ขอบคุณครับสำหรับความคิดเห็นต่างๆครับท่าน
ความพอเพียงตามแนวพ่อหลวง แบ่งตามขนาดความเหมาะสมของธุรกิจครับ และไม่ได้หมายความว่าธุรกิจหรือกิจการนั้นจะย่ำอยู่กับที่ ที่บอกว่าสิบกลุ่มงาน
คือความก้าวหน้าทางกิจการที่คาดว่าอาจจะเกิดได้ รายได้ที่เกิดขึ้นก็เกิดการสร้างงานขึ้นด้วยครับ
อืมม.. เท่าที่ผมเข้าใจ ใจความสำคัญของหลักเศรษฐกิจพอเพียง ท่านเน้นให้เรารู้จัก “พอ”
และรู้จักวิธีใช้ในสิ่งที่มี ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนะครับ ไม่ใช่ให้ “หาเพิ่ม”
ดังนั้นถ้าจะถามถึงวิธีการที่จะทำยังไงให้มีรายได้(เสริม)หลังหัก “ค่าใช้จ่าย” แล้วให้เหลือเงินเดือนละ 50,000 บาท คงไม่เข้าข่ายที่จะใช้คำว่าพอเพียงแล้วกระมังครับ ^^.
เวลาผมไม่ค่อยมีครับ ผมเลยคิดว่าจะหาคนที่มีเวลามาสานต่อกิจการที่ผมคิดขึ้นโดยที่ผมมีรายได้ด้วย ทุกคนที่ทำงานกับผมล้วนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากรายได้ที่มากขึ้นและเวลากินเหล้าน้อยลง(เพราะทำงาน) ปัญหาครอบครัวไม่ค่อยเกิดเพราะที่เกิดส่วนใหญ่มาจากเรื่องเงินแทบทั้งนั้น เงินที่เป็นรายได้ที่ได้มาผมมีวิธีคืนให้สังคมในแบบของผมครับ
ส่วนเรื่องทุนผมก็มีไม่มากอีกนั้นแหละครับเลยไม่ได้บอกว่ามีเงินทุนเท่าไหร่ เพราะคิดว่าใครบอกอะไรมาเราเอามาปรับใช้เอาครับ ที่ผมตั้งโจทย์รายได้สูงก็เพราะคิดว่าคนที่จะทำกับเราจะได้มีรายได้ที่ดีไปด้วย แต่ถ้าจะให้ผมลงทุนห้าแสนแต่รายได้เดือนละห้าพันผมก็ไม่ไหวเหมือนกัน
{ ถ้าลงทุนด้วยงบลงทุนตามที่ว่าแล้วทำไมต้องได้แค่ห้าพันละครับ? } อย่าแปรประเด็นของผมไปเป็นประเด็นของคนที่คิดอยากจะรวยเลยครับ ผมมีจุดมุ่งหมายของผมว่าจะนำรายได้ไปทำอะไร เพื่ออะไรโดยที่ไม่ต้องใช้เงินตัวเอง เพียงแต่บางเรื่องผมคงไม่ต้องตีแผ่ให้ใครรู้ทั้งหมดเพราะยังไม่ได้ทำครับ..
{ อย่าเรียกว่าตีแผ่เลยครับเรียกว่าให้ข้อมูลในการแสดงความคิดเห็น และเพื่อประเมินความน่าจะเป็นจากโจทย์ที่ตั้งมาน่าจะเหมาะกว่าครับ } กลับเข้ามาประเด็นต่อครับ เห็นท่านว่าธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสด 50,000/เดือน มีเยอะ ท่านช่วยแนะนำให้ผมและท่านอื่นที่สนใจหน่อยครับ จะทำได้ไม่ได้เดี๋ยวเผื่อบางคนปรับใช้ได้ครับ เพราะบางคนอาจย่อลงเหลือ 5,000/เดือนเค้าก็พอสำหรับเขาแล้วก็ได้ครับ..
