lalitalaws
เตรียมอนุบาล
ออฟไลน์
กระทู้: 36
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 12 ตุลาคม 2017, 13:37:34 » |
|
ลูกหนี้ควรรู้ ถูกเจ้าหนี้หน้าโหดตามมาทวงเงินถึงที่ หากถูกข่มขู่คุกคามจะทำอย่างไรดี แถมใช้ลูกไม้มาหลอกทวงหนี้กันแบบนี้ จะมีใครเข้ามาดูแลได้บ้างนะ และการถูกปฏิบัติแบบใดที่ถือว่าไม่เป็นธรรม จำข้อกฎหมายเหล่านี้เอาไว้ จะได้ไม่ถูกเจ้าหนี้เอาเปรียบ
1. ข้อห้ามปฏิบัติของผู้ทวงหนี้ - ข่มขู่ ใช้ความรุนแรง ทำให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายหรือทรัพย์สิน ผู้ฝ่าฝืนจําคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
- พูดจาไม่สุภาพ ดูหมิ่น ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
- เปิดเผยความเป็นหนี้ของลูกหนี้ให้คนอื่นได้รู้ ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
- ทวงหนี้ผ่านไปรษณีย์ หรือโทรสาร โดยมีข้อความแสดงการทวงหนี้ชัดเจน ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
- ห้ามระบุข้อความ เครื่องหมาย หรือชื่อทางธุรกิจของผู้ทวงถามหนี้บนซองจดหมาย ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท 2. ห้ามทวงหนี้แบบหลอกให้เข้าใจผิด - ส่งเอกสารทำให้ลูกหนี้เข้าใจผิดว่าเป็นการกระทำของศาล เช่น ส่งเอกสารที่มีตราครุฑมาให้ลูกหนี้ ผู้ฝ่าฝืนจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
- ทำให้เชื่อว่ามีการส่งหนังสือบอกกล่าวทวงถาม (Notice) จากทนายความ ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
- ใช้เอกสารที่ทำให้ลูกหนี้เข้าใจผิดว่าจะถูกดำเนินคดี หรือถูกยึดทรัพย์ ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
- แอบอ้างว่าเป็นการทวงหนี้จากบริษัทข้อมูลเครดิตใด ๆ ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ 3. การทวงถามหนี้ไม่เป็นธรรม ห้ามปฏิบัติดังนี้ - เรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายในการทวงถามหนี้ในอัตราเกินกว่าที่กำหนด
- เสนอให้ลูกหนี้สั่งจ่ายเช็คชำระหนี้ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าลูกหนี้ไม่มีเงินชำระหนี้ตามเช็ค ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ 4. คณะกรรมการกํากับการทวงถามหนี้ มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลการทวงหนี้ของผู้ทวงถามหนี้ โดยหากลูกหนี้หรือคนอื่น ๆ ได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม หรือไม่เป็นไปตามกฎหมายจากผู้ทวงถามหนี้ สามารถร้องเรียนต่อคณะกรรมการกํากับการทวงถามหนี้ประจำจังหวัด 5. ให้ที่ทำการปกครอง หรือกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีอำนาจรับร้องเรียนการทวงหนี้ผิดกฎหมาย ติดตามพฤติกรรมของผู้ทวงถามหนี้ ****************************************************************************** สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 087-5447646 ทนายลลิตา
|
|
|
|
lalitalaws
เตรียมอนุบาล
ออฟไลน์
กระทู้: 36
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 01 พฤศจิกายน 2017, 16:07:49 » |
|
เจ้าหนี้ควรทราบ!! ทวงหนี้อย่างไร? ไม่ให้ผิดกฎหมาย.... **************************************************************************************** สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 087-5447646 ทนายลลิตา
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 10 ธันวาคม 2017, 11:34:46 โดย lalitalaws »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
lalitalaws
เตรียมอนุบาล
ออฟไลน์
กระทู้: 36
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 09 พฤศจิกายน 2017, 10:04:45 » |
|
การขอปล่อยชั่วคราวต่อศาลคืออะไร? การขอปล่อยชั่วคราว คือ การยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้พิจารณาปล่อยผู้ต้องหาหรือจำเลยชั่วคราวโดยไม่ต้องมีประกัน หรือมีประกัน หรือมีประกันและหลักประกัน ภายในระยะเวลาที่กำหนด
การขอปล่อยชั่วคราวทำได้ในชั้นใดบ้าง?
