|
|
|
|
|
punya
ชั้นประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 174
ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 23 พฤษภาคม 2011, 13:02:17 » |
|
ต้นยางอายุ 6 ปีกว่าๆๆแล้วค่ะ คิดว่าจะเริ่มกรีดเร็วๆๆนี้ บำรุงเรื่อยเปื่อยมาแบบคนนี้บอกบ้างคนนั้นบอกบ้าง ใกล้จะกรีดแล้ว นี่จะบำรุงให้ได้น้ำยางยังงัยดีค่ะ? แล้ว อุปกรณ์ในการกรีดนี่ มีไรบ้างค่ะ ราคาประมาณเท่าไหร่? จะเรียนกรีดยางได้จากไหนบ้างค่ะ? รบกวนผู้รู้ทีค่ะ
อยู่แถวไหนครับ ผมสอนให้ก็ได้ครับฟรีฟรี ขอบคุณค่ะ
|
|
|
|
samson
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 24 พฤษภาคม 2011, 10:32:51 » |
|
|
|
|
|
punya
ชั้นประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 174
ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 24 พฤษภาคม 2011, 10:46:09 » |
|
|
|
|
|
moonew1986
เตรียมอนุบาล
ออฟไลน์
กระทู้: 80
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 04 มิถุนายน 2011, 04:33:10 » |
|
พี่ชายเราทำเกี่ยวกับยางพาราอยู่อะคะ แล้วก้อรับซื้อด้วยนะคะ เขามีสูตรปุ๋ย มีวิธีวัดสภาพน้ำยาง หลายอย่างคะ ถ้าอยากหาข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเบอร์เราก้อได้นะ 083 7631149 (ชื่อ ใหม่ นะคะ) (pinn BB) 23b911c1 Email new-york1986@hotmail.comยินดีให้คำปรึกษา นะคะ
|
|
|
|
|
punya
ชั้นประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 174
ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 22 มิถุนายน 2011, 15:00:17 » |
|
พี่ชายเราทำเกี่ยวกับยางพาราอยู่อะคะ แล้วก้อรับซื้อด้วยนะคะ เขามีสูตรปุ๋ย มีวิธีวัดสภาพน้ำยาง หลายอย่างคะ ถ้าอยากหาข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเบอร์เราก้อได้นะ 083 7631149 (ชื่อ ใหม่ นะคะ) (pinn BB) 23b911c1 Email new-york1986@hotmail.comขอบคุณค่ะ ยังงัยจะขอคำแนะนำค่ะ ยินดีให้คำปรึกษา นะคะ
|
|
|
|
|
samson
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 04 กรกฎาคม 2011, 15:53:21 » |
|
ไม่ได้เป็นผู้รู้หรือนักวิชาการใดๆทั้งสิ้น ประสบการร์ล้วนๆครับ อ้างอิงจากสวนยางพาราในภาคใต้สาเหตหลักๆที่ต้องกรีดยางกันกลางคืนเพราะว่ากลางคืนอากาศเย็นท่ออาหารหรือท่อน้ำยางในเปลือกยากจะปิดช้าทำให้น้ำยางไหลได้มากกว่ามันจะแข็งต้วแล้วก็ท่อจะปิดเนื่องจากทางใต้อากาศมันร้อนครับเจ็ดโมงกว่าหรือแปดโมงนี่ก็แดดเปรี้ยงแล้วบางวัน
สำหรับที่สวนผมเองลูกจ้างจะกรีดประมาณตีสองถึงตีสามแล้วจะเก็บน้ำยางประมาณหกโมงเช้าประมาณเจ็ดโมงก็เสร็จเอาน้ำยางไปขายสหกรณ์ ไม่ทราบเหมือนกันว่าทางนี้มีสหกรณ์รับซื้อน้ำยางกันหรือยังหากรวมตัวกันได้ก็จะเป็นการดี ประหยัดเวลาไม่ต้องทำแผ่น ขายได้ราคาดีเพราะมีปริมาณเยอะมีอำนาจต่อรองไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางหลายทอด
|
|
|
|
punya
ชั้นประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 174
ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 04 กรกฎาคม 2011, 16:12:17 » |
|
ไม่ได้เป็นผู้รู้หรือนักวิชาการใดๆทั้งสิ้น ประสบการร์ล้วนๆครับ อ้างอิงจากสวนยางพาราในภาคใต้สาเหตหลักๆที่ต้องกรีดยางกันกลางคืนเพราะว่ากลางคืนอากาศเย็นท่ออาหารหรือท่อน้ำยางในเปลือกยากจะปิดช้าทำให้น้ำยางไหลได้มากกว่ามันจะแข็งต้วแล้วก็ท่อจะปิดเนื่องจากทางใต้อากาศมันร้อนครับเจ็ดโมงกว่าหรือแปดโมงนี่ก็แดดเปรี้ยงแล้วบางวัน
สำหรับที่สวนผมเองลูกจ้างจะกรีดประมาณตีสองถึงตีสามแล้วจะเก็บน้ำยางประมาณหกโมงเช้าประมาณเจ็ดโมงก็เสร็จเอาน้ำยางไปขายสหกรณ์ ไม่ทราบเหมือนกันว่าทางนี้มีสหกรณ์รับซื้อน้ำยางกันหรือยังหากรวมตัวกันได้ก็จะเป็นการดี ประหยัดเวลาไม่ต้องทำแผ่น ขายได้ราคาดีเพราะมีปริมาณเยอะมีอำนาจต่อรองไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางหลายทอด
ขอบคุณข้อมูลดีๆๆที่นำมาแบ่งปันค่ะ อย่างนี้คงต้องตื่นปลุกไก่ แถบนี้ยังไม่มีสหกรณ์ค่ะ ขายให้พ่อค้า พ่อค้้าก็รวยกันไปได้กำไรกันบาน มีเป็นกลุ่มผู้ปลูกยางพารา น่าจะมีการจัดตั้งสหกรณ์เร็วๆๆนี้คะ
|
|
|
|
samson
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 05 กรกฎาคม 2011, 23:23:33 » |
|
ไม่ได้เป็นผู้รู้หรือนักวิชาการใดๆทั้งสิ้น ประสบการร์ล้วนๆครับ อ้างอิงจากสวนยางพาราในภาคใต้สาเหตหลักๆที่ต้องกรีดยางกันกลางคืนเพราะว่ากลางคืนอากาศเย็นท่ออาหารหรือท่อน้ำยางในเปลือกยากจะปิดช้าทำให้น้ำยางไหลได้มากกว่ามันจะแข็งต้วแล้วก็ท่อจะปิดเนื่องจากทางใต้อากาศมันร้อนครับเจ็ดโมงกว่าหรือแปดโมงนี่ก็แดดเปรี้ยงแล้วบางวัน
สำหรับที่สวนผมเองลูกจ้างจะกรีดประมาณตีสองถึงตีสามแล้วจะเก็บน้ำยางประมาณหกโมงเช้าประมาณเจ็ดโมงก็เสร็จเอาน้ำยางไปขายสหกรณ์ ไม่ทราบเหมือนกันว่าทางนี้มีสหกรณ์รับซื้อน้ำยางกันหรือยังหากรวมตัวกันได้ก็จะเป็นการดี ประหยัดเวลาไม่ต้องทำแผ่น ขายได้ราคาดีเพราะมีปริมาณเยอะมีอำนาจต่อรองไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางหลายทอด
ขอบคุณข้อมูลดีๆๆที่นำมาแบ่งปันค่ะ อย่างนี้คงต้องตื่นปลุกไก่ แถบนี้ยังไม่มีสหกรณ์ค่ะ ขายให้พ่อค้า พ่อค้้าก็รวยกันไปได้กำไรกันบาน มีเป็นกลุ่มผู้ปลูกยางพารา น่าจะมีการจัดตั้งสหกรณ์เร็วๆๆนี้คะ ตื่นก่อนไก่แต่มีเวลาว่างทั้งวันครับ ถ้าไม่ได้ขายเป็นน้ำยางก็น่าจะเสร็จก็คงราวๆ 10 - 11 โมงล่ะครับคุณว่าที่แม่เลี้ยง punya เดี๋ยวนี้สบายมีเครื่องทุ่นแรงเยอะรีดก็ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า หลายคนบอกเป็นอาชีพที่เหนื่อยแต่พอเป็นเงินแล้วจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งครับ ได้ยางแผ่นสัก 30 แผ่นต่อวัน วันนึงคร่าวๆก็สี่พันแล้วครับดีกว่าทำงานอย่างอื่นเยอะเลย
