เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 27 เมษายน 2024, 05:17:28
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  งานบ้านงานครัว คลีนิค ถามหมอ เรื่องสุขภาพ (ผู้ดูแล: แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-., ©®*)
| | |-+  เส้นผมบังภูเขา
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 3 4 พิมพ์
ผู้เขียน เส้นผมบังภูเขา  (อ่าน 24317 ครั้ง)
หยินหยาง
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 50


« เมื่อ: วันที่ 25 มิถุนายน 2012, 07:10:52 »

ผมมองถึงการรักษาโรคต่างๆในปัจจุบันเป็นการรักษาโรคที่ปลายเหตุเป็นส่วนใหญ่เช่นความดันโลหิตสูงไปกินยากดการเต้นของหัวใจให้อ่อนลงถ้ามีไขมันในเลือดก็ให้ยาลดใขมันในเลือดไปซึ่งในความจริงก็รู้อยู่ว่ามันไม่ได้หายไปเลยเมื่อหยุดยาความดันก็มาเหมือนเดิมและเมื่อกินยาเคมีนานๆส่งผลให้ค่าตับผิดปรกติค่าไตก็เริ่มไม่ดี กินยา1 เม็ดในวันแรกที่ไป รพ. 5-6 ปีผ่านไปเริ่มกินเป็นกำมือทำไมยิ่งรักษายิ่งเป็นหนักขึ้น พูดกันตรงๆเพราะการรักษาไม่ตรงประเด็นพอถ้าป็นผมในกรณีนี้ สภาวะความดันสูงส่วนใหญ่เกิดจากหลอดเลือดเดินทางไม่สะดวกท่อเลือดสกปรกตีบตันเลือดข้นกว่าปรกติ ทำการตรวจชีพจร ตรวจสภาพการทำงานของระบบร่างกาย เร่มทำการฟอกเลือดและล้างคราบใขมันในหลอดเลือดออก เมือหลอดเลือดสะอาดเลือดไม่ข้นค่าเลือดพอดีความดันก็หาย เพราะหัวใจเป็นเสมือนเครื่องสูบน้ำเลือดไปส่งร่างกายเมื่อท่อส่งน้ำสกปรกตีบตันน้ำก็หนืดมากเครื่องสูบน้ำต้องเร่งเครื่องให้แรงเพื่อส่งน้ำเลือดไปให้ทั่วร่างกายเครื่องต้องทำงานหนักกว่าปรกติความดันในท่อส่งจึงสูง แต่เมื่อท่อไม่มีตีบตันสะอาดโปร่งโล่งน้ำเลือดก็สะอาดเครื่องส่งเลือดคือหัวใจไม่ต้องทำงานหนักก็ส่งไปทั่วร่างกายสบายๆแรงดันท่อก็ลดลงเข้าสู่สภาะวะปรกติโรคความดันสูงก็หายไป....แต่ในบางก็รณีก็ต้องสอบถามอาการและพิจารณาไปหาสาเหตุที่แท้จริงของโรคนั้นๆเหตุเกิดที่ใหนให้แก้ที่นั่นจึงจะหายครับ... ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
lady_highland
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 270



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 25 มิถุนายน 2012, 20:27:43 »

ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ คุณหยิงหยาง เป็นแพทย์ทางเลือกหรือเปล่าค๊ะ
มาโพสต์ให้ความรู้อีกบ่อยๆ นะค๊ะ
IP : บันทึกการเข้า
หยินหยาง
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 50


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 25 มิถุนายน 2012, 20:34:10 »

ผมต้องออกตัวก่อนนะครับว่าไม่ได้โจมตีใครแต่พูดตามความเป็นจริงที่เห็น คนไข้ที่เป็นความดันโลหิตสูง จะมีวงจรชีวิตการักษาจาก รพ. ดังนี้ครับ เริ่มจากไปรับยากดการเต้นหัวใจก่อนกับละลายใขมันในเลือด ในช่วงปีแรกๆ กิน 2 เม็ด ต่อมาเกิดสภาวะกล้ามเนื้อหัวใจโตเนื่องจากหัวใจทำงานหนัก บวกยาไปอีก 1 เม็ด จากนั้นสารพิษจากยาเคมีไปสะสมตกค้างในตับๆเริ่มเสื่อม เบาหวานเรื่มมาเพราะตับอ่อนผลิตอินซูลีนไม่ได้ดี รับยาตับกับเบาหวานและบำรุงเม็ดเลือดไปช่วยตับทำงานอีก ตอนนี้เริ่มไปประมาณ 5-6 เม็ดละ เมื่อต่อมาไตกรองสารพิษต่างไม่ไหลตับก็ดักพิษไม่ได้ ไตพังครับ เมื่อไตพังก็ต้องฟอกประครองชีวิตไว้คนมีตังค์มากก็อยู่นานหน่อยคนมีตังค์น้อยไม่นานก็ตาย มันเป็นความจริงดังนี้ พิจารณาเอาเองตามความเป็นจริงที่เห็นๆกันอยู่นะครับ.... ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
หยินหยาง
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 50


