การทยอยขายหุ้น การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ก็คือการซื้อขายหุ้นนั่นแหละครับ ผมได้นำหัวข้อ
การทยอยซื้อหุ้น มาเป็นลำดับแรกในการเริ่มต้นกระทู้นี้ และวันนี้ขอนำเรื่อง การทยอยขายหุ้น
มาเรียบเรียงเสนอนะครับ (ขอย้ำว่าเป็นแนวทางที่เกิดจากประสบการณ์ ไม่ใช่วิชาการ)
และการนำเสนอในเรื่องการทยอยขายหุ้นนี้ ก็เพื่อให้รับกับเรื่อง การทยอยซื้อห้น เพื่อให้เกิด
ความสมดุลขึ้นเสียก่อนที่จะเรียบเรียงในเรื่องอื่นๆต่อไป และขอเรียนว่าเป้นเพียงแนวทาง
กว้างๆ เพื่อให้ท่านที่สนใจลงทุนในหลักทรัพย์เอาไว้เป็นข้อมูล หรือนำไปประยุกต์ใช้กับ
การลงทุนของท่านเพื่อให้เหมาะกับตัวท่านเท่านั้น ส่วนในรายละเอียดยังคงมีประเด็นอีกมากมาย
ซึ่งผมจะได้เรียบเรียงนำเสนอต่อๆไป เท่าที่เวลาและความสามารถที่มีอยู่นะครับ
เข้าเรื่องการทยอยขายนะครับ เมื่อหุ้นกำลังขึ้น (หรือเป็นขาขึ้นอย่างที่เรียกๆกัน)
ท่านมีหุ้นอยู่ในพอร์ต (หรือในมือก็ได้) ภาษาอังกฤษใช้ว่า in hand ตรงๆเลยครับ
ซึ่งหุ้นที่ท่านมีอยู่มีหลายราคา ตามที่ท่านได้ทยอยซื้อไว้นั่นแหละครับ
เมื่อท่านเห็นว่าราคาหุ้นในตลาดได้ขึ้นไปสูงกว่าราคาหุ้นในมือ ต้องการขายเพื่อทำกำไร
แม้ว่าราคาหุ้นในตลาดจะสูงกว่าราคาหุ้นในมือที่มีราคาสูงสุด ก็ขอเรียนว่าอย่าเพิ่งขาย
ออกไปทั้งหมดของจำนวนที่มีอยู่นะครับ (เราได้ทยอยซื้อมาในราคาที่แตกต่างกันหลายครั้ง)
ขอลำดับขั้นตอนดังนี้ครับ
ข้อ 1. ท่านควรทยอยขายออกไปตามส่วนที่ทยอยซื้อมานั่นแหละครับ
ข้อ 2. เมื่อขายส่วนแรกออกไปแล้ว ให้ติดตามดูว่าหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงราคา ขึ้น หรือลง ไปอีกเท่าใด อย่างไร
ข้อ 3. ถ้าหุ้นตกลงมาจากราคาที่ขายไปตามข้อ 1. ก็อย่าไปเสียดายว่า รู้งี้ขายไปให้หมด
ดีกว่า (อย่าลืมว่าการลงทุนของท่านเป็นการลงทุนระยะยาว และเรากำลังลงทุนอยู่กับกิจการนี้
เราไม่ได้กำลังเล่นการพนัน) ให้ท่านใช้ดุลพินิจ (อีกแล้ว) ซื้อกลับคืนตามจำนวนที่ขายไป
ท่านจะได้ส่วนต่างของราคาหุ้นที่ขายไปกับราคาที่ซื้อกลับคืน ใส่กระเป๋าไว้
แต่หุ้นดีๆของท่านยังคงอยู่ครบตามจำนวนที่มีอยู่ก่อนที่จะขายออกไปตามข้อ 1.
(การใช้ดุลพินิจซื้อกลับคืนควรได้ส่วนต่างอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 4% - 5% นะครับ)
ข้อ 4. ถ้าหุ้นขึ้นไปอีกจากราคาที่ขายออกไปตามข้อ 1. ให้ใช้ดุลพินิจทยอยขายออกไป
ทีละส่วน หรือทั้งหมด แล้วแต่ดุลพินิจของแต่ละท่าน
(หุ้นจะขึ้นไปอีกเท่าใดถึงจะขายอีก ก็ต้องใช้ดุลพินิจตามประสบการณ์ของแต่ละท่านนะครับ)
ข้อ 5. ถ้าทยอยขายออกไปยังไม่หมดมือ แต่หุ้นกลับตกลงมาอีก ให้ไปดูข้อ 3. ไม่ต้อง
เสียดายว่าน่าจะขายออกไปเสียทั้งหมด จะได้ได้กำไรเยอะๆ
ผมขอเรียนว่า ทยอยซื้อ ทยอยขาย ทยอยรับเงินจากส่วนต่างอย่างนี้ ดีสำหรับการลงทุน
ระยะยาว เพราะทุก 6 เดือน ทุก 1 ปี หุ้นดีๆมีปันผล ได้เครดิตภาษี เป็นรายได้ของท่าน จาก
การลงทุนในกิจการดีๆที่ท่านมั่นใจ (เรื่องเครดิตภาษี ผมจะนำมาเรียบเรียงนำเสนอในโอกาสต่อๆไปครับ)
ขอเรียนปิดท้ายสำหรับเบรกนี้ว่า แม้มีประสบการณ์เพียงใด ก็ต้องมีเฮงด้วยครับ ถึงจะได้มีกำไรเยอะๆ แต่ก็ยังยืนยันว่า...
ประสบการณ์คือครูที่ดีที่สุด หรือ Experience is the best teacher. ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบเบรกครับ