โรคริดสีดวงทวาร คือ โรคที่เกิดจากหลอดเลือดดำที่ไส้ตรงโป่งพองหรือขอด และมีหลอดเลือดบางส่วนยื่นออกจากทวารหนัก และมีเลือดออกเมื่ออุจจาระ ผู้ป่วยเป็นโรคนี้จะมีอาการเจ็บๆคันๆที่ปากทวารหนักในระยะแรกและจะเพิ่มเป็นอาการเจ็บปวดในระยะหลัง เมื่อมีขับถ่าย อุจจาระจะไปเสียดสีกับหลอดเลือดดำที่โป่งออกมา ทำให้เจ็บปวดทุกครั้งที่มีการเคลื่อนตัวของมวลอุจจาระ ทำให้ไม่อยากอุจจาระ แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนำให้ผู้ป่วยหาอาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ เพื่อป้องกันการเกิดริดสีดวงทวาร ในสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคริดสีดวงแล้วนั้น การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มลดแรงเสียดสีระหว่างอุจจาระกับริดสีดวง เจ็บน้อยลง
ไฟเบอร์(Fiber) หรือภาษาไทยจะเรียกว่าใยอาหาร ไฟเบอร์เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารประเภทพืชผักและผลไม้ที่เราทานเข้าไป ไฟเบอร์สามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ดังนี้
1. ไฟเบอร์ชนิดที่ไม่ละลายน้ำ (Insoluble Fiber) ไฟเบอร์กลุ่มนี้ไม่ละลายน้ำแต่จะดึงน้ำไว้ได้ ทำให้เกิดการพองตัวในน้ำลักษณะคล้ายๆฟองน้ำ ช่วยเพิ่มมวลของอุจจาระ ทำให้ช่วงเวลาที่กากอาหารค้างอยู่ในทางเดินอาหารสั้นลงหรือขับถ่ายเร็วขึ้น เกิดความรู้สึกอยากถ่ายอุจจาระลดปัญหาท้องผูกได้ เช่น เซลลูโลส เฮมิเซลลูโลส และลิกนินที่พบบนผนังเซลล์ของพืช ไฟเบอร์ประเภทนี้พบได้มากในรำข้าว รวมทั้งในผักและผลไม้ แหล่งพืชผักผลไม้ที่ให้ไฟเบอร์
ชนิดที่ไม่ละลายน้ำ ได้แก่ อ้อย ข้าวโอ๊ต ผงอะเซโรลา เชอร์รี ข้าวสาลี ถั่วเหลือง เลมอน กระบองเพชร รำข้าวบาร์เลย์ ไฟเบอร์จากถั่วลันเตา แอปเปิ้ล แครอท
2. ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ (Soluble Fiber) ไฟเบอร์กลