วิเคราะห์มูลค่าการซื้อขายกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์

[Cupid]

ลองมาวิเคราะห์กันเล่นๆว่า เมื่อช่วงที่มูลค่าการซื้อขายที่ว่าสูงๆกันนั้นคือประมาณวันละ 35,000 - 45,000 ล้านบาท นั้น ดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะอยู่ในระหว่างช่วง 1,000 - 1,200 จุด

แต่ห้วงเวลานี้ มูลค่าการซื้อขายจะสูงถึงวันละ 40,000 - 60,000 ล้านบาท บางวันก็สูงถึง 70,000 ถึง
80,000 ล้านบาท เป็นอย่างนี้มาได้ 5 -6 เดือนแล้ว

และขณะนี้ดัชนีฯใกล้ถึง 1,600 จุดแล้ว

เป็นไปได้ไหมที่มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นประมาณเกือบ 100 % ดัชนีจะเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 100 % บ้าง (คือดัชนี
น่าจะไปถึงใกล้ๆ 2,000 จุดหรือไม่)

[thexfile]

ส่วนตัวเห็นว่าน่าจะขึ้น 1600 แล้วไปต่อนะครับ เพราะยังไม่เห็นปัจจัยลบ แต่ระวังตัวไว้ก็ดีครับ 

[Teanchanapanya]

เปิดตัวไหนดูก็หน้าเทรดไปหมด (ดูดีไปหมดอะ)  แต่ดูมันสูงๆนะครับ

[ซาลาเปา(เฉพาะกิจ)]

งานเลี้ยงมีวันเลิกลา
จะเป็นวันไหน เสียวๆ  

[แมงมุม]

.

มูลค่าซื้อขายนั้น ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วครับ ว่า มีทั้ง ซื้อ และ ขาย

ดังนั้น ถ้ามีการซื้อขายเปลี่ยนมือกันหลายครั้ง ทำให้มูลค่าการซื้อขายมันสูง

แต่ในขณะที่ ดัชนี แสดงถึง มูลค่าหุ้น ทุกตัวในตลาด

เหมือน ของราคา 100 บาท ซื้อขายกันที่ราคาเดิม 5 ครั้ง มูลค่ามันก็ 500 บาท (100 + 100 +100 +100 +100 ) แต่ดัชนีจะเป็น 100 เหมือนเดิม (เพราะมูลค่าของหุ้นไม่เปลี่ยน)

แต่ถ้า ซื้อกันที่ราคา 100 110 120 130 140  มูลค่าซื้อขายจะเป็น  600 บาท (100 + 110 + 120 + 130 +140) แต่ดัชนีจะเป็น 140 (เพราะมูลค่าของหุ้นเปลี่ยน)

---------------------

ดังนั้น ถ้ามูลค่าซื้อขายสูง แต่ดัชนีไม่เปลี่ยนเท่าไหร่ ให้ระวังไว้ ว่าแรงขายกับแรงซื้อสูสีกัน

จง ระ วัง ให้ ดี ดี

----------------------

[ซาลาเปา(เฉพาะกิจ)]

นลท.ที่อยู่ในวงการเป็นเวลาระยะหนึ่ง ย่อมพบเจอเหตุการณ์อย่างเช่น ต้มยำกุ้ง อันแสบเผ็ด คือดัชนีขึ้นเอ้าขึ้นเอา มีข่าวดีหนุน แต่ถึงจุดหนึ่งดัชนีดิ่งลงเหวไม่เป็นท่าเพราะข่าวร้ายเข้ามาแค่ตูมเดียว พอหุ้นดิ่งก็มีข่าวร้ายเป็นระยะๆ จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งก็เริ่มมีข่าวดีหนุนทำให้ดัชนีค่อยๆโงหัวขึ้น บทเรียนนี้ก็เอามาเป็นเกราะป้องกันการลงทุนในระยะนี้ได้ ตอนนี้ดัชนีทำนิวไฮขึ้นเรื่อยๆ ยังไม่มีข่าวร้าย มันอาจจะขึ้นไปอย่างสุดๆ แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากนั้นซึ่งเมื่อไรไม่สามารถคาดการณ์ได้ จะมีข่าวอะไรที่ทำให้ตกใจกันหรือไม่ 

[Temujin]

 ในทัศนะของผม...

