จากประสบการณ์ที่ได้ลองสัมผัสมาด้วยตัวเอง ล้วนแล้วแต่มีความแตกต่างกัน ต่อให้กีต้าร์ผลิตมาจากแหล่งกำเนิดเดียวกัน เสียงยังไม่เหมือนกันเลยครับ จากนี้ไป ผมขออนุญาติใช้ตัวย่อเพื่อความสะดวกในการพิมพ์ Fender Mexico คือผมจะย่อเป็นคำว่า Fm ละกันนะ
1. ไม้ที่ใช้ผลิตบอดี้ของ Fm เท่าที่ทราบมา มี 3 ชนิดเช่นกัน คือ Ash, Alder, Poplar
1.1 Ash body - มีอยู่ในรุ่นสูงๆ ของ Mexico คุณสมบัติของเสียงน้ำเสียงที่ได้ให้มวลเสียงพุ่งและชัดกว่าอัลเดอร์นิดหน่อย แฟนๆ เฟนเดอร์หลายคน เบื่อเสียงไม้ Alder หลงไปชอบ Ash หลายคน สุดท้ายกลับมาตายรังที่อัลเดอร์เหมือนเดิม เสียงที่ได้จากไม้ชนิดนี้ โซโล่ดี เล่นคอร์ด อาจจะดูโฉ่งฉ่างไปนิด ไม่นุ่มนวล เนื้อเสียงย่านกลางดีกว่าอัลเดอร์นิดหน่อย แต่มวลเสียงย่านกลางต่ำและเสียงต่ำสู้ไม้อัลเดอร์ไม่ได้
1.2 Alder body - มีอยู่ในรุ่นของศิลปิน จำไม่ได้เหมือนกันว่าเป็นของศิลปินคนใด Robert Crey หรือป่าวหว่า? 55555 ลองหาข้อมูลกันดูเอาเองน๊ะคับ ส่วนเรื่องเสียง ไม้ชนิดนี้ ถือว่าเป็นที่นิยมที่สุด ไม่ว่าจะเฟนเดอร์หรือว่ากีต้าร์แบรนด์อื่น ถ้าใช้ไม้ชนิดนี้ เสียงที่ได้ น้ำเสียงที่ได้จากบอดี้ Alder นี้ ออกแนวสุภาพก็ได้ โหดก็ได้แต่คงไม่หนักมาก(อันนี้แล้วแต่คาแล๊คเตอร์ของปิ๊คอัพที่เลือกใช้ และสำเนียงในการเล่นกีต้าร์) ให้ปลายเสียงแหลมที่กังวาล พอจะมีเสียงกลางที่ให้ความรู้สึกว่าเสียงไม่จม และให้เสียงเบสที่นุ่มลึกไม่แข็งกระด้าง สไตล์ของเสียง เล่นหวานๆ ได้พริ้วมากกว่า เล่นคอร์ดได้ไพเราะกว่า อาจเพราะไม้ Alder ไม่เน้นความถี่เสียงย่านใดมากจนเกินไป
1.3 Poplar body - เพื่อลดต้นทุนการผลิตของผู้ผลิต ทางเฟนเดอร์จึงหันมาใช้บอดี้ที่ทำมาจากไม้ป๊อปล่าร์ ซึ่งมีราคาถูกกว่า แต่ก็ยังคงให้น้ำเสียงที่ใกล้เคียงอัลเดอร์ ต่างกันก็แค่ตรงความนุ่มนวลของเนื้อเสียงที่ได้ และมวลเสียงในย่านเสียงเบสที่ดูจะน้อยจนทำให้บางคนรู้สึกว่าเสียงบางไปหน่อย จนทำให้เกือบนึกไปอีกว่า นี่มันไม้ Basswood รึป่าวเนี่ย 5555 คิดไปเองทั้งนั้น
มาต่อกันที่ปิ๊คอัพ Fm
1. Texmex
จำไม่ได้ว่าหมุดมันสูงต่ำอย่างไร แต่ด้าล่างปิ๊คอัพ เป็นแม่เหล็กประกบคู่ ตรงกลางเป็นหมุดรับเสียงเรียงกัน 6 ตัว น้ำเสียงของรุ่นนี้ จะว่าเสียงกลม ก็แค่รีๆ ปลายเสียงไม่สดใส ดูหม่นๆ ไม่เน้นย่านเสียงใดเป็นพิเศษติดมากับกีต้าร์ Fender Texmex และ กีต้าร์ศิลปิน Jimmy Vaguan พิมพ์ถูกป่าว ไม่รู้นะ
