ใครเล่นหุ้นอยู่มาแลกเปลี่ยนพูดคุยปรึกษากันได้ครับ

[akrai]

เงียบเลย 

[ซาลาเปา(เฉพาะกิจ)]

เงียบเลย  

ท่านมีอะไรจะแนะนำเพื่อนๆนลท.ในการลงทุนช่วงนี้ ก็เชิญครับ  
STPI ไปหลายแล้วนิ ใครเก็บบ้างล่ะหลังจากวันนั้น

[ซาลาเปา(เฉพาะกิจ)]

STPI วันนี้ไปอีกแล้ว
ใครสอยไว้ตั้งแต่วันนั้นบ้างล่ะ
ยกมือหน่อย 

[CK SPEED PART]

วันนี้TFDมาแรงมาก ทำnew high ผมขายไป1.94ตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.

เข้าSIRI 2.08 ตอนนี้ยังถืออยู่ กะขาย2.92ครับ ลุ้นๆ

[ซาลาเปา(เฉพาะกิจ)]

วันนี้TFDมาแรงมาก ทำnew high ผมขายไป1.94ตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.

เข้าSIRI 2.08 ตอนนี้ยังถืออยู่ กะขาย2.92ครับ ลุ้นๆ

น่าลุ้นทั้ง 2 ตัว
เสียดายตัวแรก รีบขายไปหน่อย

[CK SPEED PART]

มีเสียงกระซิบมาว่ากำลังเก็บRCIกันอยู่ เป้า3บาท

[ซาลาเปา(เฉพาะกิจ)]

เอาใจช่วย จะได้รวยกันระเบิดเถิดเทิง  
ท่านเก็บไปแล้วที่ราคาเท่าไรครับ RCI

[CK SPEED PART]

2.28ครับ

[CK SPEED PART]

RPCท้ายตลาดเล่นมันมาก ผมเก็บไว้ตั้งแต่1.15ขายตอน4โมงกว่า1.30 ปิดไป1.40ขายทุนกำไรไปหมื่นนึงเลย

[netsak]

นิดนึงครับพี่น้อง cpall ผมไม่ค่อยเข้าใจเรื่องศัพท์ที่ว่า หุ้นปันผล กับเงินปันผล

เงินปันผลพอรู้ครับ แต่ หุ้นปันผล 1:1 หมายความว่าไงครับ สมมุติผมมีอยู่ 1000 หุ้น

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

[ซาลาเปา(เฉพาะกิจ)]

นิดนึงครับพี่น้อง cpall ผมไม่ค่อยเข้าใจเรื่องศัพท์ที่ว่า หุ้นปันผล กับเงินปันผล

เงินปันผลพอรู้ครับ แต่ หุ้นปันผล 1:1 หมายความว่าไงครับ สมมุติผมมีอยู่ 1000 หุ้น

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ท่านก็จะได้หุ้นเพิ่มอีก 1000

[ฟ้ามีตา]

นิดนึงครับพี่น้อง cpall ผมไม่ค่อยเข้าใจเรื่องศัพท์ที่ว่า หุ้นปันผล กับเงินปันผล

เงินปันผลพอรู้ครับ แต่ หุ้นปันผล 1:1 หมายความว่าไงครับ สมมุติผมมีอยู่ 1000 หุ้น

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ท่านก็จะได้หุ้นเพิ่มอีก 1000

