เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 24 เมษายน 2024, 02:55:13
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ⒷⒼ*, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  มาคุยกันทำไหม น้ำโขงลดลงผิดปกติ ครับ.
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน มาคุยกันทำไหม น้ำโขงลดลงผิดปกติ ครับ.  (อ่าน 1435 ครั้ง)
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« เมื่อ: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2010, 09:27:10 »

สาเหตุเท่าที่ ติดตามข่าว

1. จีนสร้างเขื่อนใหญ่ที่สุดกั้นน้ำโขงเสร็จ และปล่อยน้ำเฉพาะช่วงผลิตกระแสไฟฟ้า.

2.ภาวะโลกร้อนฝนตกลดลงในพื้นที่ อยกว่าทุกปีเฉลี่ย 6เปอร์เซ็นต์

3.มีการทำเกษตรกรรมเยอะเพราะ ราคาอาหาร และผลิตผลทางการเกษตรราคาสูง

ลองคิดดูว่าสาเหตุหลังเกิดจากอะไร ครับ.

อาจเรียงลำลำดับก็ได้โดยส่วนตัวน่าจะ ใช่ทั้งสามปัจจัยลองมาคิดเล่นดู

ส่วนผมคิดว่า 3 1 2  ครับ ตามนี้

แล้วทุกท่านคิดว่าอย่างไร
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
เด็กชายมังคุด ฆ่าตุ๊ดด้วยมือเปล่า
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,443



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2010, 11:10:21 »

ตอนนี้ตาราง น้ำ ในการเดินเรือใช้ไม่ได้เลยครับ

แล้วก็เรือ ทุกสินค้าขนาดใหญ่ ไม่สามารถ เดินทางได้เลยครับ

ตั้งแต่ ตรุษจีนมาแล้ว

จะวิ่งได้ก็แค่เรือลาวเล็กๆ ครับ

ส่วนตอนนี้ ของที่จกค้าง

ก็ใช้ ถนน เส้น R3A เส้นเชียงของเชียงรุ่ง แทนครับ

ตอนนี้ก็ต้องรอให้ ฝนตกอย่างเดีัยวครับ
IP : บันทึกการเข้า
Jukegroo
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 467



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2010, 14:36:37 »

รู้สึกว่าจะมีฝรั่งตายไปสองคนแล้วนะเรือชนผา
จะนั่งเรือขึ้นมาจากหลวงพระบางไม่ได้เลยครับตอนนี้
IP : บันทึกการเข้า

boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2010, 15:19:11 »

ขอบคุณครับ ข้อมูล

แย่จริงๆๆ เศร้า
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
คนเมือง ณ กว่างกรุง
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 553


กำหนดชีวิตตัวเอง หรือรอให้คนอื่นมากำหนดชีวิตเรา..


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2010, 20:56:45 »


กลับบ้านมาเมื่อวันก่อน (เจียงของ)