|
|
|
|
punya
ชั้นประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 174
ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 06 กรกฎาคม 2011, 10:46:41 » |
|
ไม่ได้เป็นผู้รู้หรือนักวิชาการใดๆทั้งสิ้น ประสบการร์ล้วนๆครับ อ้างอิงจากสวนยางพาราในภาคใต้สาเหตหลักๆที่ต้องกรีดยางกันกลางคืนเพราะว่ากลางคืนอากาศเย็นท่ออาหารหรือท่อน้ำยางในเปลือกยากจะปิดช้าทำให้น้ำยางไหลได้มากกว่ามันจะแข็งต้วแล้วก็ท่อจะปิดเนื่องจากทางใต้อากาศมันร้อนครับเจ็ดโมงกว่าหรือแปดโมงนี่ก็แดดเปรี้ยงแล้วบางวัน
สำหรับที่สวนผมเองลูกจ้างจะกรีดประมาณตีสองถึงตีสามแล้วจะเก็บน้ำยางประมาณหกโมงเช้าประมาณเจ็ดโมงก็เสร็จเอาน้ำยางไปขายสหกรณ์ ไม่ทราบเหมือนกันว่าทางนี้มีสหกรณ์รับซื้อน้ำยางกันหรือยังหากรวมตัวกันได้ก็จะเป็นการดี ประหยัดเวลาไม่ต้องทำแผ่น ขายได้ราคาดีเพราะมีปริมาณเยอะมีอำนาจต่อรองไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางหลายทอด
ขอบคุณข้อมูลดีๆๆที่นำมาแบ่งปันค่ะ อย่างนี้คงต้องตื่นปลุกไก่ แถบนี้ยังไม่มีสหกรณ์ค่ะ ขายให้พ่อค้า พ่อค้้าก็รวยกันไปได้กำไรกันบาน มีเป็นกลุ่มผู้ปลูกยางพารา น่าจะมีการจัดตั้งสหกรณ์เร็วๆๆนี้คะ ตื่นก่อนไก่แต่มีเวลาว่างทั้งวันครับ ถ้าไม่ได้ขายเป็นน้ำยางก็น่าจะเสร็จก็คงราวๆ 10 - 11 โมงล่ะครับคุณว่าที่แม่เลี้ยง punya เดี๋ยวนี้สบายมีเครื่องทุ่นแรงเยอะรีดก็ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า หลายคนบอกเป็นอาชีพที่เหนื่อยแต่พอเป็นเงินแล้วจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งครับ ได้ยางแผ่นสัก 30 แผ่นต่อวัน วันนึงคร่าวๆก็สี่พันแล้วครับดีกว่าทำงานอย่างอื่นเยอะเลย ขอบคุณมากค่ะ ลางดีมากเลยค่ะที่เรียกแม่เลี้ยง คุณพ่อเลี้ยงsamson
|
|
|
|
|
samson
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 07 กรกฎาคม 2011, 23:12:50 » |
|
ก่อนหน้าที่จะขายน้ำยางผมก็คิดแบบคุณ cakecake น่ะแหละครับ แต่ถ้าพ่อค้าเค้าจะโกงมันก็ทำได้ทุกวิธีน่ะแหละครับอย่างกรณียางแผ่นมันก็มีช่องทางหารายได้หลายๆช่องทาง ทั้งช่องทางปกติโดยการกดราคาซื้อให้ถูกกว่าราคาตลาดเพื่อเอาส่วนต่าง การโกงตาชั่ง การตัดน้ำหนักโดนอ้างยางมีความชื้น กรณีการขายน้ำยางมันก็เช่นเดียวกันครับ โดยทั่วไปการรับซื้อน้ำยางจะมีการวัดเปอร์เซ็นต์เนื้อยางแห้งอยู่ 2 วิธีครับ วิธีที่ 1 คือการวัดโดยใช้เมโทรแลคหรือเรียกอีกอย่างว่าลาเท็กซ์โซมิเตอร์ โดยเป็นการวัดจากค่าความถ่วงจำเพาะของน้ำและน้ำยางวิธีการคือตักน้ำยางมา 350 cc. ผสมกับน้ำปริมาณ 350 cc. จากนั้นคนให้เข้ากันนำไปเทใส่กระบอกตวงแล้วจุ่มเมโทรแลคลงไป รอจนเมโทรแลคลอยขึ้นมาจนนิ่งจึงอ่านค่าจากสเกล แล้วจึงนำค่าไปคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ยางแห้ง วิธีนี้มีข้อเสียหลายอย่างคือมีความคลาดเคลื่อนสูง อาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม อาจเติมสารบางอย่างลงไป หรือการผสมน้ำกับน้ำยางในอัตราที่ไม่ถูกต้อง หรือการทำให้น้ำยางมีอุณหภูมิเปลี่ยนไปก็ทำให้ค่าที่อ่านได้คลาดเคลื่อน มาดูวิธีที่ 2 กันต่อ โดยการอบแห้งตัวอย่างน้ำยางที่เก็บมา วิธีนี้ต้องใช้เครื่องชั่งอิเล็คทรอนิกส์ที่ความละเอียดสูงอย่างน้อยที่สุดก็ควรมีทศนิยมสองตำแหน่ง วิธีการคือตักน้ำยางมาจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นตัวอย่าง ชั่งแล้วจดน้ำหนักไว้ จากนั้นเติมน้ำและเติมกรดเหมือนกับเราทำแผ่นยางนี่แหละครับ เมื่อยางแข็งตัวก็นำไปรีดให้มีความหนาไม่เกิน 2 mm. เนื่องจากน้ำยางตัวอย่างที่เก็บมามีจำนวนน้อยหากรีดหนาจะมีความชื้นในเนื้อยางสูง เมื่อรีดเสร็จก็นำไปอบจนแห้งแล้วน้ำมาชั่งน้ำหนักอีกครั้งแล้วจึงคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ยางแห้ง
|
|
|
|
samson
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 07 กรกฎาคม 2011, 23:30:04 » |
|
สำหรับสวนยางที่บ้านนั้นตอนนี้เป็นสมาชิกของสหกรณ์ยางพาราบ้านเสม็ดจวน ซึ่งมีห้องอบยางเป็นยางแผ่นรมควัน ข้อดีของการจำหน่ายให้กับสหกรณ์ก็คือทุกอย่างมีหลักฐานสามารถตรวจสอบได้ การวัดเปอร์เซ็นต์เนื้อยางแห้งที่สหกรณ์ก็ใช้การวัดโดยการอบแห้งตัวอย่างน้ำยาง เมื่อนำน้ำยางมาส่งก็จะชั่งไว้เสร็จแล้วก็จะเก็บตัวอย่างไปผ่านกระบวนการที่กล่าวมาข้างต้นน่ะครับ ข้อดีประการที่สองคือไม่มีการโกงเพราะโกงไปก็ไม่ได้ตัวเองเพราะกำไรที่ได้หลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสหกรณ์แล้วก็หักเข้าชุมนุมสหกรณ์แห่งประเทศไทยตามระเบียบราชการจากนั้นเหลือเท่าไหร่สิ้นปีก็จัดสรรค์แบ่งตามปริมาณการขายน้ำยางใครขายให้สกรณ์เยอะก็ได้เยอะเพราะมีข้อมูลบันทึกไว้ว่าแต่ละคนในแต่ละวันขายไว้กี่กิโลกรัม ด้วยเหตุผลนี้แหละครับผมถึงอยากให้มีสหกรณ์และและทำเป็นโรงงานอบเป็นยางแผ่นรมควันในจังหวัดเชียงราย เท่าที่ได้ข่าวมาก็มีเป็นของเอกชนอยู่ที่ดอยหลวง ส่วนที่อื่นไม่ทราบเหมือนกันครับ ลดพ่อค้าคนกลางแล้วเราก็ขายได้ราคาแพงขึ้น ผลพลอยได้ก็คือเป็นการจ้างงานในท้องถิ่นอีกทางหนึ่งเพราะสหกรณ์ต้องมีเจ้าหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่การเงิน ธุรการ พนักงานในส่วนของโรงงานอบยาง ข้อดีอีกอย่างของสหกรณ์คือได้รับการยกเว้นการเก็บภาษี งบประมาณการสร้างโรงเรือน การทำโรงงานหรือเครื่องจักรทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดก็สนับสนุน สำหรับสหกรณ์ยางพาราบ้านเสม็ดจวนปีที่ผ่านมาได้รับรางวัลสหกรณ์บริหารจัดการดีเด่นลำดับที่สองของจังหวัดนครศรีธรรมราชครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 08 กรกฎาคม 2011, 09:58:06 โดย samson »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|