กสทช.แจง ถ้ามือถือ Huawei สเปคไม่ตรงถือว่าเป็นเครื่องเถื่อน โยนให้ สคบ. รับลูก

[toparaya]

CEO ออกมายอมรับ Huawei P10 / P10 Plus มีการใช้หน่วยความจำคนละชนิดจริง เผยลองเองไม่รู้สึกว่าเร็วช้าต่างกัน

ปล่อยให้เป็นประเด็นร้อนได้ไม่นาน กับข้อสงสัยเรื่องการที่ Huawei P10 / P10 Plus อาจมีการเลือกใช้งานหน่วยความจำภายในคนละชนิดกัน คือมีการนำเอาแฟลชเมโมรี่ชนิด eMMC ที่อ่านและเขียนได้ช้ากว่าชนิด UFS มาผลิต P10 / P10 Plus แล้วนำออกมาวางขายโดยที่ผู้บริโภคไม่รู้มาก่อน ล่าสุด Richard Yu ซีอีโอของ Huawei ได้ออกมาคลายข้อสงสัยแล้ว โดยยอมรับว่ามีการใช้หน่วยความทั้ง 2 ชนิดปะปนกันไปจริง (กดดู วิธีตรวจสอบหน่วยความจำ Huawei P10/P10 Plus)

โดน Richard Yu ได้ทำการโพสต์ชี้แจงเรื่องนี้อย่างยาวเหยียดผ่าน Weibo ว่าทางบริษัทประสบปัญหาหน่วยความจำ UFS ที่มีความเร็วในการอ่านและเขียนมากกว่านั้นหมด เลยทำให้ต้องนำเอาหน่วยความจำชนิด eMMC มาใช้ในการผลิต P10 / P10 Plus เพื่อจะได้ผลิตทันตามความต้องการของตลาด และยืนยันจากประสบการณ์ตรงของตัวเองว่าเขาได้ลองใช้ P10 Plus ที่มีหน่วยความจำแบบ eMMC พร้อมๆ กับ Mate 9 ที่เป็น UFS แล้ว ทั้ง 2 รุ่นลื่นไหลใช้งานได้ดีไม่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าประสิทธิภาพของตัวเครื่องจะลดลง

แต่นั่นก็ยังคงเป็นการสร้างคำถามใหม่ให้กับท่านประธานอยู่ดี เพราะยังงี้มันก็เหมือนมีการยัดไส้ ใส่หน่วยความจำคนละเกรด แล้วเอามาขายราคาเท่ากันเฉยเลย ลองคิดดูว่าถ้าเราไปซื้อคอมพ์แล้วบนสเปคมันเป็น SSD แต่พอประกอบจริงๆ ช่างบอกหมดแล้วเอาฮาร์ดดิสจานหมุนมาใส่ให้แทนและคิดราคาเท่าเดิม จะรู้สึกยังไง

แหล่งที่มา *** https://droidsans.com/ceo-huawei-admit-p10-and-p10-plus-have-mix-internal-memory/

[toparaya]

 

[toparaya]

อ้าวเฮ้ย! Huawei ปรับหน้าเว็บ Mate 9 ลบคำว่า UFS 2.1 ออกในหลายประเทศ

ข่าวสุดฮ็อตที่เป็นกระแสร้อนแรงในช่วงนี้คงหนีไม่พ้นเรื่อง Huawei P10 และ P10 Plus ที่มีการใช้สเปกหน่วยความจำไม่เท่ากัน และ CEO ก็ออกมายอมรับเองว่า Huawei ทำแบบนี้เพราะของตามสเปกมีไม่พอ เลยต้องเอาของในรุ่นต่ำกว่ามาใช้ไปก่อน ล่าสุดความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก เมื่อมีผู้ไปพบว่า Huawei ได้มีการปรับข้อมูลหน้าเว็บผลิตภัณฑ์ของ Mate 9 โดยมีการนำข้อความที่อ้างถึง หน่วยความจำ UFS 2.1 ออกจากเว็บไซต์ในหลายประเทศ


จากข่าวก่อนหน้านี้หลายคนอาจจะเข้าใจว่า ปัญหาเรื่องหน่วยความจำไม่ตรงสเปกนั้นจะมีเฉพาะ P10 กับ P10 Plus เท่านั้น แต่ที่จริงปัญหานี้มีมาตั้งแต่ Huawei Mate 9 แล้วครับ ล่าสุดมีคนช่างสังเกตไปพบว่า Huawei ได้ทำการลบข้อความที่มีการอ้างถึงหน่วยความจำ " UFS 2.1" ออกจากหน้า Global เว็บไซต์ของ Mate 9 ตามรูปด้านล่างนี้เลย

แหล่งที่มา *** https://droidsans.com/huawei-removes-ufs-21-mention-from-mate-9-page/

[toparaya]

ก่อนปรับ

[toparaya]

