เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 26 เมษายน 2024, 11:01:18
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การศึกษา (ผู้ดูแล: >:l!ne-po!nt:<)
| | |-+  >> รวมข้อมูล เกี่ยวกับการสอบ ท้องถิ่น ภาค ก ข และ ค 2556 <<
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] 3 4 พิมพ์
ผู้เขียน >> รวมข้อมูล เกี่ยวกับการสอบ ท้องถิ่น ภาค ก ข และ ค 2556 <<  (อ่าน 28551 ครั้ง)
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,017


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 22 มิถุนายน 2013, 13:15:59 »

เตรียมสอบท้องถิ่น : ตอนที่ 9
ยอดเงินที่ อบต. ได้รับจากการจัดสอบเอง



นื่องจากตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2555 เป็นต้นมา หลักเกณฑ์การสอบบรรจุเข้ารับราชการในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) / เทศบาล / องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ได้เกิดหลักเกณฑ์การสอบใหม่ขึ้นมา
* สามารถศึกษาหลักเกณฑ์ได้ที่ http://www.thailocalmeet.com/index.php/topic,45021.0.html

องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) / เทศบาล / องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จึงสามารถจัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเองได้ แต่กรมฯ กํยังคงเปิดสอบได้เช่นกัน

จากที่ผ่านมา มี อบต. หลายๆ แห่ง ดำเนินการจัดสอบแข่งขันเอง  (จัดเก็บเงินค่าสมัครสอบเอง)


กระทู้นี้ จึงจะรวบรวม ยอดผู้สมัครสอบ ยอดจำนวนเงินค่าสมัครสอบ
ยกตัวอย่าง 4 อบต. ดังนี้


องค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
ระดับ 1 - ยอดสมัคร 1098 คน x ค่าสมัคร 100 บาท = 109,800 บาท
ระดับ 2 - ยอดสมัคร 1798 คน x ค่าสมัคร 100 บาท = 179,800 บาท
ระดับ 3 - ยอดสมัคร 4021 คน x ค่าสมัคร 200 บาท = 804,200 บาท
ยอดผู้สมัครในสนาม อบต. คลองสาม จำนวน 6,917 คน
ยอดจำนวนเงินค่าสมัครได้ทั้งหมด 1,093,800 บาท


องค์การบริหารส่วนตำบลสบป่อง  อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ระดับ 1 - ยอดสมัคร 384 คน x ค่าสมัคร 100 บาท = 38,400 บาท
ระดับ 2 - ยอดสมัคร 903 คน x ค่าสมัคร 100 บาท = 90,300 บาท
ระดับ 3 - ยอดสมัคร 2205 คน x ค่าสมัคร 200 บาท = 450,000 บาท
ยอดผู้สมัครในสนาม อบต. สบป่อง จำนวน 3,492 คน
ยอดจำนวนเงินค่าสมัครได้ทั้งหมด 578,700 บาท


องค์การบริหารส่วนตำบลหนองเรือ จ.มหาสารคาม
ระดับ 1 - ยอดสมัคร 250 คน x ค่าสมัคร 100 บาท = 25,000 บาท
ระดับ 2 - ยอดสมัคร 1326 คน x ค่าสมัคร 100 บาท = 132,600 บาท
ระดับ 3 - ยอดสมัคร 1367 คน x ค่าสมัคร 200 บาท = 273,400 บาท
ยอดผู้สมัครในสนาม อบต. หนองเรือ  จำนวน 2,943 คน
ยอดจำนวนเงินค่าสมัครได้ทั้งหมด 431,000 บาท


องค์การบริหารส่วนตำบลสันป่าตอง จ.มหาสารคาม
ระดับ 1 - ยอดสมัคร 457 คน x ค่าสมัคร 100 บาท = 45,700 บาท
ระดับ 2 - ยอดสมัคร 1032 คน x ค่าสมัคร 100 บาท = 103,200 บาท
ระดับ 3 - ยอดสมัคร 175 คน x ค่าสมัคร 200 บาท = 35,000 บาท
ยอดผู้สมัครในสนาม อบต. สันป่าตอง  จำนวน 1,664 คน
ยอดจำนวนเงินค่าสมัครได้ทั้งหมด 183,900

รวม
ยอดผู้สมัครใน 4 สนามสอบ จำนวน 15,016 คน
ยอดจำนวนเงินค่าสมัครได้ทั้งหมด 2,287,400 บาท

* จากตัวเลขข้างต้น ทำให้เห็นอะไรหลายอย่างนะครับ
สำหรับผมมองเห็นถึงจำนวนคนสมัครสอบ ถึงแม้จะเป็นสนามเล็ก แต่ก็มีจำนวนผู้สมัครสอบมากพอสมควร
แสดงให้เห็นว่า "การรับราชการ" ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ประกอบกับการได้รับเงินเดือน 15,000 บาท/เดือน
ในสายงานที่เริ่มต้นในระดับ 3 มีคนสมัครมากเช่นกัน

** จากตัวเลขข้างต้น บ่งบอกว่า ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เตรียมตัวสอบให้ดีกว่าคนอื่นๆ เพราะจะมีคู่แข่งมากมาย

*** จากตัวเลขข้างต้น ผมจะพยายามไม่คิดว่า อบต. จัดสอบเอง เพื่อหาประโยชน์อย่างอื่น แต่ผมจะคิดในแง่ดีว่า
อบต. จัดสอบเอง เพื่อคัดเลือกคนเก่งๆ เพื่อนำเงินค่าสมัครมาใช้ในการจัดสอบ และเพื่อนำมาพัฒนาท้องถิ่นต่อไป....

จากยอดจำนวนผู้สมัครและยอดจำนวนเงินค่าสมัคร
เพือนๆ สมาชิก เห็นหรือได้มุมมองอะไรบ้าง?
?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 22 มิถุนายน 2013, 13:18:06 โดย ۰•ฮักแม่จัน©® » IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,017


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 22 มิถุนายน 2013, 13:17:36 »

เตรียมสอบท้องถิ่น ตอนที่ 10
ช่วงตอบคำถามการเตรียมสอบท้องถิ่น




Q : สอบท้องถิ่น ต้องมีใบสอบผ่านภาค ก ก่อนหรือไม่ ?
A : ไม่ต้องมีใบสอบผ่านภาค ก เนื่องจากการสอบแข่งขันเพื่อเข้ารับราชการในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในครั้งนี้ และจากนี้ไป "ทุกคนจะต้องเข้าสอบในภาค ก ทุกคน (ทุกสนาม)" ครับ

Q : มีใบรับรองการสอบผ่านภาค ก ของ ก.พ. นำมาใช้สอบของท้องถิ่นได้ไหม ?
A : ไม่ได้ครับ