๑ ชั้นฝากขัง ขอปล่อยชั่วคราวได้เมื่อผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือพนักงานอัยการนำตัวมาขออนุญาตศาลฝากขังระหว่างที่ยังสอบสวน ไม่แล้วเสร็จ ๒ ชั้นพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น เมื่อผู้ต้องหาถูกพนักงานอัยการ ฟ้องต่อศาลแล้วก็จะเปลี่ยนฐานะจากผู้ต้องหาเป็นจำเลย จึงมีสิทธิขอปล่อย ชั่วคราวต่อศาลได้ หรือในคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์เมื่อศาลประทับฟ้องแล้วจะขอ ปล่อยชั่วคราวก่อนวันนัด ในวันนัดหรือหลังจากวันนัดที่ระบุในหมายเรียกให้ มาแก้คดีก็ได้ ๓ ชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา กรณีที่จำเลยถูกขังหรือจำคุกโดยผลของ คำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ หรือศาลอุทธรณ์ภาค จะขอปล่อยชั่วคราวก่อน ที่จะยื่นอุทธรณ์หรือยื่นฎีกาพร้อมกัน หรือหลังจากยื่นอุทธรณ์หรือยื่นฎีกาก็ได้ แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ การปล่อยชั่วคราวในชั้นใดใช้ได้เฉพาะชั้นนั้น เมื่อชั้นของ การขอปล่อยชั่วคราวเปลี่ยนไปต้องยื่นขอปล่อยชั่วคราวใหม่ ใครบ้างมีสิทธิยื่นคำร้องขอประกันตัว? ๑ ผู้ต้องหาหรือจำเลย ๒ ผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง (เช่น บุพการี ผู้สืบสันดาน สามี ภริยา ญาติพี่น้อง ผู้บังคับบัญชา นายจ้าง บุคคลที่เกี่ยวพันโดยทางสมรส บุคคลที่ศาล เห็นว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเสมือนเป็นญาติพี่น้อง หรือมีความสัมพันธ์ในทางอื่น ที่ศาลเห็นสมควรให้ประกันได้) หรือนิติบุคคล (เช่น บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด) สำหรับกรณีผู้ต้องหาหรือจำเลยเป็นกรรมการ ผู้แทน ตัวแทน หุ้นส่วน พนักงาน หรือลูกจ้างของนิติบุคคลนั้น การขอปล่อยชั่วคราวจะต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง? เอกสารประกอบคำร้องขอประกันตัวมีดังนี้ ๑ บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ๒ ทะเบียนบ้าน ๓ กรณีผู้ขอประกันมีคู่สมรสจะต้องแสดงเอกสารเพิ่มเติม ได้แก่ ๓.๑ บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐและทะเบียนบ้านของคู่สมรส ๓.๒ ใบสำคัญการสมรส ๓.๓ หนังสือให้ความยินยอมของคู่สมรส ๔ กรณีชื่อเจ้าของหลักทรัพย์ไม่ตรงกับที่ปรากฏในหลักทรัพย์ จะต้องแสดงเอกสารเพิ่มเติม ได้แก่ ๔.๑ หนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือหลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัวชื่อสกุล ๔.๒ ใบสำคัญการสมรส ๕ กรณีผู้ต้องหาหรือจำเลยเป็นชาวต่างประเทศ หากมีหนังสือเดินทาง(Passport) ต้องนำมาแสดงด้วย หากเอกสารที่ต้องนำมาในวันยื่นคำร้องขอประกันตัวไม่ครบถ้วนผู้ขอประกันอาจขอผัดผ่อนต่อศาลเพื่ออนุญาตให้นำมาส่งในภายหลังได้ หลักประกันใดบ้างที่สามารถใช้ประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยได้? ๑ เงินสด ๒ หลักทรัพย์อื่น เช่น ๒.๑ โฉนดที่ดิน หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓ ก. หรือน.ส.๓) ๒.๒ พันธบัตรรัฐบาล สลากออมสิน บัตรหรือสลากออมทรัพย์ทวีสินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรตั๋วแลกเงินที่ธนาคารเป็นผู้จ่ายและธนาคารผู้จ่ายได้รับรองตลอดไปแล้ว ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ธนาคารเป็นผู้ออกตั๋ว หรือเช็คที่ธนาคารเป็นผู้สั่งจ่าย (แคชเชียร์เช็ค)หรือเช็คที่ธนาคารรับรองแล้ว ๒.