หลังปรับ

จะเห็นว่าตรงสัญลักษณ์วงกลมที่เป็นข้อมูลของ ROM ซึ่งมีการอ้างถึง UFS 2.1 นั้นถูกเอาออกไปจากหน้าเว็บไซต์เลย โดยตอนนี้เห็นว่าถูกเอาออกไปจากหน้าเว็บไซต์ของหลายประเทศแล้ว ทั้งอเมริกา, อังกฤษ รวมไปถึงหน้าเว็บไซต์ของประเทศไทยก็ไม่มีการอ้างถึง UFS 2.1 เช่นกัน แต่ไม่แน่ใจว่า ไม่ได้อ้างมาตั้งแต่แรกหรือเปล่านะครับ

[godseedlove]

ขอบคุณครับ

[toparaya]

  สืบเนื่องจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ริชาร์ด หยู ซีอีโอของหัวเว่ย ได้ออกมายอมรับว่า ในการผลิต Huawei P10 และ P10 Plus ได้มีการนำหน่วยความจำหลายรุ่นมาใช้งาน จากปัญหาชิ้นส่วนหน่วยความจำที่เป็นแบบ UFS 2.1 ที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดขาดตลาด ส่งผลต่อการผลิตเครื่อง
      
       ส่งผลให้มีการนำหน่วยความจำแบบ UFS 2.0 และ eMMC มาใช้งาน ทำให้เครื่องมีความเร็วในการอ่าน-เขียนข้อมูลช้าลงกว่าที่ควรจะเป็น โดยทางซีอีโอของหัวเว่ย กลับระบุว่า เมื่อได้ทดลองใช้งานแล้ว ให้ความรู้สึกในการใช้งานไม่แตกต่างกัน ทำให้ผู้ใช้งานหัวเว่ยทั่วโลกเริ่มเกิดความไม่พอใจ
      
       โดยในกลุ่มผู้ใช้งานหัวเว่ย P10/P10 Plus ทั้งใน และต่างประเทศ ต่างเริ่มมีการนำตัวเครื่องมาทดสอบผ่านโปรแกรมทดสอบในแอนดรอยด์สโตร์อย่าง AndroBench ที่เป็นโปรแกรมทดสอบการอ่านเขียนข้อมูลของหน่วยความจำ
      
       ทำให้พบว่า ถ้าเป็นรุ่นที่ใช้หน่วยความจำแบบ UFS 2.1 RAM DDR4 จะได้คะแนนอ่านข้อมูล (Sequential Read) อยู่ราว 700 Mbps ส่วน UFS 2.0 จะอยู่ราว 400-500 Mbps และ eMMC จะอยู่ที่ประมาณ 200-300 Mbps รวมถึงให้สังเกตในส่วนของการเขียนข้อมูลแบบสุ่ม (Random Write) ในรุ่น UFS 2.1 จะอยู่ที่ 17-20 Mbps ส่วนรุ่นอื่นๆ จะไม่เกิน 15 Mbps
      
       ทั้งนี้ ในการทดสอบดังกล่าวควรมีการปิดโปรแกรมที่เปิดใช้งาน หรือถ้าให้ดีควรล้างเครื่องให้กลับเป็นค่าโรงงานก่อนทำการทดสอบเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด เนื่องมาจากในการทดสอบถ้าตัวเครื่องมีการใช้งานแอปพลิเคชันอื่นๆ อยู่ในเบื้องหลัง ผลที่ได้อาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริง
      
       ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ใช้งาน Huawei Mate 9 ที่เป็นรุ่นเรือธงในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ได้นำเครื่องที่ซื้อมาทดสอบ และพบว่ามีบางเครื่องไม่ได้ใช้งานหน่วยความจำแบบ UFS 2.1 ตามที่ทางหัวเว่ย ได้ทำการโฆษณาไว้ จึงได้เกิดการนัดรวมตัวกันเพื่อไปร้องเรียนแก่ สคบ.ในวันพุธที่ 26 เมษายน 2560 เวลา 08.00 น.
      
       โดยผู้ใช้นามแฝงที่ชื่อ “พาเรโต” ได้โพสต์กระทู้เชิญชวนกลุ่มผู้ใช้งาน Huawei Mate 9 ในประเทศไทยให้มารวมตัวกัน เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดผ่านกระบวนการคุ้มครองของทางภาครัฐในกระทู้พันทิป https://pantip.com/topic/36371262

แหล่งที่มา *** http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000040925

[toparaya]

หน้าเว็บไซต์ในปัจจุบัน

[toparaya]

หน้าเว็บไซต์ก่อนการแก้ไขข้อมูล

        พร้อมกับการที่ล่าสุด หัวเว่ยมีการถอดข้อมูลหน่วยความจำเกี่ยวกับ UFS 2.1 ออกจากหน้าเว็บไซต์ไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ผู้บริโภคเกิความไม่พอใจ และมองว่าทางหัวเว่ย ต้องการให้เรื่องเงียบไปโดยไม่รับผิดชอบ และยังมองว่า หัวเว่ยทำการสอดแทรกสินค้าที่ไม่มีคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค โดยที่ไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ในลักษณะของการขายสินค้าไม่ตรงสเปก และถูกเอารัดเอาเปรียบ
       