ตามที่ท่านซาลาเปากล่าวไว้เลยครับ

หุ้นปันผล 1:1 หมายความว่า หากท่านมีหุ้นในมือจำนวน 1000 หุ้น

พอหลังจากวันปันผลแล้ว เราก็จะได้รับหุ้นปันผลเพิ่มมาเป็น 1000+1000 = 2000 หุ้น

ก็เหมือนกัน เช่น 1:5 คือ มีหุ้น 1000 ได้มาอีก 5000 เป็น 6000 หุ้น

เช่น 20:1 คือ มีหุ้น 1000 ได้มาอีก 50 เป็น 1050 หุ้น เป็นต้น

แต่ต้องทำความเข้าใจด้วยว่า การปันผลด้วยหุ้นนั้น จะทำให้ราคาของหุ้นเดิม

เกิดการ Dilution Effect ทำให้ราคาหุ้นร่วงลงไปตามหุ้นที่ปันผล

เช่น 1:1 ถ้าราคาเดิมอยู่ที่ 80 บาท หลังปันผล ราคาที่คาดว่าจะ Dilution Effect

ลงมาก็คือ ประมาณ 40 บาท ซึ่งก็อยู่กับความพอใจของผู้ถือหุ้นว่ารับได้หรือไม่



Dilution Effect หมายถึง ผลกระทบที่มีต่อผู้ถือหุ้น กรณีที่มีตัวหารเพิ่มขึ้น
คือ เดิมบริษัทมีสินทรัพย์อยู่จำนวนหนึ่ง มีกำไรอยู่ปริมาณหนึ่ง และมีผู้ถือหุ้นอยู่เดิม
จำนวน 100 คน เมื่อหารแล้วก็จะได้รับผลประโยชน์กันอยู่คนละก้อน แต่เมื่อมีผู้ถือหุ้น
เพิ่มขึ้นมา แน่นอนว่าสัดส่วนของสินทรัพย์และผลประโยชน์ของบริษัทที่ผู้ถือหุ้นแต่ละ
รายจะได้รับย่อมลดน้อยลงไปด้วย นั่นคือความหมายของการ Dilute คือการลดน้อยลง
อันเนื่องมาจากการมีตัวหารเพิ่ม

diluted EPS (diluted แปลว่าเจือจาง เหมือนเราเอาน้ำเปล่า เติมใส่ในน้ำเชื่อม
ความหวานก็จะลดลงเนื่องจากถูกเจือจาง ในกรณีของหุ้น คำว่า dilute คือการที่มีหุ้น
ใหม่ โผล่เพิ่มเข้ามาผสมกับหุ้นเดิมที่มีอยู่ ทำให้สัดส่วนการเป็นเจ้าของของผู้ถือหุ้นเดิม
ลดลง หรือเจือจางลง และผลที่ตามมาอีกอย่างคือต้องแบ่งกำไรไปยังหุ้นใหม่นั้นด้วย
 ทำให้เกิดการเจือจางของกำไรต่อหุ้นด้วย) ตัวเลขสองตัวนี้ต่างกันเนื่องจากตัวหาร
(จำนวนหุ้น ซึ่งคือ Outstanding Shares) ต่างกัน โดยที่ EPS พื้นฐานได้มาจากการใช้
ตัวเลข Basic Shares คือจำนวนหุ้น Outstanding จริงๆ ในเวลานั้นๆ เป็นตัวหาร
และในทางกลับกัน ตัวเลขที่เรียกว่า Diluted EPS จะใช้ตัวหารเป็น Oustanding share
 ที่เป็นไปได้ในอนาคต ซึ่งอาจจะมาจากการแปลงสภาพมาจากตราสารใดๆ
ของบริษัท เช่นวอร์แร้นท์, ESOP (Employee Stock Options ตราสารให้สิทธิพนักงาน
แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ), หุ้นกู้แปลงสภาพ เป็นต้น การใช้ตัวเลขของ Diluted EPS
จะดูเข้าท่ากว่าเพราะเป็นการเผื่ออนาคต (อันเลวร้ายลง) เอาไว้ด้วยแล้ว

[ซาลาเปา(เฉพาะกิจ)]

นิดนึงครับพี่น้อง cpall ผมไม่ค่อยเข้าใจเรื่องศัพท์ที่ว่า หุ้นปันผล กับเงินปันผล

เงินปันผลพอรู้ครับ แต่ หุ้นปันผล 1:1 หมายความว่าไงครับ สมมุติผมมีอยู่ 1000 หุ้น

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ท่านก็จะได้หุ้นเพิ่มอีก 1000