๓ สมุดเงินฝากประจำหรือใบรับเงินฝากประจำของธนาคาร ๒.๔ หนังสือค้ำประกันหรือหนังสือรับรองของธนาคาร ๒.๕ หนังสือรับรองของบริษัทประกันภัย ๒.๖ ในบางกรณีอาจใช้หลักประกันต่อไปนี้ได้ (๑) ทะเบียนรถยนต์หรือทะเบียนรถจักรยานยนต์ (๒) ภ.บ.ท.๕ ส.ค.๑ น.ส.๒ หรือ สปก. (๓) บ้านพักอาศัย (๔) หลักทรัพย์ที่ติดจำนองหรือมีภาระติดพัน ๓ บุคคลเป็นหลักประกันโดยแสดงหลักทรัพย์ ๔ ส่วนราชการ ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการช่วยเหลือข้าราชการหรือลูกจ้างของทางราชการที่ต้องหาคดีอาญา ๕ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการการเมืองหรือทนายความใช้ตำแหน่งเป็นหลักประกันเฉพาะตนเองหรือญาติใกล้ชิด โดยสามารถทำสัญญาประกันได้ในวงเงินไม่เกิน ๑๐ เท่าของอัตราเงินเดือนหรือรายได้เฉลี่ยต่อเดือน*******************************************************************************
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 087-5447646 ทนายลลิตา
|
|
|
|
lalitalaws
เตรียมอนุบาล
ออฟไลน์
กระทู้: 36
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 13 พฤศจิกายน 2017, 09:55:27 » |
|
ที่ทำการแห่งใหม่ "สำนักงานกฎหมายมังราย แอนด์ พาร์ทเนอร์"
เข้ามาเยี่ยมชม ปรึกษาปัญหาข้อกฎหมายได้นะคะ ********************************************************************************* สามารถโทรนัดหมาย/ปรึกษาคดีความได้ที่เบอร์ 087-5447646 ทนายลลิตา
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 10 ธันวาคม 2017, 11:35:12 โดย lalitalaws »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
lalitalaws
เตรียมอนุบาล
ออฟไลน์
กระทู้: 36
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 17 พฤศจิกายน 2017, 09:57:13 » |
|
การผิดสัญญา การบอกเลิกสัญญาและการเรียกค่าเสียหาย(ถ้ามี) เมื่อมีการกระทำอันเป็นการกระทำผิดข้อตกลงของสัญญา หรือการไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงใดๆที่เคยได้ให้กันไว้ หรือที่เรียกกันว่าผิดสัญญานั้น คู่สัญญาฝ่ายที่ เป็นผู้เสียหายย่อมมีมาตรการในการเยียวยาความเสียหายของตนได้สองวิธี คือ ใช้สิทธิบอกเลิก สัญญาและเรียกค่าเสียหาย(ถ้ามี) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 1. การเลิกสัญญาโดยอาศัยข้อกำหนดที่ระบุไว้ในสัญญา กล่าวคือ เป็นกรณีที่สัญญาที่ได้ทำกันขึ้นนั้นได้ระบุเหตุแห่งการเลิกสัญญาเอาไว้โดยชัดแจ้ง เมื่อมีเหตุดังที่ระบุ ไว้ได้เกิดขึ้นจริง คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งย่อมมีสิทธิเลิกสัญญาด้วยการบอกกล่าวการเลิกสัญญาแก่อีกฝ่ายหนึ่ง ได้โดยทันที(ป.พ.พ ม.386 ว.1) แต่มีข้อพึงระวังว่าเมื่อบอกกล่าวการเลิกสัญญาออกไปแล้ว ย่อมไม่สามารถ ถอนได้ในภายหลัง(ป.พ.