นอกจากจังหวัดเชียงใหม่จะเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน การแพทย์ การศึกษา การท่องเที่ยว และศูนย์ช็อปปิ้งทันสมัยของภาคเหนือแล้ว
วันนี้ เมืองเหนือสุดแดนสยาม จังหวัด "เชียงราย" ก็กำลังก้าวตามมาติด ๆ ด้วยศักยภาพของการเป็นหัวเมืองชายแดนที่เชื่อมต่อกันได้อย่างกว้างไกลในอนุ ภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ (ไทย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีนตอนใต้)
แม้ว่าขนาดเศรษฐกิจและรายได้ของเชียงรายจะเติบโตไม่ หวือหวาเท่าเมืองเชียงใหม่ แต่เวลานี้เชียงรายกำลังเป็นเมืองดาวรุ่งที่มีโอกาสทางธุรกิจไม่น้อยเช่นกัน
จุดแข็งของเมืองเชียงราย นอกจากเป็นประตูสู่ประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มจีเอ็มเอสแล้ว โครงสร้างเศรษฐกิจของเชียงรายยังมีความได้เปรียบเหนือกว่าจังหวัดอื่น ๆ
โดย เป็นทั้งเมืองการค้าชายแดน ซึ่งมีด่านชายแดน 3 จุด คือด่านแม่สาย ด่านเชียงแสน และด่านเชียงของเป็นเมืองท่องเที่ยว เมืองเกษตรกรรม โดยเป็นแหล่งเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ ทั้งชา กาแฟ ข้าว ข้าวโพด สับปะรดภูแล ดอกไม้/พืชผักเมืองหนาว
ล่าสุดคือยางพาราที่จะเริ่มเปิดกรีดในปี 2557 นี้ ประมาณ 9 หมื่นถึง 1 แสนไร่คาดว่าจะมีผลผลิตออกมาไม่น้อยกว่า 2 หมื่นตัน โดยมีกลุ่มทุนแลนด์ลอร์ดของเมืองไทย ทั้งค่ายเบียร์สิงห์ เบียร์ช้าง กลุ่มนายทุนจากภาคใต้สยายปีกมายึดหัวหาดปลูกยางพาราหลายหมื่นไร่
เหตุที่ต้องปลูกยางที่นี่ เพราะสามารถแปรรูปและส่งออกยางพาราป้อนตลาดจีนตอนใต้ได้เลย โดยการส่งออกได้ที่ท่าเรือเชียงแสน หรือขนส่งทางบกใช้เส้นทางถนนอาร์สามเอผ่านด่านเชียงของ หรือสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ที่เพิ่งเปิดบริการไปเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.56
นักธุรกิจด้านโลจิสติกส์ต่างมั่นใจว่าสะพานข้ามแม่น้ำโขง แห่งที่ 4 นี้มีความสำคัญมาก และจะทำให้เศรษฐกิจเมืองเชียงของและจังหวัดเชียงรายพลิกโฉมในเร็ว ๆ นี้แน่นอน โดยจะมีการค้าการลงทุนใหม่ ๆ เกิดขึ้น รองรับการเปิดเออีซีและเชื่อมตรงกับตลาดจีนตอนใต้
อ่านต่อ..คลิกที่นี่ค่ะhttp://www.teedin-chiangrai.com/p/blog-page_1036.html