เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 18 พฤษภาคม 2024, 21:38:56
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0
ห้ามประกาศซื้อขาย แลกเปลี่ยน สัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครองทุกชนิด บนเว็บไซต์แห่งนี้ เจอกระทู้ไหนประกาศ จะดำเนินการลบออก โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ตลาดกลางซื้อขายสินค้าออนไลน์
| |-+  สัตว์เลี้ยง (ผู้ดูแล: ตาต้อม, Active Oper, “๏.๎฿ @ ์ N ' K๎.๏™”)
| | |-+  แนะนำสัตว์เลี้ยงแปลกๆ ย้ำแปลกๆ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน แนะนำสัตว์เลี้ยงแปลกๆ ย้ำแปลกๆ  (อ่าน 18358 ครั้ง)
Reptile
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 723



« เมื่อ: วันที่ 23 เมษายน 2012, 22:15:05 »

ก่อนอื่นเลยนะคับ
ผมเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบและคลั่งไคล้ สัตว์เลี้ยงประเภทนี้
ผมจึงอยากแนะนำ อุปนิสัย ของแต่ละ ชนิดนะคับ

ปล.บ้างข้อมูลผมยืมมาจากบทความจาก เวปๆนึ่งมานะคับ ไม่ว่ากันนะ ยิ้มกว้างๆ
     แค่อยากให้เป็นความรู้แกชาว เวปchiangraifocus นะคับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 23 เมษายน 2012, 22:37:27 โดย Reptile » IP : บันทึกการเข้า

เลี้ยงด้วยใจ ใช่กระแส
      exotic pets
Reptile
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 723



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 23 เมษายน 2012, 22:17:34 »

เริ่มที่ Corn snake ก่อนเลยนะคับ
Corn snake หรืออีกชื่อหนึ่ง Red Ratsnake เป็นงูที่ได้รับความนิยมเลี้ยงมากที่สุด ในบรรดางูตระกูลนี้ เนื่องจากมีสีสันที่สด และลายที่สวยงาม นิสัยไม่ดุร้าย ไม่มีพิษ เกล็ดแข็งและเรียบ ลื่น มักหากิน หรือพบตามบริเวณบ้าน สวน ยุ้งฉาง และไร่ข้าวโพด (เลยเป็นที่มาของชื่อ) ในอเมริกาตะวันออกเฉียงใต้ มักจับหนูกินเป็นอาหาร Corn snake มีรูปร่างที่เปรียวบาง ส่วนหัวเล็กและแคบ ตากลมโต คอสั้น มีลวดลายหลายแบบและสีโทนแดงจนถึงเหลืองขาว
ข้อมูลเฉพาะตัว
ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Elaphe guttata
วงศ์ :  Colubridae (colubrids)
ถิ่นกำเนิด :  พบมากที่สุดในฟลอริดาและสหรัฐอเมริกาตะวันออกเฉียงใต้ ร่องหินตามไหล่เขา บริเวณบ้าน และเทือกสวน ไร่นา
การขยายพันธุ์ :  วางไข่ 20-30 ฟอง ในเดือน พฤษภาคม -มิถุนายน
ระยะฟักไข่ 60-65 วัน อายุโดยเฉลี่ย 12-20 ปี
อาหาร :  สัตว์เลื้อยคลาน หนู นก สัตว์ฟันแทะขนาดเล็ก
โดยทั่วไปมีความยาวเฉลี่ย 1 เมตร


* corn sanke.jpg (42.59 KB, 401x401 - ดู 6413 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

เลี้ยงด้วยใจ ใช่กระแส
      exotic pets
Reptile
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 723



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 23 เมษายน 2012, 22:22:47 »

ชนิดที่2คับ 8ขา มั้ง ยิงฟันยิ้ม แมงมุมroseคับ
ชื่อวิทยาศาสตร์ :Grammostola rosea (Walckenaer, 1837)
ชื่อสามัญ : rose

ถิ่นอาศัย ทางตอนเหนือของชิลี , อาเจนติน่า , (ส่วนใหญ่พบในทะเลทราย)
ชนิด อาศัยอยู่บนพื้นดินหรือโพรง
ขนาดโตเต็มวัย 4.5 - 5.5 นิ้ว
อัตราการเติบโต ช้า
อุณหภูมิ 21-29 C
ความชื้นสัมพัทธ์ 75 -80%

วันนี้เรามาลดดีกรีความแรงของแมงมุมกันนะครับ วันนี้ผมขอแนะนำสายพันธุ์พื้นๆ เลยดีกว่า และก็เป็นสายพันธุ์แรกของผมด้วยซิ มันคือ Rose (โรซี่) ของพวกเรานั่นเอง ใครๆ ก็ว่ามันน่ารัก และไม่ก้าวร้าว แต่ที่ผมสัมผัสมาเนี่ยไม่ทุกตัวนะครับต้องระวังหน่อย แต่ส่วนใหญ่ไม่ก้าวร้าว

เรามาทำความรู้จักกับมันดีกว่านะครับ เราจะพบพวกมันได้ในเขตทะเลทรายเท่านั้นนะครับ แสดงว่าแห้งแล้งมากๆ เป็นแมงมุมที่ว่ากันว่า "ต้องเริ่มต้น" จากตัวนี้เลยที่ไม่ดุ และก้าวร้าว และจับได้ สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวผมเองนั้นต้องบอกว่า "ดุร้าย" สำหรับบางตัวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม Rose เป็นแมงมุมที่น่ารักและสวยงามทีเดียวนะครับ ถึงจะมีไม่หลากสีก็ตาม เพราะมันมีตั้งแต่สีออกชมพู ไปกระทั่งกระเดียดไปทางแดง

