เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 27 เมษายน 2024, 08:20:01
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ (ผู้ดูแล: bm farm)
| | |-+  คุย(เถียง) กับเพื่อนเรื่องปลูกยาง
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน คุย(เถียง) กับเพื่อนเรื่องปลูกยาง  (อ่าน 1999 ครั้ง)
sripoom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 463


« เมื่อ: วันที่ 27 มิถุนายน 2012, 20:53:57 »

ถก(เถียง) กับเพื่อนซึ่งเป็นคนมีเงินเดือน

เขาบอกว่า (เชียงราย)การปลูกยางทำให้จน เพราะแรงงานแพง
    หญ้ารก ปุ๋ยแพง  ลงทุนตลอด และราคาตก อีกทั้งเป็นพืชเชิงเดี่ยว
    ทำให้อดอยากปากแห้ง ไม่มีอนาคต

ส่วนผม  บอกว่า ปลูกยางนั่นแหละดี ทนเอาหน่อย(6 - 7 ปี) มีเงินได้รายวัน
    ราคาปุ๋ย ราคายา ต้องอดทน แรงงานก็ทนหา 
    หากมีที่เยอะ(10  ไร่ ขึ้น) ผมบอกว่าจะปลูกยาง ราคายางก็มีขึ้นลงเป็นธรรมดา
    แต่ผมมองว่าราคาก็ดีกว่าเกษตรอีกหลายอย่าง(เช่นข้าวโพด ได้เงินรายปี)
    และบอกว่าหากปลูกยางไม่ดี ทำไมเศรษฐีสวนยางปักษ์ใต้มาซื้อเยอะแยะ
   
 ผมอยากทราบว่า ใครคิดผิดคิดถูก หรือผิดทั้งคู่    ขอบคุณท่านผู้รู้และมีประสบการณ์ ครับ
   
IP : บันทึกการเข้า
Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 27 มิถุนายน 2012, 21:54:52 »

ถก(เถียง) กับเพื่อนซึ่งเป็นคนมีเงินเดือน

เขาบอกว่า (เชียงราย)การปลูกยางทำให้จน เพราะแรงงานแพง
    หญ้ารก ปุ๋ยแพง  ลงทุนตลอด และราคาตก อีกทั้งเป็นพืชเชิงเดี่ยว
    ทำให้อดอยากปากแห้ง ไม่มีอนาคต
เรามีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ครับ ทำไมทางใต้ฝนตกชุกเขาถึงกรีดยางได้และมีรายรับจากสวนยางมากมาย อนาคตอยู่ที่เรากำหนดครับ

ส่วนผม  บอกว่า ปลูกยางนั่นแหละดี ทนเอาหน่อย(6 - 7 ปี) มีเงินได้รายวัน
    ราคาปุ๋ย ราคายา ต้องอดทน แรงงานก็ทนหา 
    หากมีที่เยอะ(10  ไร่ ขึ้น) ผมบอกว่าจะปลูกยาง ราคายางก็มีขึ้นลงเป็นธรรมดา
    แต่ผมมองว่าราคาก็ดีกว่าเกษตรอีกหลายอย่าง(เช่นข้าวโพด ได้เงินรายปี)
    และบอกว่าหากปลูกยางไม่ดี ทำไมเศรษฐีสวนยางปักษ์ใต้มาซื้อเยอะแยะ
   
 ผมอยากทราบว่า ใครคิดผิดคิดถูก หรือผิดทั้งคู่    ขอบคุณท่านผู้รู้และมีประสบการณ์ ครับ
   