ใครมีอะไรแนะนำพูดคุยได้ครับ แลกเปลี่ยนความคิดกันครับ เป็นความคิดที่ดีและน่าชื่นชมครับที่อยากช่วยเหลือสังคมและคนรอบข้าง แต่ทั้งนี้การช่วยที่ดีและมีความหมายที่สุดน่าจะเป็นการช่วยโดยที่ไม่หวังอะไรตอบแทนจากคนที่เราช่วยนะครับ ( ไม่ได้หมายถึงการจ้างงานในระบบปกตินะ )
แต่ก็อย่างที่คุณ 11lee บอกไว้ แต่ละคนก็มีวิธีคืนและตอบแทนให้กับสังคมในวิถีทางรูปแบบของตัวเองแตกต่างกันไป เห็นด้วยในข้อนี้ครับ
ส่วนเรื่องที่ผมบอกเกี่ยวกับเรื่องการลงทุนหรือธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสด 50,000/เดือน ว่ามีเยอะนั้น ขอให้ดูในหมายเหตุที่ผมได้เขียนต่อท้ายไว้ด้วยนะครับว่า...
ธุรกิจหรือการลงทุนที่สามารถสร้างกระแสเงินสดในระดับ 50,000 บาทต่อเดือน มีครับเยอะด้วย
แต่ทั้งนี้ก็มีส่วนสัมพันธ์กับ "เงินทุน" และ "เวลา" ที่จะใช้กับธุรกิจหรือการลงทุนนั้นๆด้วยเช่นกัน.... ดังนั้นการที่จะสร้างธุรกิจหรือลงทุนในสิ่งที่ให้ผลตอบแทนในระดับนี้ได้ ต้องมีปัจจัยสำคัญอย่าง “เงินทุน” และ “เวลา” ด้วย แต่ในเมื่อคุณ 11lee บอกว่าไม่มีทั้งคู่ ( บอก A ติด B บอก B ติด C บอก C ติด A วนอยู่อย่างนี้ ) มันก็ค่อนข้างยากที่ให้คำแนะนำต่อแล้วละครับ
แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ขอทิ้งท้ายในเรื่องนี้ไว้อย่างนี้ก็แล้วกันครับว่า
ถ้าเงินทุนไม่มาก เราต้องชดเชยด้วย “เวลา” ในการทุ่มเทบริหารจัดการดูแล
ถ้าเวลาไม่มี ก็ต้องชดเชยด้วยการใช้ “เงินทุน” ทั้งในการสร้างระบบมาช่วย หรือว่าจ้างคนมาดูแล
และถ้าไม่มีทั้งคู่นี่ก็เหนื่อยมากพอสมควรแล้วที่จะทำตามโจทย์ที่ตั้งไว้ให้เป็นจริงได้ แต่ทั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไร้หนทางซะทีเดียว
เราต้องชดเชยการขาดหายของ “เวลา” และ “เงินทุน” ด้วยสิ่งที่เรียกว่า “ไอเดีย” แต่ก็ต้องเป็นไอเดียที่โดดเด่นมากพอที่จะดึงความสนใจจากนายธนาคารหรือเจ้าของเงินทุนให้หันมาสนใจได้
เมื่อมีไอเดีย(C)ที่สามารถดึงเงินทุนมา คุณก็สามารถใช้เงินทุน(A)นั้นในการ ซื้อเวลา(B)ของคนอื่นมาใช้
แต่ทั้งนี้ถ้าจะพูดถึงเรื่องไอเดีย อยากให้ลองคิดภาพตามนี้ ถ้าคุณขุดเจอเพชร ( ที่เปรียบเสมือน ไอเดียในการทำเงินจากธุรกิจ ) คุณจะเอาไปขาย หรือว่ายกให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาหน้าบ้านฟรีๆไหม? เต็มที่ก็คงบอกแค่ว่าขุดได้ยังไง ตรงไหน มีปัจจัยและเพราะอะไรถึงขุด อย่าลืมนะครับว่าในพื้นฐานของความเป็นจริงเราไม่ได้อยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยคนที่มีน้ำใจดีๆขนาดนั้น ( หายากครับแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี ) ไงก็ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในเรื่องนี้ครับ