ตามที่ท่านซาลาเปากล่าวไว้เลยครับ

หุ้นปันผล 1:1 หมายความว่า หากท่านมีหุ้นในมือจำนวน 1000 หุ้น

พอหลังจากวันปันผลแล้ว เราก็จะได้รับหุ้นปันผลเพิ่มมาเป็น 1000+1000 = 2000 หุ้น

ก็เหมือนกัน เช่น 1:5 คือ มีหุ้น 1000 ได้มาอีก 5000 เป็น 6000 หุ้น

เช่น 20:1 คือ มีหุ้น 1000 ได้มาอีก 50 เป็น 1050 หุ้น เป็นต้น

แต่ต้องทำความเข้าใจด้วยว่า การปันผลด้วยหุ้นนั้น จะทำให้ราคาของหุ้นเดิม

เกิดการ Dilution Effect ทำให้ราคาหุ้นร่วงลงไปตามหุ้นที่ปันผล

เช่น 1:1 ถ้าราคาเดิมอยู่ที่ 80 บาท หลังปันผล ราคาที่คาดว่าจะ Dilution Effect

ลงมาก็คือ ประมาณ 40 บาท ซึ่งก็อยู่กับความพอใจของผู้ถือหุ้นว่ารับได้หรือไม่



Dilution Effect หมายถึง ผลกระทบที่มีต่อผู้ถือหุ้น กรณีที่มีตัวหารเพิ่มขึ้น
คือ เดิมบริษัทมีสินทรัพย์อยู่จำนวนหนึ่ง มีกำไรอยู่ปริมาณหนึ่ง และมีผู้ถือหุ้นอยู่เดิม
จำนวน 100 คน เมื่อหารแล้วก็จะได้รับผลประโยชน์กันอยู่คนละก้อน แต่เมื่อมีผู้ถือหุ้น
เพิ่มขึ้นมา แน่นอนว่าสัดส่วนของสินทรัพย์และผลประโยชน์ของบริษัทที่ผู้ถือหุ้นแต่ละ
รายจะได้รับย่อมลดน้อยลงไปด้วย นั่นคือความหมายของการ Dilute คือการลดน้อยลง
อันเนื่องมาจากการมีตัวหารเพิ่ม

diluted EPS (diluted แปลว่าเจือจาง เหมือนเราเอาน้ำเปล่า เติมใส่ในน้ำเชื่อม
ความหวานก็จะลดลงเนื่องจากถูกเจือจาง ในกรณีของหุ้น คำว่า dilute คือการที่มีหุ้น
ใหม่ โผล่เพิ่มเข้ามาผสมกับหุ้นเดิมที่มีอยู่ ทำให้สัดส่วนการเป็นเจ้าของของผู้ถือหุ้นเดิม
ลดลง หรือเจือจางลง และผลที่ตามมาอีกอย่างคือต้องแบ่งกำไรไปยังหุ้นใหม่นั้นด้วย
 ทำให้เกิดการเจือจางของกำไรต่อหุ้นด้วย) ตัวเลขสองตัวนี้ต่างกันเนื่องจากตัวหาร
(จำนวนหุ้น ซึ่งคือ Outstanding Shares) ต่างกัน โดยที่ EPS พื้นฐานได้มาจากการใช้
ตัวเลข Basic Shares คือจำนวนหุ้น Outstanding จริงๆ ในเวลานั้นๆ เป็นตัวหาร
และในทางกลับกัน ตัวเลขที่เรียกว่า Diluted EPS จะใช้ตัวหารเป็น Oustanding share
 ที่เป็นไปได้ในอนาคต ซึ่งอาจจะมาจากการแปลงสภาพมาจากตราสารใดๆ
ของบริษัท เช่นวอร์แร้นท์, ESOP (Employee Stock Options ตราสารให้สิทธิพนักงาน
แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ), หุ้นกู้แปลงสภาพ เป็นต้น การใช้ตัวเลขของ Diluted EPS
จะดูเข้าท่ากว่าเพราะเป็นการเผื่ออนาคต (อันเลวร้ายลง) เอาไว้ด้วยแล้ว

ข้อมูลสุดยอด 

[CK SPEED PART]

นิดนึงครับพี่น้อง cpall ผมไม่ค่อยเข้าใจเรื่องศัพท์ที่ว่า หุ้นปันผล กับเงินปันผล

เงินปันผลพอรู้ครับ แต่ หุ้นปันผล 1:1 หมายความว่าไงครับ สมมุติผมมีอยู่ 1000 หุ้น

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ท่านก็จะได้หุ้นเพิ่มอีก 1000