พ ม.386 ว.2) ดังนั้นจึงควรไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน 2. การเลิกสัญญากรณีที่ข้อสัญญาไม่ได้ระบุเหตุ แห่งการเลิกสัญญาไว้ กล่าวคือ สัญญาที่ได้ทำกันขึ้นนั้นไม่ได้ระบุเหตุแห่งการเลิกสัญญาเอาไว้โดยตรง แต่ในทางข้อเท็จจริงได้มีการผิดสัญญากันขึ้น ในกรณีเช่นนี้คู่สัญญาฝ่ายที่เสียหายต้องบอกกล่าว กำหนดระยะเวลาพอสมควร (ประมาณ15-30วัน) ให้คุู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งนั้นปฏิบัติตามสัญญา เสียก่อนจะบอกเลิกสัญญาโดยทันทีเลยไม่ได้ แต่เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวไปแล้วคู่สัญญาฝ่ายนั้น ยังคงเพิกเฉยและกระทำการอันเป็นการละเมิดสัญญาอยู่ต่อไป คู่สัญญาฝ่ายที่เสียหายก็ชอบที่จะบอกเลิกสัญญา ได้ทันที (ป.พ.พ ม.387) 3. การเลิกสัญญากรณีที่ข้อสัญญาได้กำหนดระยะเวลาให้ปฏิบัติการ ไว้แล้วโดยชัดแจ้ง กล่าวคือ วัตถุประสงค์แห่งสัญญานั้นไม่ว่าจะโดยสภาพหรือโดยเจตนาของคู่สัญญา จะสำเร็จได้ต่อเมื่อปฏิบัติตามกำหนดเวลาหรือภายในระยะเวลาที่กำหนด เช่นนี้หากระยะเวลาดังกล่าว ได้ล่วงพ้นไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีการปฏิบัติตามสัญญาแต่อย่างใด เช่นนี้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งก็ชอบที่จะ บอกเลิกสัญญาได้โดยทันที (ป.พ.พ ม.388) 4. การเลิกสัญญากรณีที่การปฏิบัติตามสัญญากลายเป็นพ้นวิสัยเพราะ คุ่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง กล่าวคือ การปฏิบัติตามสัญญานั้นไม่อาจเกิดได้เลยในทางข้อเท็จจริง เพราะความผิด หรือเพราะเหตุอื่นใดที่คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งใดก่อขึ้นไม่ว่าจะโดยจงใจหรือไม่ก็ตาม ในกรณีเช่นนี้คู่สัญญา ฝ่ายที่เสียหายย่อมสามารถบอกเลิกสัญญาได้ทันทีเช่นกัน (ป.พ.พ ม.389) 5. การบอกเลิกสัญญาต่อคู่สัญญาที่มีหลายคน กล่าวคือ สัญญาที่ทำกันขึ้นนั้น ในบางกรณีคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งก็อาจมีมากกว่าหนึ่งคนก็ได้ ในกรณีเช่นนี้การบอกเลิกสัญญาต้อง กระทำต่อคู่สัญญาฝ่ายนั้นรวมกันทั้งหมดทุกคนจะขาดคนใดคนหนึ่งไม่ได้ ในทางตรงกันข้าม หากคู่สัญญาฝ่ายที่เสียหายมีอยู่ด้วยกันหลายคนเช่นกัน การบอกเลิกสัญญาย่อมกระทำได้ด้วย การบอกเลิกรวมกันหมดทุกคน มิเช่นนั้นการบอกเลิกย่อมไม่มีผล (ป.พ.พ ม.390) ผลแห่งการเลิกสัญญา ไม่ว่าจะเป็นการเลิกสัญญาด้วยกรณีใด ผลในทางกฎหมายของการเลิกสัญญาย่อมเหมือนกันเสมอ กล่าวคือ เมื่อคู่สัญญาฝ่ายใดได้ใช้สิทธิ บอกเลิกสัญญาแล้ว คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายต้องกลับคืนสู่สถานะเดิม คือ เคยมีอยู่อย่างไรเป็นอยู่อย่างไร ก่อนเกิดสัญญา ต้องกลับไปมีอย่างนั้นเป็นอย่างนั้น แต่ทั้งนี้ต้องไม่เป็นการทำให้เสื่อมเสียซึ่งสิทธิ ของบุคคลภายนอกด้วย คือ บุคคลภายนอกเคยได้สิทธิอย่างใดอันเกิดแต่สัญญาที่ทำขึ้น สิทธิของ บุคคลภายนอกก็ยังคงมีอยู่แม้ว่าสัญญาซึ่งเป็นฐานแห่งสิทธินั้นจะได้มีการบอกเลิกกันไปแล้ว (ป.พ.พ ม.391ว.1) ในกรณีที่ต้องคืนเงินกันเมื่อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาแล้ว กฎหมายกำหนดให้สามารถคิดดอกเบี้ยกันได้ด้วย โดยคำนวณย้อนไปถึงวันที่คู่สัญญาฝ่ายนั้น ได้รับเงินไว้ตอนทำสัญญา(ป.พ.พ ม.391ว.2) ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี(ป.พ.พ ม.7) ส่วนการอันใดที่ได้ทำไปโดยอาศัยสิทธิตามสัญญานั้น โดยสภาพแล้ว ไม่อาจกลับคืนแก่กันได้โดยง่าย ดังนั้นกฎหมายจึงกำหนดให้ชดใช้คืนกันเป็นเงินแทน โดยคำนวณ ตามควรค่าแห่งการนั้นๆ ซึ่งต้องพิจารณาเป็นกรณีๆไป(ป.