เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 26 เมษายน 2024, 23:44:05
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ห้องนั่งเล่น (ผู้ดูแล: แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-., ©®*)
| | |-+  บทความ หมาขี้เรื้อน
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน บทความ หมาขี้เรื้อน  (อ่าน 621 ครั้ง)
Love Never Dies.
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,820


ตีกันกูป่วย แต่ถ้ากินเหล้า บอกกูด้วย ถึงป่วยกูก็จะไป


« เมื่อ: วันที่ 15 กรกฎาคม 2012, 04:38:06 »

หมา ขี้เรื้อน


ลูกชายนักธุรกิจใหญ่มีชื่อเสียงระดับประเทศคน หนึ่ง
 เพิ่งสำเร็จการศึกษากลับมาจากเมืองนอก
 ยังไม่ทันทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันก็ถูกผู้เป็นแม่ขอร้องให้บวชเรียนเสีย
 ก่อน** **
 เพื่อเห็นแก่แม่..บัณฑิตใหม่หมาดๆจากเมืองนอกจึงบวชอย่างเสียไม่ ได้** **
 
 เมื่อบวชที่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯแห่งหนึ่งเสร็จแล้ว** **
 ผู้เป็นแม่จึงพาไปฝากให้จำพรรษาอยู่กับพระวิปัสสนาจารย์รูปหนึ่ง
 ที่วัดป่าแถวภาคอีสาน** **
 พระหนุ่มการศึกษาสูงมาจากตระกูลผู้ดีมีแต่ความสุขสบาย** **
 เมื่อมาอยู่วัดป่ากว่าจะปรับตัวได้จึงใช้เวลานานเป็นแรมเดือน
 
 แต่ก็นั่นแหละกว่าจะนิ่งก็ทำเอาพระร่วมวัดหลาย
 รูปพลอยอิดหนาระอาใจไปตามๆกัน** **
 ปัญหาที่ทำให้พระทั้งวัดเหนื่อยหน่ายจนนึกระอาก็เพราะพระใหม่มี
 นิสัยชอบจับผิด* * **
 และชอบอวดรู้ยกหู ชูหางตัวเองอยู่เป็นประจำ** **
 วันแรกที่มาอยู่วัดป่าก็นึกเหยียดพระเจ้าถิ่นทั้งหลายว่าไม่ได้
 รับการศึกษาสูงเหมือนอย่างตน
 ออกบิณฑบาตได้อาหารท้องถิ่นมาก็ทำท่าว่าจะฉันไม่ลง * *
 **
 
 เห็นที่วัดใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าดแทนไฟฟ้าก็วิพากษ์วิจารณ์เสีย
 เป็นการใหญ่หาว่าล้าสมัย** **
 ไม่รู้จักใช้เทคโนโลยี่ ตอนหัวค่ำมีการทำวัตรสวดมนต์เย็นก็บ่นว่า** **
 
 ท่านรองเจ้าอาวาสทำวัตรนานเหลือเกินกว่าจะสิ้นสุดยุติได้ก็นั่ง จนขาเป็นเหน็บชา
 
 ครั้นพอถึงเวรตัวเองล้างห้องน้ำเข้าบ้างก็ทำท่าจะล้างอย่างขอไป
 ทีล้างไปบ่นไป** **
 
ประเภทตูจบปริญญาโทมาจากเมืองนอกต้องมาเข้าเวรล้างห้องน้ำร่วมกับใครก็ไม่รู้**
 **
 โอ้ชีวิต! ความสำรวยหยิบโหย่งทำให้พระใหม่ไม่พอใจสิ่งนั้นสิ่งนี้ถือดี !** **
 ว่าตัวเองมีชาติตระกูลสูง มีการศึกษาสูงกว่าใครในวัดนั้น** **
 ผิวพรรณก็ดูสะอาดสะอ้านชวนเจริญศรัทธากว่าพระรูปไหนทั้งหมด** **
 มองตัวเองเปรียบกับพระรูปอื่นแล้วช่างรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า ทุกประตู** **
 นึกแล้วก็ยิ้มกระหยิ่มอยู่ในใจ
 กลับเข้ากุฏิเมื่อไหร่ก็เอาปากกามาขีดเครื่องหมายกากบาทบนปฏิทิน
 นับถอยหลังรอวันสึกด้วยใจจดจ่อ** **
 
