เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 26 เมษายน 2024, 09:44:11
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การศึกษา (ผู้ดูแล: >:l!ne-po!nt:<)
| | |-+  ประเทศไทยติด 1 ใน 5 ภาษาอังกฤษแย่สุด ????
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน ประเทศไทยติด 1 ใน 5 ภาษาอังกฤษแย่สุด ????  (อ่าน 3230 ครั้ง)
Natta_cr
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 480



« เมื่อ: วันที่ 31 ตุลาคม 2012, 09:20:31 »

คัดลอกมาจาก MTHAI NEWS นำมาแบ่งปันในวงการศึกษาเรานะครับ


สำนักข่าวต่างประเทศเปิดเผยผลวิจัยของบริษัท เอดูเคชั่น เฟิร์สต์ ซึ่งทำการจัดอันดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ สำหรับประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักจำนวน 54 ชาติ และสุ่มตัวอย่างวิจัยกว่า  1.7 ล้านคน ได้ผลสรุปว่า

5 อันดับประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี คือ
1.สวีเดน
2.เดนมาร์ก
3.เนเธอร์แลนด์
4.ฟินแลนด์ และ
5.นอร์เวย์

5 อันดับประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษได้แย่สุด คือ
1.โคลัมเบีย
2.ปานามา
3.ซาอุดีอาระเบีย
4.ไทย และ
5.ลิเบีย

นอกจากนี้ผลวิจัยยังบอกอีกว่า ผู้หญิงมีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษได้ดีกว่าผู้ชาย ซึ่งเห็นชัดเจนที่สุดคือ ในประเทศแถบทวีปแอฟริกาเหนือ และตะวันออกกลาง

Mthai News
IP : บันทึกการเข้า

เรียนอินเดีย ไปกับ thai2india.com
realword
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 299


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 31 ตุลาคม 2012, 13:33:04 »

ให้ครูสอนภาษาอังกฤษคนไทยไปคุยกับฝรั่ง  ผมว่ามากกว่า 70% คุยไม่รื่น

วิธีคิดในการสอนมันผิด  เครียดเรื่องไวยกรณ์เกินไป  ข้อสอบก็เน้นผิดๆ

สรุปก็คือ  เอาคนไม่เก่งไปสอนคน  มันก็ยังงี้แหละ
IP : บันทึกการเข้า
manmunsoon
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 93


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 02 พฤศจิกายน 2012, 11:40:58 »

ให้ครูสอนภาษาอังกฤษคนไทยไปคุยกับฝรั่ง  ผมว่ามากกว่า 70% คุยไม่รื่น

วิธีคิดในการสอนมันผิด  เครียดเรื่องไวยกรณ์เกินไป  ข้อสอบก็เน้นผิดๆ

สรุปก็คือ  เอาคนไม่เก่งไปสอนคน  มันก็ยังงี้แหละ

+100000   ใช่ครับ  ผมว่า  คนที่จะมาเป็นครูได้  ต้อง  สอบ เข้า  มหาลัย ครู     ยกตัวอย่าง มาเลย   เขา ประกาศเลย  ปีนี้  รับ  เอ็น  เข้ามหาลัย   เลือกลง ครู   มี  ให้  1,000  คน  เกินกว่านั้น  ไม่รับ   คนที่จะเป็นครูได้  ต้องเก่ง  จริงๆๆ  และ  เงินเดือน  ครูของเขา  พอๆๆ กับคนที่เป็นหมอ   

และรัฐเขาให้ความสำคัญกับอาชีพ ครูมากๆๆๆ  เพราะ  เด็กที่จะโตมาคืน  คนที่มีคุณภาพ  ได้รับ  การสั่งสอนจากคนที่มีคุณภาพ (ผมไม่ได้ดูถูก ครูประเทศเราว่าไม่มีคุณภาพนะ)  ผมพูดถึง  คนที่เขาคัดมาเป็นครู   คือคนที่เก่งจริง
IP : บันทึกการเข้า
realword
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 299


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 02 พฤศจิกายน 2012, 14:15:18 »

กระทรวงศึกษาฯ เวียดนาม  เขากำหนดให้โรงเรียนมัธยมทุกโรงเรียน  ต้องมีวิศวกร 3 คน
เพื่อสอนคณิตฯ และฟิสิกส์ เท่านั้น  ด้วยเงินเดือนวิศวกร  แต่กระทรวงศึกษาฯ ไทยบอกว่า  ถ้าไม่มีใบประกอบวิชาชีพครูแปลว่าไม่มีความสามารถในการสอน  เป็นครูไม่ได้  ให้ค่าตอบแทนตามอายุงาน  ไม่ยึดความสามารถ