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 25 มิถุนายน 2012, 20:40:31 »

ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ คุณหยิงหยาง เป็นแพทย์ทางเลือกหรือเปล่าค๊ะ
มาโพสต์ให้ความรู้อีกบ่อยๆ นะค๊ะ

ขอตอบแบบตรงตรงว่าผมศึกษาและอยู่ในวงการ แพทย์แผนไทย แผนจีน แผนอาหรับ ตะวันออกและชนเผ่า มาพอประมาณพอจะเข้าใจว่าจริงแล้วสภาวะต่างในร่างกายมันเสียสมดุลแค่ทำให้มันสมดุลได้ก็ร่างกายจะปรับสภาพเข้าสู่สภาวะปรกติเอง หมายเหตุ ผมรับให้คำปรึกษาแต่ไม่ขอแสดงตัวนะครับขอเป็นแค่คนธรรมดาๆคนหนึ่งก็พอครับ.... ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
lady_highland
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 270



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 25 มิถุนายน 2012, 20:55:45 »

เท่าที่อ่านรายละเอียดที่คุณหยิงหยาง พูดมาตรงกับความเป็นจริงทั้งหมดตามนั้นจริงๆ ค่ะ
คุณแม่ ตอนนี้อายุ 72 แล้ว เป็นทั้งความดัน เบาหวาน หัวใจ วันๆ ต้องกินยา 3 เวลา จากครั้งละ
ไม่กี่เม็ด เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้คุณแม่เล่าว่าต้องกินทีเป็นกำๆ มือ(ท่านว่าอย่างงั้นจริงๆค่ะ)
และท่านก็บ่นเบื่อทุกวัน กินยามากๆ เข้าทำให้เบื่ออาหารไปเลย  พอดีว่าตัวเองตอนนี้ก็ไม่ได้
อยู่ด้วยกันกับคุณแม่ค่ะ  เห็นทีคงต้องมีเรื่องรบกวนปรึกษาคุณหยิงหยางเกี่ยวกับสุขภาพของคน
ในครอบครัวแล้วล่ะค่ะ จริงๆ มันยากตรงที่ทำอย่างไรจึงจะรู้ได้ว่าร่างกายเราขาดสมดุล อะไร
อย่างไร และจะแก้อย่างไรนี่แหละค่ะ ดีใจที่ได้มีโอกาสได้รู้จักคุณหยิงหยางนะค๊ะ

จะติดตามทุกกระทู้เลยค่ะ ได้ความรู้และเป็นประโยชน์จริงๆ ค่ะ
IP : บันทึกการเข้า
หยินหยาง
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 50


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 27 มิถุนายน 2012, 17:33:58 »

