boonpasrem
ชั้นประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 204
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 02 กันยายน 2013, 15:32:38 » |
|
ณ ตอนนี้ผมว่าเครื่องมือที่จับกับตลาดบ้านเราก็คงไม่พ้น RSI ที่ผมนำมาช่วยในการหาจังหวะเข้าซื้อ - ขาย เครื่องมือนี้อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมก็รู้ว่ามันอยู่ในช่วงขายมากไป Oversold area แล้วนะ พร้อมซื้อได้... ปล.แต่ก็ต้องทยอยไม่ปล่อยหมด..^^ ขอบคุณครับ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Cupid
ระดับ :ป.โท
ออฟไลน์
กระทู้: 3,941
Experience is the best teacher.
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: วันที่ 28 ธันวาคม 2013, 16:45:39 » |
|
คงต้องเรียนรู้อีกมากเลยเรา ดูกราฟยังไม่รู้เลย เฮ้ยย!!!!! ขอท่านผู้รู้ทุกท่านช่วยชี้แนะด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ปล.อยากเป็นนักลงทุน แต่ยังด้อยประสบการณ์ อยากจะขอความรู้จากผู้รู้ทุกท่าน
ขออนุญาตชี้แนะเล็กๆครับ การลงทุนในหุ้น กราฟแสดงภาวะหรือแนวโน้มดัชนีเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการใช้ประกอบการตัดสินใจ ซื้อหรือขายในห้วงเวลาต่างๆ ไม่ใช่การตัดสินใจเลือกลงทุนในหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง ถ้าคิดจะเป็นนักลงทุน (ไม่ใช่นักเก็งกำไร) ควรพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานเป็นหลักในการเลือกหุ้น เช่น ธุรกิจของบริษัทฯ ความน่าเชื่อถือของผู้บริหารกิจการ ผลประกอบการในอดีต การจัดสรรกำไร เพื่อการต่างๆ สิทธิประโยชน์ผู้ถือหุ้นเป็นอย่างไร ส่วนราคาหุ้นที่ (คิดว่า) เหมาะสมก็ควรดูจากผลกำไรและการจ่ายปันผลสม่ำเสมอหรือไม่ จากอดีต ปัจจุบัน ความคาดหมายในอนาคต ประกอบกับราคาหุ้นในอดีต ปัจจุบัน และความคาดหมายในอนาคต ด้วย รวมทั้งกราฟเทคนิคประกอบบ้าง ค่อยเป็นค่อยไป ถ้ายืนอยู่ในตลาดหุ้นได้สัก 5 ปี ประสบการณ์จะหล่อหลอมให้แข็งแกร่งและประสบ ความสำเร็จครับ ปล.ผมเองก็ดูกราฟเทคนิคไม่เป็นครับ
|
|
|
|
T0yly6969
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 1,208
Bigman Retrotoy
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: วันที่ 30 ธันวาคม 2013, 10:07:44 » |
|
คงต้องเรียนรู้อีกมากเลยเรา ดูกราฟยังไม่รู้เลย เฮ้ยย!!!!! ขอท่านผู้รู้ทุกท่านช่วยชี้แนะด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ปล.อยากเป็นนักลงทุน แต่ยังด้อยประสบการณ์ อยากจะขอความรู้จากผู้รู้ทุกท่าน
ขออนุญาตชี้แนะเล็กๆครับ การลงทุนในหุ้น กราฟแสดงภาวะหรือแนวโน้มดัชนีเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการใช้ประกอบการตัดสินใจ ซื้อหรือขายในห้วงเวลาต่างๆ ไม่ใช่การตัดสินใจเลือกลงทุนในหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง ถ้าคิดจะเป็นนักลงทุน (ไม่ใช่นักเก็งกำไร) ควรพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานเป็นหลักในการเลือกหุ้น เช่น ธุรกิจของบริษัทฯ ความน่าเชื่อถือของผู้บริหารกิจการ ผลประกอบการในอดีต การจัดสรรกำไร เพื่อการต่างๆ สิทธิประโยชน์ผู้ถือหุ้นเป็นอย่างไร ส่วนราคาหุ้นที่ (คิดว่า) เหมาะสมก็ควรดูจากผลกำไรและการจ่ายปันผลสม่ำเสมอหรือไม่ จากอดีต ปัจจุบัน ความคาดหมายในอนาคต ประกอบกับราคาหุ้นในอดีต ปัจจุบัน และความคาดหมายในอนาคต ด้วย รวมทั้งกราฟเทคนิคประกอบบ้าง ค่อยเป็นค่อยไป ถ้ายืนอยู่ในตลาดหุ้นได้สัก 5 ปี ประสบการณ์จะหล่อหลอมให้แข็งแกร่งและประสบ ความสำเร็จครับ ปล.ผมเองก็ดูกราฟเทคนิคไม่เป็นครับ ขอบคุณมากครับ แต่ที่สำคัญ การลงทุนในหุ้น ในกองทุนรวม นี้มันต่างกันอย่างไร ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกเลย ว่าจะต้องศึกษาอะไรยังไงก่อนหลังอันไหนสำคัญ แบบว่าอยากจะรู้แบบๆละเอียดเลยอะครับ จะมีผู้รู้ท่านใดจะกรุณาช่วยอธิบายให้หน่อยนะครับ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง ขอบคุณครับ ปล.อย่าเพิ่งรำคาญกันนะครับเพราะคงจะต้องถามอีกเยอะอ่ะครับ แฮะๆ
|
|
|
|
Cupid
ระดับ :ป.โท
ออฟไลน์
กระทู้: 3,941
Experience is the best teacher.
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: วันที่ 30 ธันวาคม 2013, 12:08:36 » |
|
ย่อๆครับ การลงทุนในหุ้นคือการเข้าซื้อ-ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ด้วยตนเอง บริหารพอร์ตลงทุนบริหารความ เสี่ยงด้วยตนเอง ส่วนการลงทุนในกองทุนรวมคือการเข้าซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างๆ โดยกอง ทุนรวมเหล่านั้นจะเอาเงินที่บุคคลไปซื้อหน่วยลงทุนนั้นเข้าลงทุนซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ตั๋วสัญญา ใช้เงิน หุ้นกู้ พันธบัตร และ/หรือ ตราสารการเงินอื่นๆทั้่งในและต่างประเทศ (แล้วแต่วัตถุประสงค์ของ แต่ละกองทุนฯ) บริหารพอร์ตลงทุนโดยผู้จัดการกองทุน ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่มีสิทธิกำหนดว่าจะซื้อจะ ขายหุ้น พันธบัตร หรือตราสารการเงินต่างๆดังกล่าวเมื่อใด ในราคาเท่าใด ต่างจากการซื้อหุ้น หรือตรา สารทางการเงินเหล่านั้นด้วยตนเอง รายละเอียดให้เปิดดูในกูเกิ้ลครับ
|
|
|
|
|
|
Temujin
ระดับ :ป.โท
ออฟไลน์
กระทู้: 2,998
** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: วันที่ 02 มกราคม 2014, 13:01:08 » |
|
เรื่องกองทุนรวมก็อย่างที่ลุงคิวฯ ได้กล่าวไปเบื่องต้น แต่ที่กล่าวผมพอเข้าใจได้ว่าเป็นกองทุนรวม ETF แต่พอพูดถึงกองทุนรวมมันก็มีหลากหลาย เช่น ถ้าต้องการลดหย่อนภาษีก็มีทั้งกองทุนรวม RMF หรือ LTF หรือจะเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งก็มีทั้งที่เป็นแบบ ซื้อกรรมสิทธิ์ (Freehold) และลงทุนในสิทธิ การเช่าในที่ดินและอาคารโรงงานของบริษัท (Leasehold) ซึ่งก็ต่างกันแล้วใน 2 แบบนี้ และที่เข้ามาใหม่ ๆ ในตลาด ก็จะมีกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง (btsgif) เป็นกองแรกของไทย และสดๆ ร้อนๆ ก็ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม (truegif) และสุดท้ายอาจจะมีเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ตามแต่ละจุดประสงค์การลงทุนแต่ละกองทุน ซึ่งผู้ลงทุนควรศึกษาให้เหมาะกับตัวของผู้ลงทุนเอง เพื่อผลลัพธ์ทางปันผล ส่วนต่างของราคา หรือว่าภาษี ซึ่งสุดแท้แต่ แต่การซื้อขายก็ล้วนแต่ซื้อขายกระดานเดียวกันกับหุ้นแหละครับ นอกจากได้ราคาจองนอกตลาด ควรศึกษาเพิ่มเดิม เพื่อประโยชน์และเพื่อความสุขของตัวท่านเอง ขอบอก ๆ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|