มีความเชื่อเรื่องการทำตำแหน่งวิชาการว่าเป็นตัวบ่งชี้ความสามารถและความเก่ง
ซึ่งไม่ต่ำกว่า 60% ของผลงานวิชาการของครูไทย  จ้างคนทำ  โดยตนเองไม่มีความรู้
เพื่อแลกกับคำว่า "ครูชำนาญการ, ครูชำนาญการพิเศษ"

(ผมจบวิศวกรรมเครื่องกลและจบบริหารการศึกษา  เคยไปสังเกตุการสอนวิชาฟิสิกส์ของครูชำนาญการพิเศษคนหนึ่ง  ที่ใช้เวลา 30 นาที เพื่อต่อคอมพ์ออกโปรเจคเตอร์แต่ต่อไม่ได้  เขาแก้ปัญหาโดยการบอกนักเรียนว่า "คอมพ์มีปัญหา  วันนี้ไม่เรียน"  ผมเดินไปแก้ให้ 1 นาที  พอเขาเห็นก็บอกว่าฉลาดจัง  ผมคิดว่า  "ผมไม่ฉลาดหรอก  แต่คุณน่ะโง่")

ผู้บริหารโรงเรียนมัธยมเกิน 80% ก็จบจากวิทยาลัยครู (สถาบันราชภัฏ,มหาวิทยาลัยราชภัฏ)
ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า  คือผู้ที่สอบไม่ติดมหาวิทยาลัยที่มีมาตรฐานการศึกษาดีๆ

ครูนิสัยไม่ดีหลายๆ คนทั่วประเทศ  โน้มน้าวให้นักเรียนไปเรียนกวดวิชากับตนเองที่บ้าน  โดยการขายข้อสอบที่ตัวเองเป็นคนออก

เจ้าของโรงเรียนกวดวิชาในทุกจังหวัด  มีเจ้าของเป็นหัวหน้างานวิชาการ
และระดมครูมัธยม (ที่เขาโฆษณาว่าเก่งซะเหลือเกิน) มาสอน  และเมื่อมีการสอบเข้า ม.1, ม.4 ก็มีการเอาข้อสอบมาขาย  โดยรับประกันว่าสอบเข้าได้แน่ๆ  แล้วทำไมมันจะไม่ได้ล่ะครับ

สรุปก็คือ  ผู้บริหารไม่เก่งบริหาร  ครูก็ไม่ฉลาดพอ  และยังทุจริตทั่วบ้านทั่วเมือง  นี่คือปัญหาที่หมักหมมมากว่า 30 ปี  และวันนี้  เราเห็นผลกันแล้วครับ  

ตัวใครตัวมันล่ะครับ  ประเทศไทย
(คำตรงมักฟังขัดหู  สะท้อนสังคม  ไม่ใช่เพื่อประจาร)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 02 พฤศจิกายน 2012, 14:49:01 โดย realword » IP : บันทึกการเข้า
shiff2007
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,150



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 04 พฤศจิกายน 2012, 21:09:59 »

... ที่นี่ประเทศไทย ...

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ในระดับโรงเรียน ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด
ระดับภาค ระดับประเทศ ระดับภูมิภาค ระดับนานาชาติ 
นักเรียนไทย เกือบทุกระดับชั้น สอบไม่ผ่านเกือบทุกวิชา .....
แม้กระทั่งวิชาภาษาประจำชาติ ..... ตก

คุณลักษณะที่พึงประสงค์
นักเรียนไทย ไม่ใส่ใจการเรียนรู้  สนใจเทคโนโลยีเพื่อการสื่อสาร (แชท)
หรือเพื่อความสนุก (เกมส์) มากกว่าเพื่อการรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงหรือปรับประยุกต์ใช้ในชีวิต
ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย หลงใหลในวัตถุนิยม มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศและยาเสพติดสูง ลืมวิถีชีวิตดั้งเดิม
แต่ชอบเลียนแบบวัฒนธรรมต่างชาติ  ไม่รู้จักรากเหง้าความเป็นมาของตัวเอง ตามกระแสโดยปราศจาก
หลักการ เหตุผลและข้อเท็จจริง ขาดระเบียบวินัย ขาดความรับผิดชอบ และ ฯลฯ ....