  ผมว่าการที่เราจะเห็นดัชนีหลักร้อยนั้นคงเป็นไปได้ยากแล้วหละ ประสบการณ์อันแสนเลวร้ายเมื่อช่วงปีวิกฤษต้มยำกุ้ง

จะไม่เกิดขึ้นถ้านักลงทุนไทยฉลาดกว่าตอนนั้น การโจมตีค่าเงิน การเก็งกำไรในหุ้น ในอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน สินทรัพย์เสี่ยงต่าง ๆ

จะไร้ค่าทันทีถ้าเราไม่วิตกจริต กระทั่งเป็นจิตวิทยาหมู่ โดยเฉพาะสื่อที่มาออกตีแผ่ข่าวสาร "วอร์เรน บัฟเฟตต์" ได้กล่าวไปเมื่อไม่กี่ปี

ที่ว่า "เศรฐกิจกำลังจะเซื่องซึม แต่ข้อสรุปดังกล่าวก็ไม่ได้บอกเราว่า ตลาดหุ้นจะขึ้นหรือลง" แต่สื่อกลับไปตีความเฉพาะวรรคแรก

ตอนนั้นดัชนี S&P รวมทั้งหลาย ๆ ตลาดร่วงครับ เกิดการวิตกจริต และกลายเป็นจิตวิทยาหมู่ ทำให้ทุกคนกลัว ทั้ง ๆ ระบบเศรษฐกิจยังเหมือนเดิม

คนยังต้องกินต้องใช้ ไม่ได้สามารถสังเคราะห์แสงได้ซักหน่อย ถ้าเรามีเหตุผล มีข้อมูลเพียงพอผมว่าโอกาสแบบนั้นคงจะมีขึ้นอีกยาก

แต่ถ้าให้ผมมองไปข้างหน้า ผมก็ไม่กลัวเลย ตลาดแถวเพื่อนบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็น พี่สิงห์ พี่เสือ อินโดฯ ฟิลิปปินส์ และเรา (กลุ่มประเทศ TIP ) ดัชนีก็เกินพันกันทั้งนั้น

แต่อย่าลืมว่าไทยเรา (กลุ่ม TIP) นี้ติดแผ่นดินใหญ่ และถือว่าเป็นไข่แดงใน AEC ซึ่งติดกับกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม)

ใครที่จะไปทำธุรกิจกลุ่มประเทศนี้ต้องผ่านเรา จดทะเบียนบริษัทที่เราและเข็นหุ้นเข้าตลาดเราก่อน ดังที่กลุ่มธุรกิจใดจะเข้าจีนแผ่นดินใหญ่

ก็ต้องไปจดทะเบียนบริษัทที่ฮ่องกงก่อน ยังไงก็ยังงั้น และนี่ทาง SET ประกาศว่าจะเข็นหุ้นตัวใหม่ ๆ เข้าตลาดเพื่อรองรับ AEC

ตอนนี้หุ้น IPO ต่าง ๆ ก็จ่ออยู่มิใช่น้อยทั้ง AMATAV,CKP,MKG,NOK ฯลฯ ฝั่ง Mai ยังมี AUCT (สหการประมูล) และอื่น ๆ อีก

รวมทั้งจะมีการเพิ่มทุนในหลาย ๆ บริษัทเห็นว่าเครือ CPN ก็มีด้วยมิใช่หรือ ปีที่แล้วก็ใช่น้อย การที่ตลาดเราดัชนีขึ้นก็ใช่จะขึ้นโดยไม่มีเหตุผลซักหน่อย

ตอนนี้ก็รู้ว่าเศรษฐกิจภูมิภาคเรากำลังขยายตัว และผมเห็นการออมของคนไทยที่สภาพัฒน์ทำเป็นตัวเลขแล้วว่า แค่ 7.3 % ของ GDP

ผมยังฝันว่ามันจะไปได้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ ปีก่อน ๆ เห็นคนไทยทำประกันกันที่ 16 % ของประชากร ตอนนี้ก็ขยับ ๆ มามั่งแล้ว  

แล้วถ้าคนไทยออมเยอะเท่าญี่ปุ่น บวกกับไม่กี่ปีข้างหน้า AEC รวมทั้งเมกกาโปรเจ็กของรัฐบาลที่จะทำล่ะ ดัชนี SET ลุงคิวฯ ท่านเปา ท่านแมงมุม คิดว่าจะเป็นเท่าใด..?   ^^



ปล.ผมกลัวอย่างเดียวคือคนไทยขาดวิตจารณญาณเหมือนไม่กี่ปีก่อน แล้วเกิดเป็นชนวนเหตุในการรัฐประหาร แช่แข็งประเทศไทยมากกว่า...ว่าแล้วมันเสียวแปลบ ๆ  