 อยู่มาได้พักใหญ่พระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็สังเกตเห็นว่าท่านเจ้า
 อาวาสวัดป่าแห่งนี้ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา ซ้ำนานๆครั้งจะออกมาให้
 โอวาทกับลูกศิษย์เสียทีหนึ่ง** **
 
 วันๆไม่เห็นท่านทำอะไรเอาแต่กวาดใบไม้เก็บขยะ** **
 ซักผ้าเอง** (**เณรน้อยก็มีไม่รู้จักใช้) สอนก็ไม่สอน** **
 การบริหารวัดก็มอบให้ท่านรองเจ้าอาวาสเป็นคน** **
 จัดการไปเสียทุกอย่าง เห็นแล้วเลยนึกร้อนวิชา** **
 เสนอให้ปรับโน่นลดนี่สารพัดที่ตัวเองเห็นว่าไม่เข้าท่าล้าสมัย** **
 รวมทั้งให้เสนอให้วัดใช้ไฟฟ้าแทนตะเกียงด้วยอีกข้อหนึ่ง
 เพราะตนเห็นว่ายุคสมัยก้าวไกลมามากแล้ว
 ไม่ควรจะทำตนเป็นคนหลังเขาให้คนอื่นเขาดูถูก** **
 
 อีกหนึ่งในข้อวิจารณ์จุดด้อยของวัดทั้งหลายเหล่านั้นพระใหม่เสนอ ให้** **
 หลวงพ่อเจ้าอาวาสมีปฏิสัมพันธ์กับพระลูกวัดให้มากขึ้นกว่านี้**
 ! **สอนให้มากขึ้นเทศน์ให้มากขึ้น**
 และแนะนำว่าคนระดับผู้บริหารไม่ควรจะทำงานอย่างการซักจีวรเอง
 เป็นต้นด้วยตนเอง* * **
 ควรจะกระจายอำนาจมอบ งานให้คนอื่นทำดีกว่า
 
 เย็นวันนั้นเป็นวันพระสิบห้าค่ำ** **
 หลวงพ่อเจ้าอาวาสมานั่งทำวัตรที่โบสถ์ธรรมชาติกลางลานทรายด้วย** **
 ท่านไม่ลืมที่จะหยิบข้อเสนอแนะจากพระใหม่มาอ่านให้พระหนุ่ม สามเณรน้อย** **
 ทั้งหลายฟังแต่ท่านไม่บอกว่าพระรูปไหนเป็นคนเขียน** **
 อ่านจบแล้วหลวงพ่อก็ยิ้มอย่างมีเมตตาพลางหยิบไมโครโฟนขึ้นมา** **
 แล้วชี้ให้ภิกษุหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายดูหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง** **
 ที่นอนอยู่ใต้ม้าหินอ่อนตัวหนึ่ง จากใต้ต้นอโศกที่อยู่ใกล้ๆ **
 
 
 เธอ ทั้งหลายเห็นหมาขี้เรือนตัวนั้นหรือไม่
 เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันเป็นขี้เรื้อน* * **
 คันไป ทั้งตัว ฉันเห็นมันวิ่งวุ่นไปมาทั้งวัน** **
 เดี๋ยว ก็วิ่งไปนอนตรงนั้นเดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรงนี้** **
 อยู่ ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นานเพราะมันคัน แต่พวกเธอรู้ไหม** **
 เจ้า หมาตัวนั้นน่ะมันไปนอนที่ไหนมันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ในใจ** **
 หาว่า แต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน** **
 
สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี **
 
 คิด อย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน** **
 แต่ หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักที** **
 เลย ต้องวิ่ งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้งวัน
 เจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่า** **
 เจ้า สาเหตุแห่งอาการคันนั้นหาใช่เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่** **
 แต่ สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคของตัวมันเองนั่นต่างหาก** **
 พูดจบแล้วหลวงพ่อก็วางไมโครโฟนลงเป็นสัญญาณให้รู้ว่า** **
 ได้เวลาภาวนาหลังการทำวัตรสวดมนต์เย็นแล้ว
 
