เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 มีนาคม 2024, 01:21:20
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  นักลงทุน การเงิน การธนาคาร
| | |-+  >>> ศิลปการลงทุนในตลาดหุ้น <<<
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ... 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 [22] 23 24 25 26 27 28 พิมพ์
ผู้เขียน >>> ศิลปการลงทุนในตลาดหุ้น <<<  (อ่าน 183504 ครั้ง)
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,941


Experience is the best teacher.


« ตอบ #420 เมื่อ: วันที่ 14 ธันวาคม 2011, 14:15:23 »

ธุรกิจที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ (ต่อ)

ธุรกิจ หรือกิจการที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอมีอยู่มากมายในตลาดหลักทรัพย์ โดยเฉพาะกิจการที่มั่นคง
มีนักลงทุนรายย่อยนิยมเข้าไปลงทุนซื้อขายหุ้น เช่น กิจการพลังงานน้ำมัน ถ่านหิน ธนาคาร วัสดุก่อ
สร้าง ซึ่งหุ้นของกิจการเหล่านี้จะมีสภาพคล่องสูง (สภาพคล่องสูง หมายถึงในทุกๆวันจะมีการซื้อขาย
หุ้นเปลี่ยนมือกันเป็นจำนวนมาก ที่เรียกกันว่า มีคนเข้ามาเล่นกันมาก) แต่เงินปันผลที่จ่าย เทียบกับ
ราคาตลาดของหุ้นแล้ว ไม่น่าคุ้มกับการลงทุนซื้อแล้วถือไว้เพื่อรอรับปันผล นักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่
ที่ไม่มีหุ้นในมือ จึงมักจะลงทุนในลักษณะ เก็งกำไร รายวันกันมากกว่า

ส่วนกิจการที่จ่ายเงินปันผลดี ดูคุ้มค่ากับเงินลงทุน หุ้นของกิจการนั้นปกติจะไม่ค่อยมีสภาพคล่องนัก
นานๆครั้งผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะหยิบขึ้นมาสร้างราคา ทำให้เกิดสภาพคล่องขึ้นชั่วคราว นักลงทุนรายย่อย
มือใหม่ที่คิดลงทุนเพื่อเงินปันผล เข้าไปซื้อแล้วถือไว้ หุ้นก็ตกเอาๆ เกิดความหงุดหงิดกังวลจนกลาย
เป็นความทรมานใจ (เพื่อนนักลงทุนของผมหลายคนชอบพูดว่า มันทรมานใจ) เพราะตัวเลขทางบัญชี
มันติดลบเอา ติดลบเอา ซึ่งผมเองก็ได้ผ่านสถานการณ์ทรมานใจนี้มาแล้วครับ

ผมจึงใช้วิธี ทยอยซื้อ ทยอยขาย ตามที่ได้เรียนไว้ใน กระทู้ ศิลปการลงทุนในตลาดหุ้น ไงครับ ซึ่งมัน
เกิดจากประสบการณ์ และดูวิธีการของเพื่อนนักลงทุนในห้องค้า นำมาประยุกต์เป็นวิธีของตัวเอง

และขอเรียนว่ากิจการที่มั่นคง จ่ายปันผลดี ผู้บริหารมีธรรมาภิบาล ราคาหุ้นยังอยู่ในวิสัยที่จะซื้อลงทุน
แล้วคุ้มค่า ยังมีอยู่อีกมากในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 14 ธันวาคม 2011, 14:17:49 โดย Cupid » IP : บันทึกการเข้า
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,941


Experience is the best teacher.


« ตอบ #421 เมื่อ: วันที่ 15 ธันวาคม 2011, 10:13:47 »


ตลาดหุ้นช่วงนี้แกว่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับน้ำท่วมที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง  ยิงฟันยิ้ม

จากประสบการณ์ ผมมีความเห็นเป็นส่วนตัวว่า ตลาดฯจะยังคงแกว่งขึ้นไปอีกระยะหนึ่ง จนถึงประมาณ
ไม่เกินกลางเดือนธันวาคม จะเริ่มปรับตัว ปรับฐานอีก แต่ดัชนีไม่น่าจะลงไปมากเหมือนช่วงที่เพิ่งผ่านมา


ท่านที่มีหุ้นอยู่ในพอร์ต ล้อตใดที่มีกำไรพอสมควร ก็ควรทยอยขายออกบ้างนะครับ อย่าให้เสียโอกาส
สำหรับผม หุ้น top ที่รับไว้ที่ราคา 50 บาท ต้นๆ ก็ขายไปแล้วที่ 60 บาท ต้นๆ จำนวนนิดหน่อยครับ ยิงฟันยิ้ม

ท่านที่ไม่มีหุ้นในพอร์ตใช้เงินหมุนลงทุนระยะสั้น ก็หาจังหวะกันเอาเองนะครับ (ลงทุนระยะสั้น อย่า
เอาส่วนต่างมากนัก เดี๋ยวจะพลาดพลั้ง  ยิงฟันยิ้ม)


มาเรียนกันเป็นระยะๆครับ เพื่อนนักลงทุน ช่วงนี้ตลาดฯกำลังปรับตัวปรับฐาน ท่านที่ทยอยขายหุ้นออกไป
เมื่อช่วงที่ดัชนีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อหุ้นตัวที่ขายออกไป ปรับตัวลงมาต่ำกว่าราคาที่ขายไป
พอสมควร (แค่ไหน เป็นดุลพินิจของแต่ละท่าน สำหรับผม ประมาณ 5% ขึ้นไป) ก็ทยอยรับกลับ เอา
ส่วนต่างไว้ใช้ ได้หุ้นดีๆคืนมา... ยิงฟันยิ้ม

ตลาดคงไม่ปรับตัวลงแรงเหมือนที่เพิ่งผ่านมา แต่ก็คงไม่ฟื้นตัวเร็ว ท่านที่ลงทุนระยะสั้น (เงินหมุน)
ควรงดเว้นการลงทุนสักระยะครับ...!
 
