เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 26 เมษายน 2024, 09:45:23
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  บอร์ดกลุ่มชมรม
| |-+  ชมรมดนตรี (ผู้ดูแล: NOtis, desh)
| | |-+  ซื้อเปียโนมือสอง ที่ไหนดีครับ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน ซื้อเปียโนมือสอง ที่ไหนดีครับ  (อ่าน 5114 ครั้ง)
เสื้อแดง
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2010, 22:43:09 »

ซื้อเปียโนมือสอง ที่ไหนดีครับ
งบ 30,000.-
IP : บันทึกการเข้า
oyoyo *^_^*
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,013



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2010, 23:27:20 »

รอคนมาตอบครับ.. ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

"มนุษย์ใช้เหตุผลทางความคิด
ในการตัดสินว่าอะไรถูกอะไรผิด
ขณะที่ธรรมชาติใช้ความจริงทางจิต
ในการตัดสินว่าอะไรเป็นบุญอะไรเป็นบาป"

วาทะดังตฤณ "ด้วยความเป็นห่วง"
Zuzee
สมาชิกลงทะเบียน
มัธยม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 639


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 11 ตุลาคม 2010, 13:19:11 »

มีอยู่นะ สั่งจาก กทม.มือหนึ่ง ยี่ห้อ Carvior สองหมื่นกว่า สวย เสียงดี ที่บ้านให้เด็กๆเล่น
IP : บันทึกการเข้า
pianoman
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 99



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 11 ตุลาคม 2010, 15:41:16 »



  คิดว่าไม่น่ามี นะครับ  งบ 30000  ได้แค่เปียนโนไฟฟ้า รุ่นต่ำสุด --*
IP : บันทึกการเข้า
oOoMaRioOo
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 52


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 27 ตุลาคม 2016, 22:18:15 »

มีที่เชียงรายคะ...พอดีต้องย้ายบ้านด่วน เปียโนเป็นแบบอัพไลด์คะ...เปียโนญี่ปุ่น สภาพดี สนใจโทรกลับด่วนเลยนะคะ 083-8673955 ขายให้
IP : บันทึกการเข้า
TheGoodLife
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2016, 13:14:09 »

ผมขอยกบทความจากเวป https://allaboutpiano.wordpress.com มาหื้ออ่านล่ะกันครับ
กล่าวโดยรวมหากซื้อเปียโนไม้หื้อซื้อ

1.เปียโนที่มีความสูง 131 cm. ขึ้นไปคุณภาพเสียงถึงจะได้มาตราฐาน
2.ทำในญี่ปุ่น คุณภาพได้มาตรฐานกว่า
3. Yamaha ซื้อง่ายขายคล่อง



วิธีเลือกซื้อเปียโนยามาฮามือสอง ตอน 1 ข้อดีของเปียโนมือสอง

สำหรับคนที่กำลังเลือกซื้อเปียโนแล้วคงไม่มีใครมองข้ามยี่ห้อยามาฮาไป เปียโนที่เราเห็นบ่อยที่สุดตามโรงแรม ตามสถาบันดนตรี วิทยาลัยดนตรีคือยามาฮา อาจเพราะราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงมาก (เปียโนอัพไลท์ของยามาฮามีราคา 129,000-460,000 บาท แกรนด์เปียโนมีราคา 449,000 บาท-6,000,000 บาท) ถึงแม้ว่ายามาฮาจะเป็นเปียโนที่มีคุณภาพโดยรวมในระดับกลาง มีโทนเสียงแข็งๆ ห้วนๆ แต่ก็ถือว่าเป็นเปียโนที่มีทัชชิ่งดี ทนทาน และเซอร์วิสง่าย จึงไม่น่าแปลกใจที่จะได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เหมือนสินค้าญี่ปุ่นประเภทอื่นๆที่ตอบโจทย์คนส่วนใหญ่ได้ดี

เปียโนมือสองถึงแม้ว่าจะถูกใช้งานมาแล้ว แต่ถ้ามันเป็นเปียโนที่ออกแบบมาอย่างดี ใช้วัสดุดี มีโครงสร้างแข็งแรง และผลิตโดยช่างที่มีความสามารถและมีความละเอียดอย่างช่างชาวญี่ปุ่น มันก็สามารถมีอายุการใช้งานได้นานถึง 50 ปี หลังจากนั้นหากท่านซ่อมและดูแลมันอย่างดี ท่านก็จะสามารถใช้งานมันต่อได้อีก 50 ปี แตกต่างจากเปียโนราคาถูกในปัจจุบันที่ผลิตจากประเทศจีน เกาหลี และอินโดนีเซียที่มีอายุการใช้งานสั้นมาก เปียโนเหล่านั้นมีโครงสร้างที่ไม่แข็งแรง ใช้วัสดุที่มีคุณภาพต่ำ ไม่ทนทาน

เมื่อคิดถึงเปียโนมือสองแล้ว มีหลายคนที่จะนึกถึงภาพเปียโนที่เก่า ที่ทรุดโทรม มีคุณภาพแย่มากเท่านั้น แต่ความจริงแล้วเปียโนใช้แล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้นตลอด เปียโนใช้แล้วหลังนั้นอาจจะดูเก่าแต่ก็ยังสามารถใช้งานได้ดีอีกหลายสิบปี หรือเปียโนหลังนั้นอาจต้องการการซ่อมแซมแค่เพียงเล็กน้อยเพื่อให้มันอยู่ในสภาพดี
พร้อมใช้งาน หรือเปียโนใช้แล้วหลังนั้นอาจมีสภาพเหมือนเปียโนใหม่เพราะใช้งานมา
ไม่กี่ปี แต่เจ้าของเดิมมีความจำเป็นต้องขายเพราะอาจต้องการย้ายบ้าน หรือต้องการเปลี่ยนเปียโนหลังใหม่ เปียโนเก่าหลังนั้นอาจเป็นเปียโนที่ถูกซ่อมแบบยกเครื่อง (Rebuild) 
โดยใช้ช่างที่เก่ง และมีความสามารถสูง และมีสภาพที่สมบูรณ์มาก ซึ่งหลังซ่อมเสร็จ เปียโนหลังนั้น
อาจดีกว่าเปียโนใหม่ด้วยซ้ำ

ช่วงแรกที่ผมมีแผนจะซื้อเปียโนหลังใหม่ ผมเริ่มตระเวณลองเปียโนทั่วกรุงเทพทั้งร้านที่ขายเปียโนใหม่ และมือสอง ในเวลานั้นผมตั้งงบประมาณไว้ไม่เกินหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท เปียโนใหม่ที่อยู่ในงบนี้ จะเป็นเปียโนใหม่ที่ผลิตในจีน อินโดนีเซีย เกาหลี ผมจึงไปลองมาจนหมดทุกยี่ห้อ แต่ผมไม่พบเปียโนใหม่หลังไหนเลย ที่ดีีเท่าเปียโนมือสองของยามาฮารุ่น U3 ร้านขายเปียโนที่ผลิตในจีน หรือเกาหลี มักจะอ้างว่าเปียโน(ที่ผลิตในจีน) ของเขาเกี่ยวข้องกับยี่ห้อเปียโนที่มีชื่อเสียงในประเทศเยอรมันต่างๆ เช่น ออกแบบโดยโรงงานเปียโนในประเทศเยอรมัน หรือควบคุมคุณภาพการผลิตโดยวิศวกรชาวเยอรมัน หรือใช้วัสดุนำเข้าจากประเทศเยอรมัน แต่ผมถือหลักการง่ายๆว่า หากเปียโนหลังนั้นดี เมื่อผมเล่นเปียโน ผมจะต้องรู้สึกได้ในทันที โดยไม่จำเป็นต้องฟังข้อมูลมากมายแต่อย่างใด เสียงของเปียโนจีนฟังดูแปร่งๆมากสำหรับผม เนื้อเสียงไม่ไพเราะ แถมยังมีีทัชชิ่งแปลกๆ ไม่สม่ำเสมอ โดยรวมการผลิตดูเป็นงานหยาบๆ

สิ่งที่ท่านควรทราบก่อนออกเลือกซื้อเปียโนมือสอง

เฉพาะในกรุงเทพมีร้านขายเปียโนมือสองอยู่มากกว่าสิบร้าน ธุรกิจนี้จึงมีการแข่งขันสูง ระหว่างที่ผมเลือกซื้อเปียโน ผมได้ไปลองที่ร้านขายเปียโนมือสองหลายแห่ง แต่ผมพบแค่ 3 ร้านเท่านั้นที่ให้ข้อมูลตรงไปตรงมาดี ส่วนใหญ่ผมพบว่าพนักงานขายเปียโน (หรือเจ้าของก็ไม่ทราบ) ให้ข้อมูลที่สับสน ฟังแล้วดูไม่มีเหตุผล ต้องการเพียงแค่ขายของที่มีอยู่ในร้าน บางร้านถึงกับหลอกลูกค้าว่าเปียโนมือสองที่ไม่ผ่านการซ่อมมาเลย (หรือเปียโนมือสองแบบตามสภาพ) ดีกว่าเปียโนที่ผ่านการซ่อมโดยช่างที่มีความสามารถ หรือเปียโนที่ไม่ผ่านการปรับกลไก (regulation) มาก่อน หรือไม่ต้องเปลี่ยน อะไหล่ดีกว่าเปียโนที่ผ่านการซ่อมแล้ว

ร้านเปียโนร้านนั้น มีช่างที่จะทำเปียโนให้ดีก่อน (ความจริงเปียโนมือสองจำเป็นต้องซ่อมก่อน เพื่อให้เปียโนทำงานได้ดีใกล้เคียงเปียโนใหม่ การซ่อมนี้ไม่ใช่เป็นการ Overhaul ยกเครื่องใหม่ทั้งหมด เพราะส่วนประกอบที่เป็นไม้ หากเก็บรักษาดี หลังจาก recondition เปียโนก็จะสามารถใช้งานได้อย่างดี ไปอีกนานหลายสิบปี) บางร้านถึงขนาดหลอกลูกค้า โดยบอกอายุเปียโนน่้อยกว่าความจริงเป็นสิบปี บางร้านถึงขนาดปลอมรุ่นและ หมายเลขเครื่องที่ตัวเปียโนยามาฮาเพื่อหลอกลูกค้าให้เชื่อว่าเปียโนหลังนั้นมีอายุการใช้งานน้อย

เพื่อนผมที่เป็นครูสอนเปียโนด้วยกันเคยเล่าให้ฟังว่า ลูกศิษย์ของเขาได้ไปซื้อเปียโนยุโรปใหม่จากร้านเปียโนร้านหนึ่งมาในราคา 180,000 บาท หลังจากเพื่อนผมไปสอนเปียโนที่บ้านนักเรียนคนนี้ ลูกค้าจึงค่อยทราบว่าเปียโนหลังนั้นเป็นเปียโนเก่า และไม่ใช่เปียโนยุโรปตามที่ผู้ขายบอก และเป็นเปียโนมือสองที่ทำในญี่ปุ่น ที่มียี่ห้อเป็นภาษอังกฤษ ซึ่งราคาตลาดขายกันเพียง 60,000-70,000 บาทเท่านั้น

ไม่ใช่ทุกร้านจะเป็นเช่นนั้น ผมเห็นร้านเปียโน 2 ร้านที่ให้ข้อมูลอย่างโปร่งใส ตรงไป ตรงมา และอธิบายอย่างผู้รู้จริง มีหลัก มีเหตุผล ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันตัวท่านเอง ท่านจำเป็นต้องทราบข้อมูลหลักๆที่สำคัญก่อนที่จะเลือกซื้อเปียโน เพื่อท่านจะ ได้ข้อตกลงที่ดีที่สุด และเสียดายเงินที่จ่ายไปจากการตัดสินใจที่ผิดพลาด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 ตุลาคม 2016, 13:23:53 โดย TheGoodLife » IP : บันทึกการเข้า

วงดนตรีงานแต่งงาน The GooD Life  http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=806058.0
TheGoodLife
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2016, 13:15:15 »

