แท้ตาเปล่าครับหายากมากๆครับ ขึ้นลวดด้วยทองแดงพอกคลั่งมีรอยจาร
วัวตัวนี้เวลาเดินทางไปไหนไกลๆพกติดตัวไปตลอด
ท่องคาถาเช้าเย็น ให้หญ้าให้น้ำแทบจะไม่ได้ขาดเลย
ไปไหนมาไหนก็อุ่นใจครับ
**โดยตามตำนานที่แท้จริง หลวงพ่อน้อยท่านได้สร้างวัวธนูขึ้นตามตำราที่ได้ตกทอดกันมาโดยเชื่อกันว่าสมเด็จพระวันรัตน์ วัดป่าแก้ว ( เดิมชื่อวัดพระยาไทย ) หรือในปัจจุบันก็คือวัดใหญ่ชัยมงคลนั่นเอง เป็นเจ้าของต้นตำรับในการสร้างวัวธนูและไปร่ำเรียนเพิ่มเติมจากครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ จ.ลำปาง ซึ่งวิธีการสร้างวัวธนูของหลวงพ่อน้อยนั้น ท่านจะสร้างในโบสถ์ โดยมีการจัดเตรียมโรงพิธีซึ่งใช้ผ้าขาวขลิบทองขึงปิดทั่วห้องพิธี รวมทั้งเพดานฝ้าด้วย มีเครื่องเซ่นบัดพลีเป็นหัวหมู พร้อมทั้งอาหารคาวหวาน ผลไม้นานาชนิด ล้อมวงด้วยด้ายสายสิญจน์รอบโบสถ์ พอถึงฤกษ์สิทธิโชคที่หลวงพ่อได้กำหนดไว้ ก็เริ่มพิธีด้วยการจุดธูปเทียนชัย
ในสมัยนั้น ผู้ที่จะเข้าพิธีปลุกเสกวัวธนู ต้องเป็นผู้ชายล้วนที่บำเพ็ญเพียรถือศีลห้าก่อนพิธีเจ็ดวัน อีกทั้งต้องนุ่งขาวห่มขาว ทั้งนี้ซึ่งการสร้างวัวธนูนั้น จะต้องสร้างให้เสร็จภายในเวลา ๒ ชั่วโมง ๒๗ นาที และต้องสร้างในวันมาฆบูชาหรือในวันวิสาขบูชาเท่านั้นจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมไว้แต่เนิ่น ๆ
การสร้างวัวธนูนั้น สิ่งที่ต้องเตรียมการไว้ล่วงหน้าก่อนเข้าพิธีก็มี....
๑.ผูกโครงสร้างของวัวธนูด้วยเส้นลวด
๒.เตรียมแผ่นโลหะสำหรับทำตะกรุดดอกเล็ก ๆ
๓.ชันโรงจากต้นพุทรา ซึ่งมีทั้งหลวงพ่อน้อยท่านเก็บไว้และผู้ให้สร้างวัวธนูนำมาเองโดยนำไปใส่ในภาชนะตั้งไฟแล้วทำการเคี่ยวเตรียมไว้
การสร้างวัวธนูของหลวงพ่อน้อยนั้น ก่อนอื่นต้องสร้างโครงสร้างให้เป็นรูปร่างวัวธนูขึ้นมาก่อนด้วยเส้นลวดที่ทำจากเนื้อโลหะ ซึ่งโลหะที่นำมาทำเส้นลวดนั้น มักได้แก่โลหะจำพวกทองแดง เงิน นาค ทองคำ เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่แล้ว มักจะเป็นพวกทองแดงเสียมากกว่า ส่วนแผ่นโลหะที่นำมาทำเป็นตะกรุดดอกเล็กก็เช่นกัน มีทั้งโลหะเนื้อทองแดง เงิน นาคและทองคำ