เคยสงสัยกันไหมครับว่า บางทีเราก็เรียกว่า Rose บางทีเราก็เรียกว่า "Red Rose" แล้ว Res Rose ก็แพงกว่าอีกต่างหากอย่างน้อย 1 เท่า บางคนสงสัยกันว่า มันคนละสายพันธุ์หรือเปล่า หรือนักเลี้ยงบางคนก็มาบอกผมว่า "พี่มันมีมากกว่านั้น มันมี "White Rose" เอาละซิ งง กันใหญ่ว่ามันคือสายพันธุ์เดียวกันหรือไม่ เพราะว่า มีทั้ง ขาว ชมพู และแดง คือจริงๆ แล้วนักเลี้ยงแมงมุมทั้งหลายเรียกชื่อตามสีที่ปรากฏนั่นเอง โดยตามหลักของนักอนุกรมวิธานแล้ว ไม่ว่าจะสีไหนมันก็ถูกจัดให้เป็นสปีชีร์เดียวกันทั้งสิ้น แต่สำหรับวงการของนักเลี้ยงแมงมุมนั้นจะถูกจัดให้เป็นคนละชนิดกันตามสีที่เห็น

ลักษณะโดยทั่วไปนั้น โรซี่ ขนจะออกสีน้ำตาล หรือน้ำตาลอมชมพู โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่กระดองจะเป็นคล้ายสีทองแดง ก็จัดได้ว่าเป็นแมงมุมที่เหมาะกับการเริ่มต้นเป็นอย่างยิ่งอีกตัวนะครับ เพราะว่ามันมีราคาไม่แพงเลยโดยเฉพาะตัวที่มีสีอ่อนๆ แต่มันค่อนข้างที่โตช้า และบางทีก็ไม่ค่อยกินอาหารเลย บางคนเลยบอกว่ามันทำตัวน่าเบื่อ แต่จริงๆ ไม่เลย โดยส่วนใหญ่มันมีนิสัยที่น่ารักมาก แต่ระวังนะครับ บางตัวก็เตะขนให้เห็นได้เช่นกัน ผมมีครบเลยครับ ไม่ว่าจะ นิสัยนิ่งๆ เงียบๆ หรือก้าวร้าว หรือเตะขน การเลี้ยงก็เลี้ยงในที่แห้งๆ ได้เลยครับ เพราะว่ามันมาจากทะเลทราย (แต่ถึงอย่างไรก็ตาม มันขาดน้ำไม่ได้นะครับ)


* 2.jpg (62.02 KB, 653x672 - ดู 9644 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

เลี้ยงด้วยใจ ใช่กระแส
      exotic pets
Reptile
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 723



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 23 เมษายน 2012, 22:28:01 »

มาถึง ต.เต่า กันมั้งคับ ดาวอินเดีย คับ
จะ ว่าไปแล้วเต่าที่มีความสวยงามและโดดเด่น ครองใจผู้เลี้ยงเต่านานนับทศวรรษแล้วละก็คงหนีไม่พ้นเจ้าเรเดียต้า หรืออาจแปลเป็นภาษาไทยได้ไพเราะเพราะพริ้งตามอารมณ์อันสุนทรีย์ของผมเองว่า “ เต่าดารารัศมี ” ในที่นี้ผมจะขอเรียกเจ้าเต่าตัวนี้ว่าดารารัศมี ( ไม่ใช่ชื่อที่ใช้กันอย่างเป็นทางการหรอกนะครับ ) หรือเรเดียต้า สลับ ไปมาบ้างเพราะผมชอบชื่อที่ดูเป็นไทยๆและในขณะเดียวกันผู้อ่านบางท่านจะได้ ไม่สับสนนะครับ เนื่องมาจากลวดลายบนลำตัวที่ดูคล้ายกับแสงรัศมีที่ส่งประกายออกมา ซึ่งลายจะมีความละเอียดกว่าเต่าดาวอินเดีย สิ่งนี้เองที่ทำให้ต้องตาต้องใจผู้พบเห็นยิ่งนัก ดารารัศมีบางตัวมีลายแตกกระจายมากและลายถี่ละเอียด เป็นพิเศษ จะยิ่งมีราคาสูงและเป็นที่ถวิลหาของผู้มีอันจะกินเพื่อนำมาไว้ประดับบารมี เหมือนกับคนรวยที่ขับเบนซ์นั่นหละครับ ยิ่งมีลายสีเหลืองเยอะที่เรียกว่า ไฮเยลโล่ (Hi-yellow) นั้นถือว่าสุดยอดทีเดียว แต่อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับค่านิยมมากกว่า เพราะเต่าทุกตัวผมว่ามีคุณค่าไม่แตกต่างกัน เพียงแต่ผู้เลี้ยงบางท่านเอาราคามาเป็นตัวตัดสินคุณค่าของมันเท่านั้นเอง รัศมีดาราเป็นเต่าที่อาศัยอยู่บนบก สังเกตได้จากเท้าของมันที่มีลักษณะเป็นนิ้วและเล็บ ไม่มีผังผืดเหมือนเต่าน้ำ ลักษณะเท้าแบบนี้นั้นแสดงว่ามันกิน อยู่ อาศัย บนพื้นดินเท่านั้น ( แต่ก็ชอบลงไปแช่น้ำตื้นๆเพื่อกินน้ำและคลายร้อนได้บ้างเหมือนกัน ) ดังนั้นมันจึงไม่สามารถว่ายน้ำได้ จึงไม่ควรนำเจ้าเต่าตัวนี้ไปใส่ในน้ำเด็ดขาด เดิมทีเจ้ารัศมีดาราตัวนี้มีสนนราคาแพงลิบลิ่วเฉียดครึ่งแสน ซึ่งสำหรับผมนั้นคงเรียกได้ว่าตะกายดาวเลยทีเดียว เพราะว่าเกินเอื้อมจริงๆสำหรับคนเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างผม แต่ปัจจุบันลดลงมาอยู่ในระดับที่พอจะหาซื้อได้บ้างในเต่าขนาดย่อมๆ เนื่องมาจากการเพาะพันธุ์และการนำเข้าที่มีปริมาณมากขึ้นทำให้สามารถครอบ ครองกันได้ง่ายขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเรเดียต้าบางตัวราคาก็ยังเอื้อมกันไม่ถึงอยู่ดี
         นอก จากความงามแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้มันมีราคาสูงนั้นก็เนื่องมาจาก เป็นสัตว์ที่ติดบัญชี CITES 1 เนื่องจากเรเดียต้าอยู่ในสถานภาพที่ใกล้สูญพันธุ์ จึงห้ามมีการซื้อขาย ส่งออก และครอบครอง เป็นอุปสรรคสำคัญ แต่ถึงอย่างนั้นในทุกวันนี้เราก็พบเห็นเจ้าเรเดียต้าอยู่เยอะพอสมควร เนื่องมาจากการเพาะพันธุ์ของชาวต่างชาติ แต่บางส่วนก็ยังจับจากธรรมชาติอยู่ ส่วนในประเทศไทยยังไม่มีรายงานว่ามีผู้ใดเพาะพันธุ์ประสบความสำเร็จ
อนุกรมวิธาน
    Class Reptilia
        Order Testudines
            Family Testudinidae
                 Genus Geochelone
                ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Geochelone Radiata

