<<< ชายวัย 40 up ทำไมต้องลงพุง >>>

[auddy2507]

      ลองไปอบสมุนไพรดู..ผมอบทุกวันเสาร์ ประมาณ 1 ชม.ทำมา 2 เดือน..
ตอนนี้พุงเริ่มยุบล่ะ น้ำหนักก้อลดลงไป 4 กก.แล้วล่ะ..ลองดูนะ..ครับ
[/quote]ลดแล้วก็กลับมาอีกเพราะว่ากิ๋นข้าวลำ 
[/quote]

      ผมก้อประเภทกินจุ ชอบกินมากกกก(สายแข็งเหมือนกัลป์) แต่..
ลองไปอบสมุนไพรดูนะ..ครับ มันรีดไขมันออกมาเป็นเหงื่อชนิดท่วมตัว
เหมือนเอาน้ำมาราดตัวเองอย่างไงอย่างนั้น

      ลองนึกภาพตอนอบสมุนไพร มันร้อนเหมือนซาลาเปาในซึ้งตั้งอยู่
บนเตาแก๊สอย่างไงอย่างงั้นล่ะ..ครับ ไม่เชื่อลองดู 

[พรุ่งนี้..ไม่มีจริง]

      ลองไปอบสมุนไพรดู..ผมอบทุกวันเสาร์ ประมาณ 1 ชม.ทำมา 2 เดือน..
ตอนนี้พุงเริ่มยุบล่ะ น้ำหนักก้อลดลงไป 4 กก.แล้วล่ะ..ลองดูนะ..ครับ

ลดแล้วก็กลับมาอีกเพราะว่ากิ๋นข้าวลำ 
[/quote]

      ผมก้อประเภทกินจุ ชอบกินมากกกก(สายแข็งเหมือนกัลป์) แต่..
ลองไปอบสมุนไพรดูนะ..ครับ มันรีดไขมันออกมาเป็นเหงื่อชนิดท่วมตัว
เหมือนเอาน้ำมาราดตัวเองอย่างไงอย่างนั้น

      ลองนึกภาพตอนอบสมุนไพร มันร้อนเหมือนซาลาเปาในซึ้งตั้งอยู่
บนเตาแก๊สอย่างไงอย่างงั้นล่ะ..ครับ ไม่เชื่อลองดู 
 ;)ถ้าร้อนขนาดนั้น แล้วฝ้าไม่ขึ้นที่ใบหน้าเหรอคะ
[/quote]

[auddy2507]

     เหอๆ เห็นสาวๆ ไปกันเพียบ เห็นชี ใส่ครีมกันแดด พร้อมใช้ผ้าขนหนูคลุมหน้าอีกชั้น..ครับ
แม่บ้านผมก้อไป..ครับ ทำมา 2 เดือน ก้อปกติดี ทั้งๆ ที่หล่อนเป็นคนขาวและกลั๊วแดดที่สุด

[HARLEY DAVIDSON]

วิ่งก็แล้ว ลดอาหารก่อแล้ว ... มันหยังมาบะลงนี่ ....

ทีตอนขึ้น ขึ้นเอาๆ 

แบบว่าลงนิด แต่เพิ่มเยอะมากกกก

[anthana]

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นค่ะ ช่วยได้เรื่องลดอ้วน และยังเสริมสุขภาพให้แข็งแรงและมีประโยชน์กับส่นอื่นๆของร่างกายด้วย ลองอ่านดูนะคะ เพิ่มเติม 0816810331ลุงอรรถ
คำแนะนำในการใช้และรับประทาน น้ำมันมะพร้าวCOCOFRESH .