เส้นผมบังภูเขาในเรื่องการนวด เท่าที่เคยพบปะกับการนวดมาหลายที่พบว่ามักจะเป็นการนวดที่แรงเกินไปขาดคำว่าพอดี จากมานวดเพื่อผ่อนคลายกลายเป็นซ้าเจ็บปวดไข้ เพราะมันแรงเกินคำว่าพอดี ไม่แรงเกินไปไม่เบาเกินไป จริงๆแล้วการนวดต้องเริ่มจากการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อก่อนแล้วค่อยๆเพิ่มน้ำหนักตามจุดที่ต้องเน้น แล้วทำการคลึงคลายแรงกดนั้นอีกรอบ เพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัวไม่มีการซ้ำ และต้องสอบถามประวัติการผ่าตัดอุบัติเหตุทางกายภาพรวมถึงโรคประจำตัวของเขาเพื่อวิเคราะห์การนวดด้วย ตัวอย่างเช่น คนที่ปวดเมื่อยเอวจากการทำงานนั่งนานๆหรือใช้แรงกล้ามเนื้อมากพวกนี้จะมีอาการปวดตึงแน่น ส่วนมากจะไม่พูดพร่ำทำเพลงมาถึงอัดอย่างเดียวโดยคิดว่านวดแรงเพื่อจะทำให้คลายทั้งเข่าทั้งศอกผลที่ได้คือซ้ำระบมเป็นไข้หนักกว่าเดิม เเพราะในความจริงแล้วหลักการปรับร่างกายเข้าสู่ภาวะสมดุลหรือหยินหยางนั้นเมื่อมันแข็งแกร่งปวดตีงเราต้องใช้การนวดแบบผ่อนคลายกล้ามเนื้อโดยการนวดพอดีไม่แรงเพราะถ้าแรงมันตึงอยู่แล้วปวดอยู่แล้วไปอัดมันอีกเหมือนเครื่องยนต์ที่ร้อนอยู่แล้วยังไปเร่งเครื่องอีกเดี๋ยวความร้อนขึ้นเครื่องก็น็อก ทำไมไม่ค่อยผ่อนเครื่องลงแล้วค่อยๆวอร์มเครื่องเอาให้เครื่องเข้าสู่อุณภูมิปกติ การนวดก็เช่นกันก็นวดคลายช้าๆพอดีๆจนกล้ามเนื้อผ่อนคลายตัวสู่สภาวะปกติของร่างกาย นวดเสร็จแล้วผ่อนคลายเบาสบายดีกว่าเป็นใหนๆ ไม่ต้องพกความซ้าความเจ็บปวดกลับบ้านไป เรื่องง่ายๆที่หมอนวดส่วนใหญ่มองข้ามไปลืมความเข้าใจเรื่องสมดุลของร่างกาย ร่างกายมันฟ้องเสมอ สังเกตุดูเมื่อรู้สึกร้อนก็เปิดพัดลมคลายร้อน เมื่อหนาวก็ห่มผ้าให้ร่างกายอบอุ่น เมื่อร่างกายปวดตึงก็คลายให้ร่างกาย เมื่อร่างกายอ่อนล้าก็กระต้นให้ร่างกายสดชื่น มันเป็นหลักธรรมชาติ ที่เรามองข้ามมันไปแล้วค่อยว่ากันใหม่ครับ.... ยิ้มกว้างๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 27 มิถุนายน 2012, 17:36:39 โดย หยินหยาง » IP : บันทึกการเข้า
lady_highland
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 270



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 28 มิถุนายน 2012, 16:51:13 »

ถูกของคุณหยิงหยาง เกี่ยวกับเรื่องนวดค่ะ

เคยพาสามีไปนวดแผนโบราณครั้งนึง ปรากฎว่าหมอนวดนวดแรงมาก จนทนไม่ไหวร้องลั่นห้อง
ตั้งแต่นั้นมาเข็ดเลยค่ะ ไม่กล้านวดอีกเลย จากแค่เคล็ดๆ ตึงๆ กลายเป็นปวดทนไม่ไหวต้องกิน
ยาแก้อักเสบไปหลายวันเลยค่ะ  คงไม่กล้านวดไปอีกนานเลย
IP : บันทึกการเข้า
หยินหยาง
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 50


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2012, 06:45:30 »

ของเล่นเรื่องพลังซี่ง่าย แค่คุณลองหายใจลึกๆผ่อนออกช้าๆซัก 1 นาที จะรู้สึกถึงการเดินของพลังซี่ไปทั่วทั้งตัวซึ่งพลังนี้คือลมปราณภายในร่างกาย ที่อุปกรณ์สมัยใหม่ตรวจสอบไม่ได้... ยิงฟันยิ้ม สามารถบรรเทาอาการปวดหลังได้ง่ายๆเพียงแค่หายใจให้ลึกเข้าท้องน้อยแล้วกลั้นลมหายใจเบ่งออกไปช่วงเอวและแ่ผ่นหลังซัก7 วินาทีแล้วหายใจหายใจออก ทำซ่ำซัก 5 ครั้ง แล้วผ่อนคลายร่างกายสบายๆไม่ต้องฝืนหรือเกร็งซัก 10 นาทีอาการปวดหลังจะค่อยๆเบาลงและหายไป..ใช้ได้ในกรณีที่ปวดเมื่อย..แต่ถ้าเป็นมานานโรคเรื้อรังต้องวินิจฉัยอาการของโรคก่อนนะครับ... ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2012, 07:24:25 »