เพื่อนผม คนพังงา ทำงาน สกย(กองทุนสวนยาง)ทางอิสานมา 20 กว่าปี บอกว่าพื้นที่ที่น่าลงทุนปลูกยางที่สุดก็คือภาคเหนือครับ รอ AEC เปิดท่าเรือเชียงแสนจะเป็ยุทธศาสตร์สำคัญของการส่งออกครับ ทุกวันนี้ยางเชียงรายซื้อแล้วขนลงใต้และภาคตะวันออก พอราคาดีของเยอะค่อยขนมาลงที่ท่าเรือเชียงแสน มีเพื่อนมาจับตัวเลขบางวันมีีถึง สองพันตัน
อัตราค่าแรงกรีดยาง สัดส่วน 60/40 ครับคงไม่ต้องอธิบายว่าใครได้เท่าไหร่
คนหนึ่งคนรับผิดชอบพื้นที่กรีดยาง = 20 ไร่/  1 ครอบครัว(ผัว-เมีย) รับผิดชอบ= 30 ไร่ครับ ช่วงยางราคา 150-เกือบ 200/ก.ก. บางครอบครัวเคยได้ส่วนแบ่งเป็นหลักแสนต่อรอบขายครับ มันเป็นความพอใจทั้งสองฝ่ายครับ (จะมาโทษค่าแรงแพงไม่ได้)
ไม่มีอะไรที่ไม่ลงทุนหรอกครับ เรียนจบมาก็ต้องลงทุน เอาความรู้และความไม่รู้ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ไปแลกกับรายได้อันน้อยนิด เขาจะให้เท่าไหร่ยังไงก็ต้องพอใจ
IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
หล่อเล็ก
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


เกษตรมือใหม่ป้ายแดง


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 28 มิถุนายน 2012, 02:34:08 »

มาเก็บข้อมูลด้วยคน
IP : บันทึกการเข้า
simplack
พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,211



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 28 มิถุนายน 2012, 02:40:36 »

ผมบอกได้เลยว่าการทำสวนยางไม่มีขาดทุนครับ จะลงก็แค่ปีแรก กล้ายาง ปุ๋ย ยาฆ่าหญ้า
แต่หลังจากนั้น ไม่ได้ลงทุนอะไรเลย รอแค่กรีดยาง อย่างเดียวครับ ที่รู้ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะพ่อผม ก็ปลูกยาง จากที่เคยทำไร่ข้าวโพด ปลูกส้ม โอ แต่หันมาทำสวนยางพารา พอยางโต ยาก็ไม่ได้พ่น ปุ๋ยก็ไม่ได้ใส่ กรีดยางขายอย่างเดียว ผมคิดว่าการทำสวนยาง ลงทุนแค่ตอนเริ่มต้น จากนั้นแทบไม่ได้ลงทุนอะไรเลยครับ
IP : บันทึกการเข้า

ได้เกิดมาเป็นคนก็ดีแค่ไหนแล้ว
หล่อเล็ก
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


เกษตรมือใหม่ป้ายแดง


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 28 มิถุนายน 2012, 02:58:03 »

ผมบอกได้เลยว่าการทำสวนยางไม่มีขาดทุนครับ จะลงก็แค่ปีแรก กล้ายาง ปุ๋ย ยาฆ่าหญ้า
แต่หลังจากนั้น ไม่ได้ลงทุนอะไรเลย รอแค่กรีดยาง อย่างเดียวครับ ที่รู้ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะพ่อผม ก็ปลูกยาง จากที่เคยทำไร่ข้าวโพด ปลูกส้ม โอ แต่หันมาทำสวนยางพารา พอยางโต ยาก็ไม่ได้พ่น ปุ๋ยก็ไม่ได้ใส่ กรีดยางขายอย่างเดียว ผมคิดว่าการทำสวนยาง ลงทุนแค่ตอนเริ่มต้น จากนั้นแทบไม่ได้ลงทุนอะไรเลยครับ

ถ้าหาที่ดินปลูกยางราคาต่ำกว่าไร่ละ 5 หมื่นได้ยิ่งดี
IP : บันทึกการเข้า
หล่อเล็ก
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


เกษตรมือใหม่ป้ายแดง


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 28 มิถุนายน 2012, 03:06:47 »

