เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 26 เมษายน 2024, 12:58:45
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  นักลงทุน การเงิน การธนาคาร
| | |-+  ออมอย่างไรให้มั่งคั้ง....(update จบบริบูรณ์แล้วจ้า.. ^_^)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] พิมพ์
ผู้เขียน ออมอย่างไรให้มั่งคั้ง....(update จบบริบูรณ์แล้วจ้า.. ^_^)  (อ่าน 3758 ครั้ง)
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 03 สิงหาคม 2011, 23:24:49 »

ภาค #5 การสร้างรายได้เพิ่ม
การสร้างรายได้เพิ่ม
เราจะพูดถึงการสร้างรายได้เพิ่มเฉพาะส่วนที่เป็นใช้เงินทำงาน ไม่ใช่ไปทำงานเพื่อหาเงิน  และขอย้ำอีกครั้งว่า เงินลงทุนในส่วนนี้เป็นเงินที่อยู่ในส่วนของค่าใช้จ่าย ที่กันเงินออมออกไปแล้ว ไม่ใช่เงินจากตุ่ม C
และจุดประสงค์ของการลงทุนคือมีกินมีใช้แบบชีวิตที่มีคุณภาพ  ไม่ได้หวังร่ำหวังรวย
ในที่นี้จะขอกล่าหลักการลงทุนที่ดีแบบ 3/1
คือ แบ่งเงินออกเป็น 4 ส่วน แล้วนำไปลงทุนทีให้ผลตอบแทนในระดับต่างๆและความเสี่ยงต่างๆ
1.ส่วนที่ 1 ลงทุนในสิ่งที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดและความเสี่ยงสูงที่สุด
กฎของการลงทุนคือ ผลตอบแทนสูงย่อมเสียงสูง ในส่วนนี้ ให้แบ่งเงินมาลงทุน 15%   โดยลงทุนในตลาดหุ้น ที่ให้แบ่งมาลงทุนที่หุ้น 15% เพราะถ้าหากเกิดขาดทุนจะได้ไม่เดือดร้อน
2.ส่วนที่ 2 ลงทุนในสิ่งที่ลงทุนในสิ่งที่ผลตอบแทนปานกลางถึงสูงแต่มีความเสี่ยงต่ำกว่าแบบแรก
ในส่วนนี้ควรแบ่งเงินมาลงทุนไม่เกิน 30% ของเงินลงทุนที่เตรียมไว้ การลงทุนในส่วนนี้เครื่องมือที่ใช้ในการลงทุนก็คือ “กองทุนรวม”(จะแยกกระทู้ต่างหากเกี่ยวกับการลงทุน ผ่านกองทุนรวม)
ประเภทกองทุนรวมสามารถแบ่งโดยสรุปเป็น 3 ประเภทดังนี้ คือ
1.กองทุนหุ้นหรือตราสารทุน ซึ่งเป็นกองทุนที่ระดมเงินไปซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนรวมสูงระยะยาว
2.กองทุนตราสารหนี้ที่เอาเงินไปลงทุนในพันธบัตรหรือหุ้นกู้ต่างๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่เหมาะสมหรือเรียกได้ว่าลงทุนได้ผลกำไรสมเหตุสมผลกับระยะเวลา
3.กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งนำเงินไปลงทุนในเงินฝากหรือตั๋วเงิน ที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี เพื่อให้เงินต้นมีความมั่นคง (มีความปลอดภัยสูง)
3.ส่วนที่ 3 นำไปลงทุนในสิ่งที่ผลตอบแทนที่ให้ผลปานกลางหรือต่ำลงแต่มีความเสี่ยงต่ำกว่าส่วนที่ 2 เครื่องมือที่เราใช้ในที่นี้คือ พันธบัตรรัฐบาล โดยรัฐบาลจะประกาศขายพันธบัตรเป็นบางช่วงเราต้องคอยติดตามข่าว และติดต่อขอซื้อที่ธนาคารเป็นตัวแทนจำหน่าย
     ทั้งนี้เราต้องเลือกการลงทุนที่เหมาะกับเรา และเราต้องรู้ตัวเราด้วยว่ายอมรับความเสี่ยงได้มากเท่าใด (ทดสอบได้จากนี้ http://www.cgsec.co.th/corpweb/sa/riskTest.jsp  )   ส่วนกองทุนรวมนั้น สามารถศึกษาได้จาก “สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (Association of Investment Management Companies หรือ AIMC)” ( www.aimc.or.th )
 บทสรุป สู่อิสรภาพ ทางการเงิน     ลองจินตนาการการมีชีวิต เมื่อถึงวัยเกษียน (ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องอายุ 60 ปี เสมอไป) เมื่อเราตื่นน้อยจากเตียงในห้องนอนที่อบอุ่น ได้ตกแต่งห้องนอนตามที่เราปรารถนา ออกมายืนนอกระเบียงเพื่อสูดอากาศยามเช้าและชมความงามของสวนดอกไม้ภายในบ้าน ได้อาบน้ำอย่างสบายใจในห้องน้ำที่แสนสบาย และใช้ชีวิตประจำวันได้โดยไม่ทุกข์ร้อน ขณะที่รายได้ของเรายังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องแบบไม่ต้องกังวล รายจ่ายน้อยกว่ารายได้หลายเท่าสามารถมีความสุขกับชีวิตของตนเองและครอบครัวได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งมีหลักประกันทางการเงินที่มั่นคงให้กับคนที่เรารักอีกต่างหาก ชีวิตแบบนี้ย่อมเป็นที่ปรารถนาของทุกคนเพราะเป็นชีวิตที่มีอิสระ ไม่ต้องเป็นทาสของงานและเงินอีกต่อไป
