เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 มีนาคม 2024, 02:01:18
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ (ผู้ดูแล: bm farm)
| | |-+  ไผ่บงหวานสวนสรภพ 50 บาท
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ไผ่บงหวานสวนสรภพ 50 บาท  (อ่าน 949 ครั้ง)
bbview01
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42


« เมื่อ: วันที่ 11 พฤศจิกายน 2016, 08:43:01 »



ไผ่บงหวาน เป็นไผ่ขนาดเล็ก มีจุดเด่นตรงที่นำมารับประทานหน่อดิบได้ โดยไม่ต้องต้มเหมือนหน่อไม้ชนิดอื่น
ถ้าเปรียบเทียบก็จะคล้ายยอดมะพร้าว สามารถทำเมนูอาหารได้หลายชนิด เช่น  ยำ, ส้มตำ, ราดหน้า ฯลฯ

       รายละเอียดเพิ่มเติม  สวนสรภพ  0873229446, Line id = bbview01, www.suansorapop.com


IP : บันทึกการเข้า
24hr
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,208


ซื่อสัตย์และสัจจะ คือสิ่งสำคัญ


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 11 พฤศจิกายน 2016, 19:33:21 »

ไผ่บงหวาน นี่ สายพันธุ์มาจากที่ไหนครับ  เหมือนไผ่บงหวานเพชรน้ำผึ้งหรือเปล่า และ ไผ่รวกหวาน  เหมือน สายพันธุ์ภูกระดึง หรือเพชรเด่นชัย  หรือเปล่าครับ  อยากรู้ที่มา ครับ
IP : บันทึกการเข้า
ton2525
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 356



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 12 พฤศจิกายน 2016, 10:29:03 »

ไผ่บงหวาน นี่ สายพันธุ์มาจากที่ไหนครับ  เหมือนไผ่บงหวานเพชรน้ำผึ้งหรือเปล่า และ ไผ่รวกหวาน  เหมือน สายพันธุ์ภูกระดึง หรือเพชรเด่นชัย  หรือเปล่าครับ  อยากรู้ที่มา ครับ
ตามครับ
IP : บันทึกการเข้า
24hr
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,208


ซื่อสัตย์และสัจจะ คือสิ่งสำคัญ


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 12 พฤศจิกายน 2016, 12:47:14 »

เจ้าของกระทู้ ดั๊กปิ้ง
IP : บันทึกการเข้า
bbview01
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 12 พฤศจิกายน 2016, 18:18:47 »

ไผ่บงหวาน นี่ สายพันธุ์มาจากที่ไหนครับ  เหมือนไผ่บงหวานเพชรน้ำผึ้งหรือเปล่า และ ไผ่รวกหวาน  เหมือน สายพันธุ์ภูกระดึง หรือเพชรเด่นชัย  หรือเปล่าครับ  อยากรู้ที่มา ครับ

เป็นคำถามที่ดีมากเลยครับ...   เพื่อเป็นการไม่เสียมารยาทครับ  ขอตอบหลังไมค์ดีกว่าครับ(ตอบตรงนี้จะมีผลกระทบตามมาน่ะครับ)  จะตอบให้ละเอียดเลยครับ   0873229446, id = bbview01
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 12 พฤศจิกายน 2016, 19:19:59 โดย bbview01 » IP : บันทึกการเข้า
24hr
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,208


ซื่อสัตย์และสัจจะ คือสิ่งสำคัญ


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 12 พฤศจิกายน 2016, 20:03:03 »

จริงๆแล้ว ในเวปเกษตรตรงนี้ มีผู้สนใจอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับไผ่หวาน เหมือนกันครับ  ท่านอธิบายมา ชี้แจงมา ผมว่าไม่เป็นการเสียมารยาท หรือผลกระทบต่อบุคคลใด บุคคลหนึ่งครับ  ยิ่งจะเป็นการดีที่ได้ข้อมูลมาเปรียบเทียบเพื่อให้ตัดสินใจในการจะซื้อต้นพันธุ์ไปปลูก  และยิ่งเป็นการดีที่รู้ที่ไปที่มาว่ามาจากแหล่งไหน..คนขายต้นพันธุ์ต้องระบุที่มาได้ครับ เพื่อนำเสนอข้อมูลดีดีต่อลูกค้าได้  คนซื้อจะได้ไม่อ้ำอึ้งหรือลังเล ในการตัดสินใจเลือกซื้อได้ หวังว่าท่านเจ้าของกระทู้จะเข้าใจเหตุผลนะครับเพราะไม่ใช่ผมคนเดียวที่อยากรู้แต่เป็นพี่น้องสมาชิกที่เข้ามาเปิดอ่านด้วย
IP : บันทึกการเข้า
sdoopy
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 702