ผมบอกได้เลยว่าการทำสวนยางไม่มีขาดทุนครับ จะลงก็แค่ปีแรก กล้ายาง ปุ๋ย ยาฆ่าหญ้า
แต่หลังจากนั้น ไม่ได้ลงทุนอะไรเลย รอแค่กรีดยาง อย่างเดียวครับ ที่รู้ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะพ่อผม ก็ปลูกยาง จากที่เคยทำไร่ข้าวโพด ปลูกส้ม โอ แต่หันมาทำสวนยางพารา พอยางโต ยาก็ไม่ได้พ่น ปุ๋ยก็ไม่ได้ใส่ กรีดยางขายอย่างเดียว ผมคิดว่าการทำสวนยาง ลงทุนแค่ตอนเริ่มต้น จากนั้นแทบไม่ได้ลงทุนอะไรเลยครับ

ถ้าหาที่ดินปลูกยางราคาต่ำกว่าไร่ละ 5 หมื่นได้ยิ่งดี  สนใจทำสวนยางลองไปศึกษาข้อมูลจากนี้เลย http://www.live-rubber.com/rubberforum/viewtopic.php?f=2&t=581
IP : บันทึกการเข้า
sripoom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 463


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 28 มิถุนายน 2012, 08:18:49 »

ขอบคุณมากครับ
ผมจะนำความคิดเห็นนี้ ให้เพื่อนดูและอ่าน
เพราะเป็นเสียงจากชาวสวนและเกษตรจริงๆ
(เพื่อน+ผม .. เป็นเกษตรกรบนคอลัมน์ และทำเกษตรบนหูตัวเอง ถก(เถียง)ตลอด)

    อีกอย่างผมเองคิด(ถก)ว่า  การปลูกยางเป็นแนวทางแก้ปัญหาการเผาดอยข้าวโพด(ข้าว)
แถบบ้านเรา อย่างยั่งยืนอีกทางหนึ่ง
                                                       ขอบคุณครับ

IP : บันทึกการเข้า
Pon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 28 มิถุนายน 2012, 14:55:29 »

ถก(เถียง) กับเพื่อนซึ่งเป็นคนมีเงินเดือน

เขาบอกว่า (เชียงราย)การปลูกยางทำให้จน เพราะแรงงานแพง
    หญ้ารก ปุ๋ยแพง  ลงทุนตลอด และราคาตก อีกทั้งเป็นพืชเชิงเดี่ยว
    ทำให้อดอยากปากแห้ง ไม่มีอนาคต
เรามีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ครับ ทำไมทางใต้ฝนตกชุกเขาถึงกรีดยางได้และมีรายรับจากสวนยางมากมาย อนาคตอยู่ที่เรากำหนดครับ

ส่วนผม  บอกว่า ปลูกยางนั่นแหละดี ทนเอาหน่อย(6 - 7 ปี) มีเงินได้รายวัน
    ราคาปุ๋ย ราคายา ต้องอดทน แรงงานก็ทนหา 
    หากมีที่เยอะ(10  ไร่ ขึ้น) ผมบอกว่าจะปลูกยาง ราคายางก็มีขึ้นลงเป็นธรรมดา
    แต่ผมมองว่าราคาก็ดีกว่าเกษตรอีกหลายอย่าง(เช่นข้าวโพด ได้เงินรายปี)
    และบอกว่าหากปลูกยางไม่ดี ทำไมเศรษฐีสวนยางปักษ์ใต้มาซื้อเยอะแยะ
   
 ผมอยากทราบว่า ใครคิดผิดคิดถูก หรือผิดทั้งคู่    ขอบคุณท่านผู้รู้และมีประสบการณ์ ครับ
   