ขอถามครับ การฟอกเลือดและการล้างคราบไขมัน ต้องใช้วิธีไหนครับ ต้องใช้เครื่องมือแพทย์หรือเปล่าครับ และการปรับสมดุลในร่างกายควรทำยังไงครับช่วยแนะนำวิธีด้วยครับจะขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
หยินหยาง
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 50


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 02 กรกฎาคม 2012, 12:52:12 »

จริงๆแล้วการจะปรับสมดุลร่างกายนั้นจำเป็นต้องเข้าใจสภาพร่างกายก่อนว่าเป็นอย่างไร แล้วจึงวินิจฉัยสาเหตุของอาการจึงทำการรักษา ว่าง่ายๆคือให้หมอเช็คร่างกายก่อนว่าสภาพร่างกายกายแบบนี้ควรจะรักษาอย่างไร กรณีที่คนที่ร่างกายปรกติ ไม่เป็นโรคโลหิตจางความดันต่ำ สามารถฟอกล้างใขมันในเลือดในท่อเลือดได้ง่ายๆโดยการทานมะเฟืองหรือน้ากระเจี๊ยบต้มติดต่อกันประมาณซัก15 วัน ไขมันก็ลดลงแล้ว เพราะรสฝาดเปรี้ยวสามารถล้างคราบใขมันและฟอกเลือดได้ดีมาก ลองเอามะเฟืองล้างจานที่มีมันติดอยู่ดูสิครับจะรู้ว่าจริงๆแล้วเส้นผมมันบังเราอยู่ง่ายๆแต่ใช้ได้ตามเงื่อนใขของบุคคลที่สภาวะปกตินะครับ .... ยิ้มกว้างๆ หมายเหตุลดคลวามดันสูงในกรณีใขมันในเลือดสูงได้ดีด้วย... ยิ้มกว้างๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 05 กรกฎาคม 2012, 06:50:07 โดย หยินหยาง » IP : บันทึกการเข้า
หยินหยาง
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 50


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 03 กรกฎาคม 2012, 19:37:51 »

เส้นผมบังภูเขาเรื่องมดลูกกับผู้หญิง มดลูกเป็นจุดศูนย์กลางที่รั้งเส้นทั้งหลายในร่างกายทั่วทั้งตัวทำให้เกิดอาการต่างๆของร่างกายอาการที่รักษากันไม่หายคืออาการฉี่บ่อยวันหนึ่งๆแทบไม่ได้พักกลางคืน 4-5 ครั้งแทบไม่ได้หลับเต็มอิ่มเลย หาสาเหตุไม่เจอ จริงๆแล้วส่วนมากเกิดจากสภาวะมดลูกหย่อนกดทับกระเพราะปัสสาวะเมื่อน้ำสะสมเข้าไปในกระเพราะปัสสาวะนิดเีดียวก็เต็มเพราะโดนมดลูกกดไว้ ต้องทำการจัดมดลูกให้ลอยขึ้นสู่ตำแหน่งปรกติจึงจะหายและหายมาแล้วในกรณีแบบนี้ทุกราย อาการจะมีประมาณนี้ มดลูกบวมโตเหมือนท้องได้ซัก 2-3 เดือน ปัสสาวะบ่อยมาก ปวดเอว ปวดหลัง ปวดส้นเท้า ปวดสะบัก นวดก็ไม่หายคลายไม่นานก็เป็นอีกเพราะมดลูกมันหย่อนเลยดึงเส้นทั้งหลายรั้งให้ตึงเลยปวดไม่รู้หาย ยังมีอีกหลายกรณี เช่น ตกขาวไม่หาย ประจำเดือนมาน้อยมาก ผายลมออกช่องคลอด เกิดจากสภาวะมดลูกเอียง มดลูกลอย ระบบเลือดน้อย หยินมาก ร่างกายเย็น หรือประจำเดือนมามากเกินไป ปวดมากก่อนเป็นประจำเดือนจะเริ่มหายเมื่อประจำเดือนใกล้จะหมด อาการเหล่านี้มาจากมดลูกและระะบบเลือด เสียส่วนมากแล้วผมจะค่อยๆอธิบายสาเหตุเป็นเรื่องๆไปนะครับ ช่วงนี้จะมีการสอบประกอบโรคศิลปะของกระทรวงสาธารณะสุขที่กรุงเทพมหานครผมคงไม่มีเวลาตอบคำถามหลังไมล์เท่าไหร่ขอเสร็จธุระหลังวันที่ 8 จะมาตอบให้นะครับ.... ยิ้มกว้างๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 05 กรกฎาคม 2012, 06:51:17 โดย หยินหยาง » IP : บันทึกการเข้า
หยินหยาง
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 50


