ทำธุระกิจแบบต้องรู้นิสัยสัตว์ที่รับบริการและต้องระวัง จะดุไม่ดุ ต้องรู้วิธีการป้องกัน
เจ้าของธุระกิจต้องรับผิดชอบถ้างานบริการมีปัญหา แต่กรณีนี้พี่คิดว่า ถ้าเป็นพี่น่ะ ถือว่าเป็นความ
ไม่พร้อมของผู้ทำธุระกิจนี้น่ะ ไม่เข้าใจนิสัยสัตว์แต่ละชนิด ถ้าจะเก็บค่าใช้จ่ายจากผู้รับบริการไม่เหมาะ
สมมันเป็นความรับผิดชอบของธุระกิจน่ะ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวค่ะ
ตอนนี้ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่เงินแล้วค่ะ มันอยู่ที่จิตสำนึกค่ะ เค้าไม่ยอมไกล่เกลี่ย ปิดเบอร์หนี คำขอโทษสักคำยังไม่ได้ยิน ทั้งทีเราก็คุยกับเค้าดีๆ แต่กลับโดนตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เหมือนว่าเราไปขู่ รีดเงินเค้า โกงเค้าค่ะ ทั้งที่เราต้องการเจรจากับเค้าดีๆ ถ้าเค้ามีจิตใต้สำนึกที่ดีแต่แรกคงไม่หนีหายแบบนี้หรอกค่ะ เจ้าของน้องแมวอีกตัวที่กัดในวันเดียวกันเค้ายินดีรับผิดชอบ และคอยโทมาถามอาการแทบทุกวัน เราก็ไม่เก็บเงินเค้านะคะ ทั้งที่โดนกัดจากน้องแมวของเขาเยอะกว่า
***อุปกรณ์เรามีครบค่ะทั้งกันคนและสัตว์ มาดูที่ร้านได้เลยค่ะ ถ้าไม่พร้อมเราไม่กล้ามาเปิดเป็นร้านให้บริการแบบนี้หรอกค่ะ ไม่มีก็แต่พวกยาที่ทำให้หมาแมวซึม หรือสลบค่ะ ซึ่งเราไม่เคยจะคิดใช้ด้วยค่ะ เราเข้าใจนิสัยสัตว์ดีว่าทำงานด้านนี้ต้องเจอด้านที่ดุร้ายที่สุดของสัตว์ค่ะ ถึงได้มีป้ายเขียนในร้านและถามเจ้าของก่อนตลอด ว่าไม่รับน้องหมา-แมวที่นิสัยก้าวร้าว ดุร้าย กัด ซึ่งเจ้าของอยู่กับสัตว์เลี้ยงบ่อยกว่าก็น่าจะรูจักนิสัยของเขาได้ดีกว่า ว่าสัตว์ตื่น หรือกลัวอะไรบ้าง และวันนั้นก็ป้องกันหมดทุกอย่าง เหมือนกับทุกๆตัวค่ะ น้องแมวตัวเล็กนิดเดียวถ้าไม่ดุจริงคงเอาอยู่ค่ะ