เพื่อนผม คนพังงา ทำงาน สกย(กองทุนสวนยาง)ทางอิสานมา 20 กว่าปี บอกว่าพื้นที่ที่น่าลงทุนปลูกยางที่สุดก็คือภาคเหนือครับ รอ AEC เปิดท่าเรือเชียงแสนจะเป็ยุทธศาสตร์สำคัญของการส่งออกครับ ทุกวันนี้ยางเชียงรายซื้อแล้วขนลงใต้และภาคตะวันออก พอราคาดีของเยอะค่อยขนมาลงที่ท่าเรือเชียงแสน มีเพื่อนมาจับตัวเลขบางวันมีีถึง สองพันตัน
อัตราค่าแรงกรีดยาง สัดส่วน 60/40 ครับคงไม่ต้องอธิบายว่าใครได้เท่าไหร่
คนหนึ่งคนรับผิดชอบพื้นที่กรีดยาง = 20 ไร่/  1 ครอบครัว(ผัว-เมีย) รับผิดชอบ= 30 ไร่ครับ ช่วงยางราคา 150-เกือบ 200/ก.ก. บางครอบครัวเคยได้ส่วนแบ่งเป็นหลักแสนต่อรอบขายครับ มันเป็นความพอใจทั้งสองฝ่ายครับ (จะมาโทษค่าแรงแพงไม่ได้)
ไม่มีอะไรที่ไม่ลงทุนหรอกครับ เรียนจบมาก็ต้องลงทุน เอาความรู้และความไม่รู้ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ไปแลกกับรายได้อันน้อยนิด เขาจะให้เท่าไหร่ยังไงก็ต้องพอใจ


ในส่วนนี้ก็ถูกอยู่นะครับ แต่ทางกลับกันต้องคิดถึงระยะยาวด้วยนะครับเพราะ
1.ตอนนี้เกือบพื้นทุกที่มีการปลูกยางกันหมด ต่อไปราคาจะเป็นอย่างไร ?
2.การปลูกยางจะทำให้พื้นที่ในการปลูกยางนั้นเสื่อมสภาพเร็ว ในระยะยาว จะไม่สามารถปลูกพืชชนิดอื่นได้อีก
3.ในขณะนี้ยางพาราที่เราส่งออกไปยังประเทศจีนนั้นเริ่มที่จะอิ่มตัวแล้ว  เนื่องจาก ประเทศจีนนั้นได้เริ่มทำการปลูกยางพาราเอง และ มีการทดสอบคุณภาพเนื้อยางพาราที่ปลูกนั้น มีคุณภาพ อยู่ใน เกรด A เช่นกันครับ 

ยังมีอีกหลายๆ ที่ผมลองศึกษาดู  ก็ทำให้ได้เลิกคิดที่จะปลูกไปเลยครับ แต่ ท่านอื่นๆก็ลองหาข้อมูลให้ดีก่อนที่จะคิดลงทุนนะครับ
IP : บันทึกการเข้า
ปัญญาวุฒิ
เดินต่อไป
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 392



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 28 มิถุนายน 2012, 15:35:21 »

ความเห็นข้างบนนี้ถูกต้องเลยครับ เพราะตลาดยางมีก็ประมาณนี้
เมื่อวานได้ยินข่าวว่า คำสั่งซื้อลดลง 40%  รัฐบาลต้องหาตลาดรับซื้อเพิ่ม  ร้องไห้ ร้องไห้ ร้องไห้

ข้อเสียของยางพารา คือ เป็นพืชเชิงเดี่ยว ไม่กักเก็บน้ำ พืชระดับอื่นขึ้นแซมไม่ได้ (โดนกำจัด)


ข้อดีคือ ลงทุนครั้งเดียว พอเก็บเกี่ยวผล ก็เสียค่าลงทุนไม่กี่หมื่นบาทเท่านั้นเอง

ผมว่า ถ้าอยู่แบบธรรมดาๆ เรา ไม่ฟุ้งเฟ้อ ก็ อยู่ได้นะครับ ราคาตกบ้างก็ไม่เป็นไร ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

บล็อกเศรษฐี blogger    แบบบ้านน่ารัก
stum
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 47


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 28 มิถุนายน 2012, 15:43:37 »