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 12 พฤศจิกายน 2016, 21:27:14 »

จริงๆแล้ว ในเวปเกษตรตรงนี้ มีผู้สนใจอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับไผ่หวาน เหมือนกันครับ  ท่านอธิบายมา ชี้แจงมา ผมว่าไม่เป็นการเสียมารยาท หรือผลกระทบต่อบุคคลใด บุคคลหนึ่งครับ  ยิ่งจะเป็นการดีที่ได้ข้อมูลมาเปรียบเทียบเพื่อให้ตัดสินใจในการจะซื้อต้นพันธุ์ไปปลูก  และยิ่งเป็นการดีที่รู้ที่ไปที่มาว่ามาจากแหล่งไหน..คนขายต้นพันธุ์ต้องระบุที่มาได้ครับ เพื่อนำเสนอข้อมูลดีดีต่อลูกค้าได้  คนซื้อจะได้ไม่อ้ำอึ้งหรือลังเล ในการตัดสินใจเลือกซื้อได้ หวังว่าท่านเจ้าของกระทู้จะเข้าใจเหตุผลนะครับเพราะไม่ใช่ผมคนเดียวที่อยากรู้แต่เป็นพี่น้องสมาชิกที่เข้ามาเปิดอ่านด้วย
ใช่เลยครับท่าน ผมก็อยากรู้ และสนใจ เช่นกันครับ
IP : บันทึกการเข้า

The only man who never makes mistakes is the man who never does anything.
bbview01
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 13 พฤศจิกายน 2016, 19:42:17 »

จริงๆแล้ว ในเวปเกษตรตรงนี้ มีผู้สนใจอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับไผ่หวาน เหมือนกันครับ  ท่านอธิบายมา ชี้แจงมา ผมว่าไม่เป็นการเสียมารยาท หรือผลกระทบต่อบุคคลใด บุคคลหนึ่งครับ  ยิ่งจะเป็นการดีที่ได้ข้อมูลมาเปรียบเทียบเพื่อให้ตัดสินใจในการจะซื้อต้นพันธุ์ไปปลูก  และยิ่งเป็นการดีที่รู้ที่ไปที่มาว่ามาจากแหล่งไหน..คนขายต้นพันธุ์ต้องระบุที่มาได้ครับ เพื่อนำเสนอข้อมูลดีดีต่อลูกค้าได้  คนซื้อจะได้ไม่อ้ำอึ้งหรือลังเล ในการตัดสินใจเลือกซื้อได้ หวังว่าท่านเจ้าของกระทู้จะเข้าใจเหตุผลนะครับเพราะไม่ใช่ผมคนเดียวที่อยากรู้แต่เป็นพี่น้องสมาชิกที่เข้ามาเปิดอ่านด้วย

ข้อมูลเกี่ยวกับไผ่

ในประเทศไทยมีพันธุ์ไผ่หลากหลายชนิด ทางสวนไผ่โพธิ์พระยา สุพรรณบุรี จึงได้รวบรวมชื่อไผ่ในเมืองไทยและจำแนกลักษณะคร่าวๆ เพื่อให้สมาชิกสามารถแยก ชนิดและลักษณะพันธุ์ไผ่ในเมืองไทยได้พอสังเขป

       ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ไผ่เป็นพันธุ์ไม้ยืนต้น ลำต้นแตกเป็นกอเป็นไม้พุ่มเล็กถึงขนาดใหญ่ กอหนึ่งมีประมาณ20-25ต้นพอ ลำต้นมีความสูงประมาณ5-15เมตร ลักษณะลำต้นเป็นข้อปล้อง ผิวเกลี้ยงแข็งมีสีเขียวหรือเหลืองแถบเขียว ขนาดสีขึ้นอยู่กับพันธุ์และชนิด ใบเป็นใบเดี่ยว กว้างประมาณ1-2นิ้ว ยาวประมาณ5-12นิ้ว ออกดอกเป็นช่อตามปลายยอดเมื่อไผ่ออกดอก ไผ่จะตายไปชาวบ้านทั่วไปเรียกไผ่ตายขุย คือตายทั้งตระกูล ผลหรือลูก คล้ายเมล็ดข้าวสาร