ตามที่ท่านซาลาเปากล่าวไว้เลยครับ

หุ้นปันผล 1:1 หมายความว่า หากท่านมีหุ้นในมือจำนวน 1000 หุ้น

พอหลังจากวันปันผลแล้ว เราก็จะได้รับหุ้นปันผลเพิ่มมาเป็น 1000+1000 = 2000 หุ้น

ก็เหมือนกัน เช่น 1:5 คือ มีหุ้น 1000 ได้มาอีก 5000 เป็น 6000 หุ้น

เช่น 20:1 คือ มีหุ้น 1000 ได้มาอีก 50 เป็น 1050 หุ้น เป็นต้น

แต่ต้องทำความเข้าใจด้วยว่า การปันผลด้วยหุ้นนั้น จะทำให้ราคาของหุ้นเดิม

เกิดการ Dilution Effect ทำให้ราคาหุ้นร่วงลงไปตามหุ้นที่ปันผล

เช่น 1:1 ถ้าราคาเดิมอยู่ที่ 80 บาท หลังปันผล ราคาที่คาดว่าจะ Dilution Effect

ลงมาก็คือ ประมาณ 40 บาท ซึ่งก็อยู่กับความพอใจของผู้ถือหุ้นว่ารับได้หรือไม่



Dilution Effect หมายถึง ผลกระทบที่มีต่อผู้ถือหุ้น กรณีที่มีตัวหารเพิ่มขึ้น
คือ เดิมบริษัทมีสินทรัพย์อยู่จำนวนหนึ่ง มีกำไรอยู่ปริมาณหนึ่ง และมีผู้ถือหุ้นอยู่เดิม
จำนวน 100 คน เมื่อหารแล้วก็จะได้รับผลประโยชน์กันอยู่คนละก้อน แต่เมื่อมีผู้ถือหุ้น
เพิ่มขึ้นมา แน่นอนว่าสัดส่วนของสินทรัพย์และผลประโยชน์ของบริษัทที่ผู้ถือหุ้นแต่ละ
รายจะได้รับย่อมลดน้อยลงไปด้วย นั่นคือความหมายของการ Dilute คือการลดน้อยลง
อันเนื่องมาจากการมีตัวหารเพิ่ม

diluted EPS (diluted แปลว่าเจือจาง เหมือนเราเอาน้ำเปล่า เติมใส่ในน้ำเชื่อม
ความหวานก็จะลดลงเนื่องจากถูกเจือจาง ในกรณีของหุ้น คำว่า dilute คือการที่มีหุ้น
ใหม่ โผล่เพิ่มเข้ามาผสมกับหุ้นเดิมที่มีอยู่ ทำให้สัดส่วนการเป็นเจ้าของของผู้ถือหุ้นเดิม
ลดลง หรือเจือจางลง และผลที่ตามมาอีกอย่างคือต้องแบ่งกำไรไปยังหุ้นใหม่นั้นด้วย
 ทำให้เกิดการเจือจางของกำไรต่อหุ้นด้วย) ตัวเลขสองตัวนี้ต่างกันเนื่องจากตัวหาร
(จำนวนหุ้น ซึ่งคือ Outstanding Shares) ต่างกัน โดยที่ EPS พื้นฐานได้มาจากการใช้
ตัวเลข Basic Shares คือจำนวนหุ้น Outstanding จริงๆ ในเวลานั้นๆ เป็นตัวหาร
และในทางกลับกัน ตัวเลขที่เรียกว่า Diluted EPS จะใช้ตัวหารเป็น Oustanding share
 ที่เป็นไปได้ในอนาคต ซึ่งอาจจะมาจากการแปลงสภาพมาจากตราสารใดๆ
ของบริษัท เช่นวอร์แร้นท์, ESOP (Employee Stock Options ตราสารให้สิทธิพนักงาน
แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ), หุ้นกู้แปลงสภาพ เป็นต้น การใช้ตัวเลขของ Diluted EPS
จะดูเข้าท่ากว่าเพราะเป็นการเผื่ออนาคต (อันเลวร้ายลง) เอาไว้ด้วยแล้ว

กระจ่างชัดเจนครับ นับถือๆ

[Cupid]

นิดนึงครับพี่น้อง cpall ผมไม่ค่อยเข้าใจเรื่องศัพท์ที่ว่า หุ้นปันผล กับเงินปันผล

เงินปันผลพอรู้ครับ แต่ หุ้นปันผล 1:1 หมายความว่าไงครับ สมมุติผมมีอยู่ 1000 หุ้น

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ท่านก็จะได้หุ้นเพิ่มอีก 1000