IP : บันทึกการเข้า
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,941


Experience is the best teacher.


« ตอบ #422 เมื่อ: วันที่ 25 ธันวาคม 2011, 10:51:15 »

พอร์ตลงทุน กับร้านค้าปลีก

วันนี้ขออนุญาตลองเปรียบเทียบร้านค้าปลีกกับพอร์ตหุ้นของนักลงทุนดูนะครับ

แน่นอนว่าร้านค้าปลีก (ร้านขายของชำ) ที่เปิดขายสินค้าในเมือง หรือในชุมชนต่างๆย่อมต้องมีสินค้า
ให้หลากหลายชนิด เพื่อสนองความต้องการของบรรดาผู้อยู่อาศัยใกล้เคียง ที่จะหาซื้อสินค้าที่จำเป็น
ในชีวิตประจำวัน และตามความต้องการของแต่ละคนในแต่ละห้วงเวลา เช่น อาหารกระป๋อง ขนม นม
กล่อง ไม้ขีดไฟ เทียน มีดโกน สุรา เบียร์ บุหรี่ น้ำแข็ง โซดา ฯลฯ เพื่อลูกค้าจะได้ของครบที่ต้องการจาก
ที่เดียวไม่ต้องไปร้านอื่น เจ้าของร้านก็ได้ประโยชน์มีเงินหมุนเวียนเข้าออกตลอดเวลา แต่ก็ต้องใช้เงิน
ลงทุนสูงในการซื้อสินค้าที่หลากหลายเพื่อนำมาจำหน่าย

ในความคิดของผม การลงทุนในหุ้นก็ทำนองเดียวกันกับการเปิดร้านค้าปลีก ถ้าเรามีศักยภาพทางการ
เงินเพียงพอ ก็ควรลงทุนในกิจการหลายประเภท พูดตรงๆก็คือในพอร์ตลงทุนควรมีหุ้นหลายๆตัวและ
หลายอุตสาหกรรม เท่ากับเรามีสินค้าที่หลากหลายในร้านค้าปลีกดังที่ผมกล่าวข้างต้น ซึ่งหุ้นที่หลากหลาย
ในพอร์ตลงทุน ก็คล้ายกับสินค้าที่หลากหลายในร้านค้า ที่นักลงทุนจะมีความต้องการที่แตกต่างกันไป
ในแต่ละห้วงเวลาเช่นกัน และเพื่อให้มีการถ่วงดุลกันในพอร์ตลงทุนดังที่ผมได้กล่าวมาแล้ว แต่จะมีหุ้นกี่
ตัวมากน้อยแค่ไหนก็เป็นไปตามอัธยาศัย และศักยภาพครับ

ปรมาจารย์การลงทุน เบนจามิน เกรแฮม บอกว่าควรมีหุ้นอย่างน้อย 30 ตัว แต่วอร์เรน บัฟเฟต์ บอกว่า
ควรมี 7-10 ตัว

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 25 ธันวาคม 2011, 20:59:28 โดย Cupid » IP : บันทึกการเข้า
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #423 เมื่อ: วันที่ 26 ธันวาคม 2011, 18:47:11 »



             เอา VDO มาดันกระทู้ดี ๆ  ครับ... ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,941


Experience is the best teacher.


« ตอบ #424 เมื่อ: วันที่ 27 ธันวาคม 2011, 09:44:27 »


มาถึงสัปดาห์สุดท้ายของปี ๒๕๕๔ แล้วครับ เริ่มต้นสัปดาห์วันจันทร์ ที่ ๒๖ (เมื่อวานนี้) มูลค่าซื้อขาย
หลักทรัพย์จำนวน ๙,๐๐๐ ล้านบาทเศษ ต่ำกว่าปกติที่จะมีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยประมาณวันละ ๑๕,๐๐๐
ถึง ๒๐,๐๐๐ ล้านบาทเศษ ซึ่งเป็นปกติของช่วงสัปดาห์สุดท้ายของทุกปี และต่อเนื่องไปถึงสัปดาห์แรก
ของปีถัดไป น่าจะเป็นเพราะนักลงทุนรายใหญ่ และบรรดากองทุนพักการซื้อขายกัน ช่วงนี้ดัชนีตลาด
จะไม่ค่อยขยับขึ้น จะมีแต่แกว่งลงทำนองปรับตัวปรับฐาน หลังจากที่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วง ๑ เดือน
เศษๆที่ผ่านมา

ไม่เหมาะกับนักลงทุนรายย่อยที่ลงทุนแบบเก็งกำไรระยะสั้นถือหุ้นนานไม่ได้ แต่ก็อาจมีรายใหญ่
หรือที่นักลงทุนรายย่อยในห้องค้าเรียกว่า เจ้ามือ เข้ามาเล่นเก็งกำไรกับหุ้นตัวเล็กๆ สร้างสีสันให้
ตลาดฯ และก็มีนักลงทุนระยะสั้นเก็งกำไรรายวันเข้าไปเป็นลูกค้า แต่สำหรับผมขอนั่งดู และรอรับ
หุ้นที่ขายออกไปแล้วกลับคืนพอร์ตครับ  ยิ้ม   
IP : บันทึกการเข้า
น้าวัยทองฯ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,913