              ถิ่นกำเนิด

ไผ่ มีถิ่นกำเนิดและการกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางเกือบทุกส่วนของโลก จัดอยู่ใน

ตระกูลหญ้า (Gramineae) และเป็นตระกูลหญ้าที่มีลำต้นสูงที่สุดในโลก เจริญเติบโตได้ดีทุกทวีป แต่พบมากที่สุดทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนในเขตอบอุ่นก็พบไผ่อยู่บ้างแต่มีสกุลน้อยกว่าเขตร้อน

การแบ่งประเภทของไผ่ได้เป็น 3กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้คือ

      1.พันธุ์ไผ่ที่ใช้ประโยชน์ในการ อุปโภค-บริโภค

      2.พันธุ์ไผ่ที่หลากหลายสี เช่น ดำ เหลือง ทอง แดง ม่วง ชมพู

      3.พันธุ์ไผ่ที่สวยงามแปลกตา เช่นไผ่น้ำเต้า น้ำเต้าลาย-ทอง

การจำแนกสายพันธุ์ไผ่ที่พบในเมืองไทย

          1.สกุลอะรันดินาเรีย มีอยู่2ชนิดคือ ไผ่โจด และไผ่เพ็ก (หญ้าเพ็ก)

ไผ่โจด พบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลำต้นมีสีเขียวอมเทามีความสูงประมาณ5เมตร ปล้องค่อนข้างสั้น 10-20 ซม. มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ7-10 มม. ไม่มีหนามหน่อมีสีเทาแกมเหลือง ลำต้นใช้ทำด้ามไม้กวาด จุดเด่นคือเหง้ามีลักษณะเด่นแปลกตา จึงนิยมมาทำเครื่องประดับภายในบ้าน อาจปลูกเป็นแนวรั้ว

และปลูกเป็นไผ่ประดับในบริเวณบ้าน หน่อใช้รับประทานได้

           ไผ่เพ็กหรือหญ้าเพ็ก ไผ่ชนิดนี้พบได้ในไทย เวียดนามและกัมพูชา ส่วนในประเทศไทยพบมากทางอีสาน เจริญได้ดีในเขตแห้งแล้ง จึงเกิดไฟไหม้ป่าไผ่ชนิดนี้อยู่เป็นประจำ ลำต้นสูงไม่เกิน3เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5-7 มม.ขนาดของปล้องมีความยาว20-30 ซม. ขึ้นรวมเป็นกอ นิยมเอามาทำแผงตากสาหร่ายทะเล

       2.สกุลแบมบูซ่า แบ่งออกได้ 11ชนิด คือ ไผ่บง ไผ่ป่า(ไผ่หนาม) ไผ่ลำมะลอก ไผ่เหลือง(ไผ่จีน) ไผ่หอบ(ไผ่หอม) ไผ่เลี้ยง ไผ่สีสุก ไผ่บงหวาน ไผ่คันร่ม(ไผ่เปร็ง) ไผ่ดำ(ไผ่ตาดำ) และไผ่น้ำเต้า

           ไผ่บง พบได้ทั่วไปตามป่าดงดิบ เป็นไผ่ขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางของปล้อง6-10ซม. ความยาวปล้อง 20-30ซม. สูงประมาณ9-12เมตร ลำต้นนิยมใช้ทำเสื่อลำแพนและเยื่อกระดาษหน่ออ่อนนิยมมารับประทาน แม้จะมีรสขมอยู่บ้าง

ไผ่ป่า หรือไผ่หนาม พบได้ทุกภูมิภาคของประเทศ ต้นอ่อนมีสีเขียวเข้ม เมื่อแก่จัดมีสีเขียวอมเหลือง เป็นไผ่ขนาดใหญ่ มีหนามคมและขนมาก เส้นผ่าศูนย์กลางของปล้อง 10-15 เซนติเมตร ลำต้นใช้ทำนั่งร้านในการก่อสร้างหรือทาสีอาคาร และทำเครื่องจักสานอื่น หน่อใช้รับประทานได้