 ขณะที่ทุกรูปนั่งหลับตาภาวนาอย่างสงบนั้น** **
 ในใจของพระใหม่กลับร้อนเร่าผิดปกติ นอกสงบ แต่ในวุ่นวาย** **
 นึกอย่างไร** **ก็ มองเห็นตัวเองไม่ต่างไปจากหมาขี้เรื้อน**
 **ที่หลวงพ่อชี้ให้ดู **
 ยิ่ง นั่งสมาธินานๆ ยิ่งคันคะ เยอในหัวใจ ทั้งอายทั้งสมเพชตัวเอง**
 
 นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาพระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็เปลี่ยนไปเป็นคน ละคน** **
 จากคนพูดมากกลายเป็นคนพูดน้อย จากคนที่หยิ่งยโสกลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน** **
 จากคนที่ชอบจับผิดคนอื่นกลายเป็นคนที่หันมาจับผิดตัวเอง
 เมื่อออกพรรษาแล้วโยมแม่มาขอให้ลาสิกขาเพื่อกลับไปสืบต่อธุรกิจ
 จากครอบครัวท่านก็ยังไม่ยอมสึก **
 
 " **อาตมา เป็นหมาขี้เรื้อน** **
 ขออยู่รักษาโรคจนกว่าจะหายคันกับครูบาอาจารย์ที่นี่อีกสักหนึ่ง พรรษา"** **
 โยมแม่ได้ฟังแล้วก็ได้แต่ยกมืออนุโมทนาสาธุการกราบลาพระลูกชาย** **
 แล้วก็เดินออกจากวัดไปขึ้นรถพลางนึกถามตัวเองอยู่ในใจว่าคำว่า** **
 หมาขี้เรื้อน ของพระลูกชายหมายความว่าอย่างไรกันแน่หนอ **
 
 ถ้า เรายังเป็นโรคอยู่ในใจ ไม่พอใจอะไรซักอย่าง เงินเดือนน้อย
 หน้าที่การงานไม่พัฒนา ตำแหน่งไม่ไปไหน** **
 ไม่ ว่าเราย้ายงานไปที่ไหน เราก็ไม่พอใจ สถานที่เหล่านั้นไม่ดี
 คนไม่ได้เรื่อง ทั้ง ๆ ที่เราไม่เคยได้ดูตัวเองเลยว่า** **
 เรา พัฒนาการทำงานของเรามั้ย ขวนขวายหาความรู้หรือเปล่า
 ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับหมาขี้เรื้อนตัวนั้นเลย **
 ! ** **
 ************ ********* ********* ********* ********* ********* ** **
 ขอบุญจากธรรมทานนี้จงถึงแก่นายเวรและผู้ปกปักรักษาดูแลช่วยเหลือ
 ข้าพเจ้าและครอบครัว** **
 ที่มาถึงตัวทุกภพภูมิ** **
 ขอบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบัน** **
 หากไม่ถึงเพียงใดให้ขอให้คำว่าไม่มี ไม่รู้ในสิ่งที่ดี** **
 จงอย่าได้ปรากฏแก่ข้าพเจ้า** **
 ขอให้เกิด! ในภพภูมิ เขต ประเทศที่มีพระพุทธศาสนาประดิษฐานอย่างมั่นคง** **
 และได้ศึกษาพระธรรมได้อย่างเข้าใจถ่องแท้ ลึกซึ้ง
 ตลอดจนกว่าจะเข้าพระนิพพานด้วยเทอญ.** **
 
IP : บันทึกการเข้า

ดื่มเหล้ากับสหายรู้ใจ พันไห่ก็ไม่เมา เช้าวันรุ่งขึ้น "เสี่ยวเอ้อ ข้ามาอยู่ที่นี้ได้ยังไง"
corolado4
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,835


บ้านสวน ดอยพระบาท11 (ธารน้ำกรณ์2)


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 15 กรกฎาคม 2012, 06:30:25 »

เข้ามาอ่าน
กดไลท์ให้แล้วครับ
IP : บันทึกการเข้า

Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,941


Experience is the best teacher.


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 15 กรกฎาคม 2012, 06:40:47 »


เป็นอีกบทความหนึ่งที่ดีมาก...

ชอบครับ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!