« ตอบ #425 เมื่อ: วันที่ 27 ธันวาคม 2011, 23:50:42 »

ช่วงนี้ผมก็ว่าจะเข้าซื้อไว้สักหน่อยเหมือนกันครับ

เพราะดูจากมูลค่าซื้อขายเบาบางมาก

แต่ถ้าแรงซื้อกลับมาเมื่อไหร่ งานนี้มันแน่
IP : บันทึกการเข้า

Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,941


Experience is the best teacher.


« ตอบ #426 เมื่อ: วันที่ 29 ธันวาคม 2011, 08:26:51 »


มูลค่าการซื้อขายคงเบาบางต่อเนื่องถึงสัปดาห์แรกของปี ๒๕๕๕ เลือกของดีโดยทยอยซื้อ อย่าซื้อครั้ง
เดียวตามจำนวนที่ตั้งใจจะซื้อ เพราะซื้อวันนี้ปลายปีโดยเห็นว่าถูกแล้ว  ต้นปีอาจถูกกว่าลงไปอีก ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,941


Experience is the best teacher.


« ตอบ #427 เมื่อ: วันที่ 04 มกราคม 2012, 17:08:30 »


ขอบคุณหนุ่มเตฯที่กรุณานำวีดีโอมาดันครับ แต่ตอนนี้วีดีโอถูกลบไปแล้ว ยิงฟันยิ้ม

กำลังจะมาโพสต่อ ตอนนี้เลยนึกอะไรไม่ออก เพราะได้เปิดดูเมื่อปีที่แล้ว

ตั้งปีนึงเลยจำเนื้อหาในวีดีโอไม่ได้...! ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #428 เมื่อ: วันที่ 04 มกราคม 2012, 19:13:30 »


ขอบคุณหนุ่มเตฯที่กรุณานำวีดีโอมาดันครับ แต่ตอนนี้วีดีโอถูกลบไปแล้ว ยิงฟันยิ้ม

กำลังจะมาโพสต่อ ตอนนี้เลยนึกอะไรไม่ออก เพราะได้เปิดดูเมื่อปีที่แล้ว

ตั้งปีนึงเลยจำเนื้อหาในวีดีโอไม่ได้...! ยิ้มกว้างๆ

 

  ไม่เป็นไรครับ ช่วยกันไปไหนๆ ห้องนี้ก็มาถึงตรงนี้แล้ว   ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม

แต่อย่าขอบคุณผมอีกนะเดียวผมจะอายุสั้น เพราะท่านมีคุณวุฒิ วัยวุฒิ ฯลฯ มากกว่าผม ควรขอบใจ

และผมขอโอกาสสวัสดีปีใหม่ลุงคิวฯ ด้วย  ผมสวัสดีแล้ว ถึงคราท่านอวยพรผมมั่ง  ๕๕๕+


IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
JM.sun
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #429 เมื่อ: วันที่ 08 มกราคม 2012, 18:26:38 »

ดีคับ
กระทู้น่าสนใจดีนะคับผมติดตามอ่านมาสักพักหนึ่งล่ะคับ งงบ้างเข้าใจบ้าง แต่ก็ดีขึ้นเยอะเลยคับ สนใจเหมือนกันคับเรื่องการเล่นหุ้น แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร คือผมหมายถึงดำเนินการ การเข้าไปเล่นคับ ไม่ทราบถ้าอยุ่เมืองนอกจะเล่นได้ไหมคับ เพราะตอนนี้ไม่ได้อยุ่ไทย ยังไงก็ขอฝากเนื่อฝากตัวด้วยนะคับ
IP : บันทึกการเข้า
น้าวัยทองฯ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,913



« ตอบ #430 เมื่อ: วันที่ 09 มกราคม 2012, 00:15:49 »

ดีคับ
กระทู้น่าสนใจดีนะคับผมติดตามอ่านมาสักพักหนึ่งล่ะคับ งงบ้างเข้าใจบ้าง แต่ก็ดีขึ้นเยอะเลยคับ สนใจเหมือนกันคับเรื่องการเล่นหุ้น แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร คือผมหมายถึงดำเนินการ การเข้าไปเล่นคับ ไม่ทราบถ้าอยุ่เมืองนอกจะเล่นได้ไหมคับ เพราะตอนนี้ไม่ได้อยุ่ไทย ยังไงก็ขอฝากเนื่อฝากตัวด้วยนะคับ

ถ้าจะเล่น set ไทยก็ได้ครับ เพียงให้ญาติเปิดบัญชีที่ไทย

เอาเงินไปใส่ ตามงบของท่าน แล้วส่ง id pass ไปให้ท่าน

จากนั้นท่านก็เข้าใช้โปรแกรมของโบรกเกอร์ ก็สามารถเทรดได้

ทุกที่บนโลกเลยครับ
IP : บันทึกการเข้า

Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,941


Experience is the best teacher.