ถิ่นกำเนิด
        เร เดียต้ามีถิ่นกำเนิดจากเกาะมาดากัสการ์ ซึ่งมันอาศัยอยู่ทางตอนใต้ของเกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์ และมีต้นไม้หนาแน่น จึงเป็นต้นกำเนิดของสัตว์ป่าอีกหลากหลายชนิด นอกจากนี้ยังมีความชื้นสูง เนื่องจากฝนตกชุก ทำให้เรเดียต้าสามารถทนความเย็นและความชื้นได้พอสมควร แต่บริเวณที่มันอาศัยอยู่นั้นจะมีอุณหภูมิค่อนข้างสูง และแห้งแล้งแบบทะเลทราย ดังนั้นเรเดียต้าจึงเป็นเต่าที่มีความทนทานในเรื่องอุณหภูมิและการเปลี่ยน แปลงอากาศได้บ้าง ทำให้ผู้เลี้ยงไม่ค่อยหนักใจกับเจ้าเต่าตัวนี้มากนัก แต่อย่างไรก็ดีการที่ให้เต่าตากฝนย่อมไม่เป็นการ ดีต่อสุขภาพของเต่าแน่นอน

การดูแลโดยทั่วไป

        นับ เป็นโชคดีที่เต่าชนิดนี้เลี้ยงง่ายพอสมควร เนื่องจากความทนทานอากาศของมัน แต่นั่นก็ไม่ใช่ว่าจะเลี้ยงอย่างไรก็ได้ ผู้เลี้ยงควรให้ความเอาใจใส่เช่นเดียวกับเต่าบกชนิดอื่นๆ โดยควรหมั่นสังเกตสุขภาพเต่าเป็นประจำสม่ำเสมอ และสิ่งที่พึงกระทำเป็นอย่างยิ่งซึ่งจะขาดไม่ได้เลยคือ การให้เต่าได้อาบแดด แช่น้ำอุ่น และให้อาหารที่มีประโยชน์แก่เต่า โดยให้ผักหลากหลายชนิดหมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนกันไป เพราะผักผลไม้แต่ละชนิดมีคุณประโยชน์แตกต่างกันไป โดยให้อาหารเต่าวันละ 1-2 ครั้ง แล้วแต่ความสะดวกของผู้เลี้ยง ซึ่งในอาหารบางชนิดจะมีวิตามินและแร่ธาตุที่เต่าต้องการแตกต่างกันไป โดยเฉพาะแคลเซียมนั้นจำเป็นสำหรับเต่ามาก ผู้เลี้ยงสามารถเสริมด้วยแคลเซียมผง กระดองปลาหมึก หรือจากผักบางชนิด เช่น ใบชบา เพื่อให้เต่าได้รับแคลเซียมและนำไปใช้ในการเจริญเติบโต แต่การดูดซึมแคลเซียมไปใช้ประโยชน์ได้นั้นจำเป็นต้องได้รับวิตามินดี จากแสงแดดอ่อนๆ ร่วมด้วย ผู้เลี้ยงจึงไม่สามารถละเลยได้ เพราะเป็นสิ่งที่มีผลโดยตรงต่อสุขภาพเต่า โดยแดดอ่อนๆในช่วงเช้าถึงช่วงสายเป็นแดดที่ไม่แรงจัด สามารถนำเต่าไปตากแดดได้โดยตรง แต่สำหรับแดดช่วงกลางวันแล้วผู้เลี้ยงต้องระมัดระวัง และไม่ควรปล่อยเต่าทิ้งไว้กลางแดด เพราะนี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เต่าของท่านเสียชีวิตได้โดยรู้เท่าไม่ ถึงการณ์ สามารถนำเต่ามาอาบแดดได้ทุกวันหากมีเวลา หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งก็ยังดีครับ เพราะเต่าที่ไม่ได้รับวิตามินดีนั้นเมื่อขับถ่ายจะเอาก้อนขาวๆออกมาด้วย นั่นคือแคลเซียมที่เต่าไม่สามารถนำไปใช้ได้
         นอก จากนี้การแช่น้ำอุ่นให้กับเต่ายังช่วยให้เต่าได้รับน้ำ และขับถ่ายแล้ว ยังเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากตัวเต่าด้วย สิ่งขับถ่ายเหล่านี้เมื่อหมักหมมนานๆจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดการโรคและเชื้อ โรคต่างๆได้ น้ำที่ใช้ควรเป็นน้ำอุ่นพอดีๆ ใส่ในภาชนะให้ท่วมขอบกระดองเต่าด้านล่างขึ้นมาเล็กน้อย แช่ครั้งละประมาณ 30 นาที การแช่น้ำอุ่นยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพเต่า เพราะเต่าจะรับน้ำเข้าสู่ร่างกาย เพื่อเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้น โดยเต่าที่มีอาการตาปิด บวมน้ำ และผิวแห้งการแช่น้ำอุ่นจะช่วยให้เต่าดีขึ้น