ถึงเวลา ปฏิวัติการศึกษาไทย แล้วหรือยัง....
IP : บันทึกการเข้า

โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม คนเด่นต้องมีคนด่า
คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี คนทำงานดีจึงมีคนริษยา
Natta_cr
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 480



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 05 พฤศจิกายน 2012, 09:23:04 »

ครับผม เด็กเรามีแต่งทางด้านหลักภาษาครับ จากประสบการณ์ที่เป็นครูมา เด็กนักเรียนของเราจำเป็นต้องเรียนแต่ข้้อสอบเพราะต้องใช้ในการวัดผลเข้ามหาวิทยาลัยครับ ผมเชื่อแน่นอนเด็กนักเรียนของเราเนี่ยะเก่งด้านหลักภาษา

จากประสบการณ์ที่ผมจบจากอินเดียมา แขกบางคนเนี่ยะ ไวยกรณ์ยังไม่เป๊ะเท่ากับคนไทยเลย แถมคนไทยบางคนยังต้องได้แก้ไวยกรณ์ให้แขกอีก แต่แขกมันพูดแบบน้ำไหลไฟดับเลยนะครับ แต่บางครั้งหลักภาษามันไม่ได้ เช่น  where did you went?   นี่คือเพื่อนผมที่น่ารักเค้าพูด ผมเลยบอกว่าต้องเป็น where did you go?  ผมถึงบอกว่าจะมีชาติไหนจะแม่นไวยกรณ์เท่ากับคนไทย ขนาดฝรั่งบางคนยังพูดผิดไวยกรณ์เลยเอาไรมากครับ


ดังนั้นผมอยากให้ครูไทยมีการพัฒนาศักยภาพแล้วอีกอย่างควรสอนภาษาอังกฤษที่ทำให้เด็กของเราเห็นภาพที่ชัดเจน ปลูกฝังใจรักในด้านภาษาอังกฤษ ผมเอาใจช่วยครูไทย ส่วนนักเรียนก็ขอให้เรียนรู้ในด้านภาษาอังกฤษ ฝึกฝนบ่อยๆ พูดหน้ากระจก หรือมองทุกอย่างให้เป็นภาษาอังกฤษ ไม่ได้ก็เปิดดิกเอา

ครูนัท

IP : บันทึกการเข้า

เรียนอินเดีย ไปกับ thai2india.com
romportong@hotmail.com
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 460


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 05 พฤศจิกายน 2012, 11:56:12 »

สังเกตุเราเน้นสอนหลักเกณฑ์ทางภาษาอังกฤษมากไป จนนักเรียนเบื่อหน่าย ไม่อยากเรียนเพราะต้องจดจำหลักเกณฑ์ต่างมาก เวลาสอบมักจะไม่ผ่าน จึงมีทัศนคติไม่ค่อยดี และตั้งกำแพงการเรียนรู้ว่ายาก เราน่าจะฝึกสอนเด็กในเรื่องของการพูดสนทนาให้สื่อความหมายกับเจ้าของภาษาให้เด็กได้รู้ว่าภาษาอังกฤษง่าย ไม่น่าเบื่อ โดยใช้กิจกรรมที่สนุกสนาน เร้าใจไม่น่าเบื่อ  เด็กก็จะชอบ และมีทัศนคติที่ดี มีความมั่นใจในการสื่อสาร เมื่อการพูดดีแล้วค่อยๆเริ่มสอนหลักเกณฑ์ทางภาษา
สังเกตดูซิว่าทำไมพม่าลูกจ้างรายวันรายเดือนที่มาอยู่เมืองไทยเขาพูดภาษาอังกฤษเก่ง ไม่รู้สึกเขินอาย มั่นใจมาก เวลาชาวต่างชาติเข้าร้านบางร้านเจ้าของร้านต้องเรียกพม่าที่เป็นลูกจ้างมาพูดด้วยจึงจะสื่อความหมายได้ ก็เพราะพม่าเขาสอนพูดให้คล่องก่อน จึงเก่งแบบนี้ ดูคนไทยส่วนมากเวลาเจอฝรั่งมักจะรู้สึกว่าเราด้อยทางภาษาไม่กล้าพูด เขินอาย กลัวเขาว่าไม่เก่ง แต่หากเรารู้เพียงคำศัพท์มากๆแค่นั้นใช้มือ ใช้เท้าประกอบด้วยเขาก็เข้าใจ เราสื่อสารบ่อยๆโดยครูสร้างสถานการณ์หรือจัดกระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสม ก็จะสร้างความมั่นใจมากขึ้น และเรียนรู้มากขึ้นในที่สุดเราก็เก่งภาษาอังกฤษครับ
นี่เป็นความคิดของผมนะครับ ผมนึกเอง ใช้หลักวิชาการที่ง่ายๆ คนอื่นอาจคิดต่างได้ เพราะผมใช้ประสบการณ์การสอนของผมกับชาวเขาบนดอยจากที่พูดภาษาไทยไม่ได้เลย สอนการพูดภาษาไทยจนพูดคล่อง แล้วไปสู่การเขียน สื่อสารเข้าใจเหมือนภาษาของตัวเอง แล้วค่อยมาสอนหลักเกณฑ์จนทุกคนสามารถเรียนรู้ภาษาไทยได้ดีหมดทุกคนครับ
IP : บันทึกการเข้า
tfgc2007
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,874