ตามที่ท่านซาลาเปากล่าวไว้เลยครับ

หุ้นปันผล 1:1 หมายความว่า หากท่านมีหุ้นในมือจำนวน 1000 หุ้น

พอหลังจากวันปันผลแล้ว เราก็จะได้รับหุ้นปันผลเพิ่มมาเป็น 1000+1000 = 2000 หุ้น

ก็เหมือนกัน เช่น 1:5 คือ มีหุ้น 1000 ได้มาอีก 5000 เป็น 6000 หุ้น

เช่น 20:1 คือ มีหุ้น 1000 ได้มาอีก 50 เป็น 1050 หุ้น เป็นต้น

แต่ต้องทำความเข้าใจด้วยว่า การปันผลด้วยหุ้นนั้น จะทำให้ราคาของหุ้นเดิม

เกิดการ Dilution Effect ทำให้ราคาหุ้นร่วงลงไปตามหุ้นที่ปันผล

เช่น 1:1 ถ้าราคาเดิมอยู่ที่ 80 บาท หลังปันผล ราคาที่คาดว่าจะ Dilution Effect

ลงมาก็คือ ประมาณ 40 บาท ซึ่งก็อยู่กับความพอใจของผู้ถือหุ้นว่ารับได้หรือไม่



Dilution Effect หมายถึง ผลกระทบที่มีต่อผู้ถือหุ้น กรณีที่มีตัวหารเพิ่มขึ้น
คือ เดิมบริษัทมีสินทรัพย์อยู่จำนวนหนึ่ง มีกำไรอยู่ปริมาณหนึ่ง และมีผู้ถือหุ้นอยู่เดิม
จำนวน 100 คน เมื่อหารแล้วก็จะได้รับผลประโยชน์กันอยู่คนละก้อน แต่เมื่อมีผู้ถือหุ้น
เพิ่มขึ้นมา แน่นอนว่าสัดส่วนของสินทรัพย์และผลประโยชน์ของบริษัทที่ผู้ถือหุ้นแต่ละ
รายจะได้รับย่อมลดน้อยลงไปด้วย นั่นคือความหมายของการ Dilute คือการลดน้อยลง
อันเนื่องมาจากการมีตัวหารเพิ่ม

diluted EPS (diluted แปลว่าเจือจาง เหมือนเราเอาน้ำเปล่า เติมใส่ในน้ำเชื่อม
ความหวานก็จะลดลงเนื่องจากถูกเจือจาง ในกรณีของหุ้น คำว่า dilute คือการที่มีหุ้น
ใหม่ โผล่เพิ่มเข้ามาผสมกับหุ้นเดิมที่มีอยู่ ทำให้สัดส่วนการเป็นเจ้าของของผู้ถือหุ้นเดิม
ลดลง หรือเจือจางลง และผลที่ตามมาอีกอย่างคือต้องแบ่งกำไรไปยังหุ้นใหม่นั้นด้วย
 ทำให้เกิดการเจือจางของกำไรต่อหุ้นด้วย) ตัวเลขสองตัวนี้ต่างกันเนื่องจากตัวหาร
(จำนวนหุ้น ซึ่งคือ Outstanding Shares) ต่างกัน โดยที่ EPS พื้นฐานได้มาจากการใช้
ตัวเลข Basic Shares คือจำนวนหุ้น Outstanding จริงๆ ในเวลานั้นๆ เป็นตัวหาร
และในทางกลับกัน ตัวเลขที่เรียกว่า Diluted EPS จะใช้ตัวหารเป็น Oustanding share
 ที่เป็นไปได้ในอนาคต ซึ่งอาจจะมาจากการแปลงสภาพมาจากตราสารใดๆ
ของบริษัท เช่นวอร์แร้นท์, ESOP (Employee Stock Options ตราสารให้สิทธิพนักงาน
แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ), หุ้นกู้แปลงสภาพ เป็นต้น การใช้ตัวเลขของ Diluted EPS
จะดูเข้าท่ากว่าเพราะเป็นการเผื่ออนาคต (อันเลวร้ายลง) เอาไว้ด้วยแล้ว

อธิบาย ยกตัวอย่าง และแจกแจงได้ละเอียด ชัดเจนดีมาก ขอบคุณที่แบ่งปันความรู้ครับ

[►••• Natz. •••◄]

ดัน ดัน อ่านแล้วมันดี ได้รู้หุ้นตัวที่ไม่เคยรู้เลย 

[CK SPEED PART]

วันนี้ตลาดช่วงเช้าดี แต่ช่วงบ่ายแดงเถือก 

[น้าวัยทองฯ]

