คำสอนของศาสดา เบรกนี้ ผมขออนุญาตนำบทความของท่านอาจารย์ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ซึ่งเป็น VALUE INVESTOR
ที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงของนักลงทุน มานำเสนอบ้างนะครับ หลังจากที่ผมได้นำประสบ
การณ์ส่วนตัวมาเล่าสู่กันระยะหนึ่งแล้ว บทความนี้ได้ลงในหนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ ในคอลัมน์
"โลกในมุมมองของ VALUE INVESTOR" บทความชิ้นนี้ได้ลงพิมพ์มานานหลายปีแล้วละครับ ผมได้
ตัดเก็บไว้ (ไม่มีรายละเอียด วัน เดือน ปี) ดังนี้ครับ
คำสอนของศาสดาโดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร จากหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
เบน เกรแฮม บิดาของ Value Investment เขียนหนังสือ บทความ และสอนลูกศิษย์ เกี่ยวกับ
การลงทุนมากมาย ต่อไปนี้คือหลักการสำคัญๆ 10 ข้อ ที่ Value Investor ควรจดจำและนำไปปฏิบัติ
ข้อแรก จงเป็นนักลงทุน อย่าเป็นนักเก็งกำไร โดยคำจำกัดความของนักเก็งกำไรก็คือ คนที่แสวง
หากำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น โดยไม่คำนึงถึงมูลค่าที่แท้จริงของกิจการ ส่วนนักลงทุน
ก็คือคนที่ซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานของบริษัทฯ และขายเมื่อหุ้นวิ่งขึ้นไปเกินมูลค่าที่แท้จริง
ข้อสอง การคำนวณหามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ มีสูตรคือ
มูลค่าของหุ้น = EPS (8.5+2xG)
โดยEPS คือกำไรต่อหุ้น ส่วน G คืออัตราการเจริญเติบโตของกำไรต่อหุ้นต่อปี โดยคิดเฉลี่ย
ไป 7-10 ปีในอนาคต ตัวอย่างเช่นหุ้น ก มีกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 2 บาท และเราคาดว่ากำไรต่อหุ้นนี้
จะโตปีละ 5% โดยเฉลี่ยตลอด 10 ปีข้างหน้า มูลค่าของหุ้นจะเท่ากับ 2(8.5+2x5) หรือเท่ากับ 37 บาท
ข้อสาม จงรู้ว่า กิจการมีราคาเท่าไร สิ่งนี้ทำได้โดยเอาราคาหุ้นคูณด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดที่มีอยู่
หรือที่จะมีเนื่องจากการแปลงสภาพ หรือใช้สิทธิของวอร์แรนท์ พูดง่ายๆก็คือ ถ้าเราจะเป็นเจ้าของ
กิจการทั้งหมดคนเดียว จะต้องจ่ายเงินซื้อในราคาเท่าไร
ข้อสี่ จงตระหนักว่า เราไม่สามารถคำนวณมูลค่าที่แท้จริงได้อย่างแม่นยำ เพราะฉะนั้นจะต้องมี
การ “เผื่อ” การผิดพลาด หรือจะต้องมี Margin of Safety ในการซื้อหุ้น นั่นก็คือ ต้องซื้อหุ้นที่มีราคา
ต่ำกว่ามูลค่าที่คำนวณได้ ไม่ต่ำกว่า 20%
ข้อห้า ต้องกระจายความเสี่ยงในการลงทุน เม็ดเงินที่จะลงทุนในหุ้น ควรจะอยู่ระหว่าง 25% ถึง
75% ที่เหลือควรเป็นพันธบัตรหรือเงินสด ขึ้นอยู่กับภาวะตลาดหุ้นว่า มีค่า PE ของตลาดสูงหรือต่ำ
หรือมีการจ่ายปันผลสูงหรือต่ำ เทียบกับอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตร การซื้อหุ้นเอง ก็ควรซื้อหุ้นกระ