สมบัติพญามังราย ต้องรักษาไว้


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 06 พฤศจิกายน 2012, 12:13:33 »

กระทรวงศึกษาฯ เวียดนาม  เขากำหนดให้โรงเรียนมัธยมทุกโรงเรียน  ต้องมีวิศวกร 3 คน
เพื่อสอนคณิตฯ และฟิสิกส์ เท่านั้น  ด้วยเงินเดือนวิศวกร  แต่กระทรวงศึกษาฯ ไทยบอกว่า  ถ้าไม่มีใบประกอบวิชาชีพครูแปลว่าไม่มีความสามารถในการสอน  เป็นครูไม่ได้  ให้ค่าตอบแทนตามอายุงาน  ไม่ยึดความสามารถ

มีความเชื่อเรื่องการทำตำแหน่งวิชาการว่าเป็นตัวบ่งชี้ความสามารถและความเก่ง
ซึ่งไม่ต่ำกว่า 60% ของผลงานวิชาการของครูไทย  จ้างคนทำ  โดยตนเองไม่มีความรู้
เพื่อแลกกับคำว่า "ครูชำนาญการ, ครูชำนาญการพิเศษ"

(ผมจบวิศวกรรมเครื่องกลและจบบริหารการศึกษา  เคยไปสังเกตุการสอนวิชาฟิสิกส์ของครูชำนาญการพิเศษคนหนึ่ง  ที่ใช้เวลา 30 นาที เพื่อต่อคอมพ์ออกโปรเจคเตอร์แต่ต่อไม่ได้  เขาแก้ปัญหาโดยการบอกนักเรียนว่า "คอมพ์มีปัญหา  วันนี้ไม่เรียน"  ผมเดินไปแก้ให้ 1 นาที  พอเขาเห็นก็บอกว่าฉลาดจัง  ผมคิดว่า  "ผมไม่ฉลาดหรอก  แต่คุณน่ะโง่")

ผู้บริหารโรงเรียนมัธยมเกิน 80% ก็จบจากวิทยาลัยครู (สถาบันราชภัฏ,มหาวิทยาลัยราชภัฏ)
ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า  คือผู้ที่สอบไม่ติดมหาวิทยาลัยที่มีมาตรฐานการศึกษาดีๆ

ครูนิสัยไม่ดีหลายๆ คนทั่วประเทศ  โน้มน้าวให้นักเรียนไปเรียนกวดวิชากับตนเองที่บ้าน  โดยการขายข้อสอบที่ตัวเองเป็นคนออก

เจ้าของโรงเรียนกวดวิชาในทุกจังหวัด  มีเจ้าของเป็นหัวหน้างานวิชาการ
และระดมครูมัธยม (ที่เขาโฆษณาว่าเก่งซะเหลือเกิน) มาสอน  และเมื่อมีการสอบเข้า ม.1, ม.4 ก็มีการเอาข้อสอบมาขาย  โดยรับประกันว่าสอบเข้าได้แน่ๆ  แล้วทำไมมันจะไม่ได้ล่ะครับ

สรุปก็คือ  ผู้บริหารไม่เก่งบริหาร  ครูก็ไม่ฉลาดพอ  และยังทุจริตทั่วบ้านทั่วเมือง  นี่คือปัญหาที่หมักหมมมากว่า 30 ปี  และวันนี้  เราเห็นผลกันแล้วครับ  

ตัวใครตัวมันล่ะครับ  ประเทศไทย
(คำตรงมักฟังขัดหู  สะท้อนสังคม  ไม่ใช่เพื่อประจาร)

เราเป็น วิศวกร ไม่สมควรยกตนข่มท่านครับ....มันอยู่ที่ตัวบุคคล ไม่ใช่ อาชีพ หรือ สถาบัน
( พวกผม( ไม่รู้กี่คน )เป็นวิศวกรมืออาชีพ...ให้เกียรติ ทุกอาชีพ ทุกสถาบันครับ )
IP : บันทึกการเข้า

รักษ์กำเมือง....ร่วมส่งเสริมละอ่อนเหนือ อู้กำเมือง....
เชียงรายสถาปนิก'97 รับ ออกแบบ เขียนแบบบ้าน อาคาร รับบริหารงานก่อสร้างและงานระบบทุกประเภท ตรวจสอบอาคาร โดยสามัญวิศวกร สามัญสถาปนิก และ จป.วิชาชีพ
zombie01
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,519


