ถ้าผลไม่ตรงกับเกรดเอ และเกรดบี จะทำยังไงครับ จะซื้อไหม? ถ้าปลูกแล้ว 100 ต้น จะเปนตัวผู้ที่ไม่ออกลูกกี่ต้นครับ และเป็นตัวเมียที่ออกลูกกี่ต้นครับ กับเวลาที่ต้องรอคอยถึง 4 ปี กว่าจะรู้ว่าเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย แล้วจะทำยังไงครับกับเงินที่ซื้อต้นกล้าละ 300 บาท เมื่อลงทุนเงินไปแล้วและความฝันที่รอคอย ช่วยตอบด้วยนะครับ
+1 โดยส่วนตัวชอบพืชชนิดนี้นะครับ แต่เงินค่ากล้าพันธุ์ 300 บาทต่อต้น เกษตรกรเค้าควักเงินจากกระเป๋าจ่ายให้โดยที่ยังไม่รู้เลยว่าผลผลิตจะออกมาเป็นยังไง บางท่านอาจจะบอกว่าใช้กล้าที่เพาะโดยวิธีการใช้เนื้อเยื่อสามารถกำหนดได้ว่าจะเอาตัวผู้และตัวเมียเท่าไหร่ แต่ราคาต่อต้นก็เป็นหลักพัน ตามความคิดผมยังมองว่าไกลเกินไป ทั้งระยะเวลาคืนทุน ต้นทุนที่ลงไปครั้งแรก ต้นทุนการบริหารแปลงปลูก และต้นทุนอื่น ๆ ครับ
ท่านมองกล้าพันธ์แพง แต่จริงๆแล้วผมว่าไม่แพงครับ อย่างเช่นท่านต้องการรายได้ปีละ 3 แสนบาท พืชหรือผลไม้ชนิดอื่นท่านต้องปลูกกี่ต้น ต้องใช้พื้นที่กี่ไร่ ลองคูณดูครับ แต่อินทผลัมนี้ใช้ทุนต้นกล้าแค่ประมาณ 9,000 บาท กับพื้นที่เพียง 1 ไร่ และการปลูกก็แสนง่าย ไม่ต้องดูแลมาก ให้น้ำเพียงสัปดาห์ละครั้งก็อยู่ได้ พอปลูกติดก็ไม่ต้องให้น้ำอีกเพราะหากินเองได้และยังทนแล้งได้ดีเพราะเป็นพืชแถบทะเลทรายแต่ไม่ทนนำ้ขัง การให้ปุ๋ยใช้เพียงปุ๋ยคอกปีละ 5 กก.กับปุ๋ยยูเรียเล็กน้อยเพื่อเร่งดอกและได้ผลผลิตมากขึ้น ระยะเวลาคืนทุนที่มาพร้อมกับกำไรในปีแรกที่ให้ผลผลิตคือในปีที่ 4 ถ้าเทียบกับยางพาราท่านยังต้องถึง 6-7ปีกว่าจะกรีดได้หรือแมคคาดาเมียต้องรอถึง 10ปีกว่าจะออกลูก ท่านเพียงปลูกอินทผลัมทิ้งไว้อาจปลูกพืชไร่หรือผักอื่นๆในพื้นที่ว่างระหว่างต้นเพื่อเป็นรายได้ระหว่างรอ 4 ปีไม่นานเกินรอครับ ผมว่าน่าทดลองปลูกมากครับส่วนตัวผมเองก็ปลูกอยู่ 60 ต้นครับเพราะมีที่ไม่เยอะครับ