เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 27 เมษายน 2024, 04:21:08
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  นักลงทุน การเงิน การธนาคาร
| | |-+  เงินทุนไม่ถึงหมื่น เล่นหุ้นได้มั๊ย
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] พิมพ์
ผู้เขียน เงินทุนไม่ถึงหมื่น เล่นหุ้นได้มั๊ย  (อ่าน 4283 ครั้ง)
lolitalala
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 22


« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 20 กรกฎาคม 2011, 23:52:24 »

เท่าที่ศึกษามาก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่จะเก็บขั้นต่ำ 50 บาททั้งนั้นเลยค่ะ
เห็นผู้มีประสบการณ์แนะว่า ให้ได้กำไรเยอะๆก่อน ถึงจะคุ้มค่าเทรด
IP : บันทึกการเข้า
น้าวัยทองฯ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,912



« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 21 กรกฎาคม 2011, 00:43:34 »

เท่าที่ศึกษามาก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่จะเก็บขั้นต่ำ 50 บาททั้งนั้นเลยค่ะ
เห็นผู้มีประสบการณ์แนะว่า ให้ได้กำไรเยอะๆก่อน ถึงจะคุ้มค่าเทรด

ผมจะอธิบายอย่างที่ผมเข้าใจนะครับ

แต่ก็มือใหม่เหมือนกัน ใครให้รายละเอียดมากว่านี้

ช่วยกันตอบด้วยนะครับ

ผมจะพูดเป็นตัวเลขกลมๆนะครับ

ผมเข้าใจว่า ขั้นต่ำ 50 บาท / คำสั่งซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ต: 0.1578% / ภาษีมูลค่า (VAT 7%)

ตัวอย่าง
ถ้ามูลค่าการซื้อขายของท่านทั้งหมดต่อวันอยู่ที่ 50,000 บาท
ค่าคอมมิชชั่น 50,000 X 0.1578 % = 78.9 บาท
ภาษีมูลค่า (VAT 7%) 78.9 X 7 % = 5.523 บาท
ค่าคอมมิชชั่นรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % 78.9 + 5.523 = 84.423 บาท

แต่ถ้าคุณซื้อขาย 20,000 บาท
ค่าคอมมิชชั่น 20,000 X 0.1578 % = 31.56 บาท
ภาษีมูลค่า (VAT 7%) 31.56 X 7 % = 2.20 บาท
ค่าคอมมิชชั่นรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % 31.56+2.20 = 33.76 บาท

ดังนั้น ค่าคอมที่ซื้อไม่ถึงขั้นต่ำ 50 บาท คุณก็จะต้องจ่าย
จำนวน 200 หุ้นละ 100 บาท เป็นเงิน 20,000 บาท
ค่าคอมมิชชั่น = 50 บาท
ภาษีมูลค่า (VAT 7%) 50 X 7 % = 3.50 บาท
ค่าคอมมิชชั่นรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % 53.50 บาท
ดังนั้นการซื้อขายครั้งนี้ ทุนคุณจะอยู่ที่ 20,053.50 บาท
คำนวนแบบคราวๆครับ

ไม่ทราบว่าผมคิดถูกหรือคิดผิด ยังไงเรียนถามผู้รู้ด้วยครับ

ขอบคุณครับ
IP : บันทึกการเข้า

แมงมุม
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,890


« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 21 กรกฎาคม 2011, 07:42:58 »

ถูกครับ
IP : บันทึกการเข้า

...เงินดีงานเดิน...เงินเกินงานวิ่ง...Line=i6629
vee48
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 21 กรกฎาคม 2011, 08:18:18 »

ถูกด้วยอีกหนึ่ง ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,941


Experience is the best teacher.


« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 21 กรกฎาคม 2011, 09:03:17 »

ถูกครับ
ถูกด้วยอีกหนึ่ง ยิงฟันยิ้ม

ครับ...ไม่แพง  ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
น้าวัยทองฯ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,912



« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 21 กรกฎาคม 2011, 16:43:30 »


งั้นค่อยโล่งใจ คิดถูกแล้ว อิอิ
IP : บันทึกการเข้า

chanchai748
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2011, 14:35:37 »

ขอเพิ่มเติมนิดหน่อยครับ การเล่นหุ้นจากโปรแกรมช่วยให้เราเข้าใจการซื้อขายได้แต่ ไม่ได้ช่วยอะไรในการซื้อหุ้นจริงๆ ซึ่งการที่โปรแกรมให้ทดลองเล่นโดยมีเงินทุนมาให้เป็นหลักล้าน ซึ่งการซื้อขายจริงหุ้นในตลาดพอถูกซื้อมันก็จะถูกโยกจากพอร์ตผู้อื่นเข้ามาในพอร์ตเรา ซึ่ง หุ้นตัวเล็กๆ วอรุ่มน้อยๆสมมติเราซื้อจริง ครั้งละ 1m บาทมันมีผลอย่างมากต่อจิตวิทยาในตลาดของผู้ถือหุ้นนั้นๆ ทั้งเจ้ามือและผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ ซึ่งการซื้อขายตามโปรแกรมมันไม่ได้เกิดอะไรขึ้นเลย ด้วยเหตุนี้การลองลงทุนโดยใช้โปรแกรมเป็นการหัดเข้าใจหลักซื้อขาย และเดาทางสนุกๆเท่านั้นครับ ซึ่งการลงทุนในหุ้นจริงๆแล้วถ้าต้องการลงทุนให้ได้ประโยชน์จริงๆ ควรจะมีเงินทุนที่พร้อมและมากพอสมควรครับ ด้วยเหตุผลดังนี
 1 ช่วงที่เกิดวิกฤต หุ้นราคาลดลงจากราคาพื้นฐานมากๆควรที่จะมีเงินในการช้อนซื้อโดยไม่เดือดร้อน เมื่อมันลงไปอีกนานๆ(ปกติหุ้นหลายๆตัวกดราคาลงมาไม่ใช่แค่เดือนสองเดือน บางทีก็เป็นครึ่งปีหรือหลายๆปีกันเลย)เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วการซื้อหุ้นให้ได้กำไรมักจะทำการซื้อขายในช่วงตลาดซบเซาซึ่งแน่นอนคนจะทำใจเคาะซื้อได้ยากเพราะไม่รู้ว่าในอนาคตมันจะลงไปอีกเท่าไหร่โดยส่วนใหญ่มักจะติดค้างต้นทุนที่สูงอยู่และไม่มีเงินทุนในการรับหุ้นเพิ่มอีก
2 ไม่ต้องวิตกกังวลเมื่อราคาหุ้นลดลงมาเพราะหลายๆท่านจำเป็นต้องใช้เงินในช่วงเวลาดังกล่าวจึงต้องจำใจขายขาดทุนไป
3 การซื้อหุ้นโดยใช้เงินทุนไม่มากไม่ค่อยคุ้มเพราะว่าได้กำไรไม่มากครับแต่ขาดทุนทีสัดส่วนมันมักจะมากกว่าครับ เพราะซื้อขาย ก็ต้องจ่ายค่าทำเนียมทั้งสองรอบครับ ดังนั้นสมมติลงทุน 10000 บาท กำไรสัก 10% มันเหมือนไม่ได้อะไรเลยเพราะว่าดูเหมือนได้กำไรแค่หลักร้อยเท่านั้นส่วนใหญ่ก็จะไม่อยากขาย แต่ความเป็นจริง 10% มันก็ถือว่ามากพอสมควรแล้วสำหรับคนที่ซื้อจำนวนมากๆ เพราะว่าการจะหาหุ้นที่สามารถขึ้นได้ไปเรื่อยๆ เป็นเท่าตัวส่วนใหญ่มันก็ต้องใช้ระยะเวลาถือนานพอสมควรและโอกาสจะเป็นไปได้ก็มีไม่กี่ตัวในตลาดเท่านั้นครับ

  สรุปคือ การลงทุนในหุ้นเราต้องรู้ข้อมูลมากพอ(โดยเฉพาะข้อมูลนอกตำรา)และมีทุนที่ไม่ต้องเดือดร้อนมาลงทุนแต่โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ลงทุนรายย่อยในตลาดมักประสพปัญหาการขาดทุนมาโดยตลอด

 เทคนิคสำคัญที่ผมอยากฝากเอาไปคิดคือพยายามหัดจินตนาการว่าเราเป็นผู้ขายของให้มากกว่าผู้ซื้อของ และอย่าไปเชื่อตำรามากจนเกินไปครับ ขอให้โชคดีกับการลงทุนนะครับ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!