ข้อคิดเตือนใจจากหมออานนท์ : ข่ากับงูเห่า

[TKaoocp]

      ข่ากับงูเห่า งูเห่ากับข่า เกี่ยวข้องกันอย่างไร?
        ช่วงนี้หน้าฝนหมอเจอเคสงูพ่นพิษใส่ตาสุนัขบ่อยๆ บางวันมีมากกว่า 2 เคส  วันนี้หมอมีเคล็ดลับดีๆมาฝากครับ
         งูเห่าในเมืองไทยมี 2 สายครับ คือสายกัด เช่น งูเห่าหม้อ และสายพ่น ในที่นี้หมอขอพูดถึงเฉพาะสายพ่น ซึ่งสามารถพ่นพิษได้ไกลเกิน 2 เมตร ในต่างประเทศมีรายงานงูเห่าพ่นพิษได้ไกลถึง 5 เมตร พิษงูเห่ามีความรุนแรงสูงมาก โดยจะมีพิษต่อระบบประสาท (Neurotoxin) พิษต่อระบบเลือด (Hemotoxin) พิษต่อระบบหัวใจ (Cardiotoxin) และพิษต่อเนื้อเยื่อ (Cytotoxin) ข้อนี้สำคัญสุดในกรณีที่ตาโดนพิษงู โดยพิษงูมีฤทธิ์เป็นด่าง เปรียบเทียบง่ายๆเหมือนตาโดนสารเคมี จะทำให้สุนัขเกิดอาการปวดตารุนแรง เยื่อตาขาวบวมแดง น้ำตาไหล กระจกตาอักเสบและเกิดแผลขึ้นได้
   แนวทางการดูแลเบื้องต้น
1. ล้างตาด้วยน้ำยาล้างตา (Boric acid) น้ำเกลือล้างแผล (NSS) หรือน้ำดื่ม น้ำประปา  ล้างหลายๆครั้ง เพื่อชะล้างพิษงูออกจากตาให้มากที่สุด
2. เจ้าของต้องสวมถุงมือขณะล้างตาสุนัขทุกครั้ง ข้อนี้สำคัญไม่แพ้กัน หากไม่มีถุงมือสามารถใช้ถุงพลาสติกแทนได้ ห้ามสัมผัสกับตาสุนัขโดยตรง เพราะพิษงูจะเป็นอันตรายต่อเจ้าของสุนัขได้เช่นกัน
3. ใส่ปลอกคอกันเลีย (collar) โดยทั่วไปหากสุนัขระคายเคืองตา จะใช้เท้าเขี่ยตา ทำให้กระจกตาอักเสบและฉีกขาดรุนแรงได้ ควรมี collar สำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
4. รีบพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ใกล้บ้านให้เร็วที่สุด ไม่แนะนำให้รักษาเอง หากทิ้งไว้นาน อาจทำให้สุนัขตาบอดได้

   ภาพประกอบเป็นภาพข่า สมุนไพรใกล้ตัว เจ้าของหลายคนใช้ข่าตำละเอียดคลุกเกลือป่นโปะตา รวมถึงใบรางจืด ใบเสลดพังพอน ใบตำลึง ใบสร้อยอินทนิล กรณีนี้หมอไม่แนะนำเด็ดขาดครับ เพราะจะทำให้ตาอักเสบรุนแรงและตาบอดจากภาวะติดเชื้อได้ครับ  

                              ขอบคุณครับ
                     น.สพ. อานนท์  ชุมคำลือ

[hugmuaythaigym]

ขอบคุณค่ะ สำหรับเกร็ดความรู้ดีดี

[Number9]

[ขี้เหล้าอาวุโส]