ไผ่ลำมะลอก พบได้ในทุกภูมิภาคของประเทศ แต่ในภาคใต้จะพบน้อยกว่าภาคอื่น ลำต้นมีสีเขียวเข้ม ไม่มีหนาม ข้อเรียบ กิ่งก้านและใบเกิดที่บริเวณลำต้น สูงจากพื้นดิน 6-7 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 7-10 เซนติเมตร สูงเฉลี่ย 10-15 เมตร ลำต้นค่อนข้างไม่อัดแน่น นิยมนำมาใช้ทำนั่งร้านในการก่อสร้าง ทำเสาโป๊ะ เฟอร์นิเจอร์ และงานจักสารที่ไม่ต้องการความประณีต หน่อใช้รับประทานได้

ไผ่เหลือง หรือ ไผ่จีน ไผ่ชนิดนี้สันนิษฐานว่านำเข้าจากประเทศจีน จึงไม่พบทั่วไป ลำต้นมีสีเหลือง มีลายเส้นเป็นแถบสีเขียว พากตามความยาวของปล้อง ผิวเกลี้ยง มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5-10 เซนติเมตร ความยาวปล้องประมาณ 20-25 เซนติเมตร ความสูงเฉลี่ย 10-15 เมตร หน่อมีสีเหลืองอ่อน นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ เนื่องจากลำต้นมีสีสวยงาม หน่อใช้บริโภคได้แต่ไม่เป็นที่นิยม

ไผ่หอบ หรือ ไผ่หอม พบมากที่จังหวัดเชียงราย ลำต้นสูงประมาณ 10 เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางของปล้อง 7.5-15 เซนติเมตร และยาว 40 เซนติเมตร ใบมีขน เมื่อสัมผัสผิวหนังจะรู้สึกระคายเคืองและคัน ลำต้นใช้ประโยชน์ได้น้อย หน่อมีรสขม จึงไม่มีการนำมารับประทาน

ไผ่เลี้ยง พบมากในภาคกลาง ลำต้นมีสีเขียวสด เป็นไผ่ขนาดเล็ก ปล้องมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3 เซนติเมตร และยาว 20-25 เซนติเมตร ลำต้นไม่มีหนาม นิยมใช้ทำคันเบ็ดและส่วนประกอบของเฟอร์นิเจอร์ ลำต้นแข็งแรง เนื้อต้นเกือบไม่มีช่องว่างภายใน บางแห่งนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ หน่อรับประทานได้ แต่ไม่นิยมรับประทาน

ไผ่สีสุก พบได้ทั่วไป แต่พบมากในบริเวณภาคกลางของประเทศ เป็นไผ่ชนิดที่สูงใหญ่ ลำต้นสีเขียวสด หน่อสีเทาอมเขียว ปล้องมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 7-10 เซนติเมตร ยาว 10-30 เซนติเมตร บริเวณข้อมีกิ่งคล้ายหนามหน่อมีขนาดใหญ่ มีขนสีน้ำตาล น้ำหนักหน่อประมาณ 3-4   กิโลกรัม ไผ่ชนิดนี้มีเนื้อหนาแข็งแรง ทนทานและเหนียว จึงนิยมนำไปใช้ประโยชน์มากกว่าไผ่ชนิดอื่นๆ ไม่ว่าจะทำเครื่องจักสาร เฟอร์นิเจอร์ นั่งร้านในการก่อสร้าง และนอกจากนี้ส่วนโคนของลำต้นยังนิยมใช้ทำไม้คานสำหรับหาบหามได้ดีมาก

            ไผ่บงหวาน พบได้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพบมากที่สุดที่จังหวัดเลย ลำต้นอ่อนมีสีเขียวใบไม้ เมื่อแก่มีสีเขียวเข้ม เส้นผ่าศูนย์กลางของปล้อง 5-8 เซนติเมตร สูง 5-10 เมตร มีหน่อสีเขียว น้ำหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม ลำต้นนิยมนำมาทำดอกมัดสิ่งของ ทำไม้ค้ำยัน บันไดและเครื่องจักสาน หน่อมีรสหวานหอมอร่อย นิยมนำมาประกอบอาหารได้หลากชนิด