         ควร ทำความสะอาดภาชนะให้อาหาร ภาชนะใส่น้ำ และสถานที่เลี้ยง อย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ ไม่ให้มีเศษอาหารและขี้เต่าหมักหมม เป็นต้นเหตุให้เกิดการติดเชื้อ และดูแลสถานที่เลี้ยงให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเกิดโรค เพราะแม้ว่าเต่าจะมีความทานทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศแต่ไม่ได้ทนทานต่อโรคและ เชื้อโรคแต่อย่างใด เพราะหากไม่เอาใจใส่แล้วก็มีสิทธิ์ป่วยได้เหมือนกัน เรเดียต้าเป็นเต่าที่มักไม่ค่อยแสดงอาการป่วยออกมาให้เห็นเด่นชัดเเท่าใดนัก หากแสดงอาการให้เห็นนั้นแสดงว่าค่อนข้างสาหัสแล้ว เนื่องจากเป็นเต่าที่เก็บอาการดังนั้นการป้องกันเอาไว้แต่เนิ่นๆ โดยหมั่นดูแลเอาใจใส่ตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ดีกว่ามารักษาทีหลัง เพราะเมื่อถึงเวลานั้นอาการอาจหนักเกินเยียวยาแล้วก็เป็นได้ โรคที่พบบ่อยๆ ได้แก่ โรคหวัด ตาบวม ฝี ซึ่งพบในเต่าบกทั่วไป นอกจากนี้การมีเศษหินเข้าไปติดในลำไส้ เป็นอีกสาเหตหนึ่งที่ทำให้เต่าเสียชีวิต

สถานที่เลี้ยง

        การ จัดสถานที่เลี้ยงให้ดารารัศมีนั้นสามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน สถานที่เลี้ยงมีหลายแบบได้แก่ ตู้กระจกที่มีขอบเตี้ย ภาชนะพลาสติก อ่างซีเมนต์ หรือในสวนนอกบ้าน เป็นต้น ซึ่งสถานที่เลี้ยงนี้นี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้เลี้ยงและขนาดของเต่า เป็นสำคัญ โดยเต่าเล็กจะนิยมเลี้ยงไว้ในบ้าน เนื่องจากความทนทานยังมีน้อย เมื่อโตขึ้นสถานที่เลี้ยงในบ้านจะดูคับแคบไปผู้เลี้ยงจึงย้ายออกมาเลี้ยงไว้ นอกบ้าน โดยในสถานที่เลี้ยงจะต้องมีอุปกรณ์ ดังต่อไปนี้ ถาดอาหาร ถาดน้ำ หลอดไฟให้ความร้อน บ้านเต่า ( ที่หลบซ่อนหรือไว้สำหรับกันฝน ) สถานที่เลี้ยงควรมีอุณหภูมิสูงพอประมาณในช่วง 25-30 องศาเซลเซียส และมีความชื้นสูง ส่วนประกอบอย่างอื่นได้แก่ รั้ว เพื่อป้องกันการหลุดหนีของเต่าและป้องกันศัตรูของเต่าด้วย หลอดไฟยูวีที่มีช่วงแสงเหมาะสมสำหรับเต่า กรณีที่ผู้เลี้ยงไม่มีเวลานำเต่าไปอาบแดด
          ผู้ เลี้ยงบางท่านชอบจัดสถานที่เลี้ยงเพื่อให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติ โดยประดับตกแต่งด้วยต้นไม้ นอกจากจะเป็นที่กำบังแดดให้กับเต่าแล้วยังช่วยเพิ่มความเย็นให้กับสถานที่ เลี้ยงได้ด้วย นอกจากนั้นควรสามารถทำความสะอาดได้ง่ายด้วย ไม่ควรปูพื้นด้วยกรวดขนาดเล็กเพราะนอกจากจะทำความสะอาดลำบากแล้ว กรวดเหล่านั้นอาจติดกับอาหารเข้าไปในลำไส้เต่าได้ ซึ่งเป็นผลต่อระบบขับถ่ายของเต่า เพราะเต่าไม่สามารถขับถ่ายออกมาได้หรือเข้าไปติดส่วนของลำไส้ เป็นผลให้เต่าตายได้