เราน่าจะหันมาปลูกปาล์มน้ำมันกันบ้างน่ะครับ
เพราะว่ายางพารามีเยอะมากไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ  การปลูกก็ใช่เวลานาน
ลงทุนก็เยอะพอควร  ถ้าเราหันมาปลูกปาล์มน้ำมันกันเยอะมากพอ  ก็จะทำให้ประเทศของเราไม่ต้องนำเข้าปาล์มน้ำมันจากต่างประเทศ
และเกิดการสร้างรายได้อีกด้วย
ปล.ยังมีพืชยืนต้นที่เราละเลยมาไม่นาน  อย่างเช่น ลำไยและลิ้นจี่  ที่ราคาก็ดีขึ้นมากเพราะชาวสวนส่วนมากล้มสวนลำไยและลิ้นจี่เพื่อหันไปปลูกยางพารา
กันหมด  จนลืมไปว่าพืชยืนต้นเหล่านี้นี่แหละที่เราไม่เคยซื้อมันกินเลยเพราะบ้านเราก็ปลูก  ปัจจุบันมันไม่มีแล้ว(อันนี้แรงไปหน่อย)  หรือไม่ก็ต้องรอนำเข้าจากจีน  
หรือไม่ก็ลาวบ้าง  พม่าบ้าง  เป็นต้น  อย่างที่เห็นในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา  เราซื้อส้มลูกเล็กจากจีนมาขาย(ไม่ทราบว่าชื่อส้มอะไร)  แต่คนเชียงรายก็ให้ความสนใจอย่างล้นหลาม  ซื้อกลับบ้านเกือบทุกวัน(นี่ตัวผู้เขียนเอง  ชอบกิน)  ที่แท้แล้วลึกๆ  เราลืมนึกไปว่าเราก็สามารถส่งสินค้าของเราไปขายต่างประเทศได้เช่นกัน  แต่ทำไมไม่มีการส่งเสริม  กลับปล่อยให้เกษตรกรต้องฝากชีวิตและผลผลิตทั้งหมดไว้กับพ่อค้าคนกลาง  
คงระบายความในใจได้เพียงเท่านี้แหละ  ก็ทำยังไงได้เป็นแค่ลูกจ้างฯ คิดได้แค่นี้แหละ

ขอบคุณมากครับที่พยายามอ่าน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 มิถุนายน 2012, 15:46:30 โดย stum » IP : บันทึกการเข้า
peekeng
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 29 มิถุนายน 2012, 07:35:01 »

ผมปลูกทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่ ยางพารา ลำไย มะขามเปรี้ยว ล่าสุดทำนา ครับ ถ้าคุณคิดจะทำขอให้ตั้งใจกับมัน อะไรก็ดีทั้งหมดแหละ ยางผมมีทั้งหมด 5 สวน ผมกรีดแค่ 1 สวน 1 อาทิตย์ * 6 มีด ผมขาย 1 ครั้ง ได้ไม่ต่ำกว่า 8 พันบาท คนงานผมไม่เคยไปดูเขาทำงาน เขาจะเอาเงินมาส่ง ในวันที่เขาขาย มาเราก็มาคุย(ดื่ม)ปัญหากันแค่นั้น และเดือนหน้าลำไย ก็จะได้ ขายอีก ทำเถอะครับถ้าคุณชอบอย่าไปแคร์ใคร เมื่อก่อนนนี้ใครก็ว่าผมโง่.....ทั้งนั้น ที่มาทำเกษตรกร ..ลืมบอกไปผมเปิดร้านคอมพิวเตอร์ครับ...ไม่มีใครรู้หรอกว่า เราโง่หรือว่าฉลาด มันอยู่ที่เราทำเองครับ ขอใ้ห้โชคดีในการตัดสินใจน่ะครับ พอดีผ่านมาเจอ..ฝากบอกเพื่อนคุณด้วยก็แล้วกัน
IP : บันทึกการเข้า
ค น เ มี ย ง
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 29 มิถุนายน 2012, 10:24:16 »