Q : ต้องเรียนจบอะไรมา ถึงจะเป็นข้าราชการท้องถิ่นได้ ?
A : ข้าราชการส่วนท้องถิ่น จะมีวุฒิ ปวช. / ปวส. / ปริญญาตรี ซึ่งในแต่ละตำแหน่งนั้น จะมีมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า จะทำงานในตำแหน่งนี้ ต้องใช้วุฒิการศึกษาใด ดังนั้นต้องศึกษาและดูได้จาก "มาตรฐานกำหนดตำแหน่ง"

Q : การสอบที่กรมฯ จะเปิดสอบนั้น เป็นแบบรายภาค คืออะไร ?
A : ขออ้างถึงประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาลเรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการคัดเลือกโดยการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด / พนักงานเทศบาล /พนักงานส่วนตำบล
   ในกรณีคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยดำเนินการสอบแข่งขัน ให้จังหวัดที่เป็นศูนย์อำนวยการสอบแข่งขันในแต่ละภาค/เขตเป็นเจ้าของบัญชีผู้สอบแข่งได้ สำหรับการแบ่งภาค/เขตในการสอบแข่งขันให้เป็นไปตามประกาศกำหนด
     ณ ตอนนี้หลายๆท่าน คงเฝ้ารอการสอบแบบแบ่งภาค/เขต ตามหลักเกณฑ์ฯ บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ของคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ประกอบด้วยจังหวัดในกลุ่มภาค/เขต เช่น
ภาคกลางเขต ๑ ได้แก่
1.จังหวัดชัยนาท ๒.จังหวัดนนทบุรี ๓.จังหวัดปทุมธานี ๔.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๕.จังหวัดลพบุรี ๖.จังหวัดสระบุรี ๗.จังหวัดสิงห์บุรี ๘.จังหวัดอ่างทอง
อ่านทั้งหมด http://www.thailocalmeet.com/index.php/topic,45021.0.html

Q : การสอบของ ก.พ. กับการสอบของท้องถิ่น อันเดียวกันใช่ไหม ?
A : ขออธิบายดังนี้ การสอบของ ก.พ. หรือเรียกเต็มๆว่า "คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน" ซึ่งแต่ละปีจะเปิดรับสมัครบุคคลทั่วไปเข้าสอบแข่งขันเพื่อแต่งตั้งเป็นข้าราชการพลเรือน ในกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ โดยที่ผ่านมาจะมีการสอบ ภาค ก ภาค ข และ ภาค ค ซึ่งโดยปกติแล้ว การสอบภาค ก นั้น ก.พ. จะเป็นผู้ดำเนินการจัดสอบเอง เมื่อผู้ที่สามารถสอบผ่านในภาค ก จะมี "ใบรับรองการสอบผ่านภาค ก ของ ก.พ."
จากนั้นผู้ที่มีใบรับรองการสอบผ่านภาค ก ของ ก.พ. จะสามารถสมัครสอบแข่งขันเพื่อเข้ารับราชการ (การสอบภาค ข และ ค) ตามที่กระทรวง/กรม เปิดรับสมัครได้ * ทั้งนี้ใบรับรองการสอบผ่านภาค ก ของ ก.พ. ไม่สามารถนำมาใช้ในการสมัครสอบเข้ารับราชการของท้องถิ่น
ส่วนการสอบแข่งขันเพื่อเข้ารับราชการในองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น (อบจ./เทศบาล/อบต.) นั้น ก็แบ่งออกเป็นการสอบภาค ก ภาค ข และภาค ค โดยจะมีอยู่ด้วยกัน 2 กรณี ดังนี้ ในกรณีอบจ./เทศบาล/อบต.เป็นหน่วยดำเนินการสอบแข่งขัน ให้อบจ./เทศบาล/อบต.เป็นเจ้าของบัญชี หมายถึง เทศบาลอื่นๆ หรือ อบต.อื่นๆ ไม่สามารถขอใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ การขึ้นบัญชีและใช้บัญชีจะใช้ได้เฉพาะหน่วยงานที่จัดสอบเท่านั้น และในกรณีคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยดำเนินการสอบแข่งขัน ให้จังหวัดที่เป็นศูนย์อำนวยการสอบแข่งขันในแต่ละภาค/เขตเป็นเจ้าของบัญชีผู้สอบแข่งได้ สำหรับการแบ่งภาค/เขตในการสอบแข่งขันให้เป็นไปตามประกาศกำหนด
โดยทั้ง 2 กรณีข้างต้น ทุกคนที่สมัครสอบจะเข้าสอบในภาค ก ทุกคน (ทุกสนาม)


Q : อยากรู้กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในภาคเหนือที่จะเปิดสอบเป็นรายภาค
A : ตามระเบียบสอบใหม่ ได้แบ่งกลุ่มจังหวัด ออกเป็นรายภาคต่างๆ ในส่วนของภาคเหนือ คือ
ภาคเหนือเขต ๑ ได้แก่
๑.จังหวัดชียงราย ๒.จังหวัดเชียงใหม่ ๓.จังหวัดน่าน ๔.จังหวัดพะเยา ๕.จังหวัดแพร่ ๖.จังหวัดแม่ฮ่องสอน ๗.จังหวัดลำปาง ๘.จังหวัดลำพูน
ภาคเหนือเขต ๒ ได้แก่
๑.จังหวัดกำแพงเพชร ๒.จังหวัดตาก ๓.จังหวัดนครสวรรค์ ๔.จังหวัดพิจิตร ๕.จังหวัดพิษณุโลก ๖.จังหวัดเพชรบูรณ์ ๗.จังหวัดสุโขทัย ๘.จังหวัดอุตรดิตถ์ ๙.จังหวัดอุทัยธานี
ในส่วนของจังหวัดอื่นๆ ดูได้ที่ http://www.thailocalmeet.com/index.php/topic,45021.0.html

Q : ภาค ก จะออกสอบอะไรบ้าง ?
A : ภาค ก. ?
        เมื่อสนใจและต้องการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเข้ารับราชการ เริ่มแรกจะต้องสอบ ภาค ก. หรือมีชื่อเต็มอย่างเป็นทางการว่า “ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป” การสอบจะกำหนดคะแนนเต็มไว้ที่ 100 คะแนน
โดยจะทดสอบด้วย “ข้อสอบปรนัย” (ข้อสอบแบบมีตัวเลือก) โดยหน่วยดำเนินการสอบจะคำนึงถึงระดับความรู้ความสามารถที่ต้องการตามระดับตำแหน่ง ซึ่งจะแบ่งเนื้อหาขอบเขตของข้อสอบ ภาค ก. ได้ดังนี้
      (๑) วิชาสามารถในการศึกษา วิเคราะห์และสรุปเหตุผล กำหนดคะแนนเต็ม ๒๕ คะแนน
จะทดสอบความสามารถในการศึกษา วิเคราะห์และสรุปเหตุผล โดยการให้สรุปความหรือจับประเด็นในข้อความหรือเรื่องราว หรือให้วิเคราะห์เหตุการณ์หรือสรุปเหตุผลทางการเมือง เศรษฐกิจ หรือสังคม หรือให้หาแนวโน้มหรือความเปลี่ยนแปลงที่น่าจะเป็นไปตามข้อมูลหรือสมมุติฐาน
จากการสอบในอดีตที่ผ่านมา ในส่วนนี้จะต้องใช้ความรู้ทางด้านคณิตศาสตร์ ข้อสอบเคยออกถึง “การหาค่าของเลขอนุกรม , การหาร้อยละ , โจทย์เงื่อนไขทางคณิตศาสตร์ , การอ่านค่าจากตาราง กราฟ แผนภูมิ”
      (๒) วิชาภาษาไทย กำหนดคะแนนเต็ม ๒๕ คะแนน
จะทดสอบความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาไทย โดยการให้สรุปความและหรือตีความจากข้อความสั้นๆ หรือบทความและให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่างๆจากคำหรือกลุ่มคำประโยคหรือข้อความสั้นๆ
จากการสอบในอดีตที่ผ่านมา ในส่วนนี้จะต้องใช้ความรู้ทางด้านภาษาไทย ข้อสอบเคยออกถึง “อุปมา อุปไมย , เงื่อนไขทางภาษา , การเรียงประโยค , การเติมคำ , การตีความจากบทความยาว , คำราชาศัพท์ , สำนวน สุภาษิตไทย”
      (๓) วิชาความรู้พื้นฐานในการปฏิบัติราชการ กำหนดคะแนนเต็ม ๕๐ คะแนน
จะทดสอบความรู้เกี่ยวกับกฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งและอำนาจหน้าที่ของ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล ระเบียบงานสารบรรณ และการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
จากการสอบในอดีตที่ผ่านมา ในส่วนนี้จะต้องใช้ความรู้ทางด้านกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่น “โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญ หมวดที่ 14 ว่าด้วยการปกครองท้องถิ่น , พระราชบัญญัติ อบจ./เทศบาล/อบต.”

ภาค ข. ?
     หลังจากการสอบภาค ก. เราก็ต้องมาสอบภาค ข. (ภาคความสามารถเฉพาะตำแหน่ง) ว่าง่ายๆ ก็คือความรู้ความเข้าใจในตำแหน่งที่เราสมัครสอบ (เหมือนกับเวลาเราไปสมัครงานบริษัทเอกชน เราก็ต้องรู้ใช่ไหมว่าตำแหน่งที่เราสมัครต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องรู้ *งานราชการก็เช่นกัน)
     ซึ่งภาคความรู้ความสามารถเฉพาะสำหรับตำแหน่ง(ภาค ข) กำหนดคะแนนเต็มไว้ที่ ๑๐๐ คะแนน
โดยจะทดสอบความรู้ความสามารถในทางที่จะใช้ในการปฏิบัติงานในหน้าที่โดยเฉพาะตามที่ระบุไว้ในมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง โดยวิธีการสอบข้อเขียนหรือวิธีสอบปฏิบัติ หรือวิธีอื่นใดวิธีหนึ่งหรือหลายวิธีก็ได้ตามความเหมาะสม แต่ทั้งนี้จะรวมสอบเป็นวิชาเดียวหรืออย่างเดียว หรือแยกสอบเป็นสองวิชาหรือสองอย่าง แต่เมื่อรวมคะแนนทุกแบบทดสอบแล้วต้องมีคะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน โดยเมื่อจะทดสอบความรู้ความสามารถในทางใดและโดยวิธีใด หน่วยดำเนินการสอบจะระบุไว้ในประกาศรับสมัครสอบด้วย

     ยกตัวอย่างเช่น ถ้าสมัครตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป ก็ต้องเตรียมอ่านแล้วว่า ตำแหน่งนี้ทำหน้าที่อะไร รับผิดชอบอะไรบ้าง พรบ.หรือข้อกฎหมายที่เราควรทราบ อย่างเช่น  งานพัสดุ งานสารบรรณ งานเลขานุการ งานบริหารบุคคล เป็นต้น สามารถศึกษาหน้าที่และลักษณะงานของแต่ละตำแหน่งของท้องถิ่นได้ตาม “มาตรฐานกำหนดตำแหน่ง ของ อบจ./เทศบาล/อบต.” (http://local.chiangmai.go.th/noui/math/) และที่สำคัญต้องสังเกตในส่วนท้ายของประกาศการรับสมัครสอบด้วยว่า “ขอบเขตเนื้อหาในการสอบตำแหน่งนั้นๆ จะออกเนื้อหาในส่วนใดบ้าง” ซึ่งส่วนใหญ่ที่ผ่านมาหน่วยดำเนินการสอบจะระบุแจ้งไว้อย่างชัดเจน

ภาค ค. ?
    ภาค ค. (ภาคความเหมาะสมเฉพาะตำแหน่ง) ก็คือ “การสอบสัมภาษณ์” นั่นเอง ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย
ซึ่งภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค) กำหนดคะแนนเต็มไว้ที่ ๑๐๐ คะแนน โดยจะประเมินบุคคลเพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่จากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงานและพฤติกรรมที่ปรากฏทางอื่นของผู้เข้าสอบ “จากการสัมภาษณ์” ทั้งนี้หน่วยดำเนินการสอบอาจใช้วิธีการอื่นใดเพิ่มเติมอีกก็ได้ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในด้านต่างๆ เช่น ความรู้ที่อาจใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานในหน้าที่ ความสามารถ ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ จริยธรรมและคุณธรรม การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน รวมทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ และบุคลิกภาพอย่างอื่น เป็นต้น

Q : อยากสอบทำงานใน อบต. แถวบ้าน แต่ยังไม่รู้เรื่องของท้องถิ่นเลย ควรทำยังไง ?
A : แนะนำให้อ่านรัฐธรรมนูญ หมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น , พรบ.บริหารราชการแผ่นดิน , พรบ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, พรบ.อบต. ฯลฯ

Q : อบต. ตัดหน้ากรมฯ เปิดสอบเอง ไม่ควรไปสอบใช่ไหม ?
A : การที่ อบต. ดำเนินการเปิดสอบแข่งขันเองนั้น ก็เป็นการปฏิบัติตามระเบียบฯ ที่ อบต. สามารถพึงกระทำได้ แต่หากจะถามว่าโปร่งใสหรือไม่นั้น ผมก็ต้องตอบว่า "โปร่งใส" แต่หากจะถามว่ามีมาตรฐานเทียบเท่าที่กรมฯเปิดสอบหรือไม่นั้น ผมเองก็คงลังเลที่จะตอบคำถามในข้อนี้ แต่ผมยังเชื่อมั่นในระบบการสอบอยู่เสมอ
มองในแง่ดี การได้ไปสอบ ก็จะได้มีประสบการณ์กับข้อสอบ ได้มีโอกาสสัมผัสกับบรรยากาศการสอบแข่งขันของท้องถิ่นครับ ดังนั้น ถ้าไม่ติดภารกิจใดๆ แนะนำให้ไปลองสอบ เอาประสบการณ์ดีกว่าครับ

Q : ในท้องถิ่นมีข้าราชการตำแหน่งอะไรบ้าง ?
A :    ตำแหน่งใน อบจ. ดูได้ที่ http://www.thailocalmeet.com/index.php/board,46.0.html
   ตำแหน่งใน เทศบาล ดูได้ที่ http://www.thailocalmeet.com/index.php/board,45.0.html
   ตำแหน่งใน อบต. ดูได้ที่ http://www.thailocalmeet.com/index.php/board,44.0.html

Q : อบจ. เทศบาล อบต. คืออะไร ทำหน้าที่อะไรบ้าง ?
A : แนะนำให้อ่านทั้งหมดได้ใน กระทู้เอกสารเกี่ยวกับ "การปกครองท้องถิ่นไทย" ความรู้ความเข้าใจในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบต่างๆ http://www.thailocalmeet.com/index.php/topic,21327.0.html

Q : เงินเดือนของข้าราชการท้องถิ่น ซี 2 และซี3  ได้เท่าไร ?
A : ระดับ 2 (ซี2) เงินเดือนรวมค่าต่างๆแล้วจะได้ 9,170 บาท
ระดับ 3 (ซี3) เงินเดือนรวมค่าต่างๆแล้วจะได้ 15,000 บาท

Q : ที่เปิดสอบเป็นระดับ 1 2 3 4 นี่คืออะไร
A : ในปัจจุบันองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใช้ระบบซี (มาจาก Common Level) ใช้ระบบระดับ
เมื่อเริ่มบรรจุใช้วุฒิ ปวช. สอบเข้ามา จะได้รับแต่งตั้งเป็นระดับ 1 คือ ซี 1
เมื่อเริ่มบรรจุใช้วุฒิ ปวส. สอบเข้ามา จะได้รับแต่งตั้งเป็นระดับ 2 คือ ซี 2
เมื่อเริ่มบรรจุใช้วุฒิ ปริญญาตรี สอบเข้ามา จะได้รับแต่งตั้งเป็นระดับ 3 คือ ซี 3
เมื่อเริ่มบรรจุใช้วุฒิ ปริญญาโท สอบเข้ามา จะได้รับแต่งตั้งเป็นระดับ 4 คือ ซี 4
* ทุกตำแหน่งหลังจากสอบบรรจุได้แล้ว สามารถเลื่อนระดับให้สูงขึ้นได้ จะพิจารณาจากอายุราชการและคุณวุฒิ

Q : ในการสอบแข่งขันนั้น จะสอบเฉพาะภาค ก หรือภาค ข ได้หรือไม่
A : ตามหลักเกณฑ์การสอบใหม่นั้น ทุกๆคน ที่สมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเข้ารับราชการในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้อง "เข้าสอบในภาค ก ทุกคน" จากนั้นถึงจะสอบในภาค ข ต่อไปได้ ซึ่งในสนามสอบส่วนใหญ่ที่ผ่านมา จะจัดให้มีการสอบภาค ก ในช่วงเช้า ส่วนภาค ข จะสอบในช่วงบ่าย หลังจากนั้นคณะกรรมการที่จัดการสอบจะตรวจข้อสอบ หากทั้ง 2 ภาค (ก,ข) ผ่าน 60 % ก็จะมีสิทธิสอบสัมภาษณ์ในภาค ค ต่อไป
IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,017


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 22 มิถุนายน 2013, 13:22:35 »

แนวข้อสอบ  เพิ่มเติม

http://www.thailocalmeet.com/index.php/board,7.0.html


IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,017


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 22 มิถุนายน 2013, 13:23:18 »

ขอขอบคุณ  ข้อมูลจาก  ชุมชนคนท้องถิ่นครับ
IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,017


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 22 มิถุนายน 2013, 13:26:40 »

ผมจะคอยอัพเดทข้อมูลเรื่อยๆนะครับ   ท่านใดที่มีข่าวหรือข้อมูลเพิ่มเติมต่างๆ  ก็เข้ามาแชร์กันได้นะครับ
IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,017


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 22 มิถุนายน 2013, 13:52:30 »

บทความ: ทำไมถึงสอบภาค ก. เอาทฤษฎีหรือหลักเกณฑ์มาจากไหน




ภาค ก. (ความรู้ความสามารถทั่วไป) ถือได้ว่าเป็นด่านชั้นแรกของคนที่จะเข้ารับราชการที่ต้องสอบ บางคนเคยตั้งคำถามว่าทำไมถึงสอบภาค ก.? บางคนไม่สงสัยเขาเอามาให้สอบก็สอบ ผ่านก็ดีใจ ไม่ผ่านก็สอบใหม่ ถ้าคนรุ่นหลังมาถามก็บอกไม่รู้ ทำตามเขามา  ชุมชนของคนท้องถิ่นมีคำตอบให้ครับ
   ภาค ก. ถือได้ว่าเป็นการวัดความสามารถทางสมองของมนุษย์  7 ด้านและทฤษฎีที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ ?ทฤษฎีของเทอร์สโตน (L.L.Thurstone)? และนักวัดผลได้นำทฤษฎีมาใช้ในการทดสอบสมองของผู้เข้าสอบ ทฤษฎีทั้ง 7 ด้านมีดังนี้
   1. Number Factor การวัดความสามรถด้านตัวเลข   
   2. Verbal Factor การวัดความสามารถด้านภาษา
   3. Reasoning Factor การวัดความสามารถด้านเหตุผล
   4. Memory Factor การวัดความสามารถด้านความจำ
   5. Word Fluency การวัดความสามารถด้านการใช้คำ
   6. Perception Factor การวัดความสามารถด้านการสังเกต
   7. Space Factor การวัดความสามรถด้านมิติสัมพันธ์

1. Number Factor การวัดความสามรถด้านตัวเลข
   การวัดด้าน Number Factor ทุกคนที่สอบ ภาค ก. จะต้องผ่านและเคยทำข้อสอบทุกคน เช่นอนุกรม (series) หรือโจทย์ปัญหาทางคณิตสาสตร์
   คนที่ทำข้อสอบได้ดี หรือมีทักษะทางด้านนี้มาก เหมาะที่จะประกอบอาชีพเกี่ยวกับการทำงานธนาคาร การบัญชี หรือนักวิทยาศาสตร์ เป็นต้น

2. Verbal Factor
การวัดความสามารถด้านภาษา
   Verbal Factor เป็นการวัดทักษะทางภาษา การจับใจความ การหาความหมาย เช่น การหาความหมายใกล้เคียง การหาคำตรงข้าม
   คนที่มีทักษะด้านนี้ หรือทำข้อสอบได้ดี เหมาะที่จะประกอบอาชีพ เป็น นักกฎหมาย หรือ อาจารย์สอน

3. Reasoning Factor การวัดความสามารถด้านเหตุผล
   Reasoning Factor คือการวัดความสามารถด้านการใช้เหตุผล หนึ่งในนั้นคือ อุปมา- อุปไมย, การสรุปความ เช่น ฝนตกแล้วแดดจะออก วันนี้ฝนไม่ตกอย่างนี้เป็นต้น
   แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าอย่าเอาเหตุผลส่วนตัว มาใช้กับการทำข้อสอบประเภทนี้เป็นอันขาด เพราะข้อสอบถามเหตุผลในข้อสอบ ไม่ได้ถามเหตุผลส่วนตัว

4. Memory Factor การวัดความสามารถด้านความจำ
   Memory Factor เป็นการวัดความจำ เช่นอาจจะมีข้อความสั้น ๆ แล้วให้ผู้ทำข้อสอบตอบว่าจำอะไรได้บ้าง ความจำเป็นพื้นฐานที่ทุกคนต้องมี เพราะถ้าไม่มีความจำแล้วคน ๆ นั้นก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย

5. Word Fluency
การวัดความสามารถด้านการใช้คำ
   Word Fluency เป็นการวัดความสามารถด้านการใช้คำ ผู้ที่จะทำข้อสอบด้านนี้ได้ดี ต้องรู้ความหมายของคำนั้น ๆ ในการสอบก็จะมี เช่น การเติมคำ การเรียงคำให้มีความหมาย การหาความหมายของคำ เป็นต้น
   คนที่มีทักษะด้านนี้ หรือทำข้อสอบได้ดี เหมาะที่จะประกอบอาชีพ ธุรการ  นักเขียน โฆษกหรือผู้ประกาศข่าว

6. Perception Factor
การวัดความสามารถด้านการสังเกต
   ข้อสอบประเภทนี้ก็ยังออกสอบบ้างในปัจจุบัน เช่น นำรูปภาพ 4 ภาพ แล้วให้หา 1 รูปภาพที่มีความแตกต่าง นอกจากจะเป็นแบบรูปภาพแล้ว ก็อาจจะเป็นแบบ ตัวเลข หรือตัวอักษร
   คนที่มีทักษะด้านนี้ หรือทำข้อสอบได้ดี เหมาะที่จะประกอบอาชีพ เสมียน  เจ้าหน้าบันทึกข้อมูลหรือพิมพ์ดีด ช่างโยธา เป็นต้น

7. Space Factor
การวัดความสามรถด้านมิติสัมพันธ์
   ข้อสอบประเภทนี้เป็นการวัดด้านการมองเห็นและความเข้าใจเกี่ยวกับมิติสัมพันธ์ เช่น การซ้อนภาพ การหมุนภาพ การตัดกระดาษ การพับกล่อง
   คนที่มีทักษะด้านนี้ หรือทำข้อสอบได้ดี เหมาะที่จะประกอบอาชีพ นักออกแบบ สถาปนิก วิศวกร นักเขียนแบบ

                                                                                ชุมชนของคนท้องถิ่น
                                                                                     23/6/2551
IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,017


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 22 มิถุนายน 2013, 14:08:53 »

คำถามที่พบบ่อยในการสอบท้องถิ่นปี 2556


1. ไม่ผ่านภาค ก ของท้องถิ่น จะสามารถสมัครสอบได้ไหม?

= สามารถสมัครสอบได้ เพราะการสอบในครั้งนี้เป็นการสอบภาค ก ภาค ข ในคราวเดียวกัน

2. ไม่ผ่านภาค ก ของสำนักงาน ก.พ. จะสามารถสมัครสอบได้ไหม?

= สามารถสมัครสอบได้ ภาค ก ของท้องถิ่นกับของ ก.พ. เป็นคนละส่วนกัน ผู้สมัครสอบปกครองส่วนท้องถิ่นไม่จำเป็นต้องผ่านภาค ก ของ ก.พ.

3. ผู้ที่เคยสอบผ่านภาค ก ของท้องถิ่นมาแล้วในการสอบครั้งก่อนสามารถนำมาใช้กับครั้งนี้ได้ไหม?

= ไม่ได้ บัญชีภาค ก ของท้องถิ่นได้หมดอายุไปแล้ว

4. จบ ม.6 สมัครสอบส่วนท้องถิ่นได้ไหม?

= ไม่ได้ การสอบของส่วนท้องถิ่นจะเปิดรับในระดับ 1 คือผู้ที่มีวุฒิ ปวช. ระดับ 2 คือผู้ที่ได้รับวุฒิ ปวส. อนุปริญญา ปวท. ระดับ 3 คือผู้ได้รับวุฒิปริญญาตรี


5. พนักงานส่วนตำบล เป็นตำแหน่งข้าราชการหรือไม่?

= ใช่ เป็นตำแหน่งข้าราชการส่วนท้องถิ่น
IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,017


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #27 เมื่อ: วันที่ 22 มิถุนายน 2013, 14:58:13 »

เทคนิคการเตรียมตัวระหว่างสอบ - การเดาแบบมืออาชีพ


การบริหารจัดการระหว่างทำข้อสอบกรณีข้อสอบเป็นปรนัย (ชนิดตัวเลือก)

       การบริหารจัดการระหว่างทำข้อสอบกรณีข้อสอบเป็นปรนัย (ชนิดตัวเลือก) การบริหารจัดการระหว่างทำข้อสอบเป็นศาสตร์อย่างหนึ่ง ที่จะทำให้การสอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เข้าสอบส่วนใหญ่ไม่คำนึงถึงจุดนี้ หากไม่ได้ฝึกมาก่อน เมื่อมาทำข้อสอบจริง ยิ่งเมื่อข้อสอบที่ทำนั้นยากหรือไม่ตรงกับที่ได้อ่านหรือเตรียมมา ยิ่งจะเกิดความตื่นเต้น โอกาสที่ทำให้ผิดพลาด ทำข้อสอบไม่ครบ(หมดเวลาก่อน) จะมีสูง การบริหารจัดการระหว่างทำข้อสอบ มีดังนี้       
   