อาหารของเต่า
          รัศมี ดาราเป็นนักบริโภคผักตังยง มันกินผักและผลไม้แทบจะทุกชนิด แต่การนำมาเลี้ยงเราสามารถเลือกอาหารที่มีคุณประโยชน์ให้กับเค้าได้ แต่ต้องสลับสับเปลี่ยนอยู่เสมอ และควรให้ผักหลากหลายชนิดปะปนกันไป ผักและผลไม้ที่นิยมให้เต่ากินได้แก่ ถั่วฝักยาว ผักกาด ผักกาดหอม คะน้า ผักบุ้ง แตงกวา มะละกอ กล้วย ใบหม่อน ใบชบา ตะบองเพชรเสมา เป็นต้น ซึ่งในเต่าขนาดเล็กผู้เลี้ยงต้องหั่นให้มีขนาดพอดีกับปากเต่าด้วย

การเพาะพันธุ์
           เต่า เรเดียต้าเป็นเต่าขนาดกลาง เมื่อเต็มที่ขนาดประมาณฟุตกว่าๆเท่านั้นเอง จะไปเทียบกับเจ้าซูคาต้าหรือ อัลดาบร้า คงเทียบกันไม่ติด ซึ่งตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ การผสมพันธุ์ก็คล้ายๆกับเต่าบกทั่วไป โดยเมื่อถึงเวลาเต่าจะผสมพันธุ์กันเอง ดังนั้นสถานที่ควรมีบริเวณพอสมควร มีที่หลบซ่อน เพื่อให้เต่าได้ทำการผสมพันธุ์ หลังจากนั้นเต่าตัวเมียจะทำการขุดหลุมเพื่อวางไข่ โดยจะทยอยวางครั้งละ 7-9 ฟอง แล้วเว้นช่วงไป จากนั้นก็จะขุดหลุมใหม่เพื่อวางไข่ ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าไข่จะหมด เพื่อให้อัตราการฟักสูงผู้เลี้ยงมักขุดเอาไข่ขึ้นมาฟักเองในอุปกรณ์ฟักไข่ ซึ่งจัดเตรียมไว้ให้เหมาะสม ไข่จะใช้เวลาฟักนานประมาณ 200 วันขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ


* ดาว.jpg (27.55 KB, 400x300 - ดู 8517 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

เลี้ยงด้วยใจ ใช่กระแส
      exotic pets
Reptile
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 723



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 23 เมษายน 2012, 22:34:21 »

อย่างที่4 นะคับ กิ้งก่า Bearded Dragon หรือ มังกรเครา นี้เอง

ชื่อของ Bearded Dragon (เบี๊ยดดรากอน) ซึ่งต่อไปผมจะแทนเจ้าตัวนี้ว่า B.D. ซึ่งเป็นชื่อย่อของมันแล้วกันครับ ชื่อ Bearded Dragon นั้นได้มาจากเวลาที่มันป้องกันตัว หรือเวลาผสมพันธุ์ แผงที่คอจะขยายขึ้นคล้ายกับเคราของคนซึ่งมีทั้งตัวเมีย และตัวผู้ เมื่อโตเต็มที่ B.D.อาจยาวได้ถึง 15-24 นิ้ว ส่วนลูกนั้นจะยาว 3-4 นิ้ว B.D. นั้นโตเร็วมากครับประมาณ 1 ปีก็สามารถระบุเพศได้แล้ว และภายเมื่ออายุ 2 เดือนก็จะมีสีที่แน่นอนครับ


ที่อยู่
           B.D. ไม่เรื่องมากนักสำหรับที่อยู่ครับ สามารถอยู่ในตู้ปลาที่ปิดด้วยมุ้งลวดด้านบนก็ได้แถมราคาไม่แพงมาก อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ที่ระหว่าง 32-40 องศาเซลเซียส (อาจจะให้ความร้อนโดยหลอดไฟสำหรับสัตว์เลื้อยคลานก็ได้) ซึ่งในที่อยู่นั้นก็ควรจะใหญ่พอที่จะใส่ของตกแต่งจำพวก ขอนไม้ กิ่งไม้ หรือที่หลบร้อนจากหลอดไฟด้วย วัสดุปูพื้นที่ดูแลง่ายคือ หนังสือพิมพ์ ทราย กรวดเล็กๆ ไม่ควรใช้ซังข้าวโพด หญ้า หรือขี้เลื่อยเพราะวัสดุเหล่านี้อมความชื้นได้ดีและเป็นที่อยู่ของแบดทีเรีย ด้วยครับ





อาหาร
          B.D. สามารถกินอาหารได้หลากหลาย เช่น จิ้งหรีด, Waxworm, หนูแดง หรือหนูขนก็ได้ รวมถึงผักและผลไม้ต่างๆ สำหรับลูก B.D. นั้นอาหารที่ดีที่สุดคือ จิ้งหรีดไซส์เล็กหน่อย เรื่องอาหารนี่สำคัญมากครับ เพราะมีส่วนที่จะทำให้ B.D. ของท่านเป็นอัมพาต หรืออย่างน้อยก็ทำให้ขาหลังโก่งได้ครับ ขนาดของอาหารไม่ควรจะยาวเกิน หรือ/และ ใหญ่เกินกว่าความยาวระหว่างตาถึงปลายจมูกของ B.D. และควรให้อาหารน้อยๆในหลายๆมื้อ ดีกว่าการให้เยอะๆในมื้อเดียว ควรให้จิ้งหรีดคลุกวิตามินและแคลเซียมวันเว้นวันจนถึงอายุ 3 เดือน หลังจากนั้นก็ลดเหลือ 2 ครั้งต่ออาทิตย์ก็ได้ครับ ทั้งนี้อาหารควรจะมีความหลากหลายโดยสลับกับผักผลไม้ก็ดีครับ โดยธรรมชาติแล้ว B.D. จะกินน้ำจากน้ำค้างครับ การให้น้ำก็จะคล้ายๆกับพวกคาร์มิเลียนคือ สเปรย์น้ำวันละ1-2ครั้ง แล้วเค้าก็จะเลียน้ำเองครับ