ความสุขเกิดขึ้นได้ เพียงแต่รู้จักใช้ชีวิต


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 06 พฤศจิกายน 2012, 12:19:03 »

ไม่รู้จะอธิบายยังไง  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

Ni KruNi
086-114-7787
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 544



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 06 พฤศจิกายน 2012, 12:23:45 »

เรื่องนี้ต้องมีพื้นฐานตั้งแต่อนุบาล ยันประดับปริญญา
ที่สำคัญคือ "คำศัพย์" ถ้าไม่ได้นี่แย่เลย ไปต่อไม่ได้แล้ววววว
IP : บันทึกการเข้า

ยามเฮาตุ๊ก ตึงบ่มีไผตวย ยามเฮารวย คนตวยเป็นปุ๊ก
Natta_cr
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 480



« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 06 พฤศจิกายน 2012, 14:36:32 »

เรื่องนี้ต้องมีพื้นฐานตั้งแต่อนุบาล ยันประดับปริญญา
ที่สำคัญคือ "คำศัพย์" ถ้าไม่ได้นี่แย่เลย ไปต่อไม่ได้แล้ววววว


สนับสนุนความคิดด้วยคนครับ   ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

เรียนอินเดีย ไปกับ thai2india.com
chavasaki
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 48


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 14 พฤศจิกายน 2012, 14:12:03 »

ปัญหาเรื่องนี้เราโทษใครไม่ได้จริงๆครับ มันเป็นปัญหาทั้งระบบ ตั้งแต่การวัดผลการเรียนรู้แล้ว สอบ NT O-net ผมก็ไม่เคยเห็นสอบฟังพูดซักกะที เมื่อไหร่ก็สอบแต่อ่านเขียน ไวยกรณ์ แล้วจะไม่ให้ครูสอนแต่หลักภาษาได้ไงละครับ ในเมื่อทุกวันนี้นักเรียนไม่ได้เรียนเพื่อจะสื่อสารได้ แต่เรียนเพื่อสอบ ซึ่งข้อสอบก็เป็นแต่อ่านเขียน ไวยกรณ์เหมือนที่กล่าวมา ดังนั้นเมื่อครูถูกตีกรอบด้วยระบบการสอบจึงต้องสอนเพื่อให้นักเรียนสอบได้เช่นเดียวกัน จึงกลายเป็นว่าสอนเพื่อให้สอบได้ ไม่ใช่สอนเพื่อให้สื่อสารได้ นักเรียนมีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษแค่สองชั่วโมง ไม่เกินห้าชั่วโมงต่อสัปดาห์ คือในชั่วโมงเรียนภาษาอังกฤษ นอกนั้น Thailand only ครับ บางทีในชั่วโมงภาษาอังกฤษก็อาจจะภาษาไทยซะส่วนใหญ่ด้วย
           การสอนภาษาไทยให้นักเรียนบนดอยมีความแตกต่างกับการสอนภาษาอังกฤษให้เด็กไทย เด็กชาวเขายังถือว่าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษาไทย ครูทุกคนพูดภาษาไทย มีคนในชุมชนจำนวนไม่น้อยที่พูดภาษาไทย ดูทีวีก็พูดภาษาไทย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่เด็กจะสื่อสารภาษาไทยได้ ต่างกับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ คนไทยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ สอนการสื่อสาร สอนสนทนาให้ตายยังไงก็ดีไปกว่านี้ไม่มากหรอกครับ หากไม่ได้มีสภาพแวดล้อมมาช่วย ลองคิดดูดิครับ ให้ครูสอนบทสนทนา สอนคำศัพท์ สอนประโยคในการสื่อสาร นักเรียนเรียนไปเคยได้ใช้จริงหรือเปล่า และอีกอย่างนักเรียนต้องจำกี่พัน กี่หมื่นประโยค ถึงจะสื่อสารได้ อย่าว่าเป็นพันประโยคเลยครับ แค่สองสามประโยคสอนวันนี้พรุ่งนี้ก็ลืมแล้ว  ดังนั้นในบริบทของคนไทยหากไม่ใช่คนที่อยู่ในสังคมที่เป็นชาวต่างชาติจริงๆ การสอนสนทนาเป็นประโยคๆ หรือเป็นบทสนทนา ไม่ได้ผลหรอกครับ แต่ผมกลับมองว่าการเรียนโครงสร้างประโยค หลักภาษาที่สำคัญ และคำศัพท์ (ที่หลายๆคนมองว่าเป็นตัวทำให้เด็กไทยอ่อนภาษา) เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับคนไทย เพราะการเรียนโครงสร้างประโยค หลักภาษาและคำศัพท์นั้น จะช่วยให้นักเรียนสามารถสร้างประโยคเองได้อย่างไม่จบสิ้น ต่างจากการเรียนแบบประโยค หรือแบบบทสนทนา ที่เรียนเท่าไหร่ได้แค่นั้นไม่สามารถสร้างประโยคใหม่ขึ้นเองได้
          สำหรับนักเรียนชั้นเล็กๆ ป.1-3 การเรียน แบบ Phonogram เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะจะช่วยให้นักเรียนสามารถอ่านได้ แยกเสียงได้ ช่วยพัฒนาทั้งสี่ทักษะ แต่ทั้งนี้ต้องสอนประโยคง่ายๆในชีวิตประจำวัน และคำศัพท์แต่ละหมวดควบคู่ด้วย ไม่ควรสอนให้นักเรียนจำเฉพาะคำศัพท์ เพราะปัญหาประการหนึ่งที่พบเจอมาคือ นักเรียนรู้ว่าคำว่า gun หมายถึงปืน แต่พอนักเรียนเจอคำว่า gun ในข้อสอบ เด็กก็ยังตอบผิดอยู่ทั้งๆที่เด็กก็รู้ว่าแปลว่า ปืน เ็ป็นเพราะนักเรียนอ่านไม่ออก ไม่รู้ว่าคำที่เห็นอ่านว่า กัน ดังนั้นการสอนโดยวิธี Phonogram จะเป็นพื้นฐานที่ดีให้กับนักเรียนครับ
           จับพลับจับผลูสอนมาหลายๆวิธี จนมาค้นพบวิธีดังกล่าว ลองมา1 เทอมเต็มๆ กับนักเรียนชั้น ป.2 -3  นักเรียนดีขึ้นเยอะเลยครับ พอนักเรียนพออ่านผสมคำได้ เหมือนสมองเปิด จำคำศัพท์ได้ดีขึ้นด้วย ลองดูกันนะครับได้ผลดีจริงๆ แต่ครูต้องทุ่มเทและเหนื่อยหน่อยแต่แค่ช่วงแรกครับ
IP : บันทึกการเข้า
HARLEY DAVIDSON
BIKER
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,537