« ตอบ #431 เมื่อ: วันที่ 09 มกราคม 2012, 13:59:46 »


ผสมผสานโดยปัจจัยพื้นฐาน+ตำรา+ขาดประสบการณ์

ตัวผมนั้น แรกเข้าตลาดฯ ยังไม่มีประสบการณ์ ใช้วิธีเลือกกิจการที่จะลงทุน โดยเข้าไปดูรายละเอียด
ของกิจการว่าธุรกิจที่ผมสนใจจะลงทุนนั้นประกอบกิจการอะไร เป็นสินค้า หรือบริการที่คนทั่วไปต้อง
การในการดำรงชีวิตประจำวันอย่างไร ดูผลประกอบการและการจ่ายปันผลในอดีตถึงปัจจุบันว่าเป็นอย่าง
ไร สม่ำเสมอแค่ไหน เรียบเรียงรายชื่อเอาไว้

ต่อจากนั้นผมก็มาดูว่าจะซื้อหุ้นที่ราคาเท่าใด โดยดูจากคำแนะนำในหนังสือที่บรรดานักลงทุนที่มีประ
สบการณ์ได้แนะนำไว้ ซึ่งผมได้ศึกษามาพอสมควร และก็ดูราคาที่ซื้อขายประจำวันทุกวัน จากหนังสือ
พิมพ์และโทรทัศน์ (ดูราคาหุ้นจากหน้าหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์อยู่อย่างนั้นประมาณ ๒ เดือนเศษจึง
ไปเปิดพอร์ต)

เมื่อเปิดพอร์ตแล้ว ดูหุ้นตัวใดที่เรียบเรียงรายชื่อไว้เข้าทางปืน ยิงฟันยิ้ม จึงสั่งซื้อทางโทรศัพท์เลยครับ โดย
วิธีเคาะขวา (เคาะซื้อเลย ไม่ตั้งรอ) มาร์เก็ตติ้งย้อนถามผมว่า เคาะซื้อเลยรึ? ทำไมไม่ตั้งรอ? ผมก็งง
ไม่เข้าใจว่าทำไมมาร์เก็ตติ้งจึงถามผมเช่นนั้น ซึ่งต่อมาจากการที่ได้เข้าไปนั่งในห้องค้าระยะหนึ่งแล้ว
และมีประสบการณ์มากขึ้น จึงได้เข้าใจเองว่าเหตุใดจึงมีคำถามจากมาร์เก็ตติ้งอย่างนั้น

เมื่อเข้าตลาดฯได้ประมาณ ๖ เดือน พอร์ตลงทุนติดลบทางบัญชีประมาณ ๒๐-๓๐ % ชักเริ่มอึดอัดเป็น
กังวล เริ่มปวดกระโหลกขึ้นมาแล้วครับ
IP : บันทึกการเข้า
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,941


Experience is the best teacher.


« ตอบ #432 เมื่อ: วันที่ 10 มกราคม 2012, 14:03:08 »

ประสบการณ์ที่แตกต่าง นำมาซึ่งความเห็นและแนวทางที่หลากหลาย

ในวงการค้าหุ้น (การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์) มีทั้งผู้ที่ประสพความสำเร็จ และไม่ประสพความสำเร็จ
ผู้ที่ประสพความสำเร็จที่ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ในการลงทุนก็ได้ถ่ายทอดแนวทางของแต่ละท่าน
ออกมาให้ผู้สนใจลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้ศึกษา ทั้งเป็นคำพูด และเป็นตัวหนังสือ ซึ่งอาจแตกต่าง
หลากหลายกันไป แนวทางที่แตกต่างเหล่านั้น ผมขออนุญาตเรียนว่า เป็นแนวทางที่ถูกต้องทั้งหมด
ไม่มีใครผิดดอกครับ เพราะนักลงทุนที่ถ่ายทอดออกมาล้วนประสพความสำเร็จมาแล้ว จึงนำวิธีการที่
ประสพความสำเร็จของตนออกมาถ่ายทอด

แนวทางของนักลงทุนที่ประสพความสำเร็จนั้น นักลงทุนมือใหม่บางท่านที่ทำตามอาจไม่ประสพความ
สำเร็จเลย บางท่านก็ประสบความสำเร็จบางส่วน บางทีอาจทำให้ท้อใจขึ้นมาก็ได้

ผมขออนุญาตเรียนว่าปัจจัยส่วนบุคคลที่มีความแตกต่างกันก็มีความสำคัญในการลอกเลียนแบบหรือ
ทำตามนักลงทุนแต่ละท่านนะครับ เพราะนิสัยใจคอที่แตกต่าง ความกล้าได้กล้าเสีย ความเยือนเย็น
สุขุมรอบคอบ ความใจร้อนวู่วาม การระงับอารมณ์ การควบคุมอารมณ์ ความตื่นเต้นตกใจ การใช้วิจารณ
ญานในการบริโภคข้อมูลข่าวสาร เหล่านี้ บุคคลย่อมล้วนแล้วแต่แตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุ เพศ
การศึกษา ประสบการณ์ ภูมิหลัง และ/หรือกรรมพันธุ์

อุทธาหรณ์ ถ้าเอาแนวทางของนักลงทุนที่ประสพความสำเร็จที่มีลักษณะนิสัยสุขุม เยือกเย็น ควบคุม
อารมณ์ได้ดีในทุกสถานการณ์ ให้คนที่ใจร้อน ตื่นเต้นตกใจง่าย นำมาใช้เป็นแนวทางในการลงทุน ก็
เชื่อว่าคนที่มีลักษณะนิสัยใจร้อนฯนี้คงไม่ประสพความสำเร็จในการลงทุนเป็นแน่แท้  





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 10 มกราคม 2012, 20:56:48 โดย Cupid » IP : บันทึกการเข้า
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,941


Experience is the best teacher.