[Temujin]

  อ่อ...แล้วถ้ามี 3G 4G และรวมทั้งดอกเบี้ยเงินฝากติดดินอยู่อย่างนี้คิดเหรอครับว่าคนไทย (อย่างผม) จะเอาเงินไปฝากไว้ที่ธนาคาร   






ฝาก 2 เพลง นี้ให้นักลงทุนฟังเพื่อคลายความวิตกกังวล...^^

[►••• Natz. •••◄]

หลายปัจจัยนะผมว่า.ทั้ง AEC การเมืองหรือรายย่อยเพิ่มมากขึ้น   เพราะโปรกเกอร์ก็เอื้ออำนวยแก่รายย่อย รายย่อยอาจเปรียบเหมือนเม่าถือเข็มทิศทองคำก็เป็นไปได้นะครับ 

[Cupid]

ตลาดหุ้นบางทีก็ไร้เหตุผล ในช่วงเกิดวิกฤติ ไม่ว่าจะเป็นต้มยำกุ้ง ถล่มตึกเวิลด์เทรดที่อเมริกา
แฮมเบอร์เกอร์ หรือเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2549 ในยุคที่ มรว. ปรีดิยาธร เทวกุล (หม่อมอุ๋ย) เป็นรอง
นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาตรการสกัดกั้นการเก็ง
กำไรค่าเงินบาท ด้วยการสำรองเงินลงทุนจากต่างประเทศ 30 เปอร์เซ็นต์เป็นเวลาหนึ่งปีโดยไม่ให้
ดอกเบี้ย ผลของมาตรการนั้นทำให้ ตลาดหลักทรัพย์ตกไปมากกว่า 100 จุดในหนึ่งวันและทำให้ต้องมี
การพักการซื้อขายชั่วคราว ภายหลังจากการออกมาตรการไม่ถึงหนึ่งวัน ธนาคารแห่งประเทศไทยได้
ผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวโดยยกเว้น เงินลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และเงินลงทุนในอีกหลายประเภท

การที่ตลาดหุ้นเกิดวิกฤติตกอย่างรุนแรงด้วยเหตุต่างๆดังกล่าวนั้นเกิด panic ตื่นตกใจ นักลงทุนต่าง
เทขายหุ้นโดยไม่ดูเหตุผลว่าหุ้นของกิจการใดได้ผลกระทบจากวิกฤติดังกล่าวอย่างไรบ้าง ซึ่งการเกิด
วิกฤติในตลาดหุ้นดังกล่าวได้มีเป็นระยะๆตลอดมา และก็ห้ามการตื่นตกใจของนักลงทุนทั้งรายใหญ่ราย
ย่อยยากเสียด้วย จึงเป็นโอกาสของผู้ที่มีเหตุผล มีประสบการณ์ มีสติ มีสตังค์ ได้เลือกซื้อสินค้าดี (หุ้น)
ราคาถูก

เพราะฉนั้น อย่าได้วางใจในตลาดหุ้นว่าจะไม่ตกลงไปหนักๆอีก ตราบใดที่ยังห้ามความตื่นตกใจของ
มนุษย์ไม่ได้
 

[Temujin]

หลายปัจจัยนะผมว่า.ทั้ง AEC การเมืองหรือรายย่อยเพิ่มมากขึ้น   เพราะโปรกเกอร์ก็เอื้ออำนวยแก่รายย่อย รายย่อยอาจเปรียบเหมือนเม่าถือเข็มทิศทองคำก็เป็นไปได้นะครับ 

  แต่ผมมองอีกมุมนะครับ ว่าตลาดเราไม่ได้เอื้อแก่รายย่อย ไม่ว่าจะยืมหุ้นมาขายล่วงหน้า ปล่อยมาร์จิ้นเยอะ ๆ ถ้าเกิดกรณีดังว่า

ผมว่าถือเป็นการซ้ำเติมตลาดมากกว่า ทำให้รายใหญ่เทรดเก็งกำไรอย่างบ้าคลั่ง จำกรณีปี ๔๐ ที่มีนักเก็งกำไรค่าเงิน มาเก็งกำไรค่าเงินบาทกันมั้ย

ถ้า ก.ล.ต. และ SET ยังไม่ออกมาตราการข้อกำหนดบางอย่าง แล้วอยากเห็นนักลงทุนคุณภาพและหุ้นเป็นเครื่องมือการบริหารเงินออมของประชาชนก็คงลำบาก