พ.พ ม.391ว.3) นอกจากนี้ การใช้สิทธิใดๆเพื่อบอกเลิกสัญญาตามที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น ย่อมไม่กระทบถึงสิทธิในการเรียกค่าเสียหายอีกส่วนหนึ่งต่างหาก กล่าวคือ หากการละเมิดสัญญา ทำให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหาย คู่สัญญาฝ่ายนั้นมีสิทธิฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อศาลได้ แม้ว่าจะได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาไปแล้วก็ตาม(ป.พ.พ ม.391ว.4) ข้อควรระวัง!!! ของคู่สัญญาฝ่ายที่เสียหาย ทางแก้หรือทางเยียวยา ของคู่สัญญาฝ่ายที่เสียหายมีเพียงแค่สองวิธีเท่านั้นดังที่กล่าวไว้ข้างต้น คือใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา และฟ้องเรียกค่าเสียหายแต่เพียงเท่านั้น คู่สัญญาฝ่ายดังกล่าวไม่มีสิทธิไปทำลายทรัพย์อันเป็น วัตถุแห่งสัญญาให้บุบสลายหรือเสียหายไป หรือกระทำด้วยประการใดๆที่ทำให้การใช้คืนทรัพย์ ไม่อาจเกิดขึ้นได้ หรือเปลี่ยนแปลงทรัพย์นั้นให้ผิดแผกไปเป็นอย่างอื่น มิเช่นนั้น สิทธิในการเลิกสัญญา ย่อมเป็นอันสิ้นสุดลงทันที! เว้นเสียแต่ว่าความสูญหรือเสียหายนั้นเกิดจากเหตุอื่นซึ่งไม่ใช่ความผิด ของคู่สัญญาฝ่ายที่เสียหาย(ป.พ.พ ม.394) ************************************************************************
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 087-5447646 ทนายลลิตา
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 23 พฤศจิกายน 2017, 09:58:56 โดย lalitalaws »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
lalitalaws
เตรียมอนุบาล
ออฟไลน์
กระทู้: 36
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 23 พฤศจิกายน 2017, 10:22:41 » |
|
การเรียกค่าเสียหายจากการทำละเมิดจากบุคคลอื่นซึ่งกระทำละเมิดต่อตัวเราหรือผู้มีส่วนได้เสียกับเรา
คู่กรณีกระทำละเมิดตาม ป.พ.พ.มาตรา 420 ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่น โดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ผู้นั้นทำละเมิด จึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน ตามมาตรา 444 , 445 เรียกค่ารักษาพยาบาล, ค่าเสื่อมสุขภาพ, ค่าขาดประโยชน์จากการทำงาน ค่าปลงศพ แต่จะต้องทำภายใน 1 ปี นับแต่วันรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนตาม ป.พ.พ.มาตรา 448 กรณีบุคคลที่ทำละเมิดขับรถมาชนเรา มาตรา 437 บุคคลใดครอบครองหรือควบคุมดูแลยานพาหนะอย่างใด ๆ อันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกล บุคคลนั้นจะต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายอันเกิดแต่ยานพาหนะนั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการเสียหายนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัย หรือเกิดเพราะความผิดของผู้ต้องเสียหายนั้นเอง ความข้อนี้ให้ใช้บังคับได้ตลอดถึงผู้มีไว้ในครอบครองของตน ซึ่งทรัพย์อันเป็นของเกิดอันตรายได้โดยสภาพ หรือโดยความมุ่งหมายที่จะใช้ หรือโดยอาการกลไกของทรัพย์นั้นด้วย การคิดค่าเสียหายจากการถูกกระทำละเมิด มาตรา 