« ตอบ #433 เมื่อ: วันที่ 10 มกราคม 2012, 21:15:47 »

ขออนุญาตต่ออีกนิดครับในเรื่องประสบการณ์ที่แตกต่าง นำมาซึ่งความเห็นและแนวทางที่หลากหลาย

ด้วยเหตุที่คนเราแตกต่างกันในด้านต่างๆ เช่น ความกล้าได้กล้าเสีย ความเยือนเย็นสุขุมรอบคอบ ความ
ใจร้อนวู่วาม การระงับอารมณ์ การควบคุมอารมณ์ ความตื่นเต้นตกใจ การใช้วิจารณญานในการบริโภค
ข้อมูลข่าวสาร เหล่านี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับอายุ เพศ การศึกษา ประสบการณ์ ภูมิหลัง และ/หรือกรรมพันธุ์ ดังที่
ได้กล่าวมาแล้ว แนวทางการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่บรรดานักลงทุนที่ประสพความสำเร็จหลายๆท่าน
ได้ให้ไว้นั้น นักลงทุนที่ได้ศึกษาแนวทางดังกล่าว จึงพึง apply ดัดแปลง หรือประยุกต์แนวทางต่างๆ
เหล่านั้น มาใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะของตนเอง บวกกับประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น จะนำไปสู่ความสำเร็จ
ได้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 10 มกราคม 2012, 21:18:10 โดย Cupid » IP : บันทึกการเข้า
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,941


Experience is the best teacher.


« ตอบ #434 เมื่อ: วันที่ 16 มกราคม 2012, 08:57:54 »

วันนี้ไปพบมาจาก http://www.sarut-homesite.net/2012/01/%e0%b8%9a%e0%b8%b1%e0%b8%9f%e0%b9%80%e0%b8%9f%e0%b8%95%e0%b8%95%e0%b9%8c-%e0%b9%82%e0%b8%8b%e0%b8%a3%e0%b8%ad%e0%b8%aa-artemis/

copy มาให้ศึกษากันครับ  ยิงฟันยิ้มสรุปเนื้อหาจากหนังสือ ‘บัฟเฟตต์-โซรอส ลงทุนถูกนิสัย ยังไงก็ชนะ’

(The Winning Investment Habits of Warren Buffett & George Soros)

เรามาดูกันเลยยว่า อุปนิสัยทั้ง 23 ข้อมีอะไรบ้าง Let’s go  )

1.) จงรักษาเงินต้นไว้ให้ได้เสมอ ข้อนี้สำคัญที่สุด สำหรับโซรอสเขากล่าวว่า ‘การขาดทุนไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใด ทำให้เขารู้สึกเหมือนเดินถอยหลังกลับไปสู่จุดต่ำสุดของชีวิตอีกครั้ง’

2) มุ่งมั่นที่จะลดความเสี่ยง เป้าหมายของพวกเขา คือ ต้องให้แน่ใจเท่านั้นจึงจะลงทุน เค้าจะไม่ลงทุนในสิ่งที่เขาไม่รู้ ดังคำกล่าวของคุณปู่ที่ว่า “Risk comes from not knowing what you’re doing”

3) สร้างปรัชญาการลงทุนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง ปรัชญาในการลงทุนของบัฟเฟตต์ คือ ประเมินคุณค่าให้ได้ และมองให้ออกว่า กิจการไหนมีลักษณะที่น่าลงทุน รู้ว่าจะซื้อจะขายตอนไหน

4) พัฒนาระบบที่มีความเหมาะสมเข้ากับนิสัยของตัวเอง ในการเลือกหุ้น หาจังหวะเข้าซื้อและขาย

ตัวอย่างเกณฑ์ในการลงทุนของบัฟเฟตต์

- ผมเข้าใจธุรกิจนี้หรือไม่

- ธุรกิจนี้มีสถานะทางเศรษฐกิจที่น่าดึงดูดใจหรือไม่

- สถานะทางเศรษฐกิจที่น่าดึงดูดใจนั้นมีความยั่งยืนหรือไม่

- ผู้บริหารจัดสรรเงินทุนอย่างเป็นเหตุผลหรือไม่

- ผมอยากเป็นเจ้าของธุรกิจนี้หรือไม่ หากมีทีมผู้บริหารชุดนี้

- บริษัทให้ผลตอบแทนต่อผู้เป็นเจ้าของสูงกว่าค่าเฉลี่ยหรือไม่

- ผมชอบราคานี้หรือไม่ :วัดจากกำไรที่คาดว่าบริษัทจะสามารถทำได้ในอนาคต

5) การกระจายการลงทุนเป็นเรื่องของพวกกระจิบกระจอกเท่านั้น ยิ่งคุณมีหุ้นกระจัดกระจายมากเท่าไร เราก็ยิ่งทุ่มเทกับหุ้นที่เรามีได้น้อยลงเท่านั้น

 

6) ให้ความสำคัญกับผลตอบแทนหลังหักภาษี วิธีที่จะทำให้เงินทวีคูณขึ้น คือ ขจัดภาระเรื่องภาษีและค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมออกไปให้ได้