ตลาดเราเหมาะแก่การเก็งกำไรมาก ดูจากการซื้อ - ขาย ผลกำไรไม่เสียภาษี แต่ตลาดเช่นอเมริกา ยุโรปบางประะเทศ อย่าหวังเลยครับเสียภาษีหมด

ตลาดเขาจึงเห็นการซื้อ - ขาย เปลี่ยนมือกันยากมาก แต่ยังไง ๆ ในเมื่อดอกเบี้ยต่ำขนาดนี้แล้วจะให้ผมทำไงล่ะ จะมีไม่มีเข็มทิศก็ต้องเสี่ยงลงทุน   




ปล.แต่การเสี่ยงของผมคุณคิดว่าเหมือนการเสี่ยงเล่นหมากก่องถี่มั้ยล่ะ...^^

[Temujin]

  ทั้งกรณีไซปรัส เงินบาทแข็งค่า SET เราก็ถือโอกาสปรับฐานไปด้วยเลย แต่โดยรวมเศรษฐกิจไทยยังโตต่อเนื่อง

นี่เห็นว่าบริษัทจดทะเบียนปันผล 3 แสนกว่าล้าน สำหรับใครที่พอร์ตแดงไป คงได้ชดเชยจากหุ้นที่ขึ้นเครื่องหมาย XD บ้างนะครับ...

[Cupid]

  ทั้งกรณีไซปรัส เงินบาทแข็งค่า SET เราก็ถือโอกาสปรับฐานไปด้วยเลย แต่โดยรวมเศรษฐกิจไทยยังโตต่อเนื่อง

นี่เห็นว่าบริษัทจดทะเบียนปันผล 3 แสนกว่าล้าน สำหรับใครที่พอร์ตแดงไป คงได้ชดเชยจากหุ้นที่ขึ้นเครื่องหมาย XD บ้างนะครับ...

วันนี้เงินบาทแข็งค่าที่สุดในรอบ 16 ปี

วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13:05 น.  ข่าวสดออนไลน์

เงินบาทแข็งค่าสุดๆ หาแนวรับไม่เจอ - คาดอาจหลุด 29 บาท/ดอลลาร์

วันที่ 20 มี.ค. เว็บสำนักข่าวไทยรายงานว่า นักบริหารเงินธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า  เช้าวันนี้ ค่าเงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 29.13-29.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากเปิดตลาดที่ระดับ 29.27-29.29 บาทต่อดอลลาร์ สวนทางค่าเงินในภูมิภาค และล่าสุดอยู่ที่ 29.16-29.18 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุเพราะมีแรงเทขายดอลลาร์สหรัฐไม่มีเหตุผล  ทำให้ค่าเงินบาทแข็งอยู่สกุลเดียว ขณะที่สกุลเอเชียอื่น ๆ อ่อนค่าลง เพราะดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับทุกสกุลยกเว้นค่าเงินบาท ตอนนี้หาแนวรับไม่เจอ  เพราะค่าเงินบาทไหลลงมาเรื่อย ๆ

ขณะที่นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ไว้ระหว่าง 29.00-29.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหากหลุดแนวรับที่ 29 บาท เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นเร็วมาก

เงินบาทแข็งค่าสวนทางกับค่าเงินในภูมิภาค และตลาดหุ้นไทยลดลงเช่นนี้ ต่างชาติจะขายหุ้นไทยไปเปลี่ยน
เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐหรือเปล่า

[Cupid]

วันนี้ พุธ 20 มี.ค.56 ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งลงต่อเนื่องจากเมื่อวาน

โดยลงไปต่ำสุดระหว่างวันที่ 1,534.27 จุด เมื่อเวลา 10.47.57 น.