เห็นน้ำของ แห้งอย่างน่าตกใจ  เห็นคนลาวเดินข้ามน้ำมาเดินเล่นกลางแม่น้ำของ มีเนินทรายกลางแม่น้ำมากขึ้น
เท่าที่ทราบจีน สร้างเขื่อน ไม่แน่ใจ ว่า หนึ่ง หรือ สอง หรือ สามที่ ทำให้น้ำแห้งเป็นอย่างมาก
แต่สิ่งร้ายๆ ก็พอมีข่าวดีอยู่บ้าง  คือตรงวัดพระแก้ว (ไม่ใช่ที่สนามหลวงนะ)  วัดพระแก้วอยู่อำเภอเชียงของ (ในตัวเวียง) ตำนานเล่าว่าเมื่อครั้งหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดเวไนยสัตว์ครั้งหนึ่งพระองค์เสด็จไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ข้ามแม่น้ำของ (ขรนที) ไปถึงหมู่บ้านตำมิละ (ชาวท้องถิ่นเจียงของ) พระองค์ประทับอยู่ใต้ต้นขนุนและหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตก นายจ่าบ้านตำมิละได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อรับฟังพระธรรม เมือพระพุทธเจ้าจะเสด็จกลับพระองค์ได้ประทานพระเกศา 2 เส้นให้นายจ่าบ้านตำมิละ และตรัสกับนายจ่าบ้านตำมิละว่า ให้นำพระอบทองคำ 2 ผะอบ ให้หนักผะอบละ 5 บาท แล้วให้ทำเรือทองคำหนักลำละ 25 บาท จำนวน 2 ลำ ให้นำพระเกศาลงในผะอบๆละ 1 เส้นแล้วให้นำผะอบทั้งสองแยกจากกันออกไปทางซ้ายและขาวมือของเรา ให้ระยะทางเท่าๆกันให้ขุดหลุมข้างละหลุม แต่ละหลุมลึก 9 วา แล้วเอาเรือทองที่บรรจุพระอบทองคำใส่ลงไปในหลุม แล้วให้นำแผ่นหินมาปิดหลุมและถมดินให้เต็มและก่อดินให้สูงขึ้นเป็นสถูป และให้ช่างเอาแผ่นหิน 2 แผ่นกว้าง 1 ศอก ยาว 2 ศอก สลักคำทำนายของพระพุทธเจ้าลงบนแผ่นศิลานั้น แล้วนำไปติดตั้งไว้หน้าสถูปข้างละแผ่น ว่าต่อไปในวันข้างหน้าตรงนี้จะมีผู้คนมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก บ้านเมืองบริเวณนี้จะรุ่งเรือง และจะมีผู้มาสร้างพระธาตุขึ้น
สถูปทางซ้ายมีชื่อว่าวัดไชยสถาน (วัดหลวง)
สถูปทางขวามีชื่อว่าวัดศรีบุญเรือง (วัดพระแก้ว)
ต่อมามีนักท่องเที่ยวอเมริกา ได้พบเห็นแผ่นศิลาจารึก ซึ่งเป็นแผ่นจารึกคำทำนายของพระพุทธเจ้า จึงขออนุญาตินำแผ่นจารึกนั้นไป (น่าเสียดายมากๆ)

ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ สิ่งที่อยากจะบอกคือ เวลาน้ำของแห้ง ตรงวันพระแก้ว (บริเวณแม่น้ำของ) จะมีรอยเท้าของพระพุทธเจ้าอยู่   (ส่วนตัวผมยังไม่เคยเห็น แม่ชีเล่าให้ฟังอีกที)
สุดท้าย ต่ออีกนิดแล้วกัน
หลวงพ่อพระหยก เขียวโขง 3 ฤดู  หลวงพ่อบอกว่ามีผู้ใจบุญชาวเชียงใหม่คุณ ธนภัทร กระจ่างวงษ์ พระครูสุภัทรกิตยาภรณ์ พร้อมด้วยคณะศรัทธาวัดพระแก้ว เป็นผู้ร่วมกันจัดสร้างพระพุทธรูปดังกล่าวขึ้น 
ขอบอกว่าสวยมากๆ  มีโอกาสไปเจียงของต้องไปกราบให้ได้นะครับ กรมศิลป์มาออกแบบให้ (เกินคำบรรยายจริงๆ)

ขอบคุณอีกครั้งที่อ่านมาถึงตรงนี้ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

"กว่างเจียงของ"
Jukegroo
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 467



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2010, 09:02:57 »


กลับบ้านมาเมื่อวันก่อน (เจียงของ)