7) จงลงทุนในสิ่งที่คุณเข้าใจเท่านั้น บัฟเฟตต์พูดไว้ว่า “สิ่งสำคัญที่สุดของขอบข่ายแห่งความชำนาญไม่ได้อยู่ที่ว่ากว้างขวางขนาดไหน แต่อยู่ที่ว่าคุณขีดวงล้อมของมันได้ชัดเจนเพียงใดต่างหาก”

คนบางคนมักจะลงทุนตามที่โบรกเกอร์เชียร์ ตัวนี้ดี ตัวนั้นดี โดยที่ตัวเองก็ไม่ได้รู้เลยว่าหุ้นตัวนั้นทำอะไร แต่จริงๆแล้วเราต่างหากที่ควรจะลงทุนในสิ่งที่เราเข้าใจอย่างถ่องแท้

มันก็เหมือนกับการที่คุณเข้าใจและสร้างผลตอบแทนได้ดีจากอสังหาริมทรัพย์ แต่พอเห็นว่าสินค้าโภคภัณฑ์บูม ก็เอาเงินไปลงทุนตามคนอื่นแล้วขาดทุนนั่นแหละ

 จงปฏิเสธที่จะลงทุนในสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับเกณฑ์ในการลงทุนของคุณ บัฟเฟตต์และโซรอสสร้างขอบข่ายแห่งความชำนาญของตัวเอง ด้วยการตอบคำถามเหล่านี้ คือ ฉันสนใจอะไร,  ฉันรู้อะไรในตอนนี้, และ อะไรที่ฉันอยากรู้แต่ยังไม่รู้

คุณต้องตอบคำถามนี้ให้ได้ก่อน จึงจะหาเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการลงทุนของตัวเองได้

9) จงทำวิจัยด้วยตัวเอง มองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆให้สอดคล้องกับเกณฑ์ในการลงทุนของตัวเองอยู่เสมอ และเอาจริงเอาจังกับการวิจัยหาข้อมูลด้วยตัวเอง แล้วชอบที่จะฟังเฉพาะนักลงทุนหรือนักวิเคราะห์ผู้มีเหตุผลอันลึกซึ้งควรค่าแก่การนับถือ

บัฟเฟตต์ บอกว่า เคยใช้เวลามากกว่าครึ่งเดือนเพื่อนับจำนวนรถจักรที่วิ่งไปมาบนทางรถไฟในแคนซัส O_o แต่เขากลับไม่ได้ซื้อหุ้นบริษัทรถไฟ กลายเป็นว่าไปสนใจหุ้นของบริษัทที่ผลิตแก๊สโซลีนเพื่อใช้กับหัวรถจักรแทน และซื้อหุ้นของบริษัทแก๊สแทนรถไฟ ในกรณีนี้บัฟเฟตต์ลงทุนลงแรงทำภาคสนามด้วยตัวเองเลย เขาจึงลงทุนได้ด้วยความมั่นใจ และรู้ข้อมูลที่นักลงทุนคนอื่นๆนอกบริษัทไม่รู้อีกด้วยยย

10) จงอดทนอย่างไม่สิ้นสุด เมื่อเขายังไมเจอการลงทุนที่สอดคล้องกับเกณฑ์ของตัวเอง เขาก็มีความอดทนพอที่จะรอไปอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าจะเจอ

“คุณไม่ได้เงินจากการทำโน่นทำนี่หรอกครับ คุณได้เงินจากการทำสิ่งที่ถูกต้องต่างหาก” บัฟเฟตต์กล่าวในการประชุมประจำปีกับผู้ถือหุ้น
 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 16 มกราคม 2012, 09:04:40 โดย Cupid » IP : บันทึกการเข้า
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,941


Experience is the best teacher.


« ตอบ #435 เมื่อ: วันที่ 16 มกราคม 2012, 09:02:18 »


ต่อเลยครับ ยิงฟันยิ้ม

11) จงทำทันที ลงมือทันที เมื่อตัดสินใจดีแล้ว

12) อยู่กับการลงทุนที่ทำให้ได้รับชัยชนะ จนกว่าเหตุผลสมควรให้ขายที่คิดไว้ล่วงหน้าจะอุบัติขึ้น

กลยุทธ์ในการออก : 1) ออก เมื่อโดนแหกกฎ

2) ออก เมื่อเหตุการณ์ที่คาดไว้ได้เกิดขึ้นแล้ว

3) ออก เมื่อบรรลุเป้าหมายตามระบบแล้วหรือราคาไปถึงเป้าหมายแล้ว

4) ออก เมื่อระบบส่งสัญญาณมา นิยมในหมู่นักเทคนิค

5) ออก ตามกฎที่ตั้งไว้ เช่น พอราคาถึงจุดหนึ่งก็จะขาย หรือขายทันทีเมื่อขาดทุน 10 เปอร์เซ็นต์ หรือจุดที่เราตั้งไว้

6) ออก เมื่อรู้ตัวว่าได้ทำผิดพลาดไปแล้ว

 

13) จงทำตามระบบของคุณด้วยความศรัทธา ไม่มีการเปลี่ยนเกณฑ์การลงทุน หรือลดเป้า เพื่อปลอบใจตัวเองว่าฉันทำถูกแล้ว

14) ยอมรับความผิดพลาดและแก้ไขทันที เมื่อความผิดพลาดนั้นปรากฏชัด ความเสียหายที่เกิดขึ้นก็แค่ขาดทุนเล็กน้อย