วันนี้ตลาดช่วงเช้าดี แต่ช่วงบ่ายแดงเถือก  

เป็นเพราะข่าวจากทางต่างประเทศที่ถูกประกาศลดการเติบโตลงครับ (รายละเอียดไปหาอ่านเอง)

แต่ถ้ามาพูดถึงตลาดในประเทศเรา อาจจะมีผลในทางจิตวิทยาและทางเทคนิคอยู่บ้าง

และหุ้นบางตัวก็อาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับต่างประเทศเช่นกัน นักลงทุนก็เลยเทขายออกไปก่อน

เพราะเห็นว่าข่าวไม่ดี แถมยังหลุดแนวรับที่เขาว่ากันว่าสำคัญ นั่นก็คือ 1300 จุด

แต่ถ้าเรามามองถึงพื้นฐานของบริษัทก็แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย

ยิ่งเป็นพวกบริษัทที่มีฐานอยู่ในประเทศแล้วละก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องข่าวร้ายต่างประเทศเลย

แต่ถ้ามองในทางกลับกันหากเราดูว่าบริษัทนี้พื้นฐานยังดีอยู่ และงบการเงินที่จะออกมา

ในเร็วๆนี้ยังคงเติบโตไปในทางที่ดีขึ้น ก็เป็นโอกาสที่เราจะได้เก็บของถูกบ้างนะครับ

เพราะช่วงนี้มีแต่ขึ้นกับขึ้นมาหลายอาทิตย์แล้ว คนที่จะตามเก็บของก็อาจจะคิดหนัก

เพราะราคามัน overbought ไปมากแล้ว ดังนั้นก็หาจังหวะดีๆละกันครับ

พอพูดถึงเรื่องจังหวะการเข้าซื้อผมอยากจะให้ติดตามและศึกษาราคามันให้ดีนะครับ

เพราะการที่เรารู้ว่าหุ้นมันดี ดีมากๆแล้ว แต่ถ้าเราเข้าซื้อไม่ถูกจังหวะแล้วละก็

โอกาสที่จะเห็นกำไรมันก็น้อย เช่น เข้าซื้อเมื่อไหร่ก็ซื้อที่ราคาสูงตลอด

ซื้อเสร็จดันวิ่งลง จะซื้ออีกก็ไม่มีเงินแล้ว ลงไปเยอะๆก็กลัวจะทุนหาย ก็ต้องตัดขาดทุน

ซึ่งเป็นมากในนักลงทุุนมือใหม่หรือนักลงทุนที่ไม่ได้คิดตามข้อมูลหรือราคาของหุ้น

แต่หากท่านจะเก็บจริงๆ ก็ต้องค่อยๆเข้าที่ละนิด อย่าไปเข้าทีเดียวหมดกระเป๋า

และอย่าไป งก กับค่าคอมฯ นิดๆหน่อยๆ เช่น ซื้อ 500 หุ้น หุ้นละ 50 บาท

เสียค่าคอม 50 บาท รวมเป็น 25,050 บาท แต่พอหุ้นมันลงไปที่ 45 บาท

ท่านก็ไม่มีเงินไปซื้อถั่วเฉลี่ยแล้ว ซึ่งตอนนี้ขาดทุนไป 2550 บาท

แทนที่เราจะแบ่งซื้อสัก 2 ครั้ง โดนค่าคอมไปแค่ 100 บาท เท่านั้น

แต่กลับต้องมาขาดทุนทางบัญชีถึง 2550 บาท ลองคิดดูนะครับว่าอันไหนคุ้มกว่ากัน

วันนี้พอแค่นี้ก่อนครับ เดี๋ยวมันจะยาวไปเรื่อยๆ 555+

ขอบคุณครับ

[CK SPEED PART]

ช่วงนี้ถือเป็นช่วงทำกำไรของหุ้นเล็ก ตัวใหญ่เริ่มนิ่งตัวเล็กก็จะมา ผมถือLL 0.27ตั้งแต่กลางเดือนส.ค. วันนี้volumeเริ่มเข้าละ 0.28เกิดไปเกือบ3ล้านหุ้น เค้าว่าจะทะลุhighเดิม พรุ่งนี้ลุ้นๆแต่เช้า

[gommy]

สนใจจะเล่นหุ้นค่ะ แต่ตอนนี้ขอเก็บข้อมูลจากรุ่นพี่ก่อนค่ะ