1) กรอกข้อมูล ในกระดาษคำตอบให้ถูกต้อง เรียบร้อย โดยเฉพาะการกรอกข้อมูลด้วยวิธีการฝนด้วยดินสอ หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จให้ตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งโดยเฉพาะเลขที่ประจำตัวสอบ เพราะมีหลายต่อหลายครั้งที่ผู้เข้าสอบทำข้อสอบได้ มีความมั่นใจแต่ไม่มีชื่อในบัญชีผู้สอบผ่าน เหตุเพราะลืมกรอกข้อมูลในกระดาษคำตอบ หรือกรอกผิดพลาดนั้นเอง         
 
2) เปิดข้อสอบ เมื่อได้รับอนุญาตจากผู้คุมห้องสอบ ตรวจสอบความเรียบร้อยของข้อสอบว่ามีกี่ข้อ มีกี่หน้าครบทุกหน้าหรือทุกข้อหรือไม่ หากกรรมการชี้แจงเพิ่มเติมให้ฟังและแก้ไขตาม       
   
3) การบริหารเวลาในการสอบโดยตรวจสอบเวลาที่จะใช้ในการทำข้อสอบ แล้วคำนวณระยะเวลาในการทำข้อสอบ (โดยปกติมาตรฐานข้อสอบจะใช้เวลาทำข้อละ 1 นาที ) ให้ชำเลืองดูนาฬิกาขณะทำข้อสอบเป็นระยะ เช่น ประมาณ 10-50 ข้อต่อครั้ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการควบคุมเวลาในการสอบ ทำให้ทำข้อสอบทันเวลาและครบทุกข้อ (จะพบบ่อยมากเมื่อหมดเวลาการทำข้อสอบแล้วแต่ยังเหลือข้อสอบอีก 20-30 ข้อ)         
 
4) ทำข้อสอบทีละข้อ โดยอ่านคำถามและทำความเข้าใจอย่างละเอียด อ่านให้หมดคำถาม ( 2 เที่ยว) อย่ารีบเร่งตัดสินใจ แล้วค่อยวิเคราะห์ตัวเลือกแต่ละตัวเลือก ตามหลักการ เมื่อเลือกคำตอบแล้วให้กากบาทหรือฝนในช่องของกระดาษคำตอบอย่างประณีต ในกรณีที่แก้ไข เพิ่มเติมให้ทำตามคำแนะนำที่บอกไว้ในกระดาษคำตอบ ข้อสอบข้อใดที่สงสัยให้ทำจุดสังเกต เช่น ดอกจัน ไว้ที่หน้าข้อสอบในกระดาษคำถาม โดยให้ความสำคัญ เช่น 1 ดอกจัน คือ สงสัย 2 ดอกจัน คือ สงสัยมาก เป็นต้น แต่ถึงแม้จะเป็นข้อสงสัยก็ต้องกากบาท (ฝนหรือระบาย) กระดาษคำตอบห้ามข้ามข้อ เพราะจะทำให้ไม่หลงลืมเมื่อทำไม่ทัน (เพราะหมดเวลา) หรืออาจจะทำให้สับสนกากบาทผิดข้อได้เพราะหากข้ามบางข้อ         
 
5) ในกรณีที่ข้อสอบบางข้อยากมาก ไม่สามารถทำได้ อย่าใช้เวลากับข้อนั้นๆ นานเกินไปจนทำให้เสียเวลา (เกิน3นาที) ต้องให้ความสำคัญกับข้อสอบทุกข้อ เพราะ ข้อสอบแต่ละข้อคะแนนเท่ากันและข้อสอบข้อถัดไปหรือข้อท้ายๆ อาจเป็นข้อสอบที่ง่าย จะทำให้เสียโอกาสถ้าทำไม่ทันเวลา ในกรณีเช่นนี้ก็ให้เดาตัวเลือก (ตามหลักการในหัวข้อต่อไป) ไปก่อนแต่ทำเครื่องหมายดอกจันเป็นจุดสังเกตในกระดาษคำตอบเอาไว้     
   
6) กรณีข้อสอบที่ต้องใช้วิธีคำนวณหรือจำเป็นต้องขีดเขียนเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ให้ขีดเขียนลงในกระดาษคำถามได้ (อย่าใส่ใจกับข้อห้ามที่บอกว่าห้ามขีดเขียนใดๆ ลงบนข้อสอบเกินไปนัก)         
 
7) เมื่อทำข้อสอบครบทุกข้อแล้ว หากยังเหลือเวลาอย่าเพิ่งรีบออกจากห้องสอบให้กลับมาทบทวนข้อที่ยากหรือยังทำไม่ได้ โดยสังเกตจากข้อทำเครื่องหมายดอกจันเอาไว้       
 
เจ๋ง ให้ทำข้อสอบจนหมดเวลา อย่าปล่อยเวลาให้เสียไป เพราะ เวลาทุกนาทีมีค่าสำหรับผู้เข้าสอบ         
 
9) เมื่อใกล้จะหมดเวลาสอบ (จะมีประกาศเสียงตามสายหรือกรรมการคุมห้องสอบบอก เช่น เหลือเวลา5 นาที) ให้ตรวจสอบกระดาษคำตอบอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นเกี่ยวกับการกรอกชื่อ สกุลรหัสหรือเลขประจำตัวผู้เข้าสอบ การลงลายมือชื่อผู้เข้าสอบ (ถ้ามี) ได้ตอบข้อสอบ (กากบาท ฝนหรือระบายดินสอ) ทุกข้อหรือไม่         
 
10) หากใกล้หมดเวลาสอบแล้วยังทำไม่เสร็จ หรือข้อสอบจำนวนมาก ให้ใช้วิธีการเดา (รายละเอียดในหัวข้อถัดไป) และเผื่อเวลาไว้ 1-2 นาที เพื่อตรวจสอบตามที่กล่าวในข้อ 8




เทคนิคการเดาคำตอบ


       การเดาคำตอบเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์สำหรับผู้เข้าสอบเลย แต่เมื่อถึงคราวจำเป็นนักสอบมืออาชีพคงไม่ใช่วิธีการนับตัวเลข นับนิ้วมือ หมุนปากกา หรือหลับตาจิ้มดินสอลงบนข้อใดก็ตัดสินใจเลือกคำตอบนั้นแน่แต่ควรจะมีเทคนิคมีชั้นเชิงบ้าง โดยใช้เทคนิคการเดาคำตอบ ดังนี้
 
1)  ให้ตัดคำตอบที่ไม่เกี่ยวข้องออกให้มากที่สุด แล้วเลือกตัวเลือก
2)  ตัวเลือกที่ถูกทุกข้อ...ไม่มีข้อถูก...หรือบางข้อที่ถูก (ข้อ ก. ข้อ ข. ถูก) มักเป็นคำตอบที่ถูกต้อง
3)  ตัวเลือกที่ข้อความยาวๆ มักเป็นตัวเลือกที่ถูก
4)  เลือกตัวเลือกโดยใช้ลำดับเนื้อหาตามหลักสูตรสอบฯ ว่าควรจะเป็นเรื่องใด
5)  เลือกตัวเลือกโดยสังเกตจากข้อที่ผ่านมา
6)  กรณีหมดเวลาแต่ข้อสอบยังเหลือจำนวนมาก ให้เดาตัวเลือกข้อใดข้อหนึ่งเพียงข้อเดียว เช่น เดาตัวเลือก ง ในทุกข้อ
 