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 16 กรกฎาคม 2012, 15:52:53 »

วันนี้มีคนมาคุยเรื่องการนวดให้ฟังว่านวดแล้วใข้ขึ้นระบมไปทั้งตัวเนื่องจากตอนแรกยกแขนไม่ขึ้นเส้นมันจมเลยต้องงัดขึ้น กรณีนี้แสดงว่าไปเจอกรรมกรนวดในห้องแอร์มาซัดแหลกไม่เลี้ยง จริงๆแล้วการนวดผู้นวดต้องเข้าใจเรื่องลายมัดกล้ามเนื้อและแนวกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดอาการว่ามาจากกล้ามเนื้อมัดใหนมีส่วนใดที่เกี่ยวข้องบ้าง ในกรณียกแขนไม่ขึ้นต้องดูว่าไม่ขึ้นยังใงองศาใหนและตึงจากใหนไปใหน ปกติที่เจอว่าเส้นจมนั้นมันไม่มีจมครับเส้นมันอยู่ปรกติของมันแต่ถูกกล้ามเนื้อรัดตึงแน่นดันไว้เลยปวดยกแขนไม่ขึ้นถ้าคลายกล้ามเนื้อถูกตำแหน่งและทำการยึดกล้ามเนื้อด้วยยกได้ทันทีหลังจากนวดเสร้จเลยครับไม่ต้องรอให้หายระบมอีกหลายวันหรอก มันเป็นความผิดพลาดของการนวดไทยอย่างหนึ่งที่ขาดการศึกษาเรื่องกายภาพและแนวมัดกล้ามเนื้อระบบโครงสร้างของร่างกายอย่างถ่องแท้ตามระบบร่างกายจริงๆเลยมีปัญหากันมาถึงทุกวันนี้ถ้าเข้าใจหลักกายภาพดีจะรูว่าสาเหตุการยกแขนนั้นมีอยู่มากมายต้องตรวจสอบกันให้ถึงต้นเหตุให้ได้จริงๆก่อนค่อยรักษา เพราะบางกรณีหมอนรองกระดูกคอเคลื่อนทับเส้นประสาท ปวดชาร้าวลงแขนก็ยกไม่ขึ้นเหมือนกัน สภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบก็ยกไม่ได้เหมือนกันต้องตรวจสอบให้รอบคอบครับ ไม่งั้นจะกลายเป็นกรรมกรในห้องแอร์ใช้แต่แรงอย่างเดียวน่วมกันจนขยาดนวดกันเป็นแถวๆ..... ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
lady_highland
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 270



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 16 กรกฎาคม 2012, 16:30:25 »

ขอบคุณ จขกท สำหรับความรู้ดีๆ ติดตามอ่านทุกกระทู้เลยค่ะ
IP : บันทึกการเข้า
หยินหยาง
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 50


« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 17 กรกฎาคม 2012, 11:10:07 »

