธิหรือสวดมนต์เสมอ
         ๖.   เล่นเกมสนุก ๆ เสียบ้าง, อย่าเครียดกันนักเลย
         ๗.  อ่านหนังสือให้มากขึ้น...ตั้งเป้าว่าปีนี้จะอ่านมากกว่าปีที่ผ่านมา
         ๘.  นั่งเงียบ ๆ อยู่กับตัวเองสักวันละ 10 นาทีให้ได้
         ๙.   นอนวันละ 7 ชั่วโมง
         ๑๐.เดินสักวันละ 10 ถึง 30 นาที, แล้วแต่จะสะดวก, ไม่ต้องเครียดกับมัน, วันไหนไม่ได้เดิน, ก็อย่าหงุดหงิดกับมัน
         ๑๑.ระหว่างเดิน, อย่าลืมยิ้ม

              นั่นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพกายและใจที่ผสมปนเปกันได้เสมอ, หากทำเป็นกิจวัตร, ชีวิตก็จะแจ่มใส, แต่อย่าทำให้ตัวเองเครียดด้วยการรู้สึกผิดถ้าหากวันไหนทำไม่ได้ตามที่วางกำหนดเวลาของตนเอาไว้

                                        วันนี้ทำไม่ได้ , พรุ่งนี้ทำก็ได ้

              แต่การไม่เอาจริงเอาจังกับตัวเองเกินไปไม่ได้หมายถึงการผัดวันประกันพรุ่ง, ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน

         
                สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่กับสูตรสุขภาพมีอย่างนี้

         ๑.  อย่าเปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับคนอื่น คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขามีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไรบ้าง
         ๒.   อย่าคิดทางลบเกี่ยวกับเรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้ แทนที่จะมองโลกในแง่ร้าย, ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิดทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย
         ๓.  อย่าทำอะไรเกินกว่าที่ตัวเองทำได้...รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน
         ๔.  อย่าเอาจริงเอาจังกับตัวเองนัก เพราะคนอื่นเขาไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก
         ๕.  อย่าเสียเวลาและพลังงานอันมีค่าของคุณกับเรื่องหยุมหยิมหรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง
         ๖.  จงฝันตอนตื่นมากกว่าตอนหลับ
         ๗. ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว
         ๘. ลืมเรื่องขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามีหรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่ายหนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ
         ๙.  ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร...จงอย่าเกลียดคนอื่น
         ๑๐.ประกาศสงบศึกกับอดีตให้สิ้น, จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ
         ๑๑.ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง
         ๑๒.จงเข้าใจเสียว่าชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียนรู้ และปัญหาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักสูตรซึ่งมาแล้วก็หายไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอดชีวิต
         ๑๓. จงยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
         ๑๔. คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถกแถลงกับคนอื่นหรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่างกันได้...เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร
             
               แล้ว เราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้างเราล่ะ ?

         ๑.      อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อย ๆ
         ๒.    จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน
         ๓.     จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง
         ๔.     จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และต่ำกว่า 6 ขวบ
         ๕.     พยายามทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน
         ๖.      คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่เรื่องของคุณสัก  หน่อย
         ๗.  งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณในยามคุณมีปัญหาสุขภาพ ดังนั้น, อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็นอันขาด
 
            และ ถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้ , ก็ควรจะทำดังต่อไปนี้

         ๑.   ทำสิ่งที่ควรทำ
         ๒.   อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์, ไม่สวย, ไม่น่ารื่นรมย์, จงทิ้ง ไปเสีย...เก็บไว้ทำไม?
         ๓.   เวลาและพระเจ้าย่อมรักษาแผลทุกอย่างได้
         ๔.  ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด, เดี๋ยวมันก็เปลี่ยน
         ๕.  ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน, จงลุก จากเตียง, แต่งตัวและปรากฎตัวต่อหน้าคนที่เราร่วมงาน ด้วย...get up, dress up and show up.
         ๖.   สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
         ๗.   ถ้าคุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้, อย่าลืมขอบคุณพระเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือเสียด้วย
         ๘.  เชื่อเถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุข เสมอ...ดังนั้น, ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า?
         
          และสุดท้ายที่สำคัญที่สุด

        " ส่งบทความที่ต่อไปให้คนที่คุณรักและห่วงหาอาทรด้วย... "
 

 

 
 
 
 

:oข้อ 11 สูตรแรกไม่กล้าทำครับ... ยิงฟันยิ้ม
เปลี่ยนเป็นเดินไปหัวเราะไปก็ได้ครับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ;Dขอบคุณครับ
IP : บันทึกการเข้า

ณฐมน Aquarium รับสร้างบ่อปลาคาร์ฟ ตู้ปลา ระบบกรอง  080-8099866,083-7655542
  กด > https://www.facebook.com/NathamonAquarium
รับสร้างสระว่ายน้ำ ราคาประหยัด น้ำตกหินเทียม ไม้เทียม บ้านโครงสร้างเหล็ก
Nay NooM
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2010, 09:12:38 »

ขอบคุณมากเลย จะนำไปปฏิบัติ
IP : บันทึกการเข้า
zombie01
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,519


ความสุขเกิดขึ้นได้ เพียงแต่รู้จักใช้ชีวิต


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2010, 09:23:00 »

ยากตรงนอนวันละ 7 ชั่วโมงนี่ล่ะครับ  ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ขอบคุณข้อคิดดี ๆ ครับผม
IP : บันทึกการเข้า

กระป๋อง
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 287



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2010, 09:51:22 »

สูตรแรก ข้อที่ 2  ทุกวันนี้ผมทำสลับกันเลย มื้อเช้าไม่ได้กิน  แต่ไปกินตอนเย็นเยอะมาก ร้องไห้
IP : บันทึกการเข้า
yaya
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 96



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 05 กุมภาพันธ์ 2010, 16:07:04 »

ได้คิดเลยแหละ
แต่จะทำได้ป่ะเนี่ย
IP : บันทึกการเข้า
jodisratana
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 774



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 05 กุมภาพันธ์ 2010, 16:16:07 »

เข้าท่าดีเดี๋ยวปริ้นเอาไว้อ่านดีกว่า
IP : บันทึกการเข้า

ฉันมองสิ่งที่ฉันมี ไม่มองสิ่งที่ฉันขาด ^^
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!