15) เปลี่ยนความผิดพลาดเป็นประสบการณ์ ฟิชเชอร์ กล่าวว่า “การทบทวนความผิดพลาด อาจให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการระลึกถึงแต่ความสำเร็จซะอีก”

16) ลงทุนลงแรง เมื่อประสบการณ์เพิ่มขึ้น ผลตอบแทนก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำให้ใช้เวลาน้อยลงเพื่อทำเงินได้มากขึ้น เพราะได้ลงทุนลงแรงไปแล้ว

17) ไม่เคยพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำ แทบจะไม่บอกใครเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับการลงทุนของเขา จะบอกทำไม ในเมื่อบัฟเฟตต์รู้ตัวดีว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาช่วยยืนยันการตัดสินใจแต่อย่างใด

เช่นเดียวกับ โซรอส ที่ไ่ม่เคยเปิดเผยความเคลื่อนไหวของตัวเองให้ใครรู้ เพราะถ้าคนอื่นรู้ว่าเขาทำอะไรอยู่ก็จะแห่กันเข้าไปซื้อหุ้นตัวนั้น และราคาก็จะสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนของเขาสูงขึ้นไปน่ะสิ

18) รู้วิธีเป็นผู้นำ นักลงทุนชั้นเซียนจะแบ่งหน้าที่รับผิดชอบบางส่วนหรือทั้งหมดให้กับคนอื่น สำหรับบัฟเฟตต์แล้ว ทุกๆการลงทุน คือ การกระจายงาน เขาจะระลึกเสมอว่า เขากำลังเอาอนาคตของเงินของตัวเองไปให้คนอื่นดูแล และเขาจะมอบหมายหน้าที่นี้ให้กับคนที่เขาไว้ใจและนับถือเท่านั้น

19) จงใช้ชีวิตต่ำกว่าฐานะของคุณ ถ้าคุณไม่รู้คุณค่าของเงิน คุณย่อมไม่รู้จักเก็บออมเงินทองที่หามาได้

การใช้เงินนั้นง่ายมากๆ ใครก็ทำได้ แต่หาเงินสิยากกว่า นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมการใช้ชีวิตต่ำกว่าฐานะของตัวเองจึงเป็นทัศนคติที่เป็นรากฐานของความสำเร็จของบัฟเฟตต์และโซรอส

20) ก้าวให้พ้นเรื่องเงิน นักลงทุนชั้นเซียนทำงานที่ทำอยู่ เพราะงานนั้นทำให้กระชุ่มกระชวยและเติมเต็มชีวิตของเขา ไม่ใช่ทำงานเพื่อเงิน ถ้าคุณมีแรงบันดาลใจในการทำสิ่งนั้น เงินทองที่คุณทำได้ในระหว่างไล่ล่าเป้าหมาย จะเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้นเอง

21) กระบวนการ นักลงทุนชั้นเซียน จะผูกพันกับกระบวนการในการลงทุน สามารถปฏิเสธหรือล้มเลิกการลงทุนใดๆได้ง่ายๆ

// สิ่งที่เหมือนกันในบรรดาที่เป็นคนสุดยอดในแนวทางของตัวเองก็คือ พวกเขาถูกผลักดันจาก กระบวนการกระทำ // การลงทุนสำหรับนักลงทุนชั้นเซียนก็เหมือนการวาดภาพของจิตรกร ซึ่งบางคนอาจชอบวาดภาพด้วยสีน้ำมัน สิ่งที่เขารักคือ การ ‘วาดภาพด้วยสีน้ำมัน’ แต่เข้าไม่ได้รัก ‘สีน้ำมัน’

22) หายใจเข้า-ออก เป็นการลงทุนตลอดเวลา

เรื่องเล่าของบัฟเฟตต์ : เย็นวันหนึ่ง บัฟเฟตต์และซูซาน ไปกินอาหารเย็นที่บ้านเพื่อน ที่เพิ่งจะกลับมาจากอียิปต์ หลังจากทานข้าวเสร็จ เพื่อนก็เตรียมสไลด์รูปภาพไว้ให้ดู แต่บัฟเฟตต์กลับบอกว่า “เอางี้ไหม คุณเปิดสไลด์ให้ซูซานดู ส่วนผมขอเข้าไปในห้องนอนของคุณ เพื่ออ่านรายงานประจำปีแล้วกัน” O_o

23) เอาเงินของคุณใส่ลงไปด้วย ทั้งบัฟเฟตต์และโซรอส ต่างก็เอาเงินใส่ลงไปในการลงทุนที่ตัวเองบริหารจัดการอยู่ ด้วยเหตุผลเดียวกับที่นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทุกคน ต่างก็มีสินทรัพย์ผูกติดอยู่ในธุรกิจที่ตัวเองทำ การลงทุนของพวกเขา คือ ลงทุนในสิ่งที่ตัวเองรู้ว่าจะทำเงินได้ และนั่นคือ สิ่งที่เขารักนั่นเอง

จบแล้วสำหรับอุปนิสัยการลงทุน หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์จากบทความนี้ ไม่มากก็น้อยน๊าาา
IP : บันทึกการเข้า
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,941


Experience is the best teacher.


