คุณดรีมยังโชคดีที่มีเพื่อนๆ แต่ฉันไม่มีใครเลย ไม่มีเพื่อน อย่างมากก็มีแค่คนที่รู้จักกันแค่ผิวเผิน เขาเป็นคนเดียวที่ฉันมี เป็นคนเดียวที่ฉันคุยด้วย ส่วนครอบครัวฉันก็มีแต่แม่ ฉันไม่อยากให้แม่รู้ว่าฉันเสียใจ ฉันอยู่แต่ในบ้าน ทำงานที่บ้าน โลกของฉันอยู่แค่ในบ้านเท่านั้น ฉันไม่มีที่ไป...
ฉันต้องปั้นหน้า พยายามทำตัวให้เป็นปกติเกือบจะตลอดเวลา แม้แต่ตอนนอนยังแอบร้องไห้ไม่ได้เพราะกลัวแม่ได้ยิน (เรานอนด้วยกัน เพราะแม่เป็นคนขี้กลัว แล้วก็สุขภาพไม่ค่อยดี) ฉันแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว บางครั้งทนไม่ไหวจริงๆ น้ำตามันไหลอย่างห้ามไม่ได้ ลูกค้าก็ดันเข้าร้านมาตอนนั้นอีก มันแย่จริงๆที่อ่อนแอขนาดนี้
ฉันอยากย้อนเวลากลับไปสมัยเรียนมหาลัย ไปซ้อมดนตรีกับพวกเพื่อนๆ เล่นคอนเสิร์ตกันทุกเดือน ฉันคิดถึงเพื่อนจริงๆ แต่...ตอนนี้ทุกคนคงลืมฉันไปหมดแล้ว พวกเขากลายเป็นมืออาชีพ ส่วนฉันหยุดร้องเพลงตั้งแต่เรียนจบ (ตอนนี้ฉันอายุ 28 ) จนคอขึ้นสนิมไปหมดแล้ว คิดจะกลับไปใช้ชีวิตแบบนั้นอีกคงไม่ได้ (ถึงอยากจะทำแทบตายก็เถอะ) ฉันไม่รู้จะหากิจกรรมอะไรทำให้ลืมเรื่องนี้ไปได้บ้าง ตอนนี้ฉันทำงานไม่ได้เลย (ฉันเป็น Freelance) อนาคตคงร่อแร่ถ้างานไม่เดิน ไม่รู้อีกนานแค่ไหนที่ฉันจะทำใจได้บ้าง ขอแค่...ให้กลับมาทำงานได้ก็ยังดี
ขออนุญาตเอาคำที่ใช้เตือนตัวเองอยู่เสมอมามอบให้นะคะ
" โลกนี้มีคนเหงามากกว่าเสาไฟฟ้า" เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าเราเหมือนไม่มีใคร ให้ลองขับรถไปที่ไหนก็ได้
แล้วลองนับเสาไฟฟ้าตามทางที่ผ่าน นับได้เท่าไหร่ แล้วให้คิดดูว่ายังมีคนที่เหงา หรือแย่กว่าเรามากกว่าจำนวนเสาไฟฟ้าอีกมาก
ในช่วงที่จิตใจถึงจุดแย่ที่สุด ขอให้จมอยู่กับตรงนั้นอย่างมีสติ แล้วรวบรวมพลังใจที่เรามี พาตัวเองขึ้นมาให้ได้อีกครั้ง
เพราะชีวิตไม่มีอะไรที่นิ่ง ยามสุขก็อยู่กับเราไม่นาน ยามทุกข์ก็เช่นกัน ขอให้ผ่านมันไปให้ได้
เพราะเราก็เคยเป็น ทรมานแต่ไม่ตาย เอาใจช่วยนะคะ
เราต้องช่วยตัวเองก่อน ต้องเข้มแข็งให้ตัวเราเอง ทุกคนล้มได้ แต่ก็ลุกขึ้นได้เช่นกัน
บางทีเราต้องล้มบ่อยๆเพื่อเรียนรู้ว่าจะเดินอย่างให้มั่นคงขึ้นกว่าเดิม
จำไว้ ไม่มีอะไรทำร้ายเราได้เท่ากับตัวเราเอง