การตรวจสอบสัญญาณหลอดเลือดหัวใจตีบ ปรกติแล้วคนที่เริ่มเป็นหลอดเลือดหัวใจตีบการหายใจเริ่มจะไม่ค่อยอิ่มเหนื่อยง่าย ชีพจรเต้นแรงความดันโลหิตสูง ตอนประมาณบ่ายโมงจะมีอาการปวดร้าวจากหัวใจไปตามแนวแขนด้านซ้าย สาเหตุของโรคส่วนมากก็มาจากการกินของมันหวานไม่ออกกำลังกาย เลยทำให้ไขมันในเลือดสูง จับวีพจรตรงข้อมือจะมีแรงดันที่ข้างซ้ายแรงมากกว่าข้างขวา มักปวดหัวเพราะเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ นานไปจะชาปลายมือปลายเท้า สายตาพร่ามัว อย่าประมาทโดยเด็ดขาดเพราะอาจทำให้เส้นเลือดในสมองตีบและเป็นอัมพาตได้ อาการเส้นเลือดในสมองตีบยังพอรักษาได้โดยการให้ยาสมุนไพรขยายหลอดเลือดในสมอง นวดส่งเลือดไปเลี้ยงสมอง ก็จะกลับคืนมาได้แต่ถ้าเส้นเลือดในสมองแตกละก็ ต้องตอบตามตรงว่าเหนื่อยแน่รักษายากมากต้องสลายลิ่มเลือดที่เกาะเส้นประสาทในสมองและสมานหลอดเลือดที่แตกให้กลับคืนมา นวดเป็นชาติก็ไม่หายครับ ใส่ใจดูแลตรวจสอบอาการร่างกายไว้เนิ่นดีกว่าแต่ถ้า กรณีฉุกเฉินปวดหัวอย่างแรงขึ้นมาเส้นเลือดจะแตกความดันสูงมาให้ใช้เข็มแทงปลายนิ้วมือนิ้วเท้าทุกนิ้วให้เลือดออกมาลดความดันในเลือดลงจะช่วยชีวิตได้ทันและเร็วกว่าไปโรงพยาบาลครับ เดี๋ยวรอบหน้าผมจะมาพูดเรื่องเส้นผมบังภูเขาเรื่องโรคภูมิแพ้ หอบหืดและแนวทางการรักษาให้ครับ... ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
LittleELF
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,125



« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 17 กรกฎาคม 2012, 11:16:10 »

กระทู้ดี แอบมาติดตามค่ะ
IP : บันทึกการเข้า

บริการซ่อม เช่า ขาย รถโฟล์คลิฟท์ จำหน่ายรถแบคโฮ รถแทรกเตอร์ รถกอล์ฟ  อะไหล่ต่างๆ 089-9983959
คนหัวง้ม...
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 143



« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 17 กรกฎาคม 2012, 21:28:14 »

จริงๆแล้วการจะปรับสมดุลร่างกายนั้นจำเป็นต้องเข้าใจสภาพร่างกายก่อนว่าเป็นอย่างไร แล้วจึงวินิจฉัยสาเหตุของอาการจึงทำการรักษา ว่าง่ายๆคือให้หมอเช็คร่างกายก่อนว่าสภาพร่างกายกายแบบนี้ควรจะรักษาอย่างไร กรณีที่คนที่ร่างกายปรกติ ไม่เป็นโรคโลหิตจางความดันต่ำ สามารถฟอกล้างใขมันในเลือดในท่อเลือดได้ง่ายๆโดยการทานมะเฟืองหรือน้ากระเจี๊ยบต้มติดต่อกันประมาณซัก15 วัน ไขมันก็ลดลงแล้ว เพราะรสฝาดเปรี้ยวสามารถล้างคราบใขมันและฟอกเลือดได้ดีมาก ลองเอามะเฟืองล้างจานที่มีมันติดอยู่ดูสิครับจะรู้ว่าจริงๆแล้วเส้นผมมันบังเราอยู่ง่ายๆแต่ใช้ได้ตามเงื่อนใขของบุคคลที่สภาวะปกตินะครับ .... ยิ้มกว้างๆ หมายเหตุลดคลวามดันสูงในกรณีใขมันในเลือดสูงได้ดีด้วย... ยิ้มกว้างๆ

มะเฟืองหวานได้รึปล่าว ตกใจ ตกใจ
IP : บันทึกการเข้า

...อนาคตหัวง้ม...
Da่ geิ ลูกครึ่งขาว
ระดับ:อนุบาลคันปาก
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 574



« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 18 กรกฎาคม 2012, 11:47:27 »

มาติดตามเป็นแฟนเพจ คอลัม คุณหยินหยางด้วยคนครับได้ความรู้ใหม่ๆเกี่ยวกับโรคที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะเกี่ยวกันได้ มีประโยชน์จริงๆ
IP : บันทึกการเข้า

~When U walk,through a storm.Hold you head up  high And don't be afraid of the dark.At the end of the storm there's a golden sky. Walk on, With hope in your heart. and YOU'LL NEVER WALK ALONE
หยินหยาง
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 50


« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 19 กรกฎาคม 2012, 19:28:48 »