HARLEY DAVIDSON & MERCEDES BENZ


« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 18 พฤศจิกายน 2012, 20:33:23 »

น่าคิดทบทวน  เศร้า
IP : บันทึกการเข้า

ขาดแคลนเงินตรา  แต่งชุดนักศึกษามาหาพี่
สุขใดไหนจะเท่า เมื่อล้วงกระเป๋าแล้วเจอตังค์
beautyful-life
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 59


« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 19 พฤศจิกายน 2012, 03:02:52 »

สังเกตุเราเน้นสอนหลักเกณฑ์ทางภาษาอังกฤษมากไป จนนักเรียนเบื่อหน่าย ไม่อยากเรียนเพราะต้องจดจำหลักเกณฑ์ต่างมาก เวลาสอบมักจะไม่ผ่าน จึงมีทัศนคติไม่ค่อยดี และตั้งกำแพงการเรียนรู้ว่ายาก เราน่าจะฝึกสอนเด็กในเรื่องของการพูดสนทนาให้สื่อความหมายกับเจ้าของภาษาให้เด็กได้รู้ว่าภาษาอังกฤษง่าย ไม่น่าเบื่อ โดยใช้กิจกรรมที่สนุกสนาน เร้าใจไม่น่าเบื่อ  เด็กก็จะชอบ และมีทัศนคติที่ดี มีความมั่นใจในการสื่อสาร เมื่อการพูดดีแล้วค่อยๆเริ่มสอนหลักเกณฑ์ทางภาษา
สังเกตดูซิว่าทำไมพม่าลูกจ้างรายวันรายเดือนที่มาอยู่เมืองไทยเขาพูดภาษาอังกฤษเก่ง ไม่รู้สึกเขินอาย มั่นใจมาก เวลาชาวต่างชาติเข้าร้านบางร้านเจ้าของร้านต้องเรียกพม่าที่เป็นลูกจ้างมาพูดด้วยจึงจะสื่อความหมายได้ ก็เพราะพม่าเขาสอนพูดให้คล่องก่อน จึงเก่งแบบนี้ ดูคนไทยส่วนมากเวลาเจอฝรั่งมักจะรู้สึกว่าเราด้อยทางภาษาไม่กล้าพูด เขินอาย กลัวเขาว่าไม่เก่ง แต่หากเรารู้เพียงคำศัพท์มากๆแค่นั้นใช้มือ ใช้เท้าประกอบด้วยเขาก็เข้าใจ เราสื่อสารบ่อยๆโดยครูสร้างสถานการณ์หรือจัดกระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสม ก็จะสร้างความมั่นใจมากขึ้น และเรียนรู้มากขึ้นในที่สุดเราก็เก่งภาษาอังกฤษครับ
นี่เป็นความคิดของผมนะครับ ผมนึกเอง ใช้หลักวิชาการที่ง่ายๆ คนอื่นอาจคิดต่างได้ เพราะผมใช้ประสบการณ์การสอนของผมกับชาวเขาบนดอยจากที่พูดภาษาไทยไม่ได้เลย สอนการพูดภาษาไทยจนพูดคล่อง แล้วไปสู่การเขียน สื่อสารเข้าใจเหมือนภาษาของตัวเอง แล้วค่อยมาสอนหลักเกณฑ์จนทุกคนสามารถเรียนรู้ภาษาไทยได้ดีหมดทุกคนครับ