ปิดตลาดที่ 1,543.67 จุด ลดลงจากเมื่อวาน 24.58 จุด มูลค่าการซื้อขายสูงถึง 83,000 ล้านบาทเศษ

มูลค่าการซื้อขายสูงๆ ดัชนีลดลง เป็นอาการตรงกันข้ามกับมูลค่าการซื้อขายสูงๆ ดัชนีเพิ่มขึ้นนะครับ

จะเป็นการปรับฐานแค่ไหน อย่างไร โปรดสังเกตและติดตาม

[Teanchanapanya]

ลงมา 3-4 วันแล้วนิ เฮอ แดงงงง

[Cupid]

ดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อต้นเดือนตุลาคมปีที่แล้ว (2555) อยู่ที่ประมาณ 1,300 จุด แล้วก็แกว่งขึ้นด้วยมูลค่า
การซื้อขายที่หนาแน่นกว่าที่เคยถึงหนึ่งเท่าตัว (จาก 30,000-40,000 ล้านบาทต่อวัน เป็น 50,000-80,000 ล้านบาทต่อวัน)

ถึงวันที่ 19 มีนาคม 2556 ดัชนีก็ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดในรอบ 18 ปี ที่ 1,601.34 จุด ขึ้นมาถึง 300 จุด หรือ
ประมาณ 23 % ของเมื่อต้นเดือนตุลาคมดังกล่าว ซึ่งเป็นระยะเวลาเพียง 5 เดือนเศษ

นักลงทุนที่ได้ซื้อหุ้นแล้วถือมาตั้งแต่เดือนตุลาคมดังกล่าวหรือก่อนหน้า ก็คงมีกำไรกันถ้วนหน้า แต่จะขาย
ทำกำไรบางส่วนหรือทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบ (สไตล์) ของแต่ละบุคคล

แต่จาก 19 มีนาคม ถึงวันนี้ 22 มีนาคม (เพียง 3 วัน) ดัชนีหุ้นตกลงมาประมาณ 90 จุดแล้ว ด้วยมูลค่าการ
ซื้อขายที่หนาแน่นเช่นเดียวกัน

อย่าคิดว่าดัชนีจะไม่แกว่งลงไปอีก...!

[Cupid]

วันนี้ ศุกร์ 22 มี.ค.56 ดัชนีหุ้นปิดครึ่งวันเช้าที่ 1,468.94 จุด ลดลง 60.58 จุด หรือประมาณ 3.96 %
จากเมื่อวาน มูลค่าการซื้อขาย 52,800 ล้านบาทเศษ แน่นเปรี๊ยะ

ดัชนีลงไปต่ำสุดที่ 1,464.72 จุด เมื่อเวลา 12.25.41 น.

รอชมภาคบ่ายว่าจะลงต่อ หรือจะรีบาวน์...!

[Cupid]

วันนี้ ศุกร์ 22 มี.ค.56 ดัชนีหุ้นปิดครึ่งวันเช้าที่ 1,468.94 จุด ลดลง 60.58 จุด หรือประมาณ 3.96 %
จากเมื่อวาน มูลค่าการซื้อขาย 52,800 ล้านบาทเศษ แน่นเปรี๊ยะ

ดัชนีลงไปต่ำสุดที่ 1,464.72 จุด เมื่อเวลา 12.25.41 น.

รอชมภาคบ่ายว่าจะลงต่อ หรือจะรีบาวน์...!

สรุปปิดตลาดหุ้นวันนี้ ดัชนีรีบาวน์กลับได้นิดหน่อย

ปิดตลาดที่ 1,478.97 จุด รีบาวน์จากภาคเช้าได้ 10 จุด แต่ลดลงจากเมื่อวาน 50.55 จุด
ด้วยมูลค่าการซื้อขายถึง 101,000 ล้านบาทเศษ เป็นมูลค่าการซื้อขายมากที่สุดกว่าทุกครั้งที่เคยเป็นมา...!

[Temujin]

  ต่างชาติเริ่มซื้อแล้วหลังจากขายมาหลายวันติด ก็สภาพคล่องมากซะอย่างนี้

รวมทั้งอะไร ๆ ก็เอื้อ จะกล้าขนเงินออกนอกประเทศเราหรือ...ดูจะใจร้ายใจดำไปมั้ง...^^

[Cupid]

  ต่างชาติเริ่มซื้อแล้วหลังจากขายมาหลายวันติด ก็สภาพคล่องมากซะอย่างนี้

รวมทั้งอะไร ๆ ก็เอื้อ จะกล้าขนเงินออกนอกประเทศเราหรือ...ดูจะใจร้ายใจดำไปมั้ง...^^

ถ้าใจร้ายใจดำแล้วมีกำไร ใจดีแต่ขาดทุน นักธุรกิจทุกประเภทเลือกที่จะเป็นคนใจร้ายใจดำกันทั้งนั้น

ประสบการณ์ได้หล่อหลอมและสอนผมไม่ให้มั่นใจในสิ่งที่เห็นในตลาดหุ้นมากนัก (โดนมาเยอะ )