มีคนกล่าวติดตลกว่า คนที่สอบได้จะต้องเป็นผู้ที่ซื่อสัตย์ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
 
เพราะคำสั่ง หรือ คำชี้แจงของข้อสอบชนิดเลือกตอบ มักบอกว่า
 
ให้ทำเครื่องหมายกากบาท (x) หรือเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว
 
หากเราเลือกข้อที่เราคิดว่าถูก แต่ ไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องที่สุด ก็ไม่ได้คะแนน
 
นั่นหมายถึง ข้อนั้นผิด อาจจะทำให้สอบตกได้
 
ดังนั้น การเลือกคำตอบที่ถูกต้อง จึงไม่ใช่เฉพาะรู้ หรือ ไม่รู้เท่านั้น
 
หากเป็นศาสตร์ และ ศิลป์ ที่ต้องเรียนรู้ถึงหลักและวิธีในการเลือกคำตอบที่ถูกต้อง
 
หมั่นฝึกฝน ฝึกทำข้อสอบอย่างสม่ำเสมอ สิ่งนี้เองถือเป็นเคล็ดลับอันสำคัญยิ่งที่จะทำให้เป็นผู้ประสบความสำเร็จในที่สุด
 

http://www.kruwandee.com/news-id6868.html
IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,017


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #28 เมื่อ: วันที่ 23 มิถุนายน 2013, 00:06:17 »

๑. ภาค ก. ท้องถิ่น


1. ความสามารถในการวิเคราะห์ สรุปเหตุผล (25 คะแนน)
- อนุกรม
- คณิตศาสตร์ทั่วไป
- การวิเคราะห์ข้อมูลจากตาราง แผนภูมิ และกราฟ
- เงื่อนไขสัญลักษณ์
- เงื่อนไขภาษา
- สรุปตรรกวิทยา
- อุปมา – อุปมัย
- วิเคราะห์เหตุการณ์ และสรุปเหตุผลทางการเมือง
- วิเคราะห์เหตุการณ์ และสรุปเหตุผลทางเศรษฐกิจ
- วิเคราะห์เหตุการณ์ และสรุปเหตุผลทางสังคม


2. ภาษาไทย (25 คะแนน)
- การเลือกใช้คำหรือกลุ่มคำให้ถูกต้องตามหลักภาษา
- ความสามารถในการสรุปความ ตีความ ข้อความที่กำหนด
- การเรียงลำดับข้อความ
- การอ่านทำความเข้าใจบทความยาว


3. ความรู้พื้นฐานในการปฏิบัติราชการ (50 คะแนน)
- รัฐธรรมนูญ 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- พรบ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- พรบ. อบจ.
- พรบ. เทศบาล
- พรบ. อบต.
- ระเบียบสำนักนายกว่าด้วยงานสารบรรณ
- พรฎ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,017


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #29 เมื่อ: วันที่ 23 มิถุนายน 2013, 09:47:18 »

ข้อแนะนำอีก 1 ข้อในการเลือกหนังสือสอบ

กรุณาอย่าดูแต่ปก เวลาที่ไปเลือกหนังสืออ่าน ให้ดูตรงสารบรรณก่อนว่ามีเนื้อหาตรงกับที่เราต้องอ่านมั้ย นั่นเท่ากับว่าตำแหน่งที่คุณจะสอบคุณจะต้องรู้แล้วว่าจะออกสอบในเรื่องอะไรบ้าง แล้วคุณจะรู้จากไหน ถ้าหลักๆคือประกาศการสอบ ซึ่งของท้องถิ่นยังไม่ออก แต่ผมดูจากการสอบครั้งผ่านๆมาให้คร่าวๆได้ ซึ่งผมก็บอกจนปากเปียกแล้วว่า ทุกตำแหน่งให้เน้นอ่านระเบียบหลักๆ มันจะออกทั้ง ก และ ข เหมือนๆกัน เพราะเฉนั้นเลิกถามครับ ไปดูว่ากฏหมายหลักเกี่ยวกับท้องถิ่นมีอะไรบ้าง
IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,017


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #30 เมื่อ: วันที่ 23 มิถุนายน 2013, 10:01:44 »

ภาค ข ท้องถิ่น


1. ความรู้กฏหมายในการปฏิบัติราชการและกฏหมายสายท้องถิ่น (สำหรับทุกตำแหน่งสอบ 70 – 80%)
- รัฐธรรมนูญ 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- พรบ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- พรบ. อบจ.
- พรบ. เทศบาล
- พรบ. อบต.
- ระเบียบสำนักนายกว่าด้วยงานสารบรรณ
- พรฎ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
- พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- พระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542
- พระราชบัญญัติว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
- พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540
- เหตุการณ์ปัจจุบัน (การเมือง เศรษฐกิจ สังคม)
- ฯลฯ


2. ความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง (แยกตามตำแหน่งที่สมัคร (20 – 30 %)
- กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ในการปฏิบัติหน้าที่
- ความรู้พื้นฐานที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งนั้นๆ
IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,017


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #31 เมื่อ: วันที่ 23 มิถุนายน 2013, 12:26:13 »

ชาวบ้านรู้ทัน ชุมนุมคัดค้านการเปิดสอบท้องถิ่น ท่าโพธิ์ชัย


* 1013680_202245963263871_971075486_n.png (257.59 KB, 720x329 - ดู 671 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
>:l!ne-po!nt:<
~: ดาบราชบุตร :~
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,256

~>: แขกดอย :<~


« ตอบ #32 เมื่อ: วันที่ 23 มิถุนายน 2013, 14:18:35 »

จัดเต็มเลย สองหน้าแล้ว
IP : บันทึกการเข้า

!!!!!  กว่า ๑,๑๐๐ กม.จากยอดดอยสู่ทะเล...ตะวันออก  !!!!!

www.facebook.com/1100kilometer

||||| ธรรมชาติสร้างอากาศบริสุทธิ์    ส่วนมนุษย์นั้นสร้างอาวุธเพื่อทำลาย |||||
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,017


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #33 เมื่อ: วันที่ 23 มิถุนายน 2013, 14:21:46 »

จัดเต็มเลย สองหน้าแล้ว

อัพเดทเรื่อยๆครับ  นานๆเปิดสอบที
IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,017


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #34 เมื่อ: วันที่ 24 มิถุนายน 2013, 17:54:53 »