.๑/ อมแล้วบ้วนทิ้ง (oil pulling) เป็นวิธีการแบบอินเดียที่ให้ผลดีในการรักษาโรคได้เกือบทุกชนิด รวมทั้งโรคเหงือกและฟัน วิธีการคือใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นcocofresh ๑๕ซีซี หรือ ๑ช้อนโต๊ะ อมกลั้วในปาก ดูด ดึง ดัน ให้ผ่านร่องฟันแบบต่อเนื่องนาน๑๕-๒๐นาทีจนน้ำมันมีสีขาวขุ่นแล้วจึงบ้วนทิ้ง ล้างปากและดื่มน้ำ ควรทำตอนท้องว่างเช่นตอนตื่นนอนเข้าและก่อนนอนทุกวัน อย่างน้อยวันละ2ครั้ง
ถ้ามีโรคประจำตัวมาก ควรเพิ่มการอมบ้วนนี้ในช่วงก่อนอาหารเที่ยงอีก ๑ครั้ง

๒/ รับประทานเพื่อสุขภาพ ทำได้โดยให้อมน้ำมันมะพร้าวกลั้วในปากนาน ๑-๒ นาทีเพื่อให้มีการอุ่นในปากก่อนแล้วจึงกลืน การอมกลืนนี้ให้ทำหลังแปรงฟันเช้าและหลังแปรงฟันก่อนนอนทุกวัน วันละ ๒ครั้ง น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น cocofreshจะไม่ทำให้แสบคอ จึงไม่ควรดื่มน้ำหรือกินอาหารภายใน 30นาทีหลังอมกลืน ปริมาณน้ำมัน ที่ควรใช้อมกลืนขึ้นอยู่กับธาตุของแต่ละคนและสารพิษที่ตกค้างอยู่ในตัว แต่โดยทั่วไปครั้งละ ๑๕-๓๐ ซีซี.วันละ ๒ ครั้ง หรือกะประมาณ ๑ ซีซี.ต่อน้ำหนักตัว ๑กก.ต่อวัน คือถ้าเริ่มรับประทานแล้วถ่ายมากหรือเวียนหัวมากให้ลดปริมาณลง หากเริ่มทานไปแล้ว ๓ วันยังเฉยอยู่การขับถ่ายยังไม่สะดวกให้เพิ่มปริมาณให้มากขึ้น แต่ทั้งนี้รวมแล้วก็ไม่ควรเกิน ๖๐ ซีซีต่อวัน เมื่อสุขภาพดีขึ้นแล้วซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เวลาราว๔-๖ เดือน ก็ควรรับประทาน๑๕-๓๐ซีซี.วันละ ๑ ครั้งตอนเช้า พร้อมกับการทำ oil pulling วันละ๒-๓ครั้ง

.๓/ การใช้น้ำมันมะพร้าวทำ ดีท๊อก วิธีการนี้ดีสำหรับลดความอ้วนแบบรวดเร็ว หรือใช้รักษาโรคในลำไส้ใหญ่ใช้ถ่ายท้องก่อนx-ray ทำได้ด้วยการรับประทานน้ำมันวันละครั้งเดียว ๔๐-๖๐ ซีซี หลังจากกินอาหารเย็นแล้ว ๒ ชม. การทำดีท๊อกแบบนี้จะมีการระบายในช่วงดึกหรือเช้า จึงควรรับประทานให้ติดต่อกัน ๒-๓วัน ใน ๑สัปดาห์ และให้ทำ oil pulling (อมบ้วนทิ้ง)ไปพร้อมๆกันทุกวันอย่างน้อยวันละ๒ครั้ง (ถ้าไม่จำเป็นวิธีดีท๊อกนี้ไม่เหมาะสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า6ขวบ)

๔/ ใช้น้ำมันชโลมทั่วตัวให้ชุ่ม ตั้งแต่โคนเส้นผมถึงปลายเท้าและจุดอับทั่วตัว ก่อนอาบน้ำไม่น้อยกว่า ๓๐นาที วิธีนี้นอกจากขจัดกลิ่นตัว บำรุงผิวและผมแล้ว น้ำมันที่ซึมเข้าในร่างกายยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันโรคกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนและขจัดโรคได้เช่นเดียวกับการกินและอมบ้วน จึงควรชโลมทั่วตัวอย่างน้อยสัปดาห์ละ ๑ครั้ง