พอถึงฤกษ์ที่กำหนดไว้ หลวงพ่อน้อยจะลงจารอักขระขอมในแผ่นโลหะพร้อมกับม้วนเป็นตะกรุด ท่านลงจารด้วยคาถาหัวใจพระฉิม “นะชาลิติ”บางแผ่นอาจมีลงจารคำว่า นะ ๑๒ และ โม ๒๑ เข้าไว้ด้วย ซึ่งหมายถึงพระคุณบิดามารดาผู้ให้กำเนิด เสร็จแล้วท่านจะส่งต่อให้ผู้เข้าร่วมพิธีนำไปใส่บรรจุในโครงลวดที่จะสร้างวัวธนู แล้วท่านจะให้เอาชันโรงที่เคี่ยวไว้พอกทับโครง แล้วจึงปั้นเป็นวัวธนูต่อไป วัวธนูที่ปั้นเสร็จแล้ว ท่านจะนำมาเจิมเขาด้วยน้ำมันจันทน์ทุกตัว พร้อมทั้งภาวนาพระคาถากำกับซ้ำอีกครั้ง
คาถาโองการวัวธนู สวด7จบ
“อมโคโน งัวทะนู ผู้หน้ายาว กว้างศอก ตาปอก ฮอบเขาเสมน กูผาบสาม แผ่นฟ้าก็ตก กูผาบหก แผ่นฟ้าก็อ่อนค้อมมาสู่สมพานกูทั้งค่าย บ่อทำฮ้ายแก่กูสู ชาวเมืองบนแลลุ่มฟ้า ถ้วนหน้าให้มาถวาย ตัวกูมาก บ่อให้ยาก หมู่ทาสาทาสี ให้กูมีไซทุกค่ำซ้าว ให้กูได้เป็นเจ้า ไผจักเจ้าให้มาโลมเลี้ยงกู ให้อ่อนอ่อนฮ้อยท่อนท้าวมาถวายกูยียาบ
กูจักผาบแพ้สับพะหมู่ศัตรู งัวทะนูเป็นวัสสุโพลาด อาจพาบแพ้เท่าซึงซม ภูอมกูจะให้นก นกก็ฮ้อง อมกูจะให้ฆ้องฆ้องก็ดัง อมกูจะให้คน คนก็ฮ้องซักไซ่คิดถึงกู ซาวซมภูฮักฮูบกูสู่คน ฮูป ปู่กูให้แทนเมืองสมพานเซืองคงขอบพัยฟ้า หมู่มนตรี ให้เขาอ่อนหากู ดังซ้างอ่อนขอ ให้อ่อนหากู ปานปอแสนน้ำอม โฟเฟ้าอมโพเจ้าเข่าสู่โพโซ อมเมตตัยยะ
มาเป็นครูกู กูจักปุกงัวทะนูให้ลุก รักษาลือซา อมสวาหะ ฯ”
**คาถาบูชาวัวธนู สวด4จบ
“อมอุดเทตะยัง สะนะทิ อมงัวทะนู ลูกแม่เฒ่า รักษาเจ้าจงดี ผีสางสะเด็ดหนี ขวักคว้าน อมโคโน มะหาโคโน อมโคโส มะหาโคโส สันทะ สันทิ จันติ อมมะหา หิริโอตัปปะมัมปันโน สัปปุริสาโลเก เทวะธัมมาติอุจจะเร เวทาสากุ กุสาทาเว ทายัสสะ ตะทะสา ทิกุกุ ทิสาสา กุตะกุ ภูตะพุ โคสวาหะ โสตถิเต โหนตุ ชัยยะ มังคะลานิ ฯ”
วัวธนูหลวงพ่อน้อย พุทธคุณครอบจักรวาล สุดยอดเมตตามหานิยม เกื้อหนุนให้ค้าขายดี ปกป้องคุ้มครองผู้ครอบครองและคนในบ้าน กันคุณไสยทำน้ำมนต์ก็เยี่ยมยอด ใช้น้ำที่อาบวัวธนูนั้นมาราดรดตัว อานุภาพจะช่วยให้หายเจ็บป่วยและโชคดีมีชัยตลอดปี
http://www.youtube.com/watch?v=QFpfegQ5my8