            ไผ่คันร่ม หรือ ไผ่เปร็ง พบมากที่จังหวัดปราจีนบุรี ตราด และระยอง ลำต้นอ่อนมีสีเขียวใบไม้ เมื่อแก่จัดสีเขียวเข้ม เส้นผ่าศูนย์กลางของปล้อง 3-5 เซนติเมตร ต้นสูง 8-10 เมตร หน่อมีสีเขียวอมเทา แต่เลือกหน่อจะมีสีแดง ลำต้นมีเนื้อหนา จึงนิยมนำมาทำบันไดโป๊ะ และหลักของการเลี้ยงหอยแมลงภู่

            ไผ่ดำ หรือ ไผ่ตาดำ พบมากในป่าทึบ แถบจังหวัดกาญจนบุรี และจันทบุรี ต้นมีสีเขียวคล้ำเกือบเป็นสีดำ ไม่มีหนาม เส้นผ่าศูนย์กลางของปล้อง 7-10 เซนติเมตร และยาว 30-40 เซนติเมตร สูง 10-12 เมตร มีเนื้อหนา นิยมนำลำต้นไปใช้ทำนั่งร้านก่อสร้างและเครื่องจักสานต่างๆ หน่อใช้รับประทานได้

            ไผ่น้ำเต้า พบได้ทั่วไป เป็นไผ่ที่มีปล้องสั้น ลำมีสีเขียว อาจมีแถบสีเหลือตามปล้อง และจะโป่งออกตอนกลางปล้องและตอนกลางของกิ่ง ปล้องมีเส้นผ่าศูนย์ลาง 4-8 เซนติเมตร สูง 3-4 เมตร แขนงแตกออกจากต้นที่สูงจากระดับพื้นดินประมาณ 1.5 เมตร หน่อมีสีเหลือง ไผ่ชนิดนี้เชื่อว่านำเข้าจากประเทศจีน ไผ่น้ำเต้าส่วนใหญ่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับในบริเวณบ้านหรือปลูกในกระถางไว้โชว์

          3. สกุลเซฟาลอสทาคียัม มี 2 ชนิด คือ ไผ่ข้าวหลาม ไผ่เฮียะ หรือไผ่เหียะ

            ไผ่ข้าวหลาม พบมากบริเวณตอนเหนือของจังหวัดกาญจนบุรีและภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางส่วน มีปล้องยาว 30 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางของลำไผ่เฉลี่ย 5-7.5 เซนติเมตร ลำไผ่มีสีเขียวอมเทา มีความสูงเฉลี่ยระหว่าง 7-8 เมตร หน่อมีขนาดใหญ่ กาบน้ำสีหมากสุก ต้นไผ่นิยมนำมาทำกระบอกข้าวหลาม หน่อรับประทานได้แต่ไม่เป็นที่นิยม

            ไผ่เฮียะ หรือ ไผ่เหียะ ลำไผ่มีเส้นผ่าศูนย์ลาง 5-10 เซนติเมตร ปล้องยาว 50-70 เซนติเมตร ข้อเรียบ มีกิ่งเพียงเล็กน้อย เนื้อหนาประมาณ 1-2 เซนติเมตร มีความสูง 10-18 เมตร ลำต้นนำไปทำโครงสร้างบ้านเรือนและเครื่องจักสานต่างๆ หน่อรับประทานได้แต่ไม่เป็นที่นิยมกัน

            4. สกุลเดนโดรคาลัส ได้แก่ ไผ่ชาง หรือไผ่นวลหรือไผ่ปล้อง ไผ่หก หรือไผ่นวลใหญ่ ไผ่เป๊าะ หรือไผ่เปราะ ไผ่ตง

 

            ไผ่ซาง หรือ ไผ่นวล หรือ ไผ่ปล้อง พบในป่าดิบทั่วไป ลำต้นมีสีเขียวนวล ปล้องยาว 50-70 เซนติเมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3-12 เซนติเมตร ลำต้นสูง 8-10 เมตร ไม่มีหนาม หน่อมีสีน้ำตาลปนส้มและมีขนสีน้ำตาล ไผ่ชนิดนี้เนื้ออ่อนและเหนียว สามารถจักดอกเป็นเส้นเล็กๆได้ จึงนำยมนำมาใช้ทำเครื่องจักสานที่ต้องการรายละเอียดสูง หน่อรับประทานได้ ไผ่ซางหรือไผ่นวล พบมากที่ภาคเหนือ และภาคกลางของประเทศ ลำต้นใช้ทำนั่งร้านก่อสร้าง ทำเครื่องจักสาน และเยื่อกระดาษ หน่อใช้รับประทานได้

