ทาน ที่ให้มากกว่าทานคือ " อภัยทาน "
คือ การให้อภัยแก่กัน ไม่พยาบาทต่อกัน สิ่งที่ผิด แม้นผู้ถูกกล่าวหาว่าไม่ผิด
แต่ผู้ถูกกล่าวหาก็ยังให้อภัย ไม่ผูกเวร ผูกกรรมต่อกัน
นับเป็นสิ่งที่ดี เพราะผู้ให้อภัยทานนั้นนับว่าให้ทานที่ยิ่งใหญ่
เพราะให้ทานด้วย ใจที่บริสุทธิ์ ไม่ก่อกรรมก่อเวรต่อกัน
เมื่อไม่มีการก่อเวร กรรมก็ไม่บังเกิด
เกิดการเข่นฆ่าฟัน ทำลายล้างกัน ฆ่ากันตาย
นับว่าเป็นการประเสริฐยิ่งนัก
ทาน มิได้หมายความถึง ทานที่ให้ด้วยการให้ทรัพย์สินเงินทองเพียงอย่างเดียว
อย่างอื่นก็เป็นการให้ทานได้ เช่น การให้ทานด้วยกำลังแรงของตนเอง ก็เป็นทานอย่างหนึ่ง
อภัยทาน จึงเป็นทานที่ประเสริญ
เพราะยากนักที่มีผู้ปฏิบัติได้ ส่วนมากมักจะโกรธขึ้ง จองเวรต่อกัน
ทำร้าย ทำลายกัน ฆ่าฟันกัน เพราะไม่ให้ " อภัย " แก่กัน
แล้วท่านว่า การรู้จักให้อภัยแก่กัน มันดีไหม ?
เป็นการลงทุนน้อย แต่ได้ผลบุญมาก
คำกล่าวนี้หากหาผู้รับรองว่าเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้ารับรองไหม
ยากที่จะหาผู้ยืนยัน เพราะกล่าวสืบต่อๆกันมา
จากในหนังสือ จากพระสงฆ์ หรือ แม้นแต่ในที่อื่นๆก็ยังกล่าวต่อๆกันมา
ไม่มีใครรับรองว่าเป็นของพุทธองค์ จริง หรือ ไม่จริง
ผู้รับรอง อาจมีชีวิตอยู่ หรือ ไม่อยู่เเล้ว
แล้วจะยึดติดคำสอน อาจารย์ไปทำไมกันเล่า
ในเมื่อคำสอนดี ก็น้อมนำมาปฏิบัติ นำมาสอนตนเอง
มันดีไม่ใช่หรือ
กว่าจะมายึดติดคำสอน หลักนั่น หลักนี่