       อย่างไรก็ตาม เมื่อประสานไปยังทีมงานของหัวเว่ย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ปัจจุบัน ทางทีมงานหัวเว่ย ประเทศไทย กำลังอยู่ในช่วงประสานงานกับบริษัทแม่ในต่างประเทศ เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว จะมีการแจ้งข้อมูลอย่างเป็นทางการให้แก่ลูกค้าอย่างแน่นอน

[toparaya]

 

[toparaya]

กสทช.แจง ถ้ามือถือ Huawei สเปคไม่ตรงถือว่าเป็นเครื่องเถื่อน โยนให้ สคบ. รับลูก

จากปัญหามหากาพย์ที่ผู้ใช้มือถือ Huawei P10, P10 Plus และ Mate 9 ตรวจพบว่าหน่วยความจำในเครื่องของตัวเองไม่ตรงกับสเปคที่ทาง Huawei โฆษณาไว้นั้น ล่าสุดทาง กสทช. ได้ออกความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ถ้ามือถือของ Huawei ที่จำหน่ายจริงมีสเปคไม่ตรงกับที่ยื่นขออนุญาต ถือว่าเครื่องเถื่อนทันที พร้อมแนะให้ผู้บริโภคไปร้องเรียนกับ สคบ. ช่วยแก้ปัญหา


อ้างอิงจากข่าวของ “กรุงเทพธุรกิจ”  นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภคกล่าวว่า โดยปกติการขอนำเข้าอุปกรณ์โทรคมนาคม จะต้องได้รับใบอนุญาตนำเข้า ซึ่งสำนักงานกสทช.จะต้องมีการรับรองมีการแสดงเครื่องหมาย (Label) เป็นการกำหนดหมายเลขทะเบียนวิทยุคมนาคมให้กับเครื่องวิทยุคมนาคม ที่ได้รับอนุญาตทำ หรือนำเข้ามาในประเทศ และผ่านการตรวจสอบลักษณะทางวิชาการจากสำนักงาน กสทช. แล้ว

โดยในกรณีหัวเว่ยดังกล่าวนี้ ต้องกลับไปดูเอกสารว่ามีการขอนำเข้าอุปกรณ์ที่ระบุมาในใบอนุญาตนำเข้าว่าตรงกับที่ขออนุญาตหรือไม่ หากไม่ตรงตามเอกสาร อุปกรณ์โทรคมนาคมเหล่านั้นจะถือเป็นเครื่องเถื่อน

ทางด้าน นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กสทช. สายงานกิจการโทรคมนาคม ชี้แจงว่า โดยอำนาจของ กสทช. มีหน้าที่ตรวจสอบเฉพาะคลื่นความถี่ที่ตัวเครื่องส่งสัญญาณ ซึ่งจะมีการเช็คกับแล็บในต่างประเทศว่า การส่งสัญญาณของเครื่องตรงตามที่ระบุในใบขออนุญาตหรือไม่ การตรวจสอบก็เพื่อไม่ให้คลื่นความถี่รบกวนกัน สำหรับกรณีของ Huawei ทาง กสทช. แนะนำว่า

ในกรณีดังกล่าวให้ผู้บริโภคไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพราะถือเป็นสิทธิของผู้บริโภค โดยแนวทางของสคบ.ก็จะเชิญตัวแทนของสำนักงาน กสทช. ไปให้ข้อมูลอีกครั้ง

ก็ประมาณนี้สำหรับความเห็นของ กสทช. เกี่ยวกับกรณีปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งผมก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าทาง กสทช. มีหน้าที่ตรวจสอบเฉพาะคลื่นความถี่ของตัวส่งสัญญาณในอุปกรณ์เท่านั้น ไม่ได้ครอบคลุมถึงตัวสเปคทั้งหมดของตัวเครื่องว่า เป็นอย่างไรบ้าง

แหล่งข้อมูล *** https://droidsans.com/thailand-nbtc-opinions-on-huawei-smartphone-memory-issues/

[toparaya]

 

[toparaya]

 

[NOtis]

เอาเป็นว่ากระทู้เดียวพอนะครับสร้างในนี้เปลี่ยนหัวข้อเอา 3กระทู้มันจะมากไปนะครับ ที่จริงผมจะย้ายไปห้องไอทีละเพราะที่ห้องเป็นห้องซื้อขาย นะครับ

[dorn26]

คู่แข่งหัวเหวยก่อผมจะซื้อพอดี

[toparaya]

คู่แข่งหัวเหว่ยกะ

ป่าวครับ /// ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆทั้งสิ้นครับ เห็นข่าวเลยอยากแจ้งใหม้ทราบครับ