            ไผ่หก หรือ ไผ่นวลใหญ่ พบมากในภาคเหนือและจังหวัดกาญจนบุรี ไผ่ชนิดนี้ลำต้นมีสีเขียวอมเทา และมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 15-20 เซนติเมตร ปล้องมีความยาว 40-50 เซนติเมตร ลำต้นสูงประมาณ 10-15 เมตร ลำผ่นำยมนำมาทำเผื่อกระดาษ และเครื่องจักสานต่างๆ หน่อใช้รับประทานได้แม้มีรสเข้มอยู่บ้าง

            ไผ่เป๊าะ หรือ ไผ่เปราะ พบที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลำต้นมีสีเขียว มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 10-20 เซนติเมตร เนื้อแข็งเปราะ ข้อเรียบ ปล้องยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ลำต้นสูงถึง 30 เมตร หน่อมีขนาดใกล้เคียงกับลำผ่และมีสีเหลืองอมขาว ไผ่ชนิดนี้นิยมนำมาทำกระบอกข้าวหลาม ไม่นิยมนำมาทำเครื่องจักสาน เนื่องจากมีเนื้อแข็งและเปราะ

            ไผ่ตง มีมากในจังหวัดปราจีนบุรี ไผ่ตงเป็นไผ่ขนาดใหญ่ ลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6-15 เซนติเมตร ปล้องยาว 20 เซนติเมตร ปล้องยาว 20 เซนติเมตร ไม่มีหนาม โคนต้นมีลายสีขาวสลับเทา ลำต้นมีขนสั้นๆขึ้นอยู่ หน่อมีน้ำหนักประมาณ 3-10 กิโลกรัม ไผ่ตงแบ่งออกเป็นไผ่ตงเขียว ไผ่ตงดำ ไผ่ตงหม้อ และไผ่ตงหนู เนื้อไม้นิยมนำมาใช้ทำเครื่องจักสานและไม้จิ้มฟัน หนอนิยมนำมาปรุงอาหารได้หลากชนิด

            5. สกุลไดโนเคลา ได้แก่ ไผ่ลาน หรือไผ่เลื้อย

            ไผ่ลาน หรือ ไผ่เลื้อย พบมากในภาคใต้ของประเทศ ลำต้นมีลักษณะคลายเถาวัลย์เลื้อยหรือพาดไปตามต้นไม้ที่อยู่ใกล้เคียง ลำต้นมีสีเขียว เส้นผ่าศูนย์กลางองต้นไผ่ประมาณ 1 เซนติเมตร เนื้อบาง ใบและลำต้นมีขนสีน้ำตาลเป็นจำนวนมาก ปล้องยาว 10 -20 เซนติเมตร ไผ่ชนิดนี้นิยมนำไปใช้เป็นส่วนประกอบสมุนไพรรักษาโรค

            6. สกุลจิกแอนโทเคลา ได้แก่ ไผ่มัน หรือไผ่เปาะ ไผ่ไร่ ไผ่ไล่ลอ ไผ่แนะ หรือไผ่คาย ไผ่ผาก ไผ่คายดำ ไผ่บงคาย

            ไผ่มัน หรือ ไผ่เปาะ พบมากในภาคใต้ของประเทศ ลำไผ่สีเขียวมัน ไม่มีหนาม เส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ย 8-10 เซนติเมตร ปล้องยาว 30-40 เซนติเมตร ทรงกอโปร่ง ลำต้นสูง 10 -15 เมตร หน่อมีสีน้ำตาลแก มีน้ำหนักเฉลี่ย 3-4 กิโลกรัม ลำไผ่ใช้ทำส่วนประกอบโครง สร้างบ้านเรือนและเครื่องจักรสานต่างๆ หน่อใช้รับประทานได้

            ไผ่ไร่ พบได้ทุกภาคของประเทศ ลำต้นมีสีเขียวปนเทา ผิดสาก แต่ไม่มีหนาม มีขนทั่วลำต้น เป็นไผ่ขนาดเล็ก มีเส้นผ่าศูนย์กลางของลำต้นเพียง 1.5-2.5 เซนติเมตร ปล้องยาว 30 เซนติเมตร การแตกกอหนาแน่นมาก นิยมนำมาใช้ค้ำยัน หรือทำเสาหลักในการเกษตรบางชนิด

ไผ่ไล่ลอ ลำต้นสีเขียวอ่อน พบมากที่ภาคเหนือ ขณะแทงกิ่งผลิใบ ต้นไผ่กาบจะหลุดออกมาหมด มีเส้นผ่านศูนย์กลางของลำต้น 3-8 เซนติเมตร และมีปล้องยาว 14-50 เซนติเมตร ลำไผ่นิยมนำมาทำรั้วบ้าน คอกสัตว์ และทำเครื่องเรือนได้ดี หน่อใช้รับประทานได้ แต่ไม่เป็นที่นิยมกัน

ไผ่แนะ หรือ ไผ่คาย พบมากในป่าดิบภาคใต้ มีลำต้นสีเขียว เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-3 เซนติเมตร ปล้องยาว 30-35 เซนติเมตร มีความสูงเพียง 3-4 เมตร หน่อมีสีเหลือง ลำไผ่ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ หน่อใช้รับประทานได้ ไผ่ตากวาง พบในป่าดิบภาคใต้ ผิวลำต้นเกลี้ยง สีเขียวอมเหลือง มีเส้นผ่านศูนย์กลางของลำไผ่ 4-6 เซนติเมตร ปล้องยาว 30-40 เซนติเมตร สูงประมาณ 5 เมตร ลำต้นใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ หน่อใช้รับประทานได้

ไผ่ผาก พบมากที่ภาคใต้และจังหวัดกาญจนบุรี มีลำต้นสีเขียว ไม่มีหนาม ไผ่ชนิดนี้เป็นไผ่ขนาดใหญ่ มีเส้นผ่านศูนย์กลางของลำไผ่ 10-13 เซนติเมตร มีหน่อขนาดใหญ่ มีน้ำหนัก 2-3 กิโลกรัม ลำไผ่ทำเข่งใส่ถ่านเพื่อจำหน่าย เครื่องใช้ในครัวและเยื่อกระดาษ หน่อมีรสขม ก่อนนำมาประกอบอาหารต้องต้มในน้ำร้อนและเททิ้ง 1-2 ครั้ง ก็ใช้ได้

ไผ่คายดำ พบที่จังหวัดกาญจนบุรีและระนอง ลำต้นมีสีเขียวเข้ม ปล้องห่าง ข้อใหญ่ ไม่มีหนาม เป็นไผ่ที่มีลำต้นสูงใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลางของลำไผ่ประมาณ 7-10 เซนติเมตร หน่อมีสีเขียว ไผ่ชนิดนี้ใช้ประโยชน์ได้น้อย ไม่เหมาะนำมาใช้ประโยชน์ เนื่องจากเนื้อไผ่เปราะหักง่าย หน่อมีรสขม จำไม่นิยมนำมาประกอบอาหาร

            ไผ่บงคาย พบมาที่จังหวังเชียงราย ลำต้นมีสีเขียวอ่อน ข้อปล้องมี 2 ชั้น ชั้นล่างเรียบ ส่วนชั้นบนมีปมราก ข้อต่อมีสีเขียวหม่น เส้นผ่านศูนย์กลางของลำไผ่ 5-8 เซนติเมตร และยาว 40-50 เซนติเมตร ลำต้นสูงประมาณ 10-13 เมตร ลำต้นใช้ทำเครื่องจักสานได้ดี หน่อไม้นิยมนำมาประกอบอาหารเนื่องจากมีรสชาติดี