การใช้น้ำมันมะพร้าวแบบเครื่องสำอาง: ให้ใช้ทาที่ผิวมีปัญหาวันละ1-2ครั้ง หรือชโลมทั่วตัวตั้งแต่เส้นผมถึงปลายเท้าและจุดอับหลังจากอาบน้ำสระผมขณะที่ตัวยังเปียก ทิ้งไว้ 2-5นาทีแล้วจึงใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดน้ำมันทีตกค้างออก การใช้ชโลมตัวตอนเช้าต้องระวังไม่ให้ผิวส่วนที่ชโลมน้ำมันถูกแสงแดดแรงเพราะอาจทำให้คล้ำได้ นอกจากนี้น้ำมันมะพร้าวยังใช้เช็ดเครื่องสำอางออกได้เป็นอย่างดีไม่มีระคายเคือง


ลักษณะของน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นที่ดี:ใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นหืนหรือสาบ ไม่มีกลิ่นไหม้ มีรสมันไม่ขมหรือเฝื่อน กลืนแล้วต้องไม่แสบคอ ถ้าใช้นวดตัวจะซึมเข้าสู่ผิวหนังได้อย่างรวดเร็ว น้ำมันมะพร้าวที่ติดบนแก้ว จาน หรือช้อน จะล้างด้วยน้ำเปล่าออกได้ง่าย ต้องจับเป็นไขขาวขุ่นที่อุณหภูมิ ๒๕ C ลงมา (ถ้าผสมน้ำมันอื่นหรือไวท์ออยจะจับตัวเป็นไขที่อุณหภูมิต่ำกว่า๒๕องศา)

[พรุ่งนี้..ไม่มีจริง]

 ;Dคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
แล้วก็ปลงซะ จะได้สบายใจ 55555

[HARLEY DAVIDSON]

;Dคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
แล้วก็ปลงซะ จะได้สบายใจ 55555

ก็คงจะเป็นอย่างที่ว่าแหละครับ ปล่อยไปตามธรรมชาติ;D

[pongkon]

อาหาร ลดพุง ลดน้ำหนักถาวร
ลด 5-30 กิโลแบบง่ายๆ ทำทานเอง ปลอดภัย ไม่ต้องทนหิว อิ่มอร่อย
สาธารณสุขแนะกินผักและผลไม้สดวันละไม่น้อยกว่าครึ่งกิโลกรัม จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และลดการป่วยและเสียชีวิตจากโรคหัวใจขาดเลือดได้ร้อยละ 30 โรคเส้นเลือดสมองตีบร้อยละ 19 ผักและผลไม้ที่มีไฟเบอร์หรือใยอาหารจะมีน้ำหนัก เกาะตัวเป็นก้อน ไหลผ่านลำไส้ผ่านกระเพาะเพื่อดักจับไขมัน น้ำตาลและสารพิษทั้งหลายที่ติดเข้าไปกับอาหารที่กินเข้าไป และจะเก็บไว้บนลำไส้ใหญ่ตอนเช้าก็จะขับถ่ายออกไป
นายแพทย์ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ผักและผลไม้เป็นแหล่งของวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหารและกลุ่มสารที่เรียกว่า “พฤกษเคมี” ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง นอกจากนี้ยังมีใยอาหารที่มีผลดีต่อสุขภาพ โดยปริมาณใยอาหารที่มากจะทำให้อาหารผ่านทางเดินอาหารด้วยระยะเวลาที่สั้นกว่าอาหารประเภทเนื้อสัตว์ จึงเป็นการลดเวลาที่แบคทีเรียในลำไส้จะสร้างสารก่อมะเร็งขึ้นจากเศษอาหารที่เหลือจากการย่อย ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกได้ระบุว่า การบริโภคผักและผลไม้ที่ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ คือ 400-600 กรัม/คน/วัน (5-7.5 ถ้วยมาตรฐาน) จะทำให้ประชากรเสียชีวิตมากกว่า 2.5 ล้านคนต่อปี หากบริโภคผักและผลไม้ตามเกณฑ์มาตรฐานจะลดการป่วยและเสียชีวิตจากโรคหัวใจขาดเลือดได้ประมาณร้อยละ 31 มะเร็งหลอดอาหารร้อยละ 20 โรคเส้นเลือดสมองตีบร้อยละ 19 โรคมะเร็งกระเพาะอาหารร้อยละ 19 มะเร็งปอดร้อยละ 12 มะเร็งลำไส้ร้อยละ 2   