นานาจิตตัง ยิงฟันยิ้ม ถ้าคิดจะลงมือทำอะไรก็คิดให้ดีแล้วก็ทำเลย ถ้ามัวแต่ลังเลก็จะไม่ประสพความสำเร็จสักที ชาวสวนยางบ้านผมเมื่อก่อนมีแต่คนบอกว่าโง่ปลูกยางตอนนี้เป็นพ่อเลี้ยงหมดล่ะ (ตอนนั้นผมยังโตไม่ทัน) แต่ตอนนี้ผมปลูกไปแล้ว 20 กว่าไร่ แล้วก็ทำอย่างอื่นไปด้วย ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
Mahasaykikung
เศรษฐกิจพอเพียง
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 466



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 29 มิถุนายน 2012, 11:16:39 »

เกษตรกรที่เวีบงเชียงรุ้งมีรถขี่ก็เพราะสวนยางนีหละครับ แต่ก่อนทำแต่ไร่ข้าวโพดไร่มัน ไม่เหลืออะไรเลยสักบาท  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

sripoom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 463


« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 29 มิถุนายน 2012, 11:23:50 »

ขอบคุณอีกครั้งหนึ่ง ครับ

     กับคำตอบจากเกษตรกรจริงๆ และผู้มีประสบการณ์จริง
ผมสนใจและอยากมีคำตอบในการเกษตรที่เหมาะสม(กับเรา)และยั่งยืนไปถึงหลาน โหลน
     ผมกำลังทำ(และไม่ต่อต้านการเกษตรแบบพึ่งตนเอง)แบบปลูกทุกอย่าง  เพื่อพึ่งตนเอง
แต่มีรายได้หลักจากอาชีพอื่นมาเสริม   แต่มาพิจารณาถึงเกษตรกรคนอื่นๆที่ไม่มีรายได้อื่นมาเสริม
ที่มีรายได้จากการทำเกษตรอย่างเดียว  จะทำอย่างไร
    หากชวนกันทำเกษตรแบบพึ่งตนเอง  ก็เป็นสิ่งที่ดีี  แต่หลานโหลนเขาอยู่อย่างไร
    สิ่งนี้เกิดขึ้นกับผมว่า....ลูกบอกว่าพ่ออยู่ได้ พ่อชอบ พ่อพอแค่นี้ แต่ไม่ใช่ทางของเขา
ผมก็เลย(ซึม)และนึกเลยถึง  หลานและโหลน ว่าทำอย่างไรที่เราทำเกษตรอย่างใกอย่างหนึ่งแล้วมั่นคงที่สามารถส่งหลานและโหลน ก้าวสู่สังคมแข่งขันในอนาคต  
   หากปลูกข้าว ก็อย่างที่เห็น เป็นชาวนา  หากปลูกไม้ผลก็เป็นชาวสวน ..ลูกยังไม่อยู่
แล้วหลานและโหลน  คงไม่เลือกเช่นกัน
   แล้วมานึกถึงยางพาราว่าจะก้าวผ่านความคิดของลูกได้ไหม ว่ามีรายได้ตอบสนองความต้องการของเขาได้
   จึงถามเพื่อน    และขอบคุณในคำตอบ
IP : บันทึกการเข้า
maibox
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 511


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 02 กรกฎาคม 2012, 08:34:04 »

ผมมีอยู่30กว่าไร่ครับลงทุนหลายล้านครับ ตอนนี้3ปีแล้วครับ คิดว่าสนุกดีครับพี่น้องกันที่บ้านมี10ไร่(กล้ายางแจกสมัยนายกทักสิน)ตอนนี้มีรายได้ทุกวันครับราคาก็ขึ้นลงบ้างแต่ไม่ถึงกับขาดทุนในรายปี รู้จักใช้ปุ๋ยใช้อินทรีบ้างผสมเคมีไป ศึกษาวิธีปลูก ใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืช เอาแบบที่เราประหยัดแต่ไดผลดี ศึกษาวิธีนี้เยอะๆครับไม่ต้องคำนึงถึงราคา ถ้ามันถูกไปเดี๋ยวเขาก็ออกมาปิดถนนเองแหละครับ ปลูกสมัยกล้านายกทักสินที่เขาบอกว่าใ่มีน้ำยางเป็นกล้ายางไม่มีคุณภาพ ตอนนี้คุนภาพเป็น VIGOเป็น D-MAX กันหมดแล้วครับเหอะๆ
IP : บันทึกการเข้า
prasuit
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 02 กรกฎาคม 2012, 08:49:35 »