หัวข้อนี้สำคัญมาก อ่านจบแล้วจะทำให้ท่านไม่อยากซื้อเปียโนไม้ราคาถูกๆ

วิธีเลือกซื้อเปียโนมือสองยามาฮา ตอน 2 คุณภาพของเปียโนยามาฮาที่ในประเทศอินโดนีเซีย

โรงงานผลิตเปียโนยามาฮามีอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก เช่น ญีุ่่ปุ่น อินโดนีเซีย จีน แม๊กซิโก ไต้หวัน อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา หลายท่านคิดไปเองว่าเปียโนยามาฮาทุกรุ่นจะต้องผลิตใน
ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น บางท่านถึงขนาดไม่ทราบด้วยซ้ำว่า เปียโนยามาฮาที่เขาซื้อไปและตั้งอยู่ที่บ้านแล้วเป็นเปียโนที่ทำในประเทศอินโดนีเซีย

โรงงานยามาฮาในเมือง Hammamatsu ประเทศญี่ปุ่นจะผลิตเฉพาะเปียโนรุ่นทีมีคุณภาพสูงเท่านั้น เช่น แกรนด์เปียโน รุ่น S-Series, C-Series และ อัพไลท รุ่น U1 และ U3 และ YUS

“Larry Fine” ได้เขียนอธิบายคุณภาพของเปียโนที่ผลิตจากประเทศญีุ่่ปุ่นไว้ในหนังสือ the piano book ของเขาว่า

” ความรู้ทางด้านวิศวกรรมและการจัดการโรงงานของประเทศญี่ปุ่น จัดว่าได้รับการยอมรับจากทั่วโลกอย่างกว้างขวางว่าล้ำหน้าประเทศอื่นๆไปมาก โรงงานในประเทศญี่ปุ่นมีเครื่องจักร
ที่เดินเครื่องแบบอัตโนมัติมากกว่าที่อื่นๆในโลก เช่นเดียวกันเปียโนที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นก็เป็นเปียโนที่มีคุณภาพดี มีมาตรฐานสม่ำเสมอ และด้วยความที่เปียโนญี่ปุ่น
ได้รับการออกแบบให้จูน และเซอร์วิสง่าย จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมทั่วโลกจึงยอมรับในคุณภาพของเปียโนที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น”

ตรงกันข้าม “Larry Fine” ได้อธิบายคุณภาพของเปียโนที่ผลิตในประเทศจีน และอินโดว่า

“แม้ว่าปัจจุบันเปียโนหลายยี่ห้อที่ผลิตในประเทศจีนจะได้รับการยอมรับมากขึ้น แต่เปียโนเหล่านั้นส่วนใหญ่ยังคงมีปัญหาเรื่องการควบคุมคุณภาพอยู่ไม่ต่างจากเดิมนักช่างยังคงต้องใช้
เวลาอย่างมากเพื่อปรับเปียโนให้อยู่ในสภาพที่พอใช้ได้ก่อนส่งให้ลูกค้าที่ซื้อบางครั้งถึงขนาดต้องส่ง กลับไปซ่อมที่จีนเปียโน เปียโนที่ผลิตในประเทศจีนจึงไม่เหมาะกับ
คนที่ตั้งความหวังด้านคุณภาพเอาไว้สูง นอกจากนี้การรับประกันคุณภาพของเปียโนที่ผลิตในจีนยังไม่ดีเลยอีกด้วย”

และ

“เปียโนที่ผลิตในประเทศจีน และอินโดมีคุณภาพแย่มาก และไม่ควรซื้อไม่ว่าเพื่อวัตุประสงค์ใดทั้งสิ้น”
ผมได้อ่านข้อความข้างนี้จาก http://www.uk-pianos.org ซึ่งเป็น Forum ที่ช่างซ่อมเปียโนชาวอังกฤษเข้ามาพูดคุย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆในอุตสาหกรรมด้านเปียโน
หลายครั้งที่ผมอ่านพบความเห็นของช่างเปียโนเหล่านั้น ที่มีต่อเปียโนยามาฮาที่ผลิตในอินโด เช่น

“แม้ว่าเปียโนรุ่น U1J ที่ผลิตในอินโดจะใช้โครงสร้างแบบเดียวกับเปียโนรุ่น U1 ที่ผลิตญี่ปุ่นอย่างแน่นอนแต่งานผลิตที่ออกมาดู จะเป็นงานราคาถูก และไม่มีความแข็งแรงเลย”

และ

“สิ่งที่ทำให้เปียโนรุ่น JU-109 และ JX-113 มีีคุณภาพแย่ คือ การที่มันใช้ซาว์นบอร์ดที่ทำจากไม้อัดแม้ว่าพนักงานขายเปียโนจะอธิบายให้ท่านฟังว่า ไม้อัดเหล่านั้นจะทำมาจากไม้ชั้นบางๆ
หลายๆชั้น (Laminated wood) เพื่อให้เปียโนทนกับอุณหภูมิและความชื้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม้อัดก็คือไม้อัด อยู่วันยังค่ำ และทุกคนในโลกสามารถฟัง และสังเกตุถึงคุณภาพ
เสียงที่แตกต่างกันของเปียโนที่ซาง์นบอร์ดทำจากไม้อัด และเปียโนที่ซาว์นบอร์ดทำจากไม้แท้ (Solid Sprice Soundboard) ได้อย่างง่ายดาย
“แม้ว่าการใช้ไม้อัดจะทำให้เปียโนมีราคาถูกลง (การผลิตซาว์นบอร์ดที่ทำจากไม้แท้มีขั้นตอนที่ยากและมีราคาแพงกว่ามาก)แต่ผมมั่นใจว่าผู้ซื้อเปียโนทุกคนต่างต้องการเปียโนที่ให้เสียง
ที่ไพเราะ และผมคิดว่าเสียงเปียโนรุ่น JU-109 และ JX-113เหมือนเสียงจากเปียโนที่ใช้กระดาษแข็งมาทำเป็นซาว์นบอร์ด เพราะเสียงเบสของมันทึบมากๆ”

เป็นข้อเท็จจริงเสมอว่า “เปียโนที่มีคุณภาพดีจะต้องใช้ซาว์นบอร์ดที่ทำมาจากไม้สนจริงๆเสมอ (Solid Spruce Soundboard) ”

Larry Fine ได้พูดถึงเรื่องนี้ไว้เช่นกัน ว่า

“วิธีการผลิตเปียโนที่สืบต่อกันมานานตั้งแต่โบราณ ล้วนบอกไว้เหมือนกันว่าต้องใช้ไม้ที่ตัดมาจากต้นสนมาทำซาว์นบอร์ดเปียโนไม้สนเป็นไม้คุณภาพดี มีของลายไม้ที่ตรง มีความแข็งแรง
และในขณะเดียวกันก็มีความยืดหยุ่นอยู่ในตัว ดังนั้นจึงเหมาะที่จะนำมาใช้ทำเครื่องดนตรีีที่เน้นคุณภาพ มากกว่าวัสดุอื่น เครื่องดนตรีที่กล่าวถึงนี้นอกจากเปียโนแล้ว ไม้สนยังใช้ในการ
ทำไวโอลิน และเครื่องสายคุณภาพดีอื่นๆอีกด้วย ”

YAMAHA JU109PE
YAMAHA JU109PE
ผู้ผลิตเปียโนทราบดีมีลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่ชอบเปียโนขนาดเล็ก และต้องการซื้อเฉพาะเปียโนที่มีขนาดเล็กเท่านั้น เพราะเปียโนขนาดใหญ่เมื่อวางภายในบ้านแล้ว ดู เกะกะ ไม่สวยงาม และไม่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์อื่นภายในบ้าน ลูกค้ากลุ่มนี้จะได้สนใจเรื่องคุณภาพเปียโนเท่าไหร่ท่านควรตระหนักไว้ว่า เปียโนที่มีขนาดใหญ่นั้นไม่ได้ใหญ่เพียงขนาดเท่านั้น แต่มันมีคุณภาพ
ดีกว่าเปียโนขนาดเล็กมาก

Larry ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า

“ขนาดของเปียโนน่าจะเป็นตัวแปรที่มีผลต่อคุณภาพเสียงมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแกรนด์หรืออัพไลท์เปียโน เพราะสายที่ยาวขึ้นโดยเฉพาะสายเบสจะทำให้เสียงเปียโนหนักแน่น
ดังกังวาลขึ้น และมีเนื้อเสียงที่ประสานกันได้ดีกว่า ซึ่งสร้างความไพเราะให้แก่ผู้ฟัง “เสียงของเปียโนขนาดเล็กจะมีคุณภาพที่แย่มาก โดยเฉพาะในช่วงเสียงเบสและเสียงกลางซึ่งต่อจาก
เสียงเบส”
อย่างไรก็ดีหากท่านซื้อเปียโนยามาฮาที่ผลิตในอินโดไปแล้ว และท่านต้องเรียนเปียโนในระดับที่สูงขึ้น ท่านมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนเปียโนหลังใหม่อย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่อท่านต้อง
เลือกซื้อเปียโน ผมขอแนะนำให้ท่านซื้อเฉพาะเปียโนที่มีขนาดความสูงอย่างน้อย 121 ซม ขึ้นไป

ข้อมูลต่อไปนี้ เป็นขนาดของเปียโนรุ่นต่างๆ ของยามาฮา รุ่นที่ผลิตจากประเทศอินโดนีเซีย

รุ่น – ความสูง / ความยาว/ ความลึก
JU109 – 109/148/54
LU109 – 109/148/54
JX – 113/149/53
LX-110/149/53
U1J- 121/152/61
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 ตุลาคม 2016, 13:48:31 โดย TheGoodLife » IP : บันทึกการเข้า

วงดนตรีงานแต่งงาน The GooD Life  http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=806058.0
TheGoodLife
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2016, 13:17:46 »

วิธีเลือกซื้อเปียโนยามาฮามือสอง
ตอนรู้จัก YAMAHA UX-series
เปียโน UX series เป็นเปียโนอัพไลท์รุ่นที่มีคุณภาพสูงสุดของยามาฮา ยามาฮาได้ออกแบบเปียโนในซีรีย์นี้ใหม่เพื่อให้แตกต่างจากรุ่น U series เพื่อให้มีคุณภาพเสียง และทัชชอ่งที่ดีกว่าเพื่อแข่งขันกับเปียโนยุโรปที่มีคุณภาพสูง

เปียโน UX series นอกจากจะได้รับการออกแบบให้มีรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงาม เช่น มีที่วางโน๊ตขนาดใหญ่ที่สามารถวางโน๊ตเพลงได้หลายแผ่นต่อกัน หรือมีช่องด้านหน้าให้เสียงออก หรือมีการออกแบบรูปร่างภายนอกให้โค้งมนดูสวยงามมีราคา หรือมีการเดินขอบลายไม้ด้านข้างบริเวณที่วางโน๊ตอย่างสวยงามแล้ว ยังได้รับการออกแบบที่่สลับซับซ้อนกว่า และใช้วัสดุที่ดีกว่าเปียโนยามาฮารุ่น U1 และ U3

เสียงของเปียโน UX-series มีความทุ้ม ดังกังวาล และมีหางเสียงที่ยาว เคล็ดลับของเสียงที่ไพเราะนี้ คือ โครงสร้างด้านหลังที่ออกแบบให้มีเสาในแนวขวางเพิ่ม ซึ่งผมขอเรียกมันว่าโครงสร้างรูป X-shapeเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างของเปียโน

โครงสร้างรูป X-shape ด้านหลังเปียโน เพิ่มความแข็งแรงให้เปียโนรุ่น UX series
โครงสร้างรูป X-shape ด้านหลังเปียโน เพิ่มความแข็งแรง ให้เปียโนรุ่น UX series
เป็นที่ทราบกันดีว่าแรงดึงของสายเปียโนทุกสาย หากรวมกันอาจสูงถึง 20 ตัน โดยแรงดึงจำนวนมหาศาลนี้กดลงที่โครงสร้างหลักของเปียโนเป็นส่วนใหญ่ คือ โครงเหล็กหล่อ และเสาที่อยู่ด้านหลังเปียโน

ในแคตตาล๊อคของรุ่น UX ยามาฮาเขียนถึง โครงสร้างรูป X-shape ของรุ่น UX-series ว่า โครงสร้างนี้ไม่ได้ทำหน้าที่แค่เพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวเปียโนเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ซาว์นบอร์ดของเปียโน UX สั่นได้อย่างอิสระมากขึ้น ซึ่งช่วยให้เสียงกลาง เสียงสูง และเสียงในทุกความถี่ มีความดังและมีความไพเราะมากขึ้น

แต่สำหรับผมแล้ว แม้ว่าผมจะได้ทดลองเล่นเปียโนรุ่น UX-series มาหลายรุ่นแล้ว แต่ผมไม่รู้สึกว่าโครงสร้างรับแรงรูป X-shape จะเพิ่มความแข็งให้กับเปียโน หรือช่วยให้เสียงของเปียโน UX ดีขึ้นแต่อย่างใด ผมกลับเห็นว่าโครงสร้างเดิมที่มีเสาตรงด้านหลังหลายเสาค้ำอยู่ ก็มีความแข็งแรงมากพออยู่แล้ว

ผมคิดว่าสิ่งที่ทำให้เสียงของเปียโนรุ่น UX-series ดีกว่ารุ่น U1 และ U3 คือ การออกแบบภายใน และการผลิตที่แตกต่าง และละเอียดซับซ้อนกว่า อย่างไรก็ดีการกล่าวอ้างนี้ เป็นเรื่องที่พิสูจน์้ยาก แต่หากยามาฮาเชื่อในโครงสร้าง X-shape จริงๆแล้ว ยามาฮาคงจะเปลี่ยนเปียโนทุกรุ่นของเขามีโครงสร้างแบบนี้ทั้งหมด แต่ตลอดยี่สิบปี่มานี้เปียโนรุ่น U1 และ U3 ก็ยังคงมีโครงสร้างรับแรงด้านหลังแบบเดิม แต่ตรงกันข้ามยามาฮากลับหยุดผลิตโครงสร้าง X-shape ไปแล้ว

เมื่อท่านเลือกซื้อเปียโน ท่านจึงไม่ควรเชื่อสิ่งที่ผู้ผลิตกล่าวอ้างทุกอย่าง เพราะรายละเอียดที่อยู่ในแคตตาล๊อคอาจเป็นเพียงเครื่องมือทางการตลาดเท่านั้น ตรงกันข้ามท่านควรลอง เล่นเปียโนด้วยตนเองให้มากที่สุด โปรดจำไว้ว่า ” เปียโนที่ดีจะแสดงลักษณะเฉพาะตัวออกมาเมื่อท่านได้เล่น ซึ่งท่านจะทราบในทันที โดยไม่จำเป็นต้องให้ใครมาอธิบายเพิ่มเติม”

เนื่องจากเปียโนในซีรีย์ UX เป็นเปียโนรุ่นพิเศษซึ่งมีคนรู้จักน้อย และปัจจุบันยังหยุดการผลิตไปแล้วเปียโนรุ่นนี้จึงมักถูกมองข้ามไป ไม่เหมือนกับรุ่น U1 และ U3 ที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย ดังนั้นราคาขายต่อจึงตกลงมาก ยามาฮารุ่น U series

ขนาดของ Yamaha UX
ความสูง 131 ซม
ความยาว 153.5 ซม
ความลึก 65ซม

สำหรับรุ่น UX300 และ UX 500 จะออกแบบพิเศษให้มี Agraff ในเสียงช่วงกลาง และตำ่เพื่อล๊อคสายเปียโนไม่ให้เคลื่อนจากตำแหน่งที่ออกแบบหัวค้อนเปียโนจึงสามารถตีลงได้ถูก ตำแหน่งอย่างแม่นยำ ทำให้ได้โทนและน้ำหนักเสียงที่ตามต้องการ
IP : บันทึกการเข้า

วงดนตรีงานแต่งงาน The GooD Life  http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=806058.0
TheGoodLife
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2016, 13:19:02 »

เปียโนยุโรปมือสอง Steinway & sons Bosendorfer C.bechstein Bluthner Schimmel Sauter August Forster Seiler
In เลือกซื้อเปียโน, Piano Buyer Guide, Piano Comments on March 16, 2016 at 3:36 pm
 

file:///Users/Hippy/Desktop/king_pantip_schimmel174black2.jpg
 

 

Steinway & sons Bosendorfer C.bechstein Bluthner Schimmel Sauter August Forster Seiler

เปียโนยี่ห้อที่เขียนไว้ข้างต้นล้วนเป็นเปียโนแฮนด์เมด (Hand-Crafted)  ที่มีคุณภาพดีเยี่ยมระดับโลกทั้งนั้น จัดได้ว่าเป็นเปียโนในระดับ Best Quality ซึ่งถูกออกแบบสร้างมาอย่างปราณีต ซึ่งหากได้ลองเล่นแล้ว ท่านจะทราบได้ด้วยตัวเองว่าทำไปเปียโนเหล่านี้ถึงได้เป็นเปียโนที่มีคุณภาพดีที่สุด

คนทั่วไปเวลาเลือกซื้อเปียโนมักจะนึกถึงแต่เปียโนยี่ห้อ ยามาฮา

หากท่านมีเวลา ผมขอแนะนำให้ท่านลองเล่นยี่ห้อเหล่านี้ดูเผื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมประกอบการเลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นเปียโนใหม่หรือ มือสอง การได้ลองสัมผัส (touching) และได้ฟังเสียงของเปียโนเหล่านี้ ถือว่าเป็นประสบการ์ณสุดยอดอย่างหนึ่ง เปียโนแต่ละหลังเปรียบได้กับงานศิลปะที่มีความสวยงามทั้งรูปลักษณ์ภาพนอก และคุณภาพเสียงที่ซ่อนอยู่ข้างใน

ผมมักแนะนำลูกศิษฐ์ว่า ให้เพิ่มงบให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เวลาเลือกซื้อเปียโนเพื่อเราจะได้เปียโนหลังที่เราชอบ เพราะเปียโนจะอยู่กับเราไปอีกนานแสนนาน

และหากเราไม่ถูกใจเปียโนหลังที่ซื้อไป เราจะเสียดายที่ไม่ได้คิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ และเราอาจจะต้องเสียสตางค์ก้อนใหญ่อีกครั้งเพื่อซื้อหลังที่เราชอบ ซึ่งเป็นการสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้น

เปียโนยุโรปเหล่านี้ ทนทานมากๆ เพราะถูกสร้างมาอย่างปราณีต และสร้างอย่างแข็งแรง

ดังนั้นเราสามารถเลือกหลังที่มีอายุมากหน่อยได้ โดยไม่ต้องกังวล หากเปียโนที่เราชอบมีเสียงถูกใจ และทัชชิ่งดี

มันจะเป็นเครื่องดนตรีที่สร้างความพอใจให้กับเราได้นานแสนนาน เรียกได้ว่าคุ้มแสนคุ้ม

หลายคนคงนึกไม่ถึงว่าในกรุงเทพ เรามีเปียโนยุโรปมือสอง สภาพดีๆ แบบนี้ขายด้วย

ลองSearch หาดูจาก Google ดูครับ มีหลายร้านที่นำเข้า แต่ควรเลือกแต่ยี่ห้่อที่ยังผลิตอยู่ในปัจจุบันนะครับ บางยี่ห้อที่โรงงานเลิกผลิตไปแล้ว และมีประวัติคลุมเครือ ที่เราไม่แน่ใจ เราไม่ควรเสี่ยงครับ ยี่ห้่อเหล่านั้นอาจเป็นเปียโนที่ทำให้ประเทศอื่นแต่ใช้ชื่อยี่ห้อเปียโนที่ปิดโรงงานไปแล้วมาทำเป็นยี่ห้อก็ได้
IP : บันทึกการเข้า

วงดนตรีงานแต่งงาน The GooD Life  http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=806058.0
TheGoodLife
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2016, 13:19:50 »

วิธีเลือกซื้อเปียโนมือสอง ตอน 5 ความหมายของ Recondition Repair Rebuild
In เลือกซื้อเปียโน, piano technical information on June 21, 2011 at 6:49 am
ร้านขายเปียโนมือสองในกรุงเทพ แม้ว่าจะมีอยู่หลายสิบร้าน แต่เราสามารถแบ่งประเภทตามลักษณะของเปียโนได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ร้านที่ขายเปียโนมือสองที่ recondition แล้ว (ซ่อมและปรับปรุงคุณภาพเปียโนก่อน) กับร้านที่ขายเปียโนมือสองแบบตามสภาพ หรือไม่ได้ recondition (ร้านจะทำเฉพาะสีภายนอก และความสะอาดภายใน)

เมื่อพูดถึงคำว่า ซ่อมเปียโน ภาษาไทยใช้คำนี้อธิบายอยู่เพียงคำเดียว แต่ภาษาอังกฤษ มีคำถึง 3 คำที่ใช้กันบ่อยเพื่ออธิบายงานซ่อมเปียโน คือคำว่า “repair” “reconditioning” และ” rebuild” ซึ่งคำภาษาอังกฤษที่เรานำมาพูดทับศัพท์ทั้ง 3 คำ ก็ไม่ได้มีการนิยามอะไรชัดเจนนัก งานซ่อมอย่างหนึ่งจึงอาจต้องใช้คำมากกว่า 1 คำมาอธิบาย ดังนั้นท่านจึงต้องทราบก่อนว่า ช่างจะมีรายการซ่อมอะไรบ้างเมื่อท่านนำเปียโนไปให้เขาซ่อม หรือมีรายการซ่อมอะไรบ้างท่ีช่างได้ทำกับเปียโนมือสองที่ท่านซื้อ การใช้เพียงคำว่าเปียโนหลังนี้ได้รับการ recondition หรือ rebuild แล้วจึงไม่เพียงพอ เพราะคำว่า rebuild ของช่างคนหนึ่งอาจหมายถึงการ recondition ของช่างอีกคนหนึ่งก็อาจเป็นได้

เพื่อความเข้าใจ ผมขออธิบายความหมาย และยกตัวอย่างของแต่ละคำดังนี้

คำว่า “REPAIR” ใช้กับงานซ่อมส่วนใดส่วนหนึ่งของเปียโนที่ได้รับความเสียหาย เช่น ซ่อมหัวค้อน ซ่อมสายที่ขาด หรือซ่อมการทำงานของกระเดื่อง (Pedal) ที่ผิดปกติ ดังนั้นมันจึงไม่ได้หมายถึงการทำให้สภาพของเปียโนทั้งหลังดีขึ้นในภาพรวม แต่เป็นเพียงการซ่อมแซมที่จุดใดจุดหนึ่งโดยเฉพาะเท่านั้น

คำว่า “RECONDITIONING” โดยทั่วไปจะหมายถึงการทำให้สภาพโดยรวมของเปียโนทั้งหลังดีขึ้น โดยมีการเปลี่ยนอะไหล่ระหว่างการซ่อมให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น ยกตัวอย่าง เช่น การ recondition อัพไลท์เปียโนมือสอง อาจประกอบด้วย การขัดหัวค้อน (แทนที่จะเปลี่ยนหัวค้อนทั้งหมด) การบิดสายเบสเพื่อให้เสียงเบสออกมาดีขึ้น (แทนที่จะเปลี่ยนสายใหม่) การทำความสะอาดเปียโนทั้งหลัง การปรับระยะภายในกลไก (regulating the action) และหากมีอะไหล่ส่วนใดที่เสียหรือหายไป ช่างก็จะต้องซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ให้ ดังนั้นการงาน recondition เปียโนหลังใดหลังหนึ่งอาจมีการเปลี่ยน bridle straps ทั้งชุดและอะไหล่เล็กๆที่เกี่ยวข้องกันตามความจำเป็น ส่วนความหมายของคำว่า Rebuilding จะหมายถึงการซ่อมให้เปียโนมีสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด

คำว่า “REBUILDING” ใช้กับงานทีจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนสายเปียโนใหม่ทั้งหมด และสำหรับแกรนด์เปียโนส่วนใหญ่จะหมายถึงงานที่ต้องเปลี่ยน pinblock ด้วย หรือใช้กับงานที่ต้องซ่อม หรือเปลี่ยนซาว์นบอร์ด งาน Rebuild สำหรับกลไกเปียโน (action) จะรวมการเปลี่ยนหัวค้อน การเปลี่ยน damper felts และ เปลี่ยน key bushing ด้วย และอาจหมายถึงการเปลี่ยนอะไหล่ส่วนอื่นๆยกชุดด้วย นอกจากนี้งานซ่อมสีเปียโนก็อาจเป็นส่วนหนึ่งของงาน rebuilding ได้ด้วยเช่นกัน ในทางทฤษฎี ิ คำว่า “rebuilding” จึงหมายถึงการ ทำให้ เปียโนมีสภาพเหมือนพึ่งออกจากโรงงาน อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติ การ rebuild อาจทำได้น้้อยกว่าทางทฤษฎี เพราะมันขึ้นกับความต้องการของผู้ซ่อม หรือคุณค่าของเปียโนหลังนั้นๆ หรืองบประมาณ หรือความละเอียดถี่ถ้วนของผู้ซ่อม กล่าวโดยสรุปแล้ว งาน rebuilding คือ การเปลี่ยนสายใหม่ทั้งหมด หากเปียโนไม่ได้รับ ปลี่ยนสายใหม่ ทั้งหมด ท่านก็ไม่สามารถใช้คำว่า rebuild ได้ นอกจากนี้ช่างบางท่านอาจใช้คำว่า rebuild เมื่อเขสเปลี่ยน pinblock ใหม่อีกด้วย
IP : บันทึกการเข้า

วงดนตรีงานแต่งงาน The GooD Life  http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=806058.0
TheGoodLife
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2016, 13:20:23 »

วิธีเลือกซื้อเปียโนมือสอง ตอน 6 Check lists สำหรับตรวจสอบงาน recondition เปียโนมือสอง
In เลือกซื้อเปียโน, piano technical information on June 21, 2011 at 6:54 am
ท่านสามารถตรวจงานซ่อมหรืองาน recondition ของเปียโนมือสองได้ โดยดูจากการเปลี่ยนวัสดุสิ้นเปลือง ขั้นตอนนี้สามารถตรวจสอบได้ง่าย ไม่ซับซ้อน
เพียงแต่ท่านต้องที่ทราบก่อนว่ามีอะไหล่สิ้นเปลืองส่วนใดบ้างที่ช่างจำเป็นต้องเปลี่ยนก่อน เพื่อให้เปียโนทำงานได้อย่างสมบูรณ์

ส่วนการตรวจสอบงานปรับแต่งกลไก หรือการ regulation ท่านจำเป็นต้องให้ช่างตรวจสอบ เพราะเป็นงานที่ต้องอาศัยความชำนาญ และทักษะที่สูง อย่างไรก็ดีหากท่านสามารถรับรู้ได้เมื่อท่านเล่นบนเปียโนที่มีกลไกทำงานอย่างผิดปกติ

ช่างเปียโนที่ ปีเตอร์สัน เปียโน แกลเลอรี่ เป็นคนสอนขั้นตอนต่างๆให้ผม หลังจากที่ผมได้แวะไปชมเปียโนที่หลายครั้ง พูดถึงปีเตอร์สัน เปียโน ครั้งแรกที่ผมขับรถผ่านโชว์รูม ผมเห็นแกรนด์เปียโนอยู 2-3 หลัง เท่านั้น วันที่ผมเข้ามาที่นี่รั้งแรก เลยไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก แต่เมื่อประตูลิฟต์ของโชว์รูมชั้น 3 เปิดออก ผมว่าผมเห็นโชว์รูมที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพแล้ว ชั้นนี้ชั้นเดียวมีเปียโนวางอยู่ 80 หลังได้ เป็นแกรนด์เปียโนประมาณ 20 หลัง ที่เหลือก็เป็นอัพไลท์เปียโน ชั้นนี้เขาแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งโชว์เปียโนใหม่ที่นำเข้าจากยุโรป Petrof Schimmel Sauter Seiler WIlh. Steinberg Kemble และอีกฝั่งหนึ่งโชว์เปียโนมือสอง Yamaha Kawai Eterna Miki Kaiser Atlas

ผมได้มีโอกาสคุยกับช่างเปียโนที่นี่หลายครั้ง ระหว่างที่ได้มาลองเปียโน จนเริ่มสนิทกัน เขามักจะอยู่จูนเปียโนอยู่ในโชว์รูม เพื่ออธิบายการ recondition เขาพาผมไปดูการทำงานของช่าง ซึ่งอยู่ที่ชั้น 7 ที่ชั้นนี้ แบ่งการทำงานเป็น 4 โซน

โซนที่ 1 เป็นโซนทำความสะอาดภายในเปียโน ช่างจะถอดคีย์เปียโน และกลไกแอ๊คชั่นออก เพื่อให้สามารถทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น นอกจากจะดูดฝุ่นใต้คีย์ และทำความสะอาดด้านใน ตามปกติแล้ว ช่างจะขัดสายเปียโน หมุดจูน และอุปกรณ์ต่างๆที่อยู่ภายในเปียโนด้วย

โซนที่ 2 ช่างจะนำแอ๊คชั่นเปียโนมาถอดออกเป็นชิ้น ๆ เพื่อให้การเปลี่ยนวัสดุสิ้นเปลือง(ที่หมดอายุแล้ว) ภายในแอ๊คชั่นออกได้ง่าย ขึ้น เช่น Briddle strap, Butt spring cord (Loop cord), center pin และ สักหลาดใต้คีย์เปียโน เช่น balance front key , key bushing cloth,

โซนที่3 เป็นโซนสำหรับตกแต่งสีบอดี้ภายนอก และเก็บรอยตำหนิ

โซนที่ 4 ช่างจะนำกลไกแอ๊คชั่น และคีย์เปียโน ที่ถอดออก มาประกอบกลับเข้าไป และทำการปรับระยะห่างต่างๆของกลไก (regulation) เพื่อให้กลไกทำงานได้แม่นยำ เช่น ปรับ loss motion, ปรับ let off, ปรับ Key spacing & angle, ปรับ spoon (touching), ปรับ key dept, ขัดหัวค้อน และ voicing ก่อนที่จะย้ายเปียโนลงโชว์รูม และจูนเปียโนเป็นขั้นตอนสุดท้าย

สำหรับการการตรวจสอบการเปลี่ยนวัสดุสิ้นเปลือง เพื่อให้ง่าย ผมขอเขียนเป็นรายการตรวจสอบการ recondition เป็นข้อๆ ดังนี้

1. การตรวจเชือกเล็กๆ (butt spring cord หรือ Loop cord) จำนวน 88 เส้นนี้ว่า ได้ถูกเปลี่ยนหรือยัง?



จากรูป จะเห็นเชือกเส้นเล็กๆที่ม้วนเป็นห่วงคล้องอยู่รอบๆขอเกี่ยวที่เป็นโลหะ ช่างเรียกว่า butt spring cord แต่ผมเรียกเชือกนี้ง่ายๆว่า “Loop Cord” มันมอยู่ 88 เส้นตามจำนวนคีย์เปียโน และอยู่ภายในกลไก (action) เชืิอกเหล่านี้มีหน้าที่ทำให้คีย์เปียโนแต่ละคีย์คืนกลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิมให้เร็วที่สุด หลังจากผู้เล่นกดคีย์เปียโนไป Loop cord ที่สมบูรณ์จะทำให้คีย์เปียโนคืนกลับตำแหน่งเดิมได้เร็ว ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นเปียโน เล่นเพลงท่อนเร็วๆได้ง่ายและไพเราะ

เนื่องจาก loop cords มีอายุการใช้งานประมาณ 20 ปีเท่านั้น เมื่อหมดอายุมันจะเริ่มขาดทีละเส้น ทีละเส้น เปียโนที่มี loop cord ขาดอาจยังพอเล่นได้ แต่ ผู้เล่นสามารถรับรู้ได้ว่ามีบางอย่างในกลไก action ที่ทำงานผิดปกติ การตอบสนองของคีย์เปียโนไม่สม่ำเสมอ เพราะกลไกทำงานได้ไม่เป็นระเบียบ และช้าลงมาก ขาดสมดุลย์ ส่งผลให้ผู้เล่นไม่สามารถคาดเดาการตอบสนองของคีย์ขณะเล่นได้ ซึ่งเป็นผลเสียต่อพัฒนาการของผู้เล่นในระยะยาว

การตรวจสอบ loop cord สามารถทำได้ไม่ยาก ท่านจึงควรตรวจสอบด้วยตนเองว่า เปียโนมือสองที่ท่านซื้อ ได้รับการเปลี่ยน loop cord ทั้ง 88 เส้นแล้วหรือยัง? เท่าที่ี่ผมสังเกตุดู ร้านขายเปียโนมือสองส่วนมากไม่ได้เปลี่ยน loop cord ใหม่ ผมเองก็ไม่ทราบว่าทำไมเขาไม่เปลี่ยน loop cord ให้ลูกค้า เพราะต้นทุนการเปลี่ยนก็ไม่ได้มากมายอะไร อาจเป็นเพราะเขาไม่ทราบว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ และส่งผลมากต่อผู้เล่น หรืออาจเพราะเขาไม่มีช่างที่จะมาทำงานด้วย
ท่านจึงควรให้ร้านเปียโนที่ท่านซื้อเปียโนด้วย ชี้ให้ท่านเห็นว่าเขาได้เปลี่ยนเชือกเหล่านี้แล้วจริงๆ และไม่ควรเชื่อเพียงคำพูดลอยๆว่าเขาได้เปลี่ยนเชือกนี้แล้ว

วิธีการในการตรวจง่ายๆ คือ การใช้ไขควงไขสกูร 3 ตัวที่ยึดกลไกอยู่ออก และให้เขาชี้ตำแหน่งที่ตั้งของเส้น loop cards ให้ท่านเห็น loop cord ที่ถูกเปลี่ยนแล้วจะมีสีขาว และมีสภาพใหม่ (Loop cord สีเขียว คือ loop cord เก่าที่ยังไม่ได้รับการเปลี่ยน)

ภาพข้างต้น แสดงจุดที่จะไขสกรูออกด้วยมือ เพื่อถอดกลไก action ถูกนำออกได้ง่ายเพื่อท่านจะสามารถตรวจเส้น loop cord ได้

นอกจากนั้นท่านควรถามร้านเปียโนที่ท่านจะซื้อไปตรงๆว่า เขาได้ซ่อมกลไกส่วนไหนบ้าง? หรือซ่อมสีตัวเปียโนส่วนไหนบ้าง? หรือเปลี่ยนสายทองแดงใหม่เส้นไหน? หรือเปลี่ยนหัวค้อน หรือเปลี่ยนสักหลาด หรือdamper หรือ ชื้นส่วนอื่นๆ ที่จุดไหนบ้าง? และทำอย่างไร? คำถามเหล่านี้จะเป็นประโยชน์มาก เมื่อท่านถามลึกถึงรายละเอียดที่เขาได้ซ่อมเปียโนหลังนี้มา ท่านไม่ควรพอใจกับคำตอบลอยๆ ที่บอกว่าทางร้านได้ซ่อมทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อให้เปียโนหลังนี้ อยู่ในสภาพพร้อมขายแล้ว

2. สภาพสีภายนอกของเปียโน: ร้านค้ามักใช้คำว่า สภาพดีมาก หรือ สภาพดีทีสุด หรือ สภาพเหมือนเปียโนใหม่ เพื่ออธิบายลักษณะสีภาพนอกของเปียโน แต่ผมแนะนำให้ท่านถามคำถามเหล่านี้กับเขาแทน

– เปียโนหลังนี้มีรอยที่ตำแหน่งใดบ้าง (ปกติมักจะมี)
– มีร่องรอยการซ่อมสีตัวบอดี้ภายนอกของเปียโนที่ไหนบ้าง (ปกติมักจะมี)
– เปียโนหลังนี้ผ่านการพ่นสีใหม่ทั้งหลัง หรือพ่นแค่เพียงบางส่วน หรือแค่ผ่านการขัดด้วยเครื่องขัดเท่านั้น
– มีงานที่ทำด้วยทองเหลืองจุดใดบ้างที่ยังขัดไม่เงา และดูสมบูรณ์ (ปกติมักจะมี)
งานทำสีภายนอกที่ผมเห็นช่างสีที่ปีเตอร์สัน ทำในวันนั้นละเอียดมาก เพราะเขาจะลอกเอาผิวชั้นบนสุดของ polyester ออกก่อน แล้วจึงพ่นใหม่ ต่อด้วยการขัดอีกครั้งด้วยเครื่อง และขัดละเอียดอีกครั้งด้วยมือ ท่านจะไม่พบรอยขีดข่วนใดๆหลังจากทำ ดังภาพตัวอย่างประกอบ 2-3 ภาพข้างล่าง

3. กลไกเปียโน (action) : กลไกเปียโนเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากของเปียโน และเป็นอุปกรณ์ที่ต้องการการเอาใจใส่ และการปรับแต่งด้วยอย่างละเอียดอยู่เป็นระยะๆ หากช่างซ่อมกลไกที่ท่านใช้บริการเป็นช่างที่ไม่มีความสามารถ เปียโนท่ีซ่อมเสร็จอาจมี loss motion มาก หรือท่านจะพบปัญหาคีย์ค้าง หรือปัญหาคีย์ที่สั่นไปมาได้ หรือได้กลไกที่มีีการตอบสนองของคีย์ช้า ท่านควรถามร้านเปียโนไปตรงๆว่า ช่างที่เขาจ้างมาซ่อมเปียโน ผ่านการฝึกหัดมาจากที่ใด ผ่านการอบรมจากสถาบันที่น่าเชื่อถือหรือไม่ และมีประสบการ์ณการทำงานมากี่ปี แล้ว โดยควรถามชื่อช่างที่ซ่อมเปียโนของท่านเอาไว้ด้วย

4. หน้าคีย์สีขาว (White top Key) เป็นของใหม่หรือเปล่า? เท่าที่ผมสังเกตุร้านเปียโนส่วนใหญ่จะเก็บหน้าคีย์เดิมไว้ ไม่ยอมเปลี่ยนใหม่ อย่างไรก็ตาม หน้าคีย์เก่าเหล่านี้มักจะมีรอบขีดข่วน และจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือมีร่องรอยเสียหายอื่นๆ มีภาพแสดงดังนี้

5. หัวค้อนของเปียโนหลังนี้มสภาพอย่างไร ที่ท่านสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าบ้าง? ที่หัวค้อนมีร่องลึกที่เกิดจากการที่หัวค้อนเคาะลงบนสายเปียโนหรือเปล่า? หัวค้อนของเปียโนหลังนี้ได้รับการขัดมาใหม่ (reshaped) และได้รับการปรับแต่งโทนเสียงใหม่ (revoiced) หรือยัง?

หัวค้อนเปียโนที่ผ่านการใช้งานมาแล้วจะมีร่องตรงตำแหน่งที่เคาะกับสาย ขั้นตอนการขัดหัวค้อน (reshaped) หรือ การปรับแต่งโทนเสียง (Revoiced) เป็นขั้นตอนการปรับหัวค้อนจากสภาพเดิมให้ดีขึ้นด้วยการขัด (reshaped) และปรับแต่งผิวรอบหัวค้อน (Revoiced) อย่างระมัดระวัง เพื่อแต่งเสียง และแก้ปัญหาที่เกิดจากหัวค้อน และเพื่อปรับสภาพหัวค้อนให้อยู่ในสภาพดีดังเดิม โดยจะปรับให้จุดที่หัวค้อนตีกับสายมีความเหมาะสมที่สุด เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด ร้านเปียโนมือสองที่ดีต้องขัดหัวค้อนทั้ง 88 อันให้ครบ และต้องทำการปรับเสียงที่หัวค้อน (voicing) ใหม่อย่างละเอียดด้วยเพื่อให้ได้เสียงที่มาตรฐาน *ขอขอบคุณ ปีเตอร์สัน เปียโน สำหรับภาพถ่ายของหัวค้อนที่ผ่านการปรับแต่งแล้ว อย่างไร ก็ตามท่านควรทราบด้วยว่า โดยปกติหัวค้อนของเปียโนใหม่ ก็จะมีร่องเล็กๆบนหัวค้อนอยู่เช่นกัน สาเหตุที่เปียโนใหม่มีร่องบนหัวค้อนเหมือนเปียโนที่ผ่านการใช้แล้ว ก็เพราะว่าร่องเล็กๆเหล่านี้เป็นตัวช่วยสร้างโทนเสียงที่เหมาะสม ไพเราะให้แก่เปียโน โรงงานผู้ผลิตเปียโนใหม่จึงได้สร้างเครื่องจักรอัตโนมัติขึ้นมาโดยตั้งไว้ อยู่ข้างหน้าเปียโน เพื่อเล่นคีย์เปียโนซ้ำไปซ้ำมาให้ครบทั้ง 88 คีย์ เป็นเวลาหลายชั่วโมง เพื่อให้เกิดร่องบริเวณหัวค้อนขึื้น และเพื่อสร้างเสียงที่ทางผู้ผลิตเปียโนต้องการ (ภาพข้างบนแสดง หัวค้อนที่ดีของเปียโน yamaha u3 ที่ยังจำเป็นต้องมีร่องเล็กๆ ที่ด้านบนของหัวค้อนอยู่)

6. สักหลาดสีขาวที่เป็นส่วนประกอบของกระเดื่องกลาง (middle pedal หรือ practice pedal) ได้รับการเปลียนใหม่หรือยัง? ร้านเปียโนส่วนใหญ่มักจะไม่ยอมเปลี่ยนสักหลาดนี้ให้ใหม่ กระเดื่อง กลาง (middle Pedal) หรือ practice pedal มีหน้าที่ลดเสียงเปียโนให้เบาลง (Muting) เพื่อท่านจะสามารถซ้อมเปียโนได้โดยไม่รบกวนเพื่อนบ้าน หรือคนที่พักอาศัยอยู่กับท่าน เมื่อท่านเหยียบกระเดื่องนี้ สักหลาดสีขาวลดระดับลงไปอยู่หน้าหัวค้อน เพื่อกันไม่ให้หัวค้อนเคาะที่สายโดยตรง แต่เมื่อท่านใช้เปียโนไปหลายๆปี สักหลาดนี้สามารถเกิดการผิดรูปผิดร่าง และทำงานไม่สมบูรณ์ได้ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนสักหลาดสีขาวนี้เสมอ เพื่อให้เปียโนสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
IP : บันทึกการเข้า

วงดนตรีงานแต่งงาน The GooD Life  http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=806058.0
TheGoodLife
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2016, 13:28:01 »

หลังจากได้ความรู้เรื่องเลือกซื้อเปียโนมือสองแล้ว ด้วยงบประมาณไม่เกินสามหมื่นผมจะขอแนะนำเปียโนไฟฟ้า

ข้อมูลเอามาจากเวปพันทิปนะครับ

ก่อนจะเลือก Piano ไฟฟ้า คุณต้องเข้าใจ มันซักนิดนึงก่อน
Piano ไฟฟ้า ภาษาคนเล่น Piano เค้ามักจะเรียกกันขำๆว่า กระเทย..... คือมันไม่ใช่ของจริง แม้จะราคาเรือนแสน มันก็ยังไม่ใช่ของจริงอยู่ดี

อะไรบ้าง ที่ไม่เหมือนจริง ผมสรุป หลักๆ มีอยู่ 2 อย่าง คือ Key กับ เสียงครับ

ต้องเข้าใจเสียงจริงๆของมันก่อนว่าลักษณะของเสียง Piano เวลาเล่นออกมา ของแต่ละ Band ก็จะมีเสียงไม่เหมือนกัน

รายละเอียดของเสียง Noise ที่ประกอบ เช่นเสียงค้อน ที่เคาะสาย Hammer,  เสียงสายที่สั่นสะเทือน String Resonance, Paddle Resonance, Key-off Resonance ส่วนประกอบพวกนี้ ทำให้ Character ของ Digital Piano ออกมาไม่เหมือนกันเลย
ยกตัวอย่าง  Casio, Roland, Krog, Kurzweil ใช้เสียงจาก Steinway and Sons Model D แต่เสียงที่ออกมาจะมี Character ที่ไม่เหมือนกัน

เพราะฉนั้น จะส่งผล ในการเล่น เบาและหนัก มันจะออกมาหมือน กัน เพราะการเล่นในแต่ละน้ำหนัก มันไม่เหมือนกับการเร่งเสียงขึ้นนะครับ

การสังเคราะห์ เสียงของ Piano ไฟฟ้า ส่วนมากจะจับมาอยู่ที่ 2-5 velocity layers รุ่นใหญ่ๆ จะอยู่ที่ 5-8 velocity layers และ เสียงสังเคราะห์ ที่เป็นโปรแกรม Computer จะละเอียดถึง 18 velocity layers หรือ อาจมากกว่านั้น (ระดับน้ำหนักเสียงในการกด Key จะให้ Character เสียงที่ต่างกัน)

ที่พรรณา มาทั้งหมดเนี่ย เพื่อให้เข้าใจก่อนครับ ไม่ต้องไปศึกษารายละเอียดก็ได้

เพียงแค่อยากให้ไป "ฟังเสียง" ดัวยตัวเอง ว่าชอบเสียงแบบไหน เพราะเวลาเล่น มันจะสัมพันธ์กับ "ความสุข" ของผู้เล่นด้วย
----------

Keys !!

อันนี้ เรื่องยาวอีก ขอสรุปสั้นๆแลัวกันครับ Keys ที่เป็น Weight Piano นั้น มีอยู่ เยอะมากกกกกกกก หลากหลาย Band หลากหลาย รุ่น
ทั้งนี้ เพื่อให้มีความรู้สึกใกล้เคียงการเล่น Piano จริงที่สุด

แต่................

แม้แต่ Acoustic Piano ยี่ห้อเดียวกัน บางตัวในรุ่นเดียวกันด้วย ยังให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกันเลย

เพราะฉนั้น......... ไปลองจับเล่นดูเองครับ ว่าชอบแบบไหน

บางคนว่าหนักไปไม่ดี เล่นนานๆเหนื่อย (แต่สำหรับผมกับชอบ ได้แรงนิ้ว พอไปเจอตัว Key เบาๆ เล่นสบาย)
บางคนว่า เบาไป ดูไม่เฟริมมือ เล่นแล้วรู้สึก เหวงๆ

ความรู้สึกส่วนตัว ล้วนๆครับ ต้องลองเอง ของแบบนี้


ข้างล่างนี้ จากประสปการณ์การเลือกซื้อ Piano ให้แฟนผม คือเธออยากหัดเล่นเหมือนคุณ เพิ่งได้ไปลองเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ลองเอาไปเป็นข้อมูลนะครับ
------
Casio Px-350 ที่คุ้มราคาที่สุด อยู่ที่ประมาณ 29,000  ราคาเท่าๆกัน ตอนนี้

จริงๆตัวนี้เป็น Key buy award จากทุกๆสำนักในโลกนี้เลยจริงๆ คือ Feature ที่ให้มา มันเกินราคาของตัวมันมากกกก ไปชนกับรุ่นใหญ่ๆในตลาดแบบไม่มีอายใครเลย รุ่นใหญ่ๆบาง Band ยังให้ได้ไม่เท่าตัวนี้เลย
มีอะไรทีเด็ด หลักๆ เสียง Steinway 4 Layer ที่มี decay ยาวกว่าเดิม เกินครึ่ง, Key แบบ  Ivory & Ebony Key ที่พยายามทำสัมพัสให้เหมือน Piano จริง

(ทุกอย่างเป็นที่ พอใจผมเกือบทั้งหมด ยกเว้น Keys ที่สำหรับผมรู้สึกว่า เบาแลัวก็ไม่ เฟริมมือเท่าไหร่ คงเป็นเพราะชินกับ Yamaha, เสียงใช้ได้ดีถึงดีมาก แม้ว่าผมยังรู้สึกแปลกๆ เล็กๆ)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

----------------------
Yamaha P105
ส่วนตัว ในบรรดาเสียงผม ชอบ Yamaha ตัวนี้ที่สุดแล้ว เสียงเดียวกับ Yamaha P155 คือ เสียงแกรนด์ CF3S
แต่ ลำโพง มัน เบ๊าาา  เบา และเพราะได้ ความเบาของลำโพงมันเนี่ยแหละ พอมาเสียบกับ ลำโพง Monitor ถึงรู้ว่า เห้ย นี่มันเสียง CF3S นี่หว่า
กับความเฟริมของ Key Yamaha [ตัวนี้เป็น GHS ที่ผมรู้สึกว่า นน. ดีกว่า P35 ใกล้เคียง Key รุ่น Top ที่เป็น GH เลย อาจจะเบากว่า นิดหน่อย)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

--------------
Krog SP280  (ส่วนตัวไม่ชอบเสียง Piano กับ Key ของ Krog  อันนี้ ส่วนตัวนะครับ เลยไม่ได้ลอง บอกแฟนถ้าสนใจไปหาลองเอง -_-' )
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

-----------
Kawai ES-100
ลอง ผ่านๆ แต่เล่นเพลินทีเดียว อาจเป็นเพราะส่วนตัวชอบเสียง Kawai EX-Grand อยู่แล้วก็ได้ Character ที่ฟังแล้ว สบายหูดี decay ยาวมากก
ส่วน Key คล้ายๆกับ P-105 น้ำหนักใก้ลเคียงกันมาก ผมแยกแทบไม่ออก แต่ชอบใจ Key ตัวนี้มากกว่าผมว่ามันกำลังดี
ส่วนตัวเลย ผมให้คะแนน มันมากกว่า P105 อีก

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

--------------
Kurzweil MPS-10
ไม่มีโอกาศได้ลอง แต่ที่แน่ๆไม่ชอบ Key Fata
แต่จริงๆชอบเสียง Kurzweil นะ ผมเคยใช้ K-2500X อยู่ นานโข ปัจจุบันก็ยังชอบมันอยู่,
เสียง triple strike อันลือเลื่องของมัน อาจจะฟังไม่เป็น Acoustic สุดๆไปเลย แบบ Kawai หรือ Yamaha
แต่เสียงมันสวย เพราะ เล่นเพราะ ง่ายด้วย เหมาะสำหรับมือใหม่ครับ จะได้มีกำลังใจเล่นต่อไปเรื่อยๆครับ
รีวิว ไทยๆ เอาไปลองดูครับ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

------------------------

นอกจาก Keys กับ เสียง
ที่สำคัญสุด คือ Port เชื่อมต่อ USB/Midi เผื่ออยากเปลี่ยนเสียง ไว้เล่นกับ Sound Module หรือไว้ต่อคอม กับ Streo out

-----
สุดท้ายแฟนผมเลือก Casio ครับ ทั้งๆที่ผมเชียร์ Kawai นะ บอกตรงๆ
(เธอมีพื้นการเล่น อีเล็กโทนอยู่แล้ว  พอไปจับตัวจริง เธอกลับชอบ Casio มากว่า เห็นใหมครับ ขึ้นอยู่กับความชอบ)

ส่วนถ้าไม่มีพื้นเลย ใน Clip The sound chef มีสอนเล่นนะครับ แต่อย่างไรก็ดี
อยากให้ไปเรียนครับ อย่างน้อย เป็นแนวทางก่อนที่จะมาฝึกเองก็ยังดี
IP : บันทึกการเข้า

วงดนตรีงานแต่งงาน The GooD Life  http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=806058.0
TheGoodLife
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2016, 13:29:30 »

อ่ะใส่ข้อมูลเพิ่มไม่ได้ สงสัยเวปนึกว่าโทรจัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 ตุลาคม 2016, 13:36:23 โดย TheGoodLife » IP : บันทึกการเข้า

วงดนตรีงานแต่งงาน The GooD Life  http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=806058.0
TheGoodLife
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2016, 13:33:38 »

เดี๋ยวไว้มาใส่ข้อมูลเพิ่มให้วันหลังนะครับ

ใครสนใจอยากถามสอบถามเพิ่มเติมได้ครับ

หรือใครอยากทดสอบเสียงเปียบเทียบเปียโนไม้ U1 กับ U3 UX และ เปียโนไฟฟ้า เชิญไปทดสอบที่ The good life studio ได้ครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 ตุลาคม 2016, 13:42:04 โดย TheGoodLife » IP : บันทึกการเข้า

วงดนตรีงานแต่งงาน The GooD Life  http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=806058.0
TheGoodLife
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 31 ตุลาคม 2016, 00:49:19 »

มาต่อด้วยข้อมูลเปียโนไม้ยี่ห้อต่างๆอีกทีครับก่อนจะไปเปียโนไฟฟ้า อิอิ

ขออนุญาตอ้างถึงข้อความของคุณประสิทธิ์จากร้าน Peterson ที่เคย Post ไว้ในเวปเปียโนนะครับ


ข้อความข้างล่าง เป็น rating ที่ผมแปลมาจากหนังสือ the piano book ซึ่งแต่งโดย Larry fine 2007 เล่มใหม่ล่าสุดครับ (พึ่งออกมาได้ไม่กี่เดือน) ซึ่งได้จัดอันดับเปียโนเป็น 4 กลุ่ม

กลุ่ม 1 Highest quality performance piano
เปียโนในระดับนี้สำหรับคนที่ต้องการเปียโนทีีดีที่ สุด และมีงบประมาณไม่จำกัด เปียโนในกลุ่มนี้จะใช้เฉพาะวัสดุที่ดีที่สุด และเน้นการผลิตแบบ hand craft อย่างละเอียดทุกขั้นตอน มีขั้นตอนการออกแบบทีีซับซ้อนขั้นสูง และให้ความสำคัญกับคุณภาพเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก มากกว่าเรื่องของรายจ่ายที่เกิดขึ้นจากการสร้างเปียโน เหมาะสำหรับคนที่มีความคาดหวังสูงที่สุด เปียโนในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ผลิตในประเทศเยอรมัน (ตะวันตก) อเมริกา (เปรียบเทียบได้กับรถยี่ห้อ Rolls-Royce, Bentley, Mercedes-Benz) เปียโนในระดับนี้ ได้แก่
Steinway&sons
C. Bechstein
Sauter
Bosendorfer
Fazioli
Steingraeber & sohne
Forster
Bluthner
Grotrain

กลุ่ม 2 คือ   High-performance pianos
เปียโนในระดับนี้จะถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็น เปียโนที่มีประสิทธิภาพในระดับสูง ทั้งในด้านการออกแบบ การเลือกใช้วัสดุ และความสามารถของช่างฝีมือที่ผลิตเปียโน เหมาะสำหรับใช้ในบ้าน สถาบันดนตรี และสำหรับศิลปินรวมทั้งนักเปียโนมืออาชีพ มีขั้นตอนการผลิต ปรับแต่งทัช และ โทนเสียง ซึ่งเป็นขั้นตอน hand craft อย่างมากในระดับหนึ่ง แม้ว่าจะไม่มากเหมือนเปียโนในกลุ่มแรกก็ตาม มีการคำนึงเรื่องค่าใช้จ่ายในการสร้างเปียโน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัสดุ และขั้นตอนการผลิต อยู่ด้วย

แม้ว่าจะมีเหตุผลหลากหลายที่พูดกันทั่ว ไปที่ทำให้เปียโนในกลุ่มนี้ ยังไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่ 1 ก็ตาม แต่คุณภาพของเปียโนระหว่างกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่สองก็ถือว่าใกล้เคียงกันมาก และมีผู้ซื้อมากมายที่ไม่เห็นความแตกต่างอันนี้ ในด้านของราคาเปียโนทั้งสองกลุ่มนี้มีราคาแตกต่างกันอย่างมาก ซึ่งทำให้เปียโนในระดับนี้เปียโนที่มีคุณค่า และน่าซื้อ เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณอยู่ระดับหนึ่ง และต้องการ เปียโนที่ดีที่สุดในงบประมาณที่รองลงมา เปียโนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะผลิตจากประเทศ อเมริกา ยุโรปตะวันตก และยุโรปตะวันออก เปรียบเทียบได้กับรถยนต์ยี่ห้อ BMW Saab volvo Audi Lexus

เปียโนในกลุ่มนี้ได้แก่
Schimmel
Kemble
Petrof
Vogel
Seiler
Steinberg Wilh.
Estonia
Mason & Hamlin
Bechstein (Academy series)
Haesller
Schulze Pollmann
Walter Charles R.
Yamaha (S series)
Baldwin

กลุ่ม 3 Better quality consummer-grade pianos.
เปียโนในกลุ่มนี้ให้ความ สำคัญในเรื่องงบประมาณการสร้าง และประสิทธิภาพของเปียโนในระดับเท่าๆกัน เปียโนในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นเปียโนที่ทำในประเทศญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย และเป็นเปียโนที่สร้างแบบ mass produced แต่ยังให้ความสำคัญกับรายละเอียดต่่างๆด้วย แม้ว่าอาจมีจุดบกพร้องเล็กน้อยบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ผลิตออกมาได้มาตรฐาน เหมาะสำหรับใช้ในบ้าน และสถาบันดนตรี เป็นระยะเวลาหลายสิบปีแล้วที่เปียโนในกลุ่มนี้สามารถคุมมาตรฐานในการควบคุม คุณภาพได้เป็นอย่างดี และอุทิศตัวอย่างมากให้กับการบริการ และการรับประกันคุณภาพ นอกจากนี้กลุ่มนี้ยังมีเปียโนที่ผลิตในเกาหลี และอินโดนีเซียอยู่ด้วย ซึ่งอาจมีคุณภาพที่ไม่สม่ำเสมอเท่าไร แต่ก็มีโดดเด้นในด้านการออกแบบที่ดี เปียโนโนในกลุ่มนี้เทียบกับรถ honda, Toyata, Subaru, Upper-level Kai, Hyundai
เปียโนในกลุ่มนี้ได้แก่

Boston (kawai with steinway)
Kawai (vetical and RX series grands)
Perzina (vertical)
Pramberger, J.G. (Samick)
Weber, Albert (Young Chang)
Yamaha (vertical and C series grands)
Young change (Platinum Edition)

Baldwin (vertical)
Essex (Young Chang, Korea with steinway)
Kawai (GM and GE series grand)
Knabe, Wm (samick)
Weber (Sovereign series) (Young Change)
Yamaha (GB and GC grands)
Young Change (prefessional Artist series)

Kohler & Campbell (Millenium series) (Samick)
Pramberger. J. (Samick)

กลุ่ม 4 Medium quality consumer-grade pianos
เปียโนในกลุ่มนี้ส่วนมากจะเน้นนโยบายการ ผลิตไปทางการประหยัดต้นทุนมากกว่าคุณภาพ
โดยทั่วไป การควบคุมคุณภาพทำได้ไม่ดีเหมือนเปียโนในกลุ่มที่ 3 ดังนั้น ผู้แทนขายเปียโนในกลุ่มนี้จึงมีความจำเป็นต้องให้ความใส่ใจในการปรับแต่ง ท้งก่อนการขาย และหลังการขายด้วย

สำหรับเปียโนบางยี่ห้อ ที่อยู่ในระดับ upper-level chinese brand การควบคุมคุณภาพ และคุณลักษณะที่ดีกว่า ทำให้้้ปียโนในระดับนี้สามารถเป็นคู่แข่งกับเปียโนในกลุ่มที่ 3 ได้ แต่เนื่องจากยังเป็นยี่ห้อที่พึ่งผลิตได้ไม่นาน ทาง larry fine จึงขอจัดเปียโนเหล่านี้อยู่ในกลุ่มที่ 3 ก่อนสักระยะหนึ่ง เปียโนในกลุ่มนี้เหมาะสำหรับบ้าน และสถาบันดนตรีีขนาดเล็ก  นักเรียนที่มีเปียโนรุ่นเล็กของเปียโนในกลุ่มนี้อาจมีความจำเป็นต้องเปลี่ยน เป็นเปียโนที่มีขนาดใหญ่ขึ้และดีขึ้น เมื่อเรียนในระดับที่สูงขึ้นในอีกหลายปีข้างหน้า เปียโนในหลุ่มนี้ ผลิตในประเทศจีน อินโดนีเซีย ที่ดูแลโดยบริษัทจากประเทศเกาหลี สามารถเปรียบได้กับรถ kia, Hyundai และรถที่ผลิตจากประเทศจีน

Broadmann
Evel, Carl(Perina)
Heintzman
May Berlin
Perzina (grand)
Steinberg Gerh. (Perzina)
Linden (Beijing with kawai)
Everett (grands) (Dongbei)
Hallet, Davis (Grand) (Dongbei)
Nordiska (grands) (Dongbei)

Bergmann (YOung chang)
Essex (Pearl River or Young Change/ China with steinway)
Hailum
Kohler & Campbell (except Millennium series) (Samick)
Miller, Henry F. (Peal River)
Palatina (AXL)
Pearl River
Remington (samick)
Ritmuller (Peral River)
Samick
Steigerman (Premium series) (Hailum)
Weber (Legebd series( (Young Change)

Cable, Hobart M. (Sejung)
Nothingham (Sejung)
Christofori (Sejung)
Everett (verticals) (Dongbei)
Falcone (Sejung)
Gulbransen (sejung)
Hallet, Davis (verticals) (Dongbei)
Hamilton (Sejung/ Baldwin)
Hardman, Perk (Beijing)
Meister, Otto (Beijing)
Nordiska (vertical) (Dongbei)
Steck, Geo. (Sejung)
Steingerman (Beijing)
Story & Clark (vertical) (Dongbei)
Suzuki (artfield)
Vivace (Sejung)
Wurlitzer (Sejung/ Baldwin)
Wyman (Beijing)
IP : บันทึกการเข้า

วงดนตรีงานแต่งงาน The GooD Life  http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=806058.0
mat 77
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 405


« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 01 พฤศจิกายน 2016, 08:04:02 »

ซื้อเปียโนมือสอง ที่ไหนดีครับ



 

ลองไปดูร้านมือสองญี่ปุ่นตรงนี้หรือยังครับ เคยเห็นตั้งวางขายอยู่ทั้งไฟฟ้า,อัพไรท์


* Screenshot_20161101-074750_20161101075548602.jpg (233.76 KB, 499x887 - ดู 844 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
TheGoodLife
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 01 พฤศจิกายน 2016, 09:27:31 »

เปียโนขยะ มะเร็งร้ายของวงการเปียโนไฟฟ้า โดย เชฟจัมโบ้



ผมคิดอยู่นานมากครับกว่าจะเขียนเรื่องนี้ เพราะมันอาจจะกระทบหลายๆฝ่าย และตัวผมเองก็อาจจะโดนด่าว่าเขียนเข้าข้างตัวเองทำนองนี้ แต่ก่อนที่จะคิดไปแบบนั้น อยากให้ลองเปิดใจ และลองอ่านดูเหตุและผลก่อนครับ ส่วนตัวผมนั้นแค่อยากจะแค่หยุดไอ้เจ้าวงจรอุบาทว์นี้ ที่ทำให้ชื่อของเปียโนไฟฟ้าต้องเสื่อมเสีย คนที่ซื้อไปก็ได้ของคุณภาพกับที่ไม่สมกับราคาที่ตัวเองจ่ายไป  ส่วนคนขายก็ยิ้มไปเลยเพราะกำไรเนื้อๆ เน้นๆ เหนาะๆ


สาเหตุหนึ่งและอาจจะเป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดของวงจรณ์อุบาทเปียโนขยะนี้ นั่นก็คือความไม่รู้ของผู้ซื้อ และในบางครั้งความไม่รู้ของผู้ขายด้วย คำว่าเปียโนขยะในความหมายของผมก็คือ home piano ที่มันเก่ามากๆจนเค้าทิ้งแล้ว (ถึงแม้สภาพจะดีหรือใหม่กิ้กขนาดไหนก็ตาม) หลายๆตัวเป็นพวก Clavinova เก่าๆ หรือขายกันถูกๆแบบเหมือนได้ฟรี สามพันเยน ห้าพันเยน (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2553, 100 เยน = ประมาณ 35 บาท)


ทราบหรือไม่ว่า Clavinova ตัวแรกนั้นออกมาตั้งแต่ปี 1983 แล้ว Clavinova รุ่นแรกๆที่ออกมานั้นยังไม่ใด้ใช้ AWM หรือเทคโนโลยีของ Yamaha ในการ sample ด้วยซ้ำไป แต่ยังเป็น FM Synthesis เหมือนในเครื่องอย่าง  DX7 อยู่เลย (ซึ่งมันเป็นตำนานครับในเรื่องของความเป็นเอกลักษณ์ของ FM แต่ไม่ใช่สำหรับเสียงอคูสติกเปียโนแน่ๆ) เปียโนในยุคนั้น หากจะให้เทียบกับทีวี ก็คงเป็นทีวีจอสีรุ่นแรกๆ ตู้ไม้ ที่ยังไม่มีแม้แต่รีโมทด้วยซ้ำ ใช้มือบิดเปลี่ยนช่องเอา ยังไม่มีช่อง av in ต้องมานั่นจูนช่องเองเหมือนพวกเครื่อง famicom และนั่นล่ะครับ คือเหตุผลที่มันเป็นขยะมากกว่าเป็นเปียโน คือมันเก่าจนเค้าไม่ใช้กันแล้ว และถึงใช้ ก็ใช้ไม่ได้ดี และที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ มันมักจะถูกนำมาขายในราคาหมืนกว่าบาทไปจนถึงสองหมื่นกว่าบาท ทั้งๆที่ราคาของพวกนี้ในญี่ปุ่น สามพันเยน ยังคิดกันหนักเลยครับ


เหตุผลของตรงนี้ก็เนื่องมาจากตัวผู้ซื้อเอง เห็นเปียโนมันดูเป็นไม้ๆ ดูมีราคาดี ก็เลยโทรไปหาผู้ขาย ทั้งๆนี้ตัวผู้ซื้อเองนั้นมีประสบการณ์เกี่ยวกับเสียงเปียโนน้อยมากหรืออาจ จะไม่มีเลย หลายๆคนอาจจะยังไม่เคยฟังเสียงเปียโนที่ดีๆ ด้วยซ้ำไป  ทีนี้ผู้ขาย ที่เป็นมือเบสบ้าง กีต้าร์บ้าง หรือไม่ได้ทำอะไรที่เกี่ยวกับเปียโนเลย ก็บอกว่า โห เปียโนตัวนี้เสียงเพราะมาก ทัชชิ่งเหมือนเปียโนแกรนด์เลย แค่คำแรกนี้ผู้ซื้อก็หูผึ่งแล้ว ทีนี้ผู้ขายก็เลยฉวยโอกาสนี้โฆษณาต่อ “สภาพก็ดีมาก ของมือสองที่ญี่ปุ่นสภาพสวยๆเหมือนใหม่ เค้าใช้กันแป้ปๆเค้าก็ทิ้งแล้ว”…


หากใครได้มีโอกาสคลุกคลีกับของมือสองที่ญี่ปุ่น (หรือที่ใดในโลกก็ได้) ก็จะค้านกับประโยคนี้หัวชนฝาเลยครับ ไม่มีคนชาติใดในโลกหรอกครับที่ไม่อยากขายของได้ราคา และไม่มีผู้ขายคนไหนในโลกหรอกครับ ไม่ว่าจะเป็นชาติไหน ที่ซื้อของมาวันนี้แสนนึง อีกสองอาทิตย์ผ่านไปเต็มใจจะขายเหลือสองหมื่น หรือถ้าต่อให้ขายสองหมื่นจริง ผู้ซื้อคงไม่มีโอกาสได้ซื้อ เพราะคงจะต้องเหยียบกันตายก่อน จริงๆแล้วราคาขายของมือสองที่ญี่ปุ่น โดยเฉพาะเครื่องดนตรี คีย์บอร์ด เปียโนไฟฟ้าแบบนี้ ราคาจะตกน้อยมากๆเลยครับ ยิ่งถ้าเป็นรุ่นใหม่ๆ สภาพสวยๆ ราคาที่ขายกันนี่เรียกได้ว่าไล่กับของใหม่เลยทีเดียว (ตกไม่ถึง 10-15%) ลองคิดเล่นๆดูครับ สมมุติว่าเราซื้อ LED TV รุ่นใหม่ล่าสุดมาเลยวันนี้ หนึ่งแสนบาท อีกเดือนนึงเราจะขาย เรารู้ว่าเราขายที่ 90000 ก็ยังจะมีคนซื้อ คือเป็นจุดที่ตัดกันของความพอใจของผู้ซื้อและผู้ขายแล้วเราจะขาย 20000 มั้ย? ก็คงไม่ใช่มั้ยครับ?


ทีนี้มาจินตนาการต่อครับ ว่าในกรณีไหนผู้ขายถึงจะยอมขาย LED TV เครื่องนั้นในราคาพันหรือสองพันบาท (เหมือนเปียโนขยะที่ผมบอกไป ราคาซื้อใหม่แสน แต่ขายออกไปแค่ สองพันเยนถึงห้าพันเยน หรือประมาณ เจ็ดร้อยถึงพันกว่าบาท) … ใช่แล้วครับ นั่นก็คือเมื่อ LED TV มันเป็นเทคโนโลยีที่เอ้าท์ไปแล้ว แล้วไม่ใช่เอ้าท์ไปธรรมดาด้วย แต่เอ้าท์ไปสุดๆจนเป็นขยะไปแล้ว ถ้าเป็นโทรศัพท์มือถือ ก็คงประมาณรุ่นกระดูกหมา ถ้าทีวี ก็คงเป็นทีวีตู้ไม้จอโค้งไม่มีรีโมทไม่มีช่อง AV หรือถ้าเป็นรถก็คงเป็นรถที่ยังไม่มีแม้แต่ดิสก์เบรค เซ็นทรัลล็อค พวงมาลัยไฟฟ้า เกียร์ออโต้….


แล้วทีนี้ ไอ้โทรศัพท์กระดูกหมา หรือทีวีตู้ไม้จอโค้งไม่มีรีโมทและช่อง AV หากเป็นเปียโน “ขยะ.” มันจะเป็นยังงัยล่ะ?
ก่อนอื่น เราต้องมาทำความเข้าใจกับก่อนครับ ว่าเปียโนไฟฟ้าเนี่ย มันเป็นอุปกรณ์เทคโนโลยี 100% เทคโนโลยียังงัย? ก็คือเทคโนโลยีในการ “จำลอง”เสียงเปียโน และ “ความรู้สึก” ของการเล่นเปียโน หรือถ้าจะให้พูดภายในคำเดียวก็คือ “จำลองประสบการณ์เล่นอคูสติกแกรนด์เปียโนชั้นเยี่ยม” นั่นเอง ซึ่งอะไรก็ตามที่เข้าข่ายการจำลอง เลียนแบบอะไรทำนองนี้ มันจะดีขึ้นตามกาลเวลาครับ ยกตัวอย่างเช่น เกมส์ขับรถ เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว กับปีนี้ ความสมจริงมันก็ผิดกัน เอฟเฟ็คกีต้าร์ ซึ่งเดี๋ยวนี้พวก VST (Virtual Instrument) มันทำได้เหมือนจนเวลาอัดแทบไม่มีใครเค้าใช้เอฟเฟ็คจริงกันแล้ว หรือแม้กระทั่งกระเทย น้องปอยก็เป็นผลจากเทคโนโลยีจำลองการเป็นผู้หญิงที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องจน ถึงทุกวันนี้..
เพราะเหตุนี้เช่นนี้ สำหรับเปียโนขยะ:-


-คุณจะไม่มีวันคาดหวังความสมจริงได้เลย เนื่องจากเทคโนโลยีที่จำกัดในอดีต เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว เราใช้ waverom ขนาดเพียงแค่ 1MB สำหรับเปียโนไฟฟ้า(หากเป็นรุ่นก่อนหน้านั้น บางทีเป็น FM Synthesis ด้วยซ้ำ นั่นก็คือ เป็นเปียโนที่เสียงถูกสังเคระห์มาจากการ modulate frequency ไม่ได้ใช้เทคโนโลยี sampling และไม่มี waverom ด้วยซ้ำ) ในปัจจุบันนี้ เปียโน CVP รุ่นสูงๆ (507 509) ใช้ waverom ขนาดเป็นร้อยเม็ก สำหรับเสียงเปียโนเพียงเสียงเดียว ลำพังแค่นี้ก็ต่างกันเป็นร้อยเท่าแล้วครับ นี่ยังไม่รวมถึงพวก VST Piano อย่าง Ivory ที่มีขนาดเป็นหลายๆสิบ GB  (ประมาณ 30-40GB ไม่รวม expansion pack) นั่นก็คือ ขนาดที่ต่างกันถึง 3 หมื่นเท่าของ waverom!!! เมื่อเทียบกับเปียโนขยะเก่าๆ


-เทคโนโลยีของคีย์ ถึงแม้เทคโนโลยีของคีย์จะพัฒนาไปช้ากว่าเทคโลยีของ waverom  แต่ที่ผ่านมา ก็มีเทคโนโลยีหลากหลายที่ออกมาซึ่งทำให้คีย์มีความรู้สึกที่ใกล้เคียงอคูสติ ดเปียโนได้มากๆ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว กลไกของคีย์เรา อาจจะเป็นเพียง คีย์พลาสติก สปริง ตะกั่ว แต่ในปัจจุบัน สิ่งที่อยู่ใต้คีย์ของเปียโนไฟฟ้าก็คือค้อนที่จะลองมาจากค้อนของ acoustic grand piano ในหลายๆรุ่นมีการจำลองแม้กระทั่งกลไกล escapement ของ acoustic grand ในหลายๆรุ่นมีการใช้คีย์ไม้จริง และในหลายๆรุ่นมีกระทั่งการจำลองสัมผัสของคีย์ให้ใกล้เคียงกับงาช้างเพื่อ ซึมซับความชื้นในระหว่างเล่น


-ข้อจำกัดของ Polyphony เนื่องด้วยความสามารถของชิปประมวลผลที่จำกัดในเปียโนไฟฟ้าเก่าๆ ทำให้หลายๆตัวมี polyphony (จำนวนโน้ตที่กดได้พร้อมกัน รวมเสียงที่ค้างไว้จากการเหยียบ pedal) จำกัดมากๆ เช่น 16 หรือ 32 ซึ่งสำหรับ passage ที่ยากๆ หรือ arpeggio หรือพวก glissando แล้ว polyphony แค่ 16 หรือ 32 อาจจะไม่เพียงพอ เปียโนไฟฟ้าในปัจจุบันมี polyphony ตั้งแต่ 32 64 128 196 ขึ้นไป ทำให้อาการ polyphony หมดจะไม่เกิดขึ้นอีก
ทั้งหมดนี้ผมว่าน่าจะเป็นเหตุผลที่เพียงพอสำหรับการปฏิเสธเปียโนขยะครับ ชื่อก็บอกว่า เปียโนขยะ คือขายเป็นขยะ ไม่ได้ขายมาให้เล่นอีกแล้ว แต่ที่สำคัญก็คือ ในญี่ปุ่นขายเป็นขยะจริง แต่พอเอาเข้ามาเมืองไทย คนขายก็ไม่รู้เรื่อง เห็นเป็น cabinet แบบเปียโนสวยๆ ก็ขายกันซักหมื่นกว่าสองหมื่นสามหมื่น ซึ่งเป็นราคาที่ซื้อเปียโนไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆระดับล่างได้ ไม่ใช่ราคาขยะ หากจะให้เทียบเปียโนไฟฟ้ารุ่นท๊อปเมื่อสิบห้าปียี่สิบปีมาแล้ว เทียบกับเปียโนไฟฟ้ารุ่นล่างๆปัจจุบัน ลองคิดถึงเทคโนโลยีของ CPU ดูครับ รุ่นท๊อปเมื่อสิบห้าปีมาแล้วอาจจะเป็น Pentium Pro 200MHz แต่รุ่นล่างสุดในปัจจุบัน เอาล่างสุดจริงๆใส่ใน netbook ก็ได้ ก็น่าจะเป็น Intel Atom  ซึ่งมันก็เร็วกว่า Pentium Pro 200MHz เป็นไหนๆ ฉะนั้นผมก็ยังยืนยันครับว่า แม้แต่เปียโนรุ่นล่างสุดในปัจจุบัน (ไม่รวมพวกเปียโนจีน) เปียโนรุ่นล่างสุดนี้ ก็ยังน่าซื้อกว่าเปียโนขยะครับ หากบ้านคุณไม่ได้เป็นพิพิธภัณฑ์ มองข้ามตรงนี้ไปเถอะครับ…


ทีนี้อาจจะมีคนถามว่า เอ แล้วทำไม stage piano (เปียโนไฟฟ้าที่ใช้บนเวที) ถึงแม้จะเก่าแล้ว แต่หลายๆทีราคายังสูงอยู่ล่ะ? ตรงนี้มันไม่เหมือนกันครับ เพราะ stage piano ไม่ใช่ขยะ จุดประสงค์ของ stage piano ในหลายๆทีไม่ใช่การจำลองเสียงเปียโน พยายามเป็นเปียโน แต่เป็นการสร้างเครื่องดนตรีที่เรียกว่า stage piano สำหรับใช้บนเวที ให้มีเสียงที่มี character ในแบบเฉพาะสำหรับตัวมันเอง ให้มีเสียงที่เหมาะสมกับการเล่นกับ band เพราะฉะนั้น ด้วยตัวมันเองจึงเป็นเครื่องดนตรีในแบบของมันเอง มีคุณค่าในแบบของมันเองครับ

วิธีสังเกตุว่า เปียโนนั้นๆเป็นเปียโนขนะหรือไม่
1. เปียโนขยะจะ google ไม่ค่อยเจอ  เพราะเก่าจัด ยกเว้นบางรุ่นที่อาจจะไม่ได้เก่าแต่มีขายในประเทศญี่ปุ่นอย่างเดียว
2. เปียโนขยะมักอยู่ในรูปแบบของ Home Piano มีตู้ไม้ เพราะว่าผู้ขายเห็นตู้ไม้แล้วทราบว่าผู้ซื้อจะคิดว่ามันสวยคลาสสิคและแพง
3. เปียโนขนะมักจะถูกขายโดยคนที่เล่นเครื่องดนตรีชนิดอื่น เช่น กีต้าร์ เบส กลอง ผู้ขายหลายๆคนไม่รู้จริงๆว่ามันคือขยะ อีกกลุ่มนึงที่ชอบขายเปียโนขยะก็คือร้านขายเปียโนอคูติกที่นำเข้ามาจาก ญี่ปุ่น เพราะพวกนี้เห็นเปียโนขยะขายกันที่ญี่ปุ่นเป็นขยะถูกมากๆ จึงเอาติดตู้มาขายในประเทศไทยด้วย
4. หากคีย์ใช้กลไกเป็นตะกั่วหรือสปริง ซึ่งหากคุณพอมีประสบการณ์ตรงนี้แม้เพียงเล้กน้อย คุณจะทราบได้ทันที เปียโนที่มีกลไกเป็นแบบนี้ โดยทั่วไปจะเก่าจนเข้าข่ายเปียโนขยะได้ครับ
5. เสียงเปียโน สภาพ ดีไซน์ ตรงนี้ต้องอาศัยประสบการณ์เล็กน้อยครับ หากเราฟังของดีมาเราจะรู้ทันทีว่าไอ้นี่มันขนะหรือของขวัญ อีกอย่างที่บอกได้คือดีไซน์ มีเปียโนขยะหลายรุ่นที่มีดีไซน์ที่ฟ้องถึงอายุของมัน เช่น ฝาปิดคีย์สีชา เป็นต้น
6. Google อีกแล้วครับ ถ้ามันเป็นเปียโนที่ออกมาก่อนปีซัก 95 ให้จัดมันเป็นเปียโนขยะได้เลยครับ

จริงๆแล้วเปียโนขยะ นอกจากจะทำให้คุณได้ขยะราคาแพงแล้ว ยังเป็นความสูญเสียของวงการเปียโนไฟฟ้าอีก เพราะอาจจะมีพวกอาจารย์เปียโนที่ไม่เคยรู้จักเปียโนไฟฟ้าเลยมาลองเล่น และเพราะมันห่วยจริงเค้าจะด่า แล้วเอาไปเล่าต่อให้คนอื่นๆและลูกศิษย์ฟัง ทำให้เปียโนไฟฟ้ามีชื่อเสียงที่ไม่ค่อยดีต่อไปกับกลุ่มๆนี้ ถึงแม้จริงๆแล้วเทคโนโลยีของเปียโนไฟฟ้าถูกพัฒนาไปไกลกว่าจุดนั้นมากๆแล้วก็ตามครับ

IP : บันทึกการเข้า

วงดนตรีงานแต่งงาน The GooD Life  http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=806058.0
TheGoodLife
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 01 พฤศจิกายน 2016, 19:06:56 »

สุดท้าย เพื่อไม่ให้เบื่อ มาฟังเสียงเปียโนไฟฟ้าราคาสามหมื่นกันว่ายี่ห้อไหนเสียงเป็นงัยบ้าง



https://www.youtube.com/watch?v=odVfurg9VpE

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 01 พฤศจิกายน 2016, 19:18:49 โดย TheGoodLife » IP : บันทึกการเข้า

วงดนตรีงานแต่งงาน The GooD Life  http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=806058.0
Jean Screen Club..ของขวัญมีไอเดีย
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 608


Screen Club ..ของขวัญมีไอเดีย


« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 04 พฤศจิกายน 2016, 19:57:56 »

กระทู้เมื่อปี 2010   ตกใจ ตกใจ ตกใจ ตกใจ

เชียงราย มีที่ไหนสอนเปียโนบ้างครับ
เป็นเครื่องดนตรีที่ผมอยากเล่นมากที่สุด    ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า

ตาต้อม
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,562


รับสร้างบ่อปลาแฟนซีคาร์ฟ สระว่ายน้ำราคาประหยัด


« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 04 พฤศจิกายน 2016, 20:00:59 »

มีที่เชียงรายคะ...พอดีต้องย้ายบ้านด่วน เปียโนเป็นแบบอัพไลด์คะ...เปียโนญี่ปุ่น สภาพดี สนใจโทรกลับด่วนเลยนะคะ 083-8673955 ขายให้
กระทู้นี้ หกปีผ่านมาแล้วครับ ป่านนี้เจ้าของกระทู้มือคงพริ้วแล้วล่ะครับ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า

ณฐมน Aquarium รับสร้างบ่อปลาคาร์ฟ ตู้ปลา ระบบกรอง  080-8099866,083-7655542
  กด > https://www.facebook.com/NathamonAquarium
รับสร้างสระว่ายน้ำ ราคาประหยัด น้ำตกหินเทียม ไม้เทียม บ้านโครงสร้างเหล็ก
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!