2. Standard
จำไม่ได้ว่าหมุดมันสูงต่ำเรียงจาก 4 กับ 3 สูงเท่ากัน รองลงมาเป็น 5 กับ 2 เท่ากัน และ 6 กับ 1 เท่ากัน(หรือป่าว ไม่แน่ใจ) ลักษณะภายนอก ด้านล่างปิ๊คอัพเป็นแม่เหล็กแท่งเดียว
เสียง Flat ออกสไตล์ American Standard แต่ เสียงกรอบกว่า เนื้อเสียงบางกว่า และปลายเสียงใสน้อยกว่า แห้งกว่า รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกลไกลทางการตลาดหล่ะคับติดมากับ Fender
รุ่นธรรมด๊า ธรรมดา
3. Stratocaster 70'
หมุดรับเสียงหน้าตาเหมือน Customshop Texas Special เป๊ะ ต่างกันที่เปลือกของสายไฟเป็นพลาสติคธรรมดา สีอะไรจำไม่ได้ น้ำเสียงรุ่นนี้ ดีคับ ถือว่าเป็นรุ่นที่เชิดหน้าชูตา ตระกูล Mexico เลยทีเดียว
แต่ด้วยความที่บอดี้ของรุ่นนี้เป็นไม้ Ash น้ำเสียงที่ได้จึงขาดมวลเบสต่ำๆ ไปนิดนึง แต่เสียงก็พุ่งดี เล่นได้หลายแนวเหมือนกัน
4. Stratocaster 60'
หมุดรับเสียงเหมือน Customshop Texas Special อีกแล้ว แต่ทว่า น้ำเสียงที่ได้ออกจะดูวินเทจกว่าหน่อย บอดี้ของรุ่นนี้เป็น Alder แต่เชฟคอเป็นตัว V เสียงก็ดีคับ เป็นอีกรุ่นที่น่าลอง
5. Stratocaster 50'
อีกแล้ว หมุดรับเสียงเหมือน Customshop Texas Special อีกแล้ว แต่คราวนี้น้ำเสียงดูโบราณกว่าอีก Flat มาก เมื่อเทียบกับซาวน์กีต้าร์ในปัจจุบัน บอดี้เป็นไม้ Alder เช่นกัน
6. Deluxe Super Strat
หมุดรับเสียงสูงต่ำไม่เท่ากัน(ความสูงต่ำของหมุดรับเสียงในรุ่นนี้ แตกต่างจากปิ๊คอัพทุกชนิดของ Fender อย่างสิ้นเชิง) ด้านล่างปิ๊คอัพ เป็นแม่เหล็กประกบคู่กัน มีหมุดรับเสียงอยู่ตรงกลาง เรียงกัน 6 หมุด รุ่นนี้ เสียงดีเหมือนกันคับ ใส เคลียร์ เหมาะที่จะไว้เล่นแนวแจ๊ซ หรือเพลงเบาๆ ปิ๊คอัพรุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้มีการรวมเสียงของปิ๊คอัพ(เพิ่มเสียงจาก 5 เสียง เป็น 7 เสียง) โดยจะมีปุ่มกดที่ปิ๊คการ์ดบริเวณโทนทั้ง 2 ตัว ปิ๊คอัพเซ็ทนี้มากับกีต้าร์ Deluxe Super Strat ในล๊อตแรกๆ ปัจจุบันเปลี่ยนไปใช้เป็นปิ๊คอัพ Noiseless แล้ว
ปล. ข้อมูลข้างต้นเป็นความรู้ที่ผมพยายามเรียบเรียงขึ้นมาจากความทรงจำบ้าง ในเน็ตบ้างหาความรู้เอา จดๆๆจำๆๆ หากมีส่วนใดที่ขาดตกบกพร่อง หรือข้อมูลผิดพลาด ต้องขออภัยมา ณ. ที่นี้ด้วยคับ