เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 27 เมษายน 2024, 03:23:29
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  นักลงทุน การเงิน การธนาคาร
| | |-+  เคล็ดลงทุนกองทุนทองคำอย่างเฉียบแหลม
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน เคล็ดลงทุนกองทุนทองคำอย่างเฉียบแหลม  (อ่าน 480 ครั้ง)
ksksii834
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4


« เมื่อ: วันที่ 15 พฤศจิกายน 2013, 11:21:11 »

             เคล็ดลับลงทุนกองทุนทองคำอย่างชาญฉลาด การลงทุนทองคำนับเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนอยู่ในระดับสูง เนื่องจากทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และผู้ลงทุนสามารถถือทองคำเพื่อลดความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อได้ ยกเว้นนี้ ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ มีการซื้อทองคำเก็บเป็นทุนสำรองอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทองคำยังถือเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาว ทั้งนี้ รูปแบบการลงทุนทองคำที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องคือ กองทุนทองคำ ปัจจุบันกองทุนทองคำในประเทศไทยมีมากกว่า 20 กองทุน ทำให้นักลงทุนอาจสับสนว่าจะลงทุนในกองทุนทองคำแบบไหนดี บทความนี้จึงขอสรุปข้อควรใคร่ครวญในการลงทุนกองทุนทองคำ เพื่อเป็นตัวช่วยในการเลือกลงทุนค่ะ  ลักษณะของกองทุน              รูปร่างของกองทุนทองคำในประเทศไทยมี 3 รูปแบบ คือ (1) กองทุนทองคำ (2) กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพซึ่งลงทุนในทองคำ (RMF) และ (3) กองทุน ETF ทองคำ การเลือกว่า จะลงทุนในกองทุนรูปแบบใดนั้น ขึ้นอยู่กับเป้าประสงค์การลงทุน หากต้องการถือครองทองคำ เพื่อเพิ่มมูลค่าเงินลงทุนไว้ใช้ยามเกษียณ และต้องการลดหย่อนภาษี แนะนำให้ลงทุนในกองทุนทองคำซึ่งมีลักษณะเป็นกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) แต่หากต้องการซื้อลงทุนโดยไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาในการขายกองทุน หรืออยากได้รับเงินปันผลจากการลงทุน กองทุนทองคำจะเป็นรูปแบบที่สม ส่วนผู้ที่ต้องการซื้อขายเก็งกำไรกองทุนทองคำรอบสั้นๆ แนะนำให้ลงทุนในกองทุน ETF ทองคำค่ะ              สำหรับกองทุนทองคำในแบบแรกจะสามารถแบ่งรูปแบบการลงทุนได้ 2 รูปแบบคือ แบบมีนโยบายจ่ายเงินปันผล และแบบไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล โดยแบบมีนโยบายจ่ายเงินปันผลมีข้อดีคือ ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนระหว่างการลงทุน แต่เงินปันผลที่ได้รับจะต้องเสียภาษี โดยสามารถเลือกได้ว่า จะหัก ณ ที่จ่าย 10% หรือนำมารวมคำนวณเป็นเงินได้ในการคำนวณภาษีประจำปี ส่วนกองทุนทองคำแบบไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลมีข้อดีคือ ผู้ลงทุนสามารถนำกำไรที่ได้รับจากการลงทุนมาลงทุนต่อเนื่องได้ ทำให้ผลตอบแทนที่ได้รับมีโอกาสทบต้น และผลตอบแทนที่ได้รับไม่ต้องเสียภาษี ทั้งนี้ กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพซึ่งลงทุนในทองคำ (RMF) และกองทุน ETF ทองคำ ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลค่ะ   หลักการลงทุน           กองทุนทองคำในประเทศไทยส่วนใหญ่มีนโยบายการลงทุนในกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยกองทุนนี้มีนโยบายซื้อทองคำแท่งเก็บไว้ในห้องนิรภัยที่ประเทศอังกฤษ ดังนั้น ราคาของกองทุน SPDR Gold Trust จึงเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับราคาทองคำ นอกจากนี้ กองทุนมีการลงทะเบียนซื้อขายใน 4 ตลาด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งมีการซื้อขายในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ จึงทำให้ผลตอบสนองของกองทุน SPDR Gold Trust ที่จดทะเบียนในแต่ละตลาดมีโอกาสแตกต่างกันได้ ดังนั้น หากลงทุนในกองทุนทองคำซึ่งมีกองทุนหลักเป็นกองทุน SPDR Gold Trust นักลงทุนควรพิจารณาตลาดที่กองทุนจดทะเบียนซื้อขาย หากจดทะเบียนที่ตลาดฮ่องกงหรือสิงคโปร์ ราคาทองคำอ้างอิงจะเป็นราคาใกล้เคียงกับช่วงเย็นของประเทศไทย แต่หากจดทะเบียนที่สหรัฐฯ ราคาทองคำอ้างอิงจะเป็นราคาช่วงเช้ามืดของประเทศไทย              นอกเหนือจากการลงทุนในกองทุน SPDR Gold Trust แล้ว กองทุนทองคำของไทยโดยเฉพาะกองทุน ETF ทองคำ มีการลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง ซึ่งราคาของหน่วยลงทุน (NAV) จะเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับราคาทองคำ โดยอาจเป็นการลงทุนในทองคำแท่งที่ประเทศไทยหรือทองคำแท่งในต่างประเทศ ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงควรติดตามราคาของทองคำแท่งที่กองทุนอ้างอิงอย่างใกล้ชิดค่ะ   หลักการการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน            กองทุนทองคำในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นกองทุนต่างประเทศ โดยมีการลงทุนในเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินจะมีผลต่อราคาของกองทุนทองคำได้ หากขณะที่ส่งคำสั่งขายกองทุน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นกว่าช่วงที่ซื้อ ผู้ลงทุนในกองทุนทองคำจะได้ประโยชน์ ในทางกลับกัน หากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง จะส่งผลลบต่อผู้ลงทุนในกองทุนทองคำได้ สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงดังกล่าว การลงทุนในกองทุนที่มีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Fully Hedge) จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่หากมองว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีโอกาสแข็งค่าขึ้นในอนาคต นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้อาจเลือกลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายไม่ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Unhedge) หรือลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน (Partially Hedge) นอกจากนี้ กองทุนทองคำบางกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามสภาวะตลาด ซึ่งการตัดสินใจว่าจะใช้นโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนจะเป็นไปตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน   เงินภาษีในการซื้อขาย             ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายกองทุนเป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนหลายคนอาจละเลย แต่ความจริงแล้ว ภาษีอากรในส่วนนี้มีผลกับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ผู้ลงทุนจะได้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ลงทุนที่มีการซื้อขายกองทุนบ่อยๆ ดังนั้น ในการเลือกลงทุนกองทุนทองคำ ควรพิจารณาค่าธรรมเนียมควบคู่กับปัจจัยอื่นๆ ที่ได้กล่าวถึงข้างต้นด้วยค่ะ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!