แสง
           ถ้าเลี้ยง B.D.ไว้ในบ้านก็จำเป็นที่จะต้องมีหลอดไฟทั้ง UV-A และ UV-B ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายสร้างวิตามิน D-3 เพื่อดูดซึมแคลเซียม แต่ถ้าเลี้ยง B.D. ไว้นอกบ้าน แล้วตัวเค้าโดนแดดเป็นอย่างน้อย 30 นาทีแล้วก็ไม่ต้องใช้หลอดไฟก็ได้ครับ

การจับ
          เหมือนกับสัตว์เลื้อยคลานทั่วไปครับ ให้เค้าปรับตัวให้เข้ากับที่อยู่ใหม่ อาหารก่อนที่จะจับเค้ามาเล่นครับ การป้อนอาหารจากมือก็เป็นอีกวิธีที่ทำให้ B.D. เชื่องได้ครับ เมื่อเชื่องแล้วมันก็อาจจะอยู่กับคุณทั้งวันได้ครับ และควรดูแลอย่างใกล้ชิดเมื่อปล่อยไว้อยู่กับเด็ก ที่สำคัญอย่าลืมล้างมือหลังการจับทุกครั้งด้วยนะครับ

เพศ
           สามารถดูเพศได้ง่ายขึ้นเมื่ออายุครบ 3 เดือนครับ วิธีการดูเพศนั้น ควรให้ B.D. หงายตัวและหางชี้เข้าตัวคุณ ค่อยๆพับหางไปทางด้านหลังก็จะเห็นช่องท้องที่ชัดเจนขึ้น ท้องของตัวผู้นั้นจะนูนขึ้นมาทั้งสองด้าน ทำให้เกิดรอยบุ๋มระหว่างหาง ส่วนตัวเมียนั้นจะมีรอยนูนขึ้นมาเพียงรอยเดียวเท่านั้น

การเพาะพันธุ์
           มีหลายคนในเว็บนี้ที่เพาะได้กันเยอะเลยทีเดียว ซึ่งการเพาะนั้นก็ควรจะมีตัวผู้และเมียและพื้นที่พอเพียงสำหรับการผสมพันธุ์ หลังผสมพันธุ์แล้ว B.D. จะมีลักษณะคล้ายการจำศีลเป็นเวลา 2-3 เดือน แต่ก็มีหลายตัวเหมือนกันที่ไม่มีลักษณะจำศีลหลังผสมพันธุ์ ถ้า B.D. ของท่านมีอาการดังกล่าวให้งดอาหารลง
ระหว่างมี sex นั้นตัวผู้จะมีแผงคอที่เข้มขึ้นและจะผงกหัวหรือกระทืบเท้าหน้า หลังจากนั้น 4-6 อาทิตย์ตัวเมียจะเริ่มวางไข่ โดยจะขุดลึกประมาณ 12-16 นิ้ว ไข่ควรจะอยู่ในเวอร์มิคูไลต์ที่มีความชื้นปานกลางซึ่งเป็นที่ที่ดีสำหรับฟัก ไข่ครับ โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมคือระหว่าง 27-29 องศาเซลเซียสใช้เวลาประมาณ 65-75 วันในระหว่างนี้ ไข่จะเริ่มฟักตัวออกมา ภายใน 24 ชั่วโมง B.D. ตัวน้อยๆก็จะออกมาได้เต็มตัว ควรห้ลูก B.D. อยู่ในที่เพาะต่ออีก 24 ชั่วโมงเพื่อให้ดูดซึมไข่แดงทั้งหมด และสามารถให้อาหารมื้อแรกได้ใน 72 ชั่วโมงต่อมาครับ
วันนี้ง่วงละพรุ่งนี้จะมาแนะนำใหม่นะคับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม


* p9103.jpg (197.17 KB, 600x450 - ดู 11286 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 23 เมษายน 2012, 22:39:10 โดย Reptile » IP : บันทึกการเข้า

เลี้ยงด้วยใจ ใช่กระแส
      exotic pets
artfactory
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 708



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2012, 00:36:54 »

อยากเลี้ยง มีขายมั้ยครับ
IP : บันทึกการเข้า

0888-4888-35
Reptile
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 723



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2012, 00:47:09 »

อยากเลี้ยง มีขายมั้ยครับ
ที่ผมไม่มีขายคับ แต่แอบหาแนวร่วมแชร์ประสบการ การเลี้ยงอยู่คับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

เลี้ยงด้วยใจ ใช่กระแส
      exotic pets
artfactory
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 708



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2012, 01:05:41 »

ตอนนี้มีเต่าตัว กับ เคแมน ตัว
IP : บันทึกการเข้า

0888-4888-35
>_อนัตตา_<
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,365



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2012, 07:59:21 »

แปลกจริง ๆ เลยค่ะ สงสัยคงเลี้ยงยากน่าดูน่ะค่ะ  ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
autkung
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 434