« ตอบ #436 เมื่อ: วันที่ 27 มกราคม 2012, 11:43:48 »

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์กำลังแกว่งขึ้นอีกแล้วครับ พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่ค่อยๆหนาแน่นขึ้น

ณ เวลา 11.42 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,074.41 จุด (27 ม.ค.55)

ดัชนีปิดที่ 1,076.29 จุด มูลค่าการซื้อขาย 27,719.37 ล้านบาท (ณ เวลา 16.43 น.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 27 มกราคม 2012, 16:45:45 โดย Cupid » IP : บันทึกการเข้า
ซาลาเปา(เฉพาะกิจ)
...เฉพาะกิจเท่านั้น...
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 415


IN GOD I TRUST


« ตอบ #437 เมื่อ: วันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2012, 21:28:01 »

ฝากท่านคิว ....

ตลท. รับหุ้นเพิ่มทุนของ PTTGC เริ่มซื้อขายวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2555

           รายงานข่าวจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแจ้งเรื่อง หุ้นเพิ่มทุนของ
PTTGC เริ่มซื้อขายวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2555
ชื่อบริษัท                                         : บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิ
คอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC)
ทุนเดิม (บาท)                                     : 45,061,129,360.00
- หุ้นสามัญ (หุ้น)                                  : 4,506,112,936
จำนวนหุ้นเพิ่มทุน                                    :
- หุ้นสามัญ (หุ้น)                                  : 531,053
ทุนใหม่ (บาท)                                     : 45,066,439,890.00
- หุ้นสามัญ (หุ้น)                                  : 4,506,643,989
มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (บาทต่อหุ้น)                          : 10.00
จัดสรรรเพื่อ                                      : การใช้สิทธิของใบสำคัญ
แสดงสิทธิ (PTTAR ESOP-Warrant)
ที่จัดสรรให้กรรมการ ผู้บริหารหรือพนักงานของ PTTAR หรือ ปตท จำนวน 2,050,100
หน่วย
แปลงเป็นหุ้นสามัญจำนวน 531,053 หุ้น
อัตรา (ใบสำคัญแสดงสิทธิ: หุ้น)                      : 1 : 0.25905
ราคาใช้สิทธิ  (บาท/หุ้น)                             : 46.32
วันใช้สิทธิ                                        : วันที่ 31 ม.ค. 2555
วันที่เริ่มซื้อขาย                                    : 06 ก.พ. 2555

...efinance...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2012, 21:31:48 โดย เฉพาะกิจ » IP : บันทึกการเข้า
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,941


Experience is the best teacher.


« ตอบ #438 เมื่อ: วันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2012, 17:04:37 »

ขอบคุณท่านเปาครับ ยิงฟันยิ้ม

วันนี้ sccc ขึ้นแรง (แรงมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว) ปล่อยไปนิดหน่อยที่ 280 บาท (ตั้งรอไว้ตั้งแต่เช้า ได้เอาเกือบปิดตลาด) ถ้าขึ้นต่อก็หาจังหวะปล่อยอีก ถ้าลงมาก็รอรับกลับ ยิงฟันยิ้ม

วันนี้ดัชนีปิดที่ 1,098.95 จุด เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(27 ม.ค.55) 22.66 จุด มูลค่าการซื้อขาย 26,088.02 ล้านบาท

ท่านเปาปล่อยตัวไหนไปได้มั่งหรือเปล่า ยิงฟันยิ้ม...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 04 กุมภาพันธ์ 2012, 11:26:38 โดย Cupid » IP : บันทึกการเข้า
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,941


Experience is the best teacher.


« ตอบ #439 เมื่อ: วันที่ 05 กุมภาพันธ์ 2012, 12:05:19 »


วิขาการ กับ ปฏิบัติการ 

วิชาการ เป็นแนวทางนำให้เกิดความคิด จินตนาการ คิดอย่างโน้น คิดอย่างนี้ ตามหลักการทางวิชาการ
ที่ศึกษาจากครูบาอาจารย์ จากคำบอกเล่า หรือจากที่อ่านพบเจอในหนังสือ ตำราต่างๆ

ปฏิบัติการ เกิดจากการลงมือทำจริง นำให้เกิดประสบการณ์ ทักษะ ความชำนาญในสิ่งที่กระทำ
บางครั้ง หลายครั้งได้พบเจอปัญหาที่ไม่ตรงหรือไม่มีในตำรา ทุกอาชีพ ทุกวงการ มักเป็นอย่างนี้

ปัญหาเฉพาะหน้าจึงมีคำกล่าวว่า พลิกตำราไม่ทัน แต่ถ้าลงมือปฏิบัติบ่อยๆมากๆ ประสบการณ์ และ
ความชำนาญที่สะสมไว้ ช่วยให้เข้าใจ สามารถแก้ไขให้หลุดพ้นจากปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันท่วงที
มิให้ต้องเกิดความเสียหาย หรือเสียหายน้อยที่สุด

ในสนามแข่งขันท่านต้องตัดสินใจเองในปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ว่าจะเป็นนักมวย นักฟุตบอล ทนายความ
นักลงทุน หรืออื่นๆ เมื่อเผชิญกับสิ่งที่นอกเหนือหรือไม่มีในตำรา ต้องหาทางออกเองครับ ครู อาจารย์
ทุกท่าน หนังสือ ตำราทุกชนิด ทุกเล่ม คงไม่ละเอียดอ่อนครอบคลุมไปทุกตารางนิ้ว

ร้อยรู้ ฤาจักสู้หนึ่งทำ     สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็น ไม่เท่ามือคลำ
คำพังเพยนี้ใช้ได้ตลอดกาลครับ ไม่มีล้าสมัย ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 [22] 23 24 25 26 27 28 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!