   อิสรภาพทางการเงินจึงเป็นเป้าหมายที่เราทุกคนฝันถึง ซึ่งไม่จำเป็นต้องหมายถึงการมีบ้านหลังใหญ่ บนพื้นที่หลายร้อยตารางวาหรือรถยนต์ราคาแพง แต่หมายถึงการได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามอัตภาพของตนเองซึ่งเครื่องมือที่จะทำให้ได้มานั้นย่อมประกอบไปด้วย
1.การทำงานที่หนักพอ มากพอ นานพอ และมีความฉลาดเฉลียวในสิ่งที่ทำ
2.แบ่งเงินรายได้ที่ได้มาใช้อย่างถูกวิธี
3.เก็บออมถูกวิธี
   สำหรับทุกๆ คนที่ใช้สมการคนรวย+แบ่งเงินใช้สอย+ เป็น 4 ซอง+อุดรอยรั่ว+เพิ่มรายได้ (ทางใดก็ได้)+มีวินัยสม่ำเสมอในการใช้หนี้และรักษารายจ่ายให้คงที่ คนเช่นนี้จะเป็นคนร่ำรวยและมีอิสรภาพทางการเงินได้
   สำหรับคนที่ปากกัดตีนถีบเงินเก็บแม้เพียงน้อยนิดก็ยังไม่มี ก็ขอให้เริ่มเก็บเงินใส่ตุ่ม A ก่อนโดยไม่จำเป็นต้องให้เต็มตามเป้า พอมีเงินมากขึ้นก็ค่อยแบ่งใส่ตุ่ม B ส่วนด้านรายจ่ายที่เป็นซองลงทุนขอให้ซองเล็กๆ โดยเน้นทำบุญเป็นหลักไว้ก่อน ชีวิตจะไม่ตกต่ำและมีลู่ทางหาเงินเพิ่มเพื่อไปเก็บตุ่ม A B และ C เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
   สุดท้ายสำหรับคนที่เก็บเงินมาระยะหนึ่งจนตุ่ม A และ B เต็มแล้ว และเริ่มมีเงินในตุ่ม C มากขึ้น ก็เริ่มพิจารณาจ่ายในซองลงทุนโดยแบ่งมาใส่ซองเงินลงทุนให้มากขึ้น โดยเริ่มลงทุนจากของที่ใช้ความเสี่ยงต่ำๆก่อน เช่น กองทุนต่างๆ ที่มีขายตามธนาคารดังที่กล่าวมา เมื่อได้กำไรมาขอให้นำไปเก็บไว้ในตุ่ม C อย่างปลอดภัย เมื่อเวลาผ่านไปคนที่มีเงินเก็บในตุ่ม C มากและมีขนาดใหญ่แล้วหากเริ่มเซ็งที่จะรับดอกเบี้ยต่ำๆ จากธนาคารหรือสลากออมสินแล้ว ให้นำเงินในซองลงทุนไปใช้ในการลงทุนที่เหมาะสมกับความรู้ของตนซึ่งผู้เขียนขอบอกกล่าวอีกครั้งว่า
“คนที่ร่ำรวยมหาศาลนั้นเขาไม่จำเป็นต้องลงทุน แต่คนที่ต้องการที่จะรวยโดยไม่ต้องออกแรงหาเงินอีกต่างหาก จำเป็นที่จะต้องลงทุนให้เป็นและมีเงินออมไว้เพียงพอเพื่อสำรองไว้ในกรณีฉุกเฉิน”
สุดท้ายนี้ผู้เขียน(และผม) ขอให้คุณผู้อ่านทุกท่านได้ลองตัดสินใจจะริเริ่มในการออมเงินของเราเอง ไม่ว่าจะอยู่อยู่ในช่วงวัยใดหรือเคยล้มเหลวแค่ไหนทุกคนสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เท่าเทียมกันหมด ขอให้ทำอย่างเป็นขั้นเป็นตอนไม่ต้องรีบร้อน ไม่ประมาทและไม่ต้องรีบหวังจะร่ำรวย เพราะความรวยที่แท้จริงคือการรู้จักพอเพียง ใช้ชีวิตให้เหมาะสมกับสถานภาพของตน
   ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการออมเงินเพื่ออนาคตที่ดีและมีอิสรภาพทางการเงินโดยถ้วนหน้าครับ… ^_^
           ******************(จบบริบูรณ์)*********************
เป็นกำลังใจให้พี่ๆค่ะ


* 123160253.jpg (78.52 KB, 300x450 - ดู 142 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 03 สิงหาคม 2011, 23:37:44 »

ในกระทู้หัวข้อต่อไปผมจะพูดถึง "บริหารเงินเก็บผ่านกองทุนรวม ทำเงินออมให้โตปีละ 20%"......โปรดติดตาม ให้กำลังใจด้วยน่ะครับ  ^_^
IP : บันทึกการเข้า
ma. Anshop
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,169


« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 04 สิงหาคม 2011, 15:52:38 »

ได้ความรู้เยอะเลย
IP : บันทึกการเข้า
Kho_dej
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 242


ทําแล้วเสียใจ ยังดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทํา


« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 22 สิงหาคม 2011, 10:46:56 »

แนวคิดที่ดีมาก นำไปปรับใช้ได้เลยครับ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!