สุมาเต๊อะ อย่าด่าผม ผมขอพูดในฐานะคนพุทธคนหนึ่ง
อยากพูดว่า "นั่นเป็นเพียงแค่ประติมากรรม ไม่ใช่พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าละทางโลกไปนานแล้ว ไม่ยุ่งกับโลกแล้ว นิพพานไปแล้ว ได้โปรดอย่าเอาท่านมาทำให้ผู้คนบาดเจ็บเดือดร้อนเลย"
มาแนว ...เกษม วัดสามแยกเลย (ห้ามสร้าง ห้ามไหว้ ให้ทุบทำลาย)
ว่าไปความคิดนี้ก็ถูก ถ้ามีการประชุมคณะสงฆ์ระดับจังหวัดขอท่านไปให้ข้อเสนอนี้หน่อยนะ
คนเราก็อยากจะมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ จะให้คนอื่นเป็นเหมือนดังความคิดเรามันไม่ได้ เพราะมันคนล่ะคนกัน ต่างคนก็ต่างความคิด (แม้ตัวเองยังคิดไม่เหมือนเดิม วันนี้คิดอีกแบบ พรุ่งนี้คิดอีกแบบ) ถ้าคนสมัยก่อนไม่ยึดติดรูปถ่าย รูปปั้น แล้วคนสมัยนี้ก็คงไม่มีอะไรให้เห็น ได้ศึกษา
(ผ่านมา 2 พัน กว่าปีอาศัยพูดปากเปล่าคิดว่าพุทธศาสนาจะอยู่มาถึงทุกวันนี้หรอ ถ้าไม่ใช้วัตถุสิ่งของประกอบเรื่องราว)
เรื่องบาดเจ็บเดียดร้อน มันก็เกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา (จะว่าเป็นเรื่องประมาทก็ใช่) จะโทษที่เขาสร้างพระก็ไม่ถูกเพราะแต่ล่ะคนที่ไปล้วนแต่มีความศรัทธาที่จะไป คงไม่มีใครโดนบังคับไปหรือเอาเงินจ้างไปเหมือนเลือกตั้งมั่ง ถึงไม่ได้สร้างพระมาแห่เขาก็ต้องเจ็บตัวด้วยเรื่องอื่น เพราะเคราะห์เขาที่มาถึงแล้ว
สมมุติว่าพ่อ แม่ พี่ น้องตายล่ะ (ไม่ต้องสมมุติทุกคนในโลกก็ต้องได้ตาย) จะเก็บรูปท่านไว้ไหม หรือคิดว่าท่านตายไปแล้วก็เอารูปท่านเผาทิ้งไปเสียอย่ายึดติดกับชีวิตเรา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
คำว่า เจดีย์ หมายถึง ควรบูชา ควรสักการะด้วยจิตที่อ่อนโยนนอบน้อม ในคัมภีร์
ทางพระพุทธศาสนา แสดงเจดีย์ไว้ ๓ อย่าง คือ ปริโภคเจดีย์(สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธ
เจ้าทรงใช้สอย มี บาตร จีวร เป็นต้น รวมถึงต้นโพธิ์ ซึ่งเป็นต้นไม้เป็นที่พระองค์
ทรงตรัสรู้ ด้วย) อุทเทสิกเจดีย์ หรือ อุทิสสิกเจดีย์ (พระพุทธรูป ที่ผู้มีศรัทธาสร้างขึ้น
เพื่อคารพสักการะบูชาน้อมระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) และ ธาตุกเจดีย์ (พระสถูป
ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า)
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ เล่ม ๑ ภาค ๑- หน้าที่ ๓๑๓
ในคาถานั้น ชื่อว่า เจติยะ เพราะควรก่อ ท่านอธิบายว่า ควรบูชา ชื่อว่า เจติยะ เพราะวิจิตรแล้ว. เจดีย์นั้นมี ๓ อย่าง คือ บริโภคเจดีย์ อุทิสสกเจดีย์ ธาตุก-เจดีย์.
บรรดาเจดีย์ทั้ง ๓ นั้น โพธิพฤกษ์ ชื่อว่า บริโภคเจดีย์ พระพุทธปฎิมา ชื่อว่า
อุทิสสกเจดีย์ พระสถูปที่มีห้องบรรลุพระธาตุ ชื่อว่า ธาตุกเจดีย์.์
-------------------------------------------
เห็นไหมครับว่า ถ้าเราเข้าใจพระพุทธพจน์ แม้แต่คำแต่ละคำให้ถูกต้อง ที่เป็นการ
ศึกษาธรรมทีละคำ แม้แต่คำว่า เจดีย์ เราก็จะไม่เข้าใจผิด เพราะไปสำคัญคำว่าเจดีย์
คือ วัตถุอย่างใดอย่างหนึ่งที่จะต้องมีการสร้างขึ้น ที่แท้ เจดีย์ คือ ควรแก่การบูชา เพื่อ
เป็นปัจจัยให้เกิดกุศลจิต เกิดศรัทธา ในขณะที่เคารพ บูชาสิ่งนั้น ครับ หากเราย้อนมาที่
จิตใจ ที่นามธรรมที่เป็นกุศล ศรัทธา สิ่งใดก็ตามที่เขาสร้างเพื่อน้อมระลึกถึงพระคุณของ
พระพุทธเจ้า แล้วกุศลจิต เกิดศรัทธาในขณะนั้น กุศลผิดหรือไม่ที่เกิด ศรัทธาผิดหรือไม่
ที่เกิด อันอาศัย วัตถุที่เนืองกับตถาคต คือ ที่เขาสร้างเพื่อน้อมระลึกถึงพระองค์ สมควร
หรือไมที่จะกราบไหว้ แล้วเกิดกุศลจิต ครับ เพราะฉะนั้น ข้อความที่ยกมา เป็นการแสดง
ถึงการปลูกต้นโพธิ์พระอานนท์ในสมัยนั้น และ ธาตุเจดีย์ก็ยังไม่มี สิ่งที่ยังไม่มี ไม่ได้
หมายความว่า จะไม่เคารพบูชา พระบรมสารีริกธาตุ โดยนัยเดียวกันอุเทสสกเจดีย์ ก็ยัง
ไม่มี เพราะ พระองค์ยังไม่ปรินิพพาน ก็ไม่สร้างพระพุทธรูป ครับ แต่สิ่งที่ไม่มีในสมัยนั้น
ก็ไมได้หมายความว่า ไม่ควรเคารพบูชา ดังเช่น พระบราสารีริกธาตุ ที่เป็นธาตุเจดีย์ที่
ไม่มีในสมัยนั้นเช่นกัน ครับ ดังนั้น การอ่านพระสูตร ในการยกข้อความใด ข้อความหนึ่ง
จะต้องอ่านรวมทั้งหมดว่า ข้อความนั้น แสดงถึงเรื่องะไร พระพุทธองค์มีจุดประสงค์
แสดงเรื่องนั้นว่าอย่างไร เป็นสำคัญ ครับ และ อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญ คือ เมื่อมีคำต่อ
ท้ายว่าเจดีย์ ทั้ง ธาตุเจดีย์ บริโภคเจดีย์ และ อุเทสสกเจดีย์ ก็เป็นอันว่า ควรเคารพ
บูชาทั้งสิ้น เพราะ ได้อธิบายไปแล้วในคำว่าเจดีย์ที่ถูกต้องเป็นอย่างไร ครับ
*********************
เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องของการจัดการระบบจราจร ครับ หากจัดการดีก็คงไม่มีปัญหาดังกล่าว
มิใช่เป็นเพราะ การแห่พระพุทธรูปแต่อย่างใด การที่กล่าวว่า
ได้โปรดอย่าเอาท่านมาทำให้ผู้คนบาดเจ็บเดือดร้อนเลย ถือว่าเป็นการกล่าวล่วงพระพุทธเจ้าได้ครับ จริงอยู่เข้าใจในเจตนาที่จะสื่อสาร แต่บางที ก็พิจารณาให้ถ่องให้ลึกก่อน ครับ