เห็นน้ำของ แห้งอย่างน่าตกใจ  เห็นคนลาวเดินข้ามน้ำมาเดินเล่นกลางแม่น้ำของ มีเนินทรายกลางแม่น้ำมากขึ้น
เท่าที่ทราบจีน สร้างเขื่อน ไม่แน่ใจ ว่า หนึ่ง หรือ สอง หรือ สามที่ ทำให้น้ำแห้งเป็นอย่างมาก
แต่สิ่งร้ายๆ ก็พอมีข่าวดีอยู่บ้าง  คือตรงวัดพระแก้ว (ไม่ใช่ที่สนามหลวงนะ)  วัดพระแก้วอยู่อำเภอเชียงของ (ในตัวเวียง) ตำนานเล่าว่าเมื่อครั้งหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดเวไนยสัตว์ครั้งหนึ่งพระองค์เสด็จไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ข้ามแม่น้ำของ (ขรนที) ไปถึงหมู่บ้านตำมิละ (ชาวท้องถิ่นเจียงของ) พระองค์ประทับอยู่ใต้ต้นขนุนและหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตก นายจ่าบ้านตำมิละได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อรับฟังพระธรรม เมือพระพุทธเจ้าจะเสด็จกลับพระองค์ได้ประทานพระเกศา 2 เส้นให้นายจ่าบ้านตำมิละ และตรัสกับนายจ่าบ้านตำมิละว่า ให้นำพระอบทองคำ 2 ผะอบ ให้หนักผะอบละ 5 บาท แล้วให้ทำเรือทองคำหนักลำละ 25 บาท จำนวน 2 ลำ ให้นำพระเกศาลงในผะอบๆละ 1 เส้นแล้วให้นำผะอบทั้งสองแยกจากกันออกไปทางซ้ายและขาวมือของเรา ให้ระยะทางเท่าๆกันให้ขุดหลุมข้างละหลุม แต่ละหลุมลึก 9 วา แล้วเอาเรือทองที่บรรจุพระอบทองคำใส่ลงไปในหลุม แล้วให้นำแผ่นหินมาปิดหลุมและถมดินให้เต็มและก่อดินให้สูงขึ้นเป็นสถูป และให้ช่างเอาแผ่นหิน 2 แผ่นกว้าง 1 ศอก ยาว 2 ศอก สลักคำทำนายของพระพุทธเจ้าลงบนแผ่นศิลานั้น แล้วนำไปติดตั้งไว้หน้าสถูปข้างละแผ่น ว่าต่อไปในวันข้างหน้าตรงนี้จะมีผู้คนมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก บ้านเมืองบริเวณนี้จะรุ่งเรือง และจะมีผู้มาสร้างพระธาตุขึ้น
สถูปทางซ้ายมีชื่อว่าวัดไชยสถาน (วัดหลวง)
สถูปทางขวามีชื่อว่าวัดศรีบุญเรือง (วัดพระแก้ว)
ต่อมามีนักท่องเที่ยวอเมริกา ได้พบเห็นแผ่นศิลาจารึก ซึ่งเป็นแผ่นจารึกคำทำนายของพระพุทธเจ้า จึงขออนุญาตินำแผ่นจารึกนั้นไป (น่าเสียดายมากๆ)

ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ สิ่งที่อยากจะบอกคือ เวลาน้ำของแห้ง ตรงวันพระแก้ว (บริเวณแม่น้ำของ) จะมีรอยเท้าของพระพุทธเจ้าอยู่   (ส่วนตัวผมยังไม่เคยเห็น แม่ชีเล่าให้ฟังอีกที)
สุดท้าย ต่ออีกนิดแล้วกัน
หลวงพ่อพระหยก เขียวโขง 3 ฤดู  หลวงพ่อบอกว่ามีผู้ใจบุญชาวเชียงใหม่คุณ ธนภัทร กระจ่างวงษ์ พระครูสุภัทรกิตยาภรณ์ พร้อมด้วยคณะศรัทธาวัดพระแก้ว เป็นผู้ร่วมกันจัดสร้างพระพุทธรูปดังกล่าวขึ้น 
ขอบอกว่าสวยมากๆ  มีโอกาสไปเจียงของต้องไปกราบให้ได้นะครับ กรมศิลป์มาออกแบบให้ (เกินคำบรรยายจริงๆ)

ขอบคุณอีกครั้งที่อ่านมาถึงตรงนี้ ยิงฟันยิ้ม

คนเชียงของแท้ๆ ผมก็จาววัดแก้วครับ
IP : บันทึกการเข้า

boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2010, 09:09:00 »

ตกใจเหมือนกันครับ

อาจเป็นแผนการที่จะให้เห็นความสำคัญของการสร้างเขื่อนที่หลวงพระบางก็ได้ครับ.
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
คนเมือง ณ กว่างกรุง
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 553


กำหนดชีวิตตัวเอง หรือรอให้คนอื่นมากำหนดชีวิตเรา..


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2010, 12:31:06 »


กลับบ้านมาเมื่อวันก่อน (เจียงของ)

เห็นน้ำของ แห้งอย่างน่าตกใจ  เห็นคนลาวเดินข้ามน้ำมาเดินเล่นกลางแม่น้ำของ มีเนินทรายกลางแม่น้ำมากขึ้น
เท่าที่ทราบจีน สร้างเขื่อน ไม่แน่ใจ ว่า หนึ่ง หรือ สอง หรือ สามที่ ทำให้น้ำแห้งเป็นอย่างมาก
แต่สิ่งร้ายๆ ก็พอมีข่าวดีอยู่บ้าง  คือตรงวัดพระแก้ว (ไม่ใช่ที่สนามหลวงนะ)  วัดพระแก้วอยู่อำเภอเชียงของ (ในตัวเวียง) ตำนานเล่าว่าเมื่อครั้งหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดเวไนยสัตว์ครั้งหนึ่งพระองค์เสด็จไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ข้ามแม่น้ำของ (ขรนที) ไปถึงหมู่บ้านตำมิละ (ชาวท้องถิ่นเจียงของ) พระองค์ประทับอยู่ใต้ต้นขนุนและหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตก นายจ่าบ้านตำมิละได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อรับฟังพระธรรม เมือพระพุทธเจ้าจะเสด็จกลับพระองค์ได้ประทานพระเกศา 2 เส้นให้นายจ่าบ้านตำมิละ และตรัสกับนายจ่าบ้านตำมิละว่า ให้นำพระอบทองคำ 2 ผะอบ ให้หนักผะอบละ 5 บาท แล้วให้ทำเรือทองคำหนักลำละ 25 บาท จำนวน 2 ลำ ให้นำพระเกศาลงในผะอบๆละ 1 เส้นแล้วให้นำผะอบทั้งสองแยกจากกันออกไปทางซ้ายและขาวมือของเรา ให้ระยะทางเท่าๆกันให้ขุดหลุมข้างละหลุม แต่ละหลุมลึก 9 วา แล้วเอาเรือทองที่บรรจุพระอบทองคำใส่ลงไปในหลุม แล้วให้นำแผ่นหินมาปิดหลุมและถมดินให้เต็มและก่อดินให้สูงขึ้นเป็นสถูป และให้ช่างเอาแผ่นหิน 2 แผ่นกว้าง 1 ศอก ยาว 2 ศอก สลักคำทำนายของพระพุทธเจ้าลงบนแผ่นศิลานั้น แล้วนำไปติดตั้งไว้หน้าสถูปข้างละแผ่น ว่าต่อไปในวันข้างหน้าตรงนี้จะมีผู้คนมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก บ้านเมืองบริเวณนี้จะรุ่งเรือง และจะมีผู้มาสร้างพระธาตุขึ้น
สถูปทางซ้ายมีชื่อว่าวัดไชยสถาน (วัดหลวง)
สถูปทางขวามีชื่อว่าวัดศรีบุญเรือง (วัดพระแก้ว)
ต่อมามีนักท่องเที่ยวอเมริกา ได้พบเห็นแผ่นศิลาจารึก ซึ่งเป็นแผ่นจารึกคำทำนายของพระพุทธเจ้า จึงขออนุญาตินำแผ่นจารึกนั้นไป (น่าเสียดายมากๆ)

ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ สิ่งที่อยากจะบอกคือ เวลาน้ำของแห้ง ตรงวันพระแก้ว (บริเวณแม่น้ำของ) จะมีรอยเท้าของพระพุทธเจ้าอยู่   (ส่วนตัวผมยังไม่เคยเห็น แม่ชีเล่าให้ฟังอีกที)
สุดท้าย ต่ออีกนิดแล้วกัน
หลวงพ่อพระหยก เขียวโขง 3 ฤดู  หลวงพ่อบอกว่ามีผู้ใจบุญชาวเชียงใหม่คุณ ธนภัทร กระจ่างวงษ์ พระครูสุภัทรกิตยาภรณ์ พร้อมด้วยคณะศรัทธาวัดพระแก้ว เป็นผู้ร่วมกันจัดสร้างพระพุทธรูปดังกล่าวขึ้น 
ขอบอกว่าสวยมากๆ  มีโอกาสไปเจียงของต้องไปกราบให้ได้นะครับ กรมศิลป์มาออกแบบให้ (เกินคำบรรยายจริงๆ)

ขอบคุณอีกครั้งที่อ่านมาถึงตรงนี้ ยิงฟันยิ้ม

คนเชียงของแท้ๆ ผมก็จาววัดแก้วครับ
  ยินดีที่ได้รู้จัก  ผมอยู่บ้านหัวขัว ครับ...
วันก่อนแม่พาไปวัดพระแก้วมา เลยได้ข้อมูลเอามาเล่าสู่กันฟัง..
IP : บันทึกการเข้า

"กว่างเจียงของ"
คนหัวง้ม...
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 143



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 20:13:23 »