เป็นโรคกระเพาะมาสิบกว่าปี รักษาไมหายซะที ช่วงหลัง ๆ มาอาการไม่ค่อยจะสู้ดี มีอาหารเลื่อนขึ้น ๆลง ๆ เรอบ่อย ๆ แต่ไม่ทำให้หายแน่นอก หายใจไม่ค่อยออกแน่นคอ ปวดออกตาเหมือนมีแรงดันดันตา ขับถ่ายลำบากมากนั่งเป็นชั่วโมง ใครเคยมีอาการถึงขั้นนี้บ้างหรือใครเคยรักษามาแล้วหายบ้างแนะนำด้วยจ้าาาา ลอกมาจากกระทู้ข้างบนครับมีคนตอบเยอะเกรงใจเขาเอามาพิจารณาเองเอาดีกว่าครับ  ว่ากันตามหลักการแพทย์ทางเลือกสาเหตุที่เรอบ่อย จุกลิ้นปี่ ปวดตันขึ้นข้างบนเกิดจากสภาวะ ลมในกระเพราะดันขึ้นไปเลยทำให้จุกอก ยิ่งถ่ายยากๆเนี่ยลมไปข้างล่างไม่ได้เพราะจุดกำเนิดของโรคลมอยู่ที่ลำไส้ใหญ่ธรรมชาติของลมและแก็ชที่หมักอยู่ในท้องในลำไส้ ในกระเพราะ ย่อมลอยขึ้นเสมอ เมื่อสะสมนานก็ยิ่งดันขึ้นไปเรื่อยอัดแน่นในเส้นเรื่อยๆ รักษายังใงก็ไม่หายเพราะขาดความเข้าใจเรื่องธรรมชาติและหลักหยินหยางร้อนเย็นไป สาเหตุหลักของโรคเกิดจากโรคกระเพราะต้องรักษาโรคกระเพราะก่อนเป็นอันดับแรกโดยการสมานแผลในกระเพราะให้หายปกติผมจะแนะนำให้ใช้ยารสฝาดเข้าสมานเช่นกล้วยดิบ เปลือกสีเสียดต้ม แต่ถ้าไม่เข้าใจการรักษาท้องจะผูกกว่าเดิมเพราะรสผาดทำให้ท้องผูก ต้องระบายโรคลมและท้องผูกในลำใส้เหล่านี้ด้วยการประคบร้อนบริเวณท้องและนวดตามเข็มนาฬิกานานซัก 15 นาทีเพื่อให้ลำไส้ได้ขยับ ใล่ลมในสำใส้ใหญ่ด้วย จากนั้นทำการ ดีท็อกสวนทวารล้างลำใส้ใหญ่เพื่อเอา ลมและอุจจาระที่อุดตันมานานออก ทำซัก 3 วันติดกันอาการปวดขึ้นตาหายไปทันทีอย่างอัศจรรย์เลยครับ หลังจากนั้นไปว่ากันเรื่องการช่วยย่อยของอาหารให้กระเพราะหน่อยโดยการเพิ่มไฟในการย่อยให้หมดจดไม่คั่งค้าง โดยสมุนไพรรสขมร้อนหลังอาหารทันทีไปเรื่อยๆรักษาไปพร้อมกับการกินสมุนไพรรสฝาดก่อนอาหารเพื่อไปสมานแผลในกระเพราะ ผมกล้ารับรองว่าหายขาดแน่นอน แต่อาจจะใช้เวลาเป็นเดือนในการรักษาแต่ปวดตาหายใน 2 วันแน่นอนครับ...หมายเหตุมะเฟืองหวานฟอกเลือดไม่ได้ครับมันช้าเหลือเกินเพราะมันไม่เปรี้ยว..... ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
lady_highland
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 270



« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 19 กรกฎาคม 2012, 20:17:07 »

ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
เป็นแฟนคลับ รออ่านกระทู้คุณหยินหยาง ตลอดค่ะ ได้ความรู้ดีมากๆ
แวะมาให้ความรู้บ่อยๆ นะค๊ะ
IP : บันทึกการเข้า
Da่ geิ ลูกครึ่งขาว
ระดับ:อนุบาลคันปาก
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 574



« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 19 กรกฎาคม 2012, 23:07:00 »

ขอบคุณครับ ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า

~When U walk,through a storm.Hold you head up  high And don't be afraid of the dark.At the end of the storm there's a golden sky. Walk on, With hope in your heart. and YOU'LL NEVER WALK ALONE
หน้า: [1] 2 3 4 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!