นายแพทย์ชำนาญกล่าวต่อไปว่า ประโยชน์ที่ได้จากการกินผักผลไม้เป็นประจำ จะทำให้ป่วยน้อยกว่าคนไม่กินผักผลไม้ เมื่อเจ็บป่วยร่างกายจะฟื้นฟูหรือปรับสภาพได้เร็วกว่า โดยเฉพาะผักผลไม้ที่มีวิตามินซี เบต้าแคโรทีน มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระไม่ให้เกิดมะเร็ง ซึ่งเกิดจากเซลล์ของร่างกายมีความผิดปกติ พักผ่อนไม่เพียงพอ อารมณ์หงุดหงิด กินอาหารมันเกินไป ไม่เล่นกีฬา ไม่ออกกำลังกาย อนุมูลอิสระเมื่อเกิดขึ้นจะทำให้เซลล์ตายทำให้ผิวหนังแก่เร็ว แต่ถ้าหนังไม่เหี่ยวไม่แก่ก็จะกลายเป็นเซลล์มะเร็ง นอกจากนี้ผักและผลไม้ที่มีไฟเบอร์หรือใยอาหารจะมีน้ำหนัก เกาะตัวเป็นก้อน ไหลผ่านลำไส้ผ่านกระเพาะเพื่อดักจับไขมัน น้ำตาลและสารพิษทั้งหลายที่ติดเข้าไปกับอาหารที่กินเข้าไป และจะเก็บไว้บนลำไส้ใหญ่ตอนเช้าก็จะขับถ่ายออกไป คนที่กินผักผลไม้เป็นประจำจึงมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งน้อยกว่าคนไม่กินผักและผลไม้ การป้องกันที่ดีที่สุด จึงแนะนำว่าใน 1 วันควรกินผักให้ครบ 5 สี ประกอบด้วย สีเขียว สีส้มหรือสีเหลือง สีแดง สีม่วง และสีขาว

ผักสีเขียว ได้แก่ คะน้า ผักบุ้ง กวางตุ้ง โหระพา กะเพรา แมงลัก สะระแหน่  ซึ่งสารคลอโรฟิลล์สีเขียวในผักเมื่อถูกย่อยแล้ว จะช่วยป้องกันมะเร็ง บำรุงตับ ขจัดกลิ่นเหม็นต่างๆในตัวด้วย ผักสีส้มหรือสีเหลือง ได้แก่ ฟักทอง แครอท ข้าวโพด มีวิตามินช่วยต้านอนุมูลอิสระอันเป็นตัวก่อมะเร็ง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ข้าวโพดช่วยป้องกันความเสื่อมของจุดสีหรือแสงสีของเรตินาดวงตา ที่ทำให้ผู้สูงอายุมองไม่เห็น ผักสีแดง ได้แก่ มะเขือเทศ พริกสุก มะละกอ แตงโม ฯลฯ จะมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง ลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ผักสีม่วงได้แก่ กะหล่ำสีม่วง มะเขือม่วง เผือก ดอกอัญชัน ลูกหว้า องุ่น ชมพู่มะเหมี่ยว พืชผักสีม่วงจะมีสารแอนโทไซยานินช่วยลบล้างสารที่ก่อมะเร็ง และออกฤทธิ์ขยายเส้นเลือดช่วยลดความเสียงในการเป็นโรคหัวใจและอัมพาตได้ดี มีประโยชน์ต่อไต ผักสีขาว ได้แก่ ดอกแค ผักกาดขาว มะเขือขาวเปราะ ลูกเดือย มะพร้าว น้อยหน่า มีประโยชน์ต่อปอด  โดยเฉพาะดอกแคมีเบต้าแคโรทีนสูงมาก มีวิตามินซีช่วยแก้หวัด ช่วยทำให้ผิวสวย

 

[พรุ่งนี้..ไม่มีจริง]

  :Dขอบคุณคะ สำหรับคำแนะนำ
เดี๋ยวจะนำไปปฏิบัติดู ได้ผลประการใด
จะกลับมานำเสนอนะคะ