น้ำแห้ง น้ำใจอย่าแห้งตาม ยิ้มกว้างๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 23:43:17 โดย คนหัวง้ม » IP : บันทึกการเข้า

...อนาคตหัวง้ม...
มะเหงก ณ เชียงราย
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 85



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 21:08:11 »

   จีนทำเขื่อนไว้เยอะเลย  อีกหน่อยมันก็ขวบคุมแถบนี้ได้หมด

เอาดิดิ เดียวตูไม่ปล่อยน้ำนะ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม เรื่องจริงเอามาพูดเล่น ฮืม
IP : บันทึกการเข้า

อย่ารวยบนความฉ้อฉล
อย่าเป็นคนเห็นแก่ได้
อย่าใช้คนไม่เหมาะกับงาน
อย่าปากหวานจนเสียระบบ
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2010, 00:40:44 »

เชียงราย – น้ำโขง แม่น้ำนานาชาติที่ยาวอันดับ 10 ของโลก ยังไม่หยุดแห้งเหือด ล่าสุดเหลืออีกแค่ 37 ซม.ก็จะหลุดจากมาตรวัดกลางแล้ว ด้านเครือข่ายลุ่มน้ำจ่อยื่น”อภิสิทธิ์” ชง MRC-จีนแก้วิกฤตน้ำโขงแห้ง





       
       รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า หลังจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงตกอยู่ในสภาพเหือดแห้งลงอย่างมากในรอบชั่วอายุคนตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ได้สร้างปัญหาให้กับผู้คนตลอดแนวลุ่มน้ำทางตอนใต้ในทุกมิติ โดยภาคธุรกิจพบว่าเรือสินค้าในแม่น้ำโขง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรือสัญชาติจีน แล่นไปมาระหว่างเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา-เข้ามายังชายแดนพม่า-สปป.ลาว จนมาถึงท่าเรือ อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ ต้องหยุดไปโดยปริยาย เช่นเดียวกับเรือท่องเที่ยวเกือบทุกประเภทที่ไม่กล้าแล่นออกจากฝั่ง เพราะเกรงจะเกยตื้น หรือใบพัดไปกระทบถูกตะกอนทรายหรือหินใต้น้ำจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ จึงเหลือเพียงเรือยนต์ช้าที่ให้บริการโดยสารคนลาวข้ามมายังฝั่งไทยคราวละ 1-2 คนเท่านั้น
       
       “2-3 วันก่อนมีเรือสินค้าจีนออกจากเชียงแสน จะขึ้นไปเชียงรุ่ง หรือจิ่งหง สาธารณรัฐประชาชนจีน แม้จะใช้รถแบคโฮบรรทุกเรืออีกลำไป เพื่อขุดดอนทรายบริเวณหน้าโรงแรมโกลเด้นท์ไทรแองเกิ้ล พาราไดซ์รีสอร์ท แถบสามเหลี่ยมทองคำ ก็ยังไปไม่รอด จอดติดสันดอนทรายอยู่” ผู้ประกอบการเดินเรือไทย-จีน รายหนึ่งกล่าว
       
       ขณะที่นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว ที่ปรึกษาเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง-ล้านนา กล่าวว่า ขณะนี้เครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับลุ่มแม่น้ำโขง ได้รวบรวมปัญหา วิธีการป้องกันและแก้ไขวิกฤตแล้ว กำลังร่างหนังสือนำเสนอต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้พิจารณาผลักดันในทางปฏิบัติ ในฐานะไทยเป็นสมาชิกของคณะกรรมการแม่น้ำโขงหรือ MRC (Mekong River Commission) ให้นำปัญหานี้มาประชุมหารือและชักจูงให้จีน ซึ่งไม่อยู่ใน MRC เข้ามาส่วนในการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง เพื่อประโยชน์ของทุกประเทศร่วมกันไม่ใช่กับประเทศใดประเทศหนึ่ง
       
       นายนิวัฒน์ กล่าวอีกว่าสิ่งที่เครือข่ายอยากเห็นจากรัฐบาลไทยและ MRC ทำ คือ การรวมพลังดึงประเทศจีนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำ เพราะที่ผ่านมาประเทศจีนสร้างเขื่อนเอาไว้เหนือประเทศอื่นๆ มากถึง 4 เขื่อน คือ เขื่อนเสี่ยวหวาน ตั้งอยู่ตอนบนสุดของเขื่อนอื่นๆ ในแม่น้ำโขงสูง 300 เมตร กำลังผลิตไฟฟ้า 4,200 เมกะวัตต์ ความจุอ่างน้ำกว่า 145,560 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม. ) เริ่มกักเก็บน้ำตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 ,เขื่อนมั่นวาน กำลังผลิตไฟฟ้าขนาด 1,500 เมกะวัตต์ ,เขื่อนต้าเฉาซาน ขนาด 1,350 เมกะวัตต์ และเขื่อนจิ่งหง ขนาด 1,500 เมกะวัตต์
       
       เขาบอกว่า ที่น่าสงสัยคือ สมัยก่อนน้ำในแม่น้ำโขงขึ้นลงเป็นธรรมชาติ ไม่แห้งมากเท่านี้ แต่หลังเปิดใช้เขื่อนราวปี 2538-2540 สภาพเริ่มเลวร้ายลง จนมาถึงการกักเก็บน้ำจากเขื่อนล่าสุดเมื่อปลายปี 2552 ปรากฏว่าต้นปี 2553 น้ำแห้งลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่เดือนกุมภาฯ ทั้งๆ ที่ตามปกติแม่น้ำโขงจะแห้งในช่วงเดือนเมษายน ทุกวันนี้องค์กรรัฐของเราบางฝ่ายก็ยังมาปกป้องอีกว่าแม่น้ำโขงแห้งครั้งนี้อาจจะไม่ได้เกิดจากเขื่อนจีน
       
       “คุณลองไปถามคนลุ่มแม่น้ำโขงทั้งที่เชียงราย อีสานหรือในลาว กัมพูชา เวียดนาม เขาดูบ้างสิว่า เขาเชื่อว่าที่แม่น้ำโขงแห้งนี้เกิดจากเขื่อนจีนหรือไม่” นายนิวัฒน์ กล่าว
       
       ประเด็นสำคัญที่พวกเราต้องการที่สุดคือ อยากให้จีนเปิดเผยข้อมูลปริมาณน้ำ เพื่อการบริหารจัดการร่วมกับ MRC ทั้งในฤดูน้ำหลากและฤดูแล้ง ซึ่งต้องการกักเก็บน้ำเอาไว้ ให้บอกมาว่าเมื่อสร้างเขื่อนเสร็จได้กักเก็บน้ำในฤดูต่างๆ เอาไว้เท่าไหร่ เพื่อคำนวณหาปริมาณน้ำที่เหลือ ซึ่งนั่นก็คือ น้ำที่ควรจะไหลลงสู่ประเทศใต้น้ำในช่วงฤดูแล้ง เพราะปัจจุบันไม่มีการปล่อยน้ำ แต่กักเก็บเอาไว้ทั้งหมด แล้วก็มีข่าวจากสื่อจีนว่าที่มณฑลหยุนหนัน ซึ่งเป็นสถานที่สร้างเขื่อนก็ประสบภัยแล้งเช่นกันจึงต้องกักเก็บน้ำ
       
       “เราก็สงสัยว่าแล้วประเทศใต้น้ำก็เดือดร้อนเหมือนกัน พวกเขาไม่ใช่มนุษย์หรือ จึงไม่ได้รับการเอาใจใส่บ้าง”
       
       ทั้งนี้หลังการยื่นหนังสือซึ่งคาดว่าจะดำเนินการในเร็วๆ นี้ เครือข่ายฯ คงจะรอฟังคำตอบ เพื่อจะได้ผลักดันกันต่อไปแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ยากยิ่งก็ตาม
       
       สำหรับผลการตรวจวัดระดับน้ำในแม่น้ำโขง โดยอุทกวิทยา อ.เชียงแสน ระบุว่า ระดับน้ำในช่วงสัปดาห์นี้ วัดได้ต่ำสุดที่ อ.เชียงแสน อยู่ห่างจากระดับกลางที่ตั้งเอาไว้ 0.37 เมตร ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่วัดได้ลึกประมาณ 1.25 เมตรหรือลดลงเกือบ 1 เมตร จากระดับน้ำที่เหลือเพียงเล็กน้อยนี้ หากคงลดต่ำลงไปกว่ามาตรวัดอีก 37 ซม. ก็จะไม่สามารถตรวจวัดระดับน้ำในแม่น้ำโขงจากค่ากลางได้อีกเลย

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000027744
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
คนเมือง ณ กว่างกรุง
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 553


กำหนดชีวิตตัวเอง หรือรอให้คนอื่นมากำหนดชีวิตเรา..