จริงอยู่ที่จีนเริ่มปลูกยางแล้ว แต่ผมไม่แน่ใจนะครับ (ไม่มีข้อมูล) ว่าปลูกอยู่ที่มณฑลไหนของจีน
แต่เท่าที่ทราบ จีนไปเช่าพื้นที่ปลูก อยู่ที่ สปป.ลาว หลายล้านไร่ โดยผ่านทางบริษัทต่างๆของจีน
และส่งเสริมให้คนจีนปลูกยาง คงหวังว่าจะช่วยลดการนำเข้ายางจากประเทศอื่น แต่ที่ผมเห็นพื้นที่
ปลูกยางใน สปป.ลาว บางพื้นที่ เป็นภูเขาสูงเสียดฟ้า แหงนคอตั้งบ่า ระบบน้ำและการจัดการสวน
ยังสู้สวนยางของไทยไม่ได้ (แต่อีกไม่นานรอกครับ ตอนนี้จ้างคนไทยไปดูแลสวนบ้างแล้ว) ที่สำคัญ
แรงงานที่นั่น ยังถูกมากๆ แต่อีกหลายปีครับ กว่าจะผลิตยางสู้บ้านเราได้ ผมเห็นสวนยางแล้ว การปลูก
หลายพันไร่ ต้องใช้ทุนมหาศาล เท่าที่เห็น ยาง 5-6 ปี ใน สปป.ลาว ร้อยละ 70% ต้นเท่าแขนเองครับ
แต่อย่าประมาทนะครับ จีนเขาเก่ง
IP : บันทึกการเข้า
Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 02 กรกฎาคม 2012, 20:57:09 »

เราน่าจะหันมาปลูกปาล์มน้ำมันกันบ้างน่ะครับ
เพราะว่ายางพารามีเยอะมากไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ  การปลูกก็ใช่เวลานาน
ลงทุนก็เยอะพอควร  ถ้าเราหันมาปลูกปาล์มน้ำมันกันเยอะมากพอ  ก็จะทำให้ประเทศของเราไม่ต้องนำเข้าปาล์มน้ำมันจากต่างประเทศ
และเกิดการสร้างรายได้อีกด้วย
ปล.ยังมีพืชยืนต้นที่เราละเลยมาไม่นาน  อย่างเช่น ลำไยและลิ้นจี่  ที่ราคาก็ดีขึ้นมากเพราะชาวสวนส่วนมากล้มสวนลำไยและลิ้นจี่เพื่อหันไปปลูกยางพารา
กันหมด  จนลืมไปว่าพืชยืนต้นเหล่านี้นี่แหละที่เราไม่เคยซื้อมันกินเลยเพราะบ้านเราก็ปลูก  ปัจจุบันมันไม่มีแล้ว(อันนี้แรงไปหน่อย)  หรือไม่ก็ต้องรอนำเข้าจากจีน  
หรือไม่ก็ลาวบ้าง  พม่าบ้าง  เป็นต้น  อย่างที่เห็นในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา  เราซื้อส้มลูกเล็กจากจีนมาขาย(ไม่ทราบว่าชื่อส้มอะไร)  แต่คนเชียงรายก็ให้ความสนใจอย่างล้นหลาม  ซื้อกลับบ้านเกือบทุกวัน(นี่ตัวผู้เขียนเอง  ชอบกิน)  ที่แท้แล้วลึกๆ  เราลืมนึกไปว่าเราก็สามารถส่งสินค้าของเราไปขายต่างประเทศได้เช่นกัน  แต่ทำไมไม่มีการส่งเสริม  กลับปล่อยให้เกษตรกรต้องฝากชีวิตและผลผลิตทั้งหมดไว้กับพ่อค้าคนกลาง  
คงระบายความในใจได้เพียงเท่านี้แหละ  ก็ทำยังไงได้เป็นแค่ลูกจ้างฯ คิดได้แค่นี้แหละ

