วันนี้ร้อยกรองอาจมิออก
ต้องขอบอกว่า เดินเมื่อยสุดสุด
กะจะขับไปบนดอย กลับต้องหยุด
กลัวเครื่องสะดุด ฉุดรถให้ไหลลง
มองดูแล้วท่าทางน่าหวาดเสียว
ทางคดเคี้ยวสูงชัน มันน่าหลง
รถของฉันมันเล็ก เห็นแล้วปลง
ทิ้งรถลง ตรงทางลุ่ม สุ่มเดินเอา
เดินไป เดินไป ขาชักสั่น
หัวใจมัน เต้นแรงหายใจแทบไม่เข้า
ทั้งเหนื่อยหอบ แฮก แฮก เกือบนั่งจับเจ่า
แต่ต้องทนให้ลูกน้องเฝ้า ปลายตีนดอย
ถึงข้างบน มีรีสอร์ท ที่สวยอยู่
แต่ฉันมัน ลมออกหู ดูจ๋อยจ่อย
เหงื่อมันไหล เต็มเสื้อ เห็นเป็นรอย
ต้องยอมถอย ไม่พักที่ รีสอร์ทเลย
คือจะหารีสอร์ทพาเด็กจัดกิจกรรม ที่เด็กไม่ต้องเดินทางไกลมาก
คนแนะนำให้มาที่นี่บอกสวยมากซ้ำเจ้าของใจดีจะลดให้เป็นพิเศษ
แต่พอเห็นทางขึ้นแล้ว ต้องขอยกเลิก
เพราะทีมมีคนมีรถแค่ ๒คน คือเรากะลูกน้องซึ่งมันก็จะไม่กล้าขับขึ้นดอยนี้เหมือนกันเพราะกลัว ไม่ชินทาง
เฉพาะแค่เดินขึ้น ซ้ำำใส่ส้นสูงอีก ทั้งเหนื่อยหอบและปวดขาสุดๆค่ะ ท่านอาจารย์ขา
อ้ออีกเรื่องนะคะ
นัดเจอท่านที่ประมูลได้ เหมยลี่ ที่ ลานพระรูปรัชกาลที่ ๕ ซึ่งประมูลได้ ๓๒๕๐ แต่เจ้าของใจดีเพิ่มช่วยทำบุญอีก ๕๐ บาทค่ะ รวมเป็น ๓๓๐๐ ต้องขอขอบพระคุณมาณที่นี้ด้วยค่ะ ไปดูรูปที่ห้องประมูลนะคะ