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2010, 12:34:09 »

เชียงราย – น้ำโขง แม่น้ำนานาชาติที่ยาวอันดับ 10 ของโลก ยังไม่หยุดแห้งเหือด ล่าสุดเหลืออีกแค่ 37 ซม.ก็จะหลุดจากมาตรวัดกลางแล้ว ด้านเครือข่ายลุ่มน้ำจ่อยื่น”อภิสิทธิ์” ชง MRC-จีนแก้วิกฤตน้ำโขงแห้ง





       
       รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า หลังจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงตกอยู่ในสภาพเหือดแห้งลงอย่างมากในรอบชั่วอายุคนตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ได้สร้างปัญหาให้กับผู้คนตลอดแนวลุ่มน้ำทางตอนใต้ในทุกมิติ โดยภาคธุรกิจพบว่าเรือสินค้าในแม่น้ำโขง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรือสัญชาติจีน แล่นไปมาระหว่างเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา-เข้ามายังชายแดนพม่า-สปป.ลาว จนมาถึงท่าเรือ อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ ต้องหยุดไปโดยปริยาย เช่นเดียวกับเรือท่องเที่ยวเกือบทุกประเภทที่ไม่กล้าแล่นออกจากฝั่ง เพราะเกรงจะเกยตื้น หรือใบพัดไปกระทบถูกตะกอนทรายหรือหินใต้น้ำจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ จึงเหลือเพียงเรือยนต์ช้าที่ให้บริการโดยสารคนลาวข้ามมายังฝั่งไทยคราวละ 1-2 คนเท่านั้น
       
       “2-3 วันก่อนมีเรือสินค้าจีนออกจากเชียงแสน จะขึ้นไปเชียงรุ่ง หรือจิ่งหง สาธารณรัฐประชาชนจีน แม้จะใช้รถแบคโฮบรรทุกเรืออีกลำไป เพื่อขุดดอนทรายบริเวณหน้าโรงแรมโกลเด้นท์ไทรแองเกิ้ล พาราไดซ์รีสอร์ท แถบสามเหลี่ยมทองคำ ก็ยังไปไม่รอด จอดติดสันดอนทรายอยู่” ผู้ประกอบการเดินเรือไทย-จีน รายหนึ่งกล่าว
       
       ขณะที่นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว ที่ปรึกษาเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง-ล้านนา กล่าวว่า ขณะนี้เครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับลุ่มแม่น้ำโขง ได้รวบรวมปัญหา วิธีการป้องกันและแก้ไขวิกฤตแล้ว กำลังร่างหนังสือนำเสนอต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้พิจารณาผลักดันในทางปฏิบัติ ในฐานะไทยเป็นสมาชิกของคณะกรรมการแม่น้ำโขงหรือ MRC (Mekong River Commission) ให้นำปัญหานี้มาประชุมหารือและชักจูงให้จีน ซึ่งไม่อยู่ใน MRC เข้ามาส่วนในการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง เพื่อประโยชน์ของทุกประเทศร่วมกันไม่ใช่กับประเทศใดประเทศหนึ่ง
       
       นายนิวัฒน์ กล่าวอีกว่าสิ่งที่เครือข่ายอยากเห็นจากรัฐบาลไทยและ MRC ทำ คือ การรวมพลังดึงประเทศจีนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำ เพราะที่ผ่านมาประเทศจีนสร้างเขื่อนเอาไว้เหนือประเทศอื่นๆ มากถึง 4 เขื่อน คือ เขื่อนเสี่ยวหวาน ตั้งอยู่ตอนบนสุดของเขื่อนอื่นๆ ในแม่น้ำโขงสูง 300 เมตร กำลังผลิตไฟฟ้า 4,200 เมกะวัตต์ ความจุอ่างน้ำกว่า 145,560 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม. ) เริ่มกักเก็บน้ำตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 ,เขื่อนมั่นวาน กำลังผลิตไฟฟ้าขนาด 1,500 เมกะวัตต์ ,เขื่อนต้าเฉาซาน ขนาด 1,350 เมกะวัตต์ และเขื่อนจิ่งหง ขนาด 1,500 เมกะวัตต์
       