จาย อย่าให้มีหุ้นที่ “หนักพอร์ต” ควรมีหุ้นอย่างน้อย 30 ตัว (คำสอนข้อนี้จะแตกต่างจากแนวของ
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ ที่ถือหุ้นน้อยตัวกว่ามาก)
เบรกนี้ขอแค่ 5 ข้อก่อนนะครับ อีก 5 ข้อ ขอติดไว้ก่อน พิมพ์และจัดหน้า เหนื่อยน่ะครับ
ขออนุญาตต่อ 5 ข้อที่เหลือครับ ข้อหก หุ้นที่จ่ายปันผลต่อเนื่องยาวนานจะมีความเสี่ยงต่ำ คำว่ายาวนานสำหรับ เบน เกรแฮม คือ
20 ปีขึ้นไป เขาเห็นว่าการดูแลผู้ถือหุ้นดีที่สุดก็คือการที่บริษัทฯจ่ายปันผลในอัตราที่เหมาะสมให้กับผู้
ถือหุ้น ส่วนบริษัทฯที่จ่ายปันผลน้อยนั้น นอกจากจะทำให้ผู้ถือหุ้นขาดรายได้จากการลงทุนแล้ว
ราคาหุ้นยังมักจะไม่ค่อยวิ่งไปไหน
ข้อเจ็ด เมื่อเกิดความสงสัย ให้ยึดคุณภาพ เพราะบริษัทฯที่มีกำไรดี มีการจ่ายปันผลแน่นอนสม่ำ
เสมอ มีหนี้น้อย มีค่า PE ที่สมเหตุสมผล ปลอดภัยกว่าหุ้นที่มีคุณภาพต่ำ เบน เกรแฮม พูดว่า นักลงทุน
จะไม่ผิดพลาดหรือเจ็บตัวหนักจากการซื้อหุ้นคุณภาพดีในราคาที่ยุติธรรม แต่เขาจะเสียหายมากจากการ
ซื้อหุ้นเน่า โดยเฉพาะที่ถูกปั่นทำราคาด้วยวิธีการต่างๆ และบ่อยครั้งอยู่เหมือนกันที่เขาตัดสินใจผิดพลาด
โดยการไปซื้อหุ้นของกิจการที่ดี แต่ไปซื้อในช่วงที่ตลาดฯบูมเป็นกระทิงเปลี่ยว ทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้น
ไปถึงบนยอดดอย
ข้อแปด ระวังตัวเลขข้อมูลจากบริษัทฯ เนื่องจากข้อมูลกำไรของบริษัทฯ และการคาดการณ์ผลการ
ดำเนินงานในอนาคต เป็นสิ่งที่จะทำให้ราคาหุ้นวิ่ง ดังนั้น ข้อมูลเหล่านี้อาจถูกตกแต่งให้ดูดีกว่าความเป็น
จริง หรือสร้างภาพให้ดีเกินกว่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นก่อนที่จะลงทุนซื้อหุ้น ควรศึกษาให้ลึกซึ้งเสียก่อนว่า
อะไรเป็นอะไร
ข้อเก้า จงอดทน เบน เกรแฮม พูดว่า นักลงทุนทุกคนควรเตรียมตัวเตรียมใจในการรับกับภาวะที
ตลาดฯตกต่ำในบางช่วงเวลาสั้นๆ ปี หรือสองปี ซึ่งเขาอาจจะขาดทุน “เป็นตัวเลข” แต่ถ้าเขาไม่ขายและ
ถือหุ้นต่อไป เขาก็มักจะได้เงินคืน โดยทั่วไปแล้วถ้าถือหุ้นตั้งแต่ห้าปีขึ้นไป โอกาสได้กำไรในอัตราที
เหมาะสมจะมีสูง
ข้อสิบ คิดเอง อย่าซื้อขายหุ้นตามแห่ เบนบอกว่า มีเงื่อนไขสองประการในการที่จะประสบความ
สำเร็จในตลาดหุ้น ข้อหนึ่งคือ คุณจะต้องคิดอย่างถูกต้อง และข้อสอง คุณจะต้องคิดเอง อย่าเชื่อคนอื่น
คำสอนของเบน เกรแฮม มีมานานแล้ว สานุศิษย์ของเบน เกรแฮม ที่ประสบความสำเร็จสูง ต่างก็นำ
มาประยุกต์ใช้ และแนะนำสั่งสอนนักลงทุนรุ่นใหม่ต่อกันมานาน จนหลายๆเรื่องเราคิดว่าเป็นความคิดของ
คนที่พูด แต่เมื่อศึกษาย้อนกลับไป จะพบว่าพื้นฐานนั้นมาจากหนังสือ หรือคำสอนของเบน เกรแฮม ที่อาจ
จะ “ซึม” เข้าไปอยู่ในความคิดของลูกศิษย์อย่างไม่รู้ตัว คำสอนสิบข้อนี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นใน
“คัมภีร์ไบเบิล” จากศาสดาที่ชื่อว่า “เบน เกรแฮม”