เห็นด้วยค่ะ
IP : บันทึกการเข้า
๗๔๐ ปี เชียงรายเมืองเกิด
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 151


๗๕๐ ปี เชียงรายเมืองบ้านเกิด


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 25 พฤศจิกายน 2012, 23:57:51 »

ปัญหาระดับชาติ แก้ยังไงดีละครับ
มันต้องแก้กันทั้งชาติ อดีตถึงปัจจุบัน
ที่แน่ๆเยาวชนไทยถูกมอมเมาด้วยเทคโนโลยีต่างๆมากมาย
หรือเป็นเพราะว่า "คนโง่ หลอกง่ายกว่าคนฉลาด" ผู้บริหารระดับสูงต่างๆจึงมีบริษัทธุรกิจต่างๆอยู่เบื้องหลัง คอยมอมเมาเยาวชนเพื่อให้ได้มาซึ่ง คำว่า "เงิน" เพื่อแลกกับการที่ไม่มีแผ่นดินให้ลูกหลานตัวเองได้อยู่ในอนาคต
IP : บันทึกการเข้า

ตามสภาพ(ที่จริงมันเสียแต่ไม่อยากบอก)=ครั้งเดียวจบ
ไม่ดีของเสีย=ขายแบบนี้คบกันได้ ราคาไม่เกียง (กินใจดี)
RateX
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 308



« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 04 ธันวาคม 2012, 20:15:35 »

แก้ไม่ยากครับ อยู่ที่ว่าผู้มีอำนาจในบ้านเมืองจะใส่ใจและสนใจทำรึเปล่าแค่นั้น  ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

การถก เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ ถือเป็นเรื่องดี
แต่ การเถียง เพื่อที่จะให้ตัวเองชนะ ถือว่าเป็นเรื่อง โง่
bigman07
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 634


ในโลกนี้ล้วนอนิจัง


« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 07 ธันวาคม 2012, 13:40:31 »

มันเกิดจากคนทำไม่ได้สอน คนสอนไม่ได้ทำ (หลักสูตร) พวกที่ต้องแสดงว่าข้าไปเรียนเมืองนอกมาพอกลับมาก็เอาหลักสูตรอย่างเขามาใช้ ไม่ได้ดูระดับคุณภาพของนักเรียนเราว่ามีแค่ไหน ฟังพูดรู้เรื่องดีหรือยัง ถึงพอที่จะเรียนไวยากรณ์ที่มันพิศดาร ว่าข้านี้เจ๋งทำหลักสูตรสากลเท่ากับเจ้าของภาษาได้  เห็นแต่ใช้เงินของประเทศส่งครูไปอบรมยังต่างประเทศ ถามหน่อยว่ากลับเอามาใช่กับเด็กของเราได้แค่ไหนกัน  แค่พวกที่ไปอบรมก็ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย ได้แต่หน้าว่าข้าได้ไปเมืองนอก กลับมาสอนไม่เป็นเรื่องเหมือนเดิม แต่เขียนแผนซะเลิศหรู 
IP : บันทึกการเข้า
RateX
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 308



« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 07 ธันวาคม 2012, 15:00:50 »

มันเกิดจากคนทำไม่ได้สอน คนสอนไม่ได้ทำ (หลักสูตร) พวกที่ต้องแสดงว่าข้าไปเรียนเมืองนอกมาพอกลับมาก็เอาหลักสูตรอย่างเขามาใช้ ไม่ได้ดูระดับคุณภาพของนักเรียนเราว่ามีแค่ไหน ฟังพูดรู้เรื่องดีหรือยัง ถึงพอที่จะเรียนไวยากรณ์ที่มันพิศดาร ว่าข้านี้เจ๋งทำหลักสูตรสากลเท่ากับเจ้าของภาษาได้  เห็นแต่ใช้เงินของประเทศส่งครูไปอบรมยังต่างประเทศ ถามหน่อยว่ากลับเอามาใช่กับเด็กของเราได้แค่ไหนกัน  แค่พวกที่ไปอบรมก็ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย ได้แต่หน้าว่าข้าได้ไปเมืองนอก กลับมาสอนไม่เป็นเรื่องเหมือนเดิม แต่เขียนแผนซะเลิศหรู 