       เขาบอกว่า ที่น่าสงสัยคือ สมัยก่อนน้ำในแม่น้ำโขงขึ้นลงเป็นธรรมชาติ ไม่แห้งมากเท่านี้ แต่หลังเปิดใช้เขื่อนราวปี 2538-2540 สภาพเริ่มเลวร้ายลง จนมาถึงการกักเก็บน้ำจากเขื่อนล่าสุดเมื่อปลายปี 2552 ปรากฏว่าต้นปี 2553 น้ำแห้งลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่เดือนกุมภาฯ ทั้งๆ ที่ตามปกติแม่น้ำโขงจะแห้งในช่วงเดือนเมษายน ทุกวันนี้องค์กรรัฐของเราบางฝ่ายก็ยังมาปกป้องอีกว่าแม่น้ำโขงแห้งครั้งนี้อาจจะไม่ได้เกิดจากเขื่อนจีน
       
       “คุณลองไปถามคนลุ่มแม่น้ำโขงทั้งที่เชียงราย อีสานหรือในลาว กัมพูชา เวียดนาม เขาดูบ้างสิว่า เขาเชื่อว่าที่แม่น้ำโขงแห้งนี้เกิดจากเขื่อนจีนหรือไม่” นายนิวัฒน์ กล่าว
       
       ประเด็นสำคัญที่พวกเราต้องการที่สุดคือ อยากให้จีนเปิดเผยข้อมูลปริมาณน้ำ เพื่อการบริหารจัดการร่วมกับ MRC ทั้งในฤดูน้ำหลากและฤดูแล้ง ซึ่งต้องการกักเก็บน้ำเอาไว้ ให้บอกมาว่าเมื่อสร้างเขื่อนเสร็จได้กักเก็บน้ำในฤดูต่างๆ เอาไว้เท่าไหร่ เพื่อคำนวณหาปริมาณน้ำที่เหลือ ซึ่งนั่นก็คือ น้ำที่ควรจะไหลลงสู่ประเทศใต้น้ำในช่วงฤดูแล้ง เพราะปัจจุบันไม่มีการปล่อยน้ำ แต่กักเก็บเอาไว้ทั้งหมด แล้วก็มีข่าวจากสื่อจีนว่าที่มณฑลหยุนหนัน ซึ่งเป็นสถานที่สร้างเขื่อนก็ประสบภัยแล้งเช่นกันจึงต้องกักเก็บน้ำ
       
       “เราก็สงสัยว่าแล้วประเทศใต้น้ำก็เดือดร้อนเหมือนกัน พวกเขาไม่ใช่มนุษย์หรือ จึงไม่ได้รับการเอาใจใส่บ้าง”
       
       ทั้งนี้หลังการยื่นหนังสือซึ่งคาดว่าจะดำเนินการในเร็วๆ นี้ เครือข่ายฯ คงจะรอฟังคำตอบ เพื่อจะได้ผลักดันกันต่อไปแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ยากยิ่งก็ตาม
       
       สำหรับผลการตรวจวัดระดับน้ำในแม่น้ำโขง โดยอุทกวิทยา อ.เชียงแสน ระบุว่า ระดับน้ำในช่วงสัปดาห์นี้ วัดได้ต่ำสุดที่ อ.เชียงแสน อยู่ห่างจากระดับกลางที่ตั้งเอาไว้ 0.37 เมตร ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่วัดได้ลึกประมาณ 1.25 เมตรหรือลดลงเกือบ 1 เมตร จากระดับน้ำที่เหลือเพียงเล็กน้อยนี้ หากคงลดต่ำลงไปกว่ามาตรวัดอีก 37 ซม. ก็จะไม่สามารถตรวจวัดระดับน้ำในแม่น้ำโขงจากค่ากลางได้อีกเลย

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000027744
  ขอบคุณครับสำหรับข่าว

ว่าแต่มีข่าวหรือความเป็นได้บ้างหรือเปล่า ที่ไทยและลาวจะร่วมมือกันสร้างเขื่อนแบบจีนบ้าง..
IP : บันทึกการเข้า

"กว่างเจียงของ"
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 05 มีนาคม 2010, 09:12:53 »

^^

ดห็นมีข่าวเหมือนกันลงทุนจากเวียดนาม สร้างที่หลวงพระบาง ถ้าสร้างจริงระบบนิเวศเสียหมด ปลาบึกในน้ำโขง และไก ที่เชียงของคงไม่มีแล้ว
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!