ขอบคุณมากครับที่พยายามอ่าน
ปาล์มน้ำมันมีปัญหาเรื่องปริมาณน้ำครับ น้ำน้อยผลผลิตไม่ดีครับ ไม่น่าเหมาะกับพื้นที่สูงเหมือนทางบ้านเราขาดน้ำ ที่ราบมีน้ำก็ปลูกได้ครับ
IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
หล่อเล็ก
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


เกษตรมือใหม่ป้ายแดง


« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 03 กรกฎาคม 2012, 04:09:23 »

ข้อคำนึงในการปลูกปาล์ม
ต้นปาล์มเป็นพืชที่ต้องการน้ำมากตลอดเวลา โดยเฉลี่ยกว่า 200 ลิตรต่อวัน ในพื้นที่ 1 ไร่จะปลูกปาล์มได้ 22 ต้น ซึ่งก็เท่ากับใช้น้ำวันละ 4,400 ลิตรต่อไร่ต่อวัน หรือคิดเป็น 1,606 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่ต่อปี
IP : บันทึกการเข้า
Mahasaykikung
เศรษฐกิจพอเพียง
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 466



« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 03 กรกฎาคม 2012, 17:29:38 »

ประเทศอื่นเลือกปลูกเพราะพื้นที่ไม่เหมาะสมไม่มีน้ำยาง ทีแรกภาคเหนือบ้านเรก็หวั่นๆอยู่ว่าจะไม่มีน้ำยาง แต่ตอนนี้หาข้องใจแล้วเพราะเกษตรกรที่ปลูกก่อนรวยก่อนไปละ ก็เลยมีการทยอยปลูกตามเพราะเห็นว่าคุ้มค่าและเป็นอาชีพหลักได้  ถ้ามีพื้นที่เยอะก็ปลูกไล่กันเป็นชุดๆไปเมื่อชุดไหนหมดอายุเราก็ยังมีอีกชุดให้กรีด ทำดีๆรู้จักการให้ปุ๋ยรวยครับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 03 กรกฎาคม 2012, 18:37:24 »

ประเทศอื่นเลือกปลูกเพราะพื้นที่ไม่เหมาะสมไม่มีน้ำยาง ทีแรกภาคเหนือบ้านเรก็หวั่นๆอยู่ว่าจะไม่มีน้ำยาง แต่ตอนนี้หาข้องใจแล้วเพราะเกษตรกรที่ปลูกก่อนรวยก่อนไปละ ก็เลยมีการทยอยปลูกตามเพราะเห็นว่าคุ้มค่าและเป็นอาชีพหลักได้  ถ้ามีพื้นที่เยอะก็ปลูกไล่กันเป็นชุดๆไปเมื่อชุดไหนหมดอายุเราก็ยังมีอีกชุดให้กรีด ทำดีๆรู้จักการให้ปุ๋ยรวยครับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
เดี่ยวนี้พืชมีการย้ายถิ่นปลูกละครับ ที่ไหนเหมาะสมสภาพอากาศได้
้ก็สามารถเจริญเติบโตดี(เช่น ลำใยไม่จำเป็นต้องปลูกที่ ลำพูนเชียงใหม่/ภาคอื่นก็ปลูกได้ผลดี)
จริงๆเชียงรายเป็นพื้นที่ที่ปลูกเงาะได้ดีกว่าจังหวัดอื่นในภาคเหนือ(ไม่ใช่ที่อื่นปลูกไม่ได้นะครับ/แต่รสชาดสู้เชียงรายไม่ได้ และอย่าลืมว่า โดยธรรมชาติ ผลไม้จะสุกแก่ จาหทางใต้ขึ้นเหนือครับ เงาะทางใต้/ตะวันออก/ศรีสะเกษ หมดแล้ว ต่อไปก็จะเป็นเงาะทางเชียงรายละครับ)
IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!