เราต้องปูพื้นใหม่เลยครับ ต้องเริ่มตั้งแต่เด็กเข้าอนุบาลเลยครับ (ช่วงนี้เด็กกำลังจำครับ)
และช่วงนี้แหละครับสำคัญที่สุด สำเนียงเด็กจะเพี้ยนไม่เพี้ยนก็ตอนนี้แหละครับ
ลงทุนนิดนึงแค่ 1-2ปี นำเจ้าของภาษา(ฝรั่ง)มาสอนเลย แล้วเด็กก็จะจำสำเนียงของคำนั้นๆไปตลอด
ถ้าเริ่มจากตรงนี้ได้ ต่อไปก็คงจะไม่ยากจนเกินไป

ส่วนรุ่นก่อนหน้านั้นๆก็แก้ยากหน่อยละครับ  ยิ้มกว้างๆ
ปล.บ้านเราเน้นการท่องเกินไปครับ ถ้าจะให้ดีและเด็กจดจำง่ายน่าจะเริ่มจากการพูดก่อนครับ

ร่วมกันถกเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีๆถือเป็นเรื่องดีครับ  ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

การถก เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ ถือเป็นเรื่องดี
แต่ การเถียง เพื่อที่จะให้ตัวเองชนะ ถือว่าเป็นเรื่อง โง่
HARLEY DAVIDSON
BIKER
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,537


HARLEY DAVIDSON & MERCEDES BENZ


« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 08 ธันวาคม 2012, 00:10:52 »

อนาคตประเทศจะเป็นยังไงไม่ต้องบอก  เศร้า เศร้า
IP : บันทึกการเข้า

ขาดแคลนเงินตรา  แต่งชุดนักศึกษามาหาพี่
สุขใดไหนจะเท่า เมื่อล้วงกระเป๋าแล้วเจอตังค์
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 10 ธันวาคม 2012, 00:57:36 »

ความคิดเห็นส่วนตัว

เรื่องการศึกษาของบ้านเรานี้ก็ต้องยอมรับละครับ ในสมัยอดีตเราเรียนเพื่อให้ตนเองรู้ แต่ทุกวันนี้

เราเรียนเพื่อบอกให้ผู้อื่นรู้ว่าเรารู้ ส่วนเรื่องทักษะภาษาอังกฤษนี้มันฝึกฝนกันได้ อยู่ที่ความใส่ใจ

ของเรามากกว่า การที่จะส่งลูกหลานไปโรงเรียนแล้วก็คาดหวังว่าลูกเราต้องได้อย่างนั้นอย่างนี้ ก็

รู้สึกจะคาดหวังจากตัวสถาบันจนเกินไป โดยส่วนตัวแล้วมีความเชื่อว่าทุกสิ่งอย่างเริ่มต้นที่

ครอบครัว อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษก็ต้องเริ่มจากบ้าน สอนกันในชีวิตประจำวันพูดผิดพูดถูก

ไม่เป็นไร ขอให้กล้าที่จะพูดกล้าที่จะเรียนรู้  เวลาสอนก็หัดลูกให้หัดพูดก่อน เพราะทักษะการฟัง

และการพูดเป็นทักษะที่ติดตัวมนุษย์ทุกคนมาตั้งแต่เกิด เช่น ไปตลาดชื้อ กล้วย/banana       

ที่สำคัญเวลาเขาพูดผิดอย่าหัวเราะเพราะเด็กจะรู้สึกเขินหาย ให้เป็นไปโดย

ธรรมชาติ ก็ฝึกก็หัดกันไปทุกวันก็จะจำคำศัพท์ได้มากขึ้นเป็นฐานข้อมูล ส่วนหนังสือนั้นก็ลองหา

ซื้อหนังสือภาษาอังกฤษสำหรับเด็กเน้นภาพสวยๆเพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ ถ้าให้ลูกหมดแล้วลูกไม่

สนใจก็ต้องใช้วิริยะครับ วิริยะให้มากๆ ถ้าถึงที่สุดแล้วก้ต้องพรหมวิหาร 4 ครับ เลี้ยงลูกทั้งคน

ต้องอดทน ลูกเรา  เราต้องดูแลเองครับ ไม่ต้องฝากให้ใครช่วยดูแล


* images (1).jpg (6.53 KB, 251x201 - ดู 260 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!