สนใจ มีดตัดแต่งชวนชม สอบถามได้ครับ


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2012, 08:13:08 »

ชอบจัง สัตว์ แปลกๆ โดยเฉพาะ งู บอล แต่ยังไม่ได้เลี้ยงเลย ที่บ้านกลัว 5555
IP : บันทึกการเข้า

นาย อรรถพล เมืองมั่น Line ID autkung000 โทร 081-4665200  ที่อยู่ 51 / 17 หมู่ 17 ต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย จ.เชียงราย 57210
autkung
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 434


สนใจ มีดตัดแต่งชวนชม สอบถามได้ครับ


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2012, 08:14:38 »

ชอบจัง สัตว์ แปลกๆ โดยเฉพาะ งู บอล แต่ยังไม่ได้เลี้ยงเลย ที่บ้านกลัว 5555
IP : บันทึกการเข้า

นาย อรรถพล เมืองมั่น Line ID autkung000 โทร 081-4665200  ที่อยู่ 51 / 17 หมู่ 17 ต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย จ.เชียงราย 57210
lotto
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 307


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2012, 08:36:42 »

ตอนนี้มีเต่า pig nose ค่ะ   ส่วนreptile อื่นๆ เคยเลี้ยง chameleon ซื้อมาคู่หนึ่ง แต่ตอนหน้าหนาวมันตายค่ะ  pig nose ซื้อมาตั้งแต่ยังเล็กๆ ตอนนี้โตแล้ว เลี้ยงในตู้ปลา เขากินอาหารเต่า โดยเฉพาะ hikari ค่ะ กินปลาเล็กปลาน้อย กุ้ง อยู่แต่ในน้ำ  ถ้ารู้ข้อมูลเพิ่มช่วยแชร์ด้วยนะคะ ไม่รู้ว่าเป็นสัตว์คุ้มครองหรือป่าว


* DSC00234.JPG (124.44 KB, 640x480 - ดู 6550 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 24 เมษายน 2012, 09:07:47 โดย lotto » IP : บันทึกการเข้า
lotto
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 307


« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2012, 08:39:55 »

ตอนนี้อยากได้เต่าดาวอินเดียค่ะ ไม่ทราบมีใครขายบ้างคะ ผิดกม.หรือป่าวคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 24 เมษายน 2012, 09:06:00 โดย lotto » IP : บันทึกการเข้า
Reptile
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 723



« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2012, 19:35:07 »

ตอนนี้มีเต่าตัว กับ เคแมน ตัว
น่าสนคับ อยากเห็นรูปเคแมน
IP : บันทึกการเข้า

เลี้ยงด้วยใจ ใช่กระแส
      exotic pets
Reptile
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 723



« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2012, 19:36:02 »

แปลกจริง ๆ เลยค่ะ สงสัยคงเลี้ยงยากน่าดูน่ะค่ะ  ยิ้มกว้างๆ
เลี้ยงง่ายคับ เช่น งู แมงมุม ให้อาหารอาทิตละครั้งเอง ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

เลี้ยงด้วยใจ ใช่กระแส
      exotic pets
Reptile
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 723



« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2012, 19:36:41 »

ชอบจัง สัตว์ แปลกๆ โดยเฉพาะ งู บอล แต่ยังไม่ได้เลี้ยงเลย ที่บ้านกลัว 5555
บอลก่อ เลี้ยงง่ายคับ นิสัยดีด้วย  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

เลี้ยงด้วยใจ ใช่กระแส
      exotic pets
Reptile
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 723



« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2012, 19:37:53 »

ตอนนี้มีเต่า pig nose ค่ะ   ส่วนreptile อื่นๆ เคยเลี้ยง chameleon ซื้อมาคู่หนึ่ง แต่ตอนหน้าหนาวมันตายค่ะ  pig nose ซื้อมาตั้งแต่ยังเล็กๆ ตอนนี้โตแล้ว เลี้ยงในตู้ปลา เขากินอาหารเต่า โดยเฉพาะ hikari ค่ะ กินปลาเล็กปลาน้อย กุ้ง อยู่แต่ในน้ำ  ถ้ารู้ข้อมูลเพิ่มช่วยแชร์ด้วยนะคะ ไม่รู้ว่าเป็นสัตว์คุ้มครองหรือป่าว
น่ารักมากคับ ตัวนี้ว่ายน้ำอย่างกะบินได้ เด่วมีข้อมูลดีๆจะมาแนะนำนะคับ
IP : บันทึกการเข้า

เลี้ยงด้วยใจ ใช่กระแส
      exotic pets
Reptile
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 723



« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2012, 19:38:41 »

ตอนนี้อยากได้เต่าดาวอินเดียค่ะ ไม่ทราบมีใครขายบ้างคะ ผิดกม.หรือป่าวคะ
ส่วนมากที่ กทม. มีคับ ราคาก่อขึ้นอยุ่กะขนาดของตัว คับ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า

เลี้ยงด้วยใจ ใช่กระแส
      exotic pets
Reptile
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 723



« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2012, 20:46:34 »

วันนี้เอาตัวน่ารัก น่าชังมังคับ นั้นคือ Axolotl หรือ จิ้งจอกน้ำนั้นเอง ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
Axolotl
สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำในอันดับซาลาแมนเดอร์ มีพู่เหงือกเป็นอวัยวะช่วยหายใจติดตัวมาตั้งแต่ฟักออกจากไข่ โดยที่ไม่หายไป และไม่พัฒนาเป็นตัวโตเต็มวัย ถึงแม้จะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ แตกต่างสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำจำพวกอื่น เช่น กบหรือซาลาแมนเดอร์ชนิดอื่น สาเหตุเกิดจากหลายทฤษฎีด้วยกัน เช่น

1. ขาดฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ เพราะอาศัยในน้ำที่มีระดับไอโอดีนต่ำ
2. อาศัยอยู่ในน้ำที่เย็นเกินไป และส่งผลกระทบต่อฮอร์โมน
3. เป็นลักษณะการปรับตัวเพื่ออาศัยอยู่ในน้ำตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากพื้นที่อยู่อาศัยเป็นทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยพื้นดิน

สิ่งมหัศจรรย์ของแอกโซโลตล์ คือ เมื่ออวัยวะของร่างกายขาดหายไปจะสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ ทั้งอวัยวะภายนอกหรืออวัยวะสำคัญภายในร่างกาย เช่น หัวใจ ปอดสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำในอันดับซาลาแมนเดอร์ มีพู่เหงือกเป็นอวัยวะช่วยหายใจติดตัวมาตั้งแต่ฟักออกจากไข่ โดยที่ไม่หายไป และไม่พัฒนาเป็นตัวโตเต็มวัย ถึงแม้จะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ แตกต่างสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำจำพวกอื่น เช่น กบหรือซาลาแมนเดอร์ชนิดอื่น สาเหตุเกิดจากหลายทฤษฎีด้วยกัน เช่น

1. ขาดฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ เพราะอาศัยในน้ำที่มีระดับไอโอดีนต่ำ
2. อาศัยอยู่ในน้ำที่เย็นเกินไป และส่งผลกระทบต่อฮอร์โมน
3. เป็นลักษณะการปรับตัวเพื่ออาศัยอยู่ในน้ำตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากพื้นที่อยู่อาศัยเป็นทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยพื้นดิน

สิ่งมหัศจรรย์ของแอกโซโลตล์ คือ เมื่ออวัยวะของร่างกายขาดหายไปจะสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ ทั้งอวัยวะภายนอกหรืออวัยวะสำคัญภายในร่างกาย เช่น หัวใจ ปอด
Axolotl
สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำในอันดับซาลาแมนเดอร์ มีพู่เหงือกเป็นอวัยวะช่วยหายใจติดตัวมาตั้งแต่ฟักออกจากไข่ โดยที่ไม่หายไป และไม่พัฒนาเป็นตัวโตเต็มวัย ถึงแม้จะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ แตกต่างสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำจำพวกอื่น เช่น กบหรือซาลาแมนเดอร์ชนิดอื่น สาเหตุเกิดจากหลายทฤษฎีด้วยกัน เช่น

1. ขาดฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ เพราะอาศัยในน้ำที่มีระดับไอโอดีนต่ำ
2. อาศัยอยู่ในน้ำที่เย็นเกินไป และส่งผลกระทบต่อฮอร์โมน
3. เป็นลักษณะการปรับตัวเพื่ออาศัยอยู่ในน้ำตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากพื้นที่อยู่อาศัยเป็นทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยพื้นดิน

สิ่งมหัศจรรย์ของแอกโซโลตล์ คือ เมื่ออวัยวะของร่างกายขาดหายไปจะสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ ทั้งอวัยวะภายนอกหรืออวัยวะสำคัญภายในร่างกาย เช่น หัวใจ ปอด


* 373_axolotl_ambystoma_mexicanum.e.jpg (80.36 KB, 760x564 - ดู 6484 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

เลี้ยงด้วยใจ ใช่กระแส
      exotic pets
Reptile
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 723



« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2012, 20:51:07 »

มาถึงงูบ้างคับ งูบอลนั้นเอง
งหลามบอล (ball python/royal python) เป็นงูหลามจากแอฟริกาที่เล็กที่สุด และได้รับความนิยมนำมาเลี้ยงมาก ลักษณะเด่นคือการขดตัวเพื่อป้องกันอันตรายจากศัตรู จะขดเป็นก้อนกลม เก็บหัวกับคอ คล้ายลูกบอล เป็นที่มาของชื่อ งูหลามบอล นิสัยรักสงบ เชื่อง ออกหากินในเวลากลางคืน โดยอาสัยช่องรับความร้อน ตรวจจับความร้อนจากเหยื่อ อาศัยตามโพรงดิน ว่ายน้ำได้ดี เป็นงูที่นำมาเลี้ยงนั้น จะฝึกให้กินอาหารตายยาก ไม่เหมาะสำหรับผู้เลี้ยงมือใหม่

ข้อมูลเฉพาะตัว
ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Python regius
ตระกูล :  Pythonidae (Pythons) 
ถิ่นกำเนิด :  แอฟริกากลาง จนถึงแอฟริกาใต้ 
การขยายพันธุ์ :  โตเต็มที่ 3-5 ปี ผสมพันธ์ระหว่างเดือนมกราคม -มีนาคม
ออกไข่ครั้งละ 4-10 ฟอง ขึ้นไป ระยะฟักไข่ 90 วัน โดยตัวเมียจะนอนกกไข่ตลอดเวลา และไม่ยอมกิน อาหารในช่วงนี้ อายุเฉลี่ย 20-30 ปี
อาหาร :  สัตว์ฟันแทะ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก งู นก จิ้งจก
 
โดยทั่วไปยาวเฉลี่ย 1.5 เมตร


* 1283331587_66115.jpg (47.81 KB, 612x459 - ดู 6270 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

เลี้ยงด้วยใจ ใช่กระแส
      exotic pets
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!