7. สกุลมีโลแคนนา ไผ่สกุลนี้มีเพียงชนิดเดียวคือ ไผ่เกรียบ พบในป่าทึบทั่วไป เป็นไผ่มีลำต้นขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลาง 8-15 เซนติเมตร ปล้องยาว 50-120 เซนติเมตร เนื้อหนาเฉลี่ยครึ่งเซนติเมตร ข้อเรียบ แขนงเล็ก ต้นสูง 10-15 เมตร หน่อมีขนาดใหญ่ สีเขียวกาบสีเหลืองอมส้ม บริเวณข้อมีสีแดง ไผ่ชนิดนี้นำมาใช้ประโยชน์ได้น้อย ส่วนใหญ่ปลูกไว้ประดับสวน

8.สกุลนีโอฮูซัว พบเพียงชนิดเดียวคือ ไผ่หลอด พบที่จังหวัดตราด ลำต้นสีเขียวเป็นมัน ไผ่ชนิดนี้เป็นไผ่ขนาดมีขนาดเล็ก ปล้องยาว 10-15 เซนติเมตร มีความสูงเพียง 4 เมตร หน่อมีขนาดเล็ก สีเทาในอดีตนิยมนำมาทำหลอดด้าย แต่เนื่องจากมีการนำสารสังเคราะห์มาใช้ทดแทน ปัจจุบันจึงไม่มีการนำมาทำหลอดด้ายอีก

9. สกุลซูโดซาซา พบมาในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีเพียงชนิดเดียว แต่ยังไม่มีการศึกษาในรายละเอียด

            10. สกุลไซโซสตาคียัม มี 3 ชนิด คือ ไผ่โป และไผ่เฮียะ พบมากที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดตรง แต่ยังไม่มีการศึกษาในรายละเอียด

11.สกุลเทียโนสตาคียัม มี 2 ชนิด คือ ไผ่เฮียะเครือ และไผ่บงเลื้อย พบที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดใกล้เคียง ยังไม่มีการศึกษาในรายละเอียด

12. กสุลไธโซสตาซัส มี 2 ชนิด คือ ไผ่รวก พบมากที่จังหวัดกาญจนบุรี เป็นไผ่ที่มีลำต้นขนาดเล็ก มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-7 เซนติเมตร สูงประมาณ 5-10 เมตร แตกกอเป็นพุ่มแน่นพอประมาณ ลำต้นนิยมทำวัสดุก่อสร้าง ไม้ค้ำยันต้นไม้และใช้ทำเยื่อกระดาษ หน่อใช้รับประทานได้ ส่วนใหญ่เก็บถนอมด้วยวิธีทำหน่อไม้ปีบ และไผ่รวกดำ พบมากในภาคเหนือ ลำต้นมีสีเขียวเข้ม ผิวเรียบเป็นมัน มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-7 เซนติเมตร ปล้องยาว 23-30 เซนติเมตร ลำต้นสูง 10-15 เมตร เนื่องจากลำต้นมีเนื้อไม้แข็งแรง ทนทาน จึงนิยมนำมาทำโครงร่มกระดาษและพัด เครื่องประดับอื่นๆ และเฟอร์นิเจอร์ หน่อรับประทานได้ แต่ไม่นิยม

***********************
เน้นที่ไผ่บงหวานนะครับ  (เพราะผมคลุกคลีกับไผ่พันธุ์นี้มากกว่าพันธ์ุอื่น)  จากข้อมูลนี้  จะเห็นว่ามีเพียงชื่อเดียว คือไผ่บงหวานครับ   ผมขอตอบเท่านี้ครับ   ข้อมูลมากกว่านี้  หลังไมค์ครับ
IP : บันทึกการเข้า
24hr
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,208


ซื่อสัตย์และสัจจะ คือสิ่งสำคัญ


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 14 พฤศจิกายน 2016, 02:06:31 »

ขอบคุณกับคำตอบที่ยืดยาวครับ แต่ท่านไม่ตอบตรงคำถาม ที่ถามไป  เน้นหลังไมค์อย่างเดียว เห้อเพลีย
IP : บันทึกการเข้า
WCR 56
สวนพอเพียงผ่านศึก 2558
สมาชิกลงทะเบียน
มัธยม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 917


โทร 08 1960 4849


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 16 พฤศจิกายน 2016, 20:01:18 »

สวนอยู่ตางใดน้อ จะไปผ่อครับ
IP : บันทึกการเข้า
bbview01
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 17 พฤศจิกายน 2016, 19:11:27 »

สวนอยู่ตางใดน้อ จะไปผ่อครับ

นครสวรรค์ครับ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!