444 ในกรณีทำให้เสียหายแก่ร่างกายหรืออนามัยนั้น ผู้ต้องเสียหายชอบที่จะได้ชดใช้ค่าใช้จ่ายอันตนต้องเสียไป และค่าเสียหายเพื่อการที่เสียความสามารถประกอบการงานสิ้นเชิงหรือแต่บางส่วน ทั้งในเวลาปัจจุบันนั้นและในเวลาอนาคตด้วย ถ้าในเวลาที่พิพากษาคดี เป็นพ้นวิสัยจะหยั่งรู้ได้แน่ว่าความเสียหายนั้นได้มีแท้จริงเพียงใด ศาลจะกล่าวในคำพิพากษาว่ายังสงวนไว้ซึ่งสิทธิที่จะแก้ไขคำพิพากษานั้นอีกภายในระยะเวลาไม่เกินสองปีก็ได้ การคิดค่าเสียหายจากการถูกกระทำละเมิดกรณีถึงแก่ความตาย พิการ ทุพกลภาพ มาตรา 445 ในกรณีทำให้เขาถึงตาย หรือให้เสียหายแก่ร่างกายหรืออนามัยก็ดี ในกรณีทำให้เขาเสียเสรีภาพก็ดี ถ้าผู้ต้องเสียหายมีความผูกพันตามกฎหมาย จะต้องทำการงานให้เป็นคุณแก่บุคคลภายนอกในครัวเรือน หรืออุตสาหกรรมของบุคคลภายนอกนั้นไซร้ ท่านว่าบุคคลผู้จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้นจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อที่เขาต้องขาดแรงงานอันนั้นไปด้วย[/size] ค่าปลงศพ หมายถึง การจัดการศพตามประเพณีของลัทธิศาสนา เช่น ค่าปลงศพ พอตายแล้วจะต้องมีหีบศพ ห่อศพ ฉีดยาป้องกันศพเน่า แต่งตัวให้ศพ แต่งชุดพิเศษหรือชุดที่ชอบ จ้างช่างตัดผมหรือหวีผมให้ หรือว่ากรณีร่างกายถูกรถชนแหลกเหลวจะต้องเย็บให้เข้าที่ ค่าจ้างหมอเย็บศพก็ถือว่าเป็นค่าปลงศพอย่างหนึ่ง ค่าพิธีการรดน้ำศพ สวดศพ ทำบุญอันจำเป็นตามประเพณี ค่าเช่าเมรุเผาศพ เป็นต้น เหล่านี้ถือว่าเป็นค่าปลงศพ ผู้ทำละเมิดมีหน้าที่ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในส่วนของค่าปลงศพแต่ไม่มีหน้าที่ไปจัดการศพเพราะอำนาจการจัดการศพอยู่ที่ทายาทหรือผู้จัดการมรดกซึ่งเป็นไปตามป.พ.พ.มาตรา ๑๖๔๙ อายุความในการเรียกร้องค่าเสียหายหรือฟ้องร้องดำเนินคดีเรียกค่าเสียหาย มาตรา 448 สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดนั้น ท่านว่าขาดอายุความเมื่อพ้นปีหนึ่งนับแต่วันที่ผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน หรือเมื่อพ้นสิบปีนับแต่วันทำละเมิด แต่ถ้าเรียกร้องค่าเสียหายในมูลอันเป็นความผิดมีโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา และมีกำหนดอายุความทางอาญายาวกว่าที่กล่าวมานั้นไซร้ ท่านให้เอาอายุความที่ยาวกว่านั้นมาบังคับ[/size] ********************************************************************************** สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 087-5447646 ทนายลลิตา
|
|
|
|
|
|
|
panithan
"คนรุ่นใหม่ ไม่สูบไม่ดื่ม"
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 1,501
รับดำเนินงานด้านงานก่อสร้างครบวงจร
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: วันที่ 14 พฤษภาคม 2019, 11:19:04 » |
|
|
|
|
|
lalitalaws
เตรียมอนุบาล
ออฟไลน์
กระทู้: 36
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: วันที่ 30 สิงหาคม 2019, 13:36:43 » |
|
เจ้าหนี้ควรทราบ!! ทวงหนี้อย่างไร? ไม่ให้ผิดกฎหมาย.... **************************************************************************************** สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 087-5447646 ทนายลลิตา
|
|
|
|
|