   ข่าวล่าสุด จากท่านสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น แจ้งว่าค่าใช้จ่ายการรับสมัครจากเดิมจะเก็บ 100 บาท 3 ภาค แก้ไขเป็น 300 บาท 3 ภาค แก้ไขปรับปรุงเสร็จไม่เกินกลางเดือนหน้าประกาศรับสมัครสอบครับ ร้อนๆนั่งฟังท่านพูดโดยตรง
IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,017


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #35 เมื่อ: วันที่ 25 มิถุนายน 2013, 07:27:23 »

๑๑.๐๐ น.ประชุมคณะกรรมการ กสถ.คือ คณะกรรมการดำเนินการเพื่อสรรหาบุคคลเข้ารับราชการกับ อปท.ที่มีตำแหน่งว่างและร้องขอให้ กสถ.ดำเนินการ ๙,๐๐๐ กว่าตำแหน่ง เพื่อดำเนินการคัดเลือกประธานและกำหนดการในเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาบุคคลเข้ารับราชการ กรรมการชุดนี้มี ๑๓ ท่าน ผลออกมาอย่างไรจะนำมาเล่าสู่กันฟัง....

เตรียมสอบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,017


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #36 เมื่อ: วันที่ 25 มิถุนายน 2013, 12:15:59 »

รวมวันบังคับใช้ของกฎหมายข้อสอบภาค ก.ท้องถิ่นครับ
1. รัฐธรรมนูญ2550 (เป็น รธน ฉบับที่18)
-บังคับใช้เมื่อ 24 สิงหาคม 2550
2. พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน2534 (แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่8/2553)
-บังคับใช้ครั้งแรกเมื่อ 5 กันยายน 2534
3. พ.ร.บ. อบจ.2540 (แก้ไขเพิ่มเติ่มถึงฉบับที่12/2546)
-บังคับใช้ครั้งแรกเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2546
4. พ.ร.บ. เทศบาล 2496 (แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่13/2552)
-บังคับใช้ครั้งแรกเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2496
5.พ.ร.บ. อบต.2537 (แก้ไขเพิ่มเติ่มถึงฉบับที่6/2552)
-บังคับใช้ครั้งแรกเมื่อ 2 มีนาคม 2538 (บังคับใช้หลังวันประกาศ90วัน)
6.ระเบียบสำนักนายกว่าด้วยงานสารบรรณ 2526 (แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่2/2548)
-บังคับใช้ครั้งแรกเมื่อ 1 มิถุนายน 2526
7. พ.ร.ฎ. กิจการบ้านเมืองที่ดี 2546
-บังคับใช้ครั้งแรกเมื่อ 10 ตุลาคม 2546
IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,017


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #37 เมื่อ: วันที่ 26 มิถุนายน 2013, 07:18:39 »

เวลา ๑๑.๐๐ น.มาประชุมคณะกรรมการ กสถ.คือ คณะกรรมการดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อสรรหาบุคคลเข้ารับราชการกับ อปท.ที่มีตำแหน่งว่าง ๙,๐๐๐ กว่าตำแหน่ง
....ผลการประชุม ประชุมเพื่อดำเนินการคัดเลือกประธาน กสถ.ปรากฏว่าได้ อ.อัษฤางค์ ปาณิกบุตร ผู้ทรงคุณวุฒิ จาก ก กลาง อบต.เป็นประธาน และ ได้ ท่านเอนก กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จาก ก กลางเทศบาล เป็น รองประธาน กสถ.จึงจำเป็นต้องเสนอชื่อ เพื่อให้ท่าน รมต.ลงนาม เพื่อทำหน้าที่ต่อไป
...ส่วนการกำหนดตำแหน่งที่จะเปิดสอบ ว่ามีตำแหน่งอะไรบ้าง ตัดตำแหน่งอะไรออกบ้าง ที่ไม่ต้องเปิดสอบเพื่อความคุ้มค่า การกำหนดวันเวลาการรับสมัคร วิธีการสมัคร สถานที่รับสมัคร ระยะเวลาที่รับสมัคร และกำหนดการในเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาบุคคลเข้ารับราชการ ยังไม่มีการพูดคุยกัน จะมีการประชุมอีกรอบ เพื่อกำหนดในวันศุกร์ที่ ๒๘ มิ.ย.๕๖ ต่อไป หลังมีการลงนามแต่งตั้งประธานและรองประธานแล้วเสร็จครับ... ปลัดเชื้อ ฮั่นจินดา" วันศุกร์นี้จะรู้ผลสรุปทั้งหมดครับ คอยติดตามกัน"


เตรียมสอบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,017


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #38 เมื่อ: วันที่ 06 กรกฎาคม 2013, 18:05:32 »

วิสัยทัศน์กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (Vision)
“ เป็นองค์กรหลักในการส่งเสริมให้ อปท. เข้มแข็งอย่างยั่งยืน ”

พันธกิจกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (Mission)
๑. พัฒนากรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นให้เป็นองค์กรที่มีสมรรถนะสูง
๒. ส่งเสริมการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติ ระดับจังหวัดและตอบสนองความต้องการของประชาชนภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วมจากภาคีเครือข่าย
๓. ส่งเสริมระบบบริหารงานบุคคลของ อปท. ให้เป็นไปตามหลักคุณธรรม และเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากร อปท. ให้ทำงานอย่างมืออาชีพ
๔. พัฒนาระบบงบประมาณและการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีประสิทธิภาพและสามารถพึ่งตนเองได้
๕. พัฒนาระบบกฎหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานของ อปท. และสนับสนุนผู้กำกับดูแล อปท.
๖. ส่งเสริมและพัฒนาระบบบริหารจัดการของ อปท. ให้ไปสู่เป้าหมายของหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในท้องถิ่นตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
๗. ส่งเสริมและพัฒนาการบริการสาธารณะของ อปท. ให้มีคุณภาพและมาตรฐาน
๘. ส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาการเมืองการปกครองในระบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
๙. ส่งเสริมการดำเนินการเพื่อเอาชนะปัญหายาเสพติด

ประเด็นยุทธศาสตร์ (Strategic Issues)
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๑: การยกระดับขีดความสามารถของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นให้มีสมรรถนะสูง
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๒: การเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการสาธารณะและระบบการบริหารจัดการของ อปท. ในการพัฒนาประเทศ
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๓: การสร้างและใช้ภาคีเครือข่ายในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไปสู่เป้าหมายของหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี

ค่านิยม (Value)
ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล มุ่งเน้นบริการให้คำปรึกษา พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,017


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #39 เมื่อ: วันที่ 07 กรกฎาคม 2013, 17:28:27 »

ม.ราม จัดสอบนะครับ


* 1000842_207009156120885_144628648_n.jpg (54.44 KB, 640x480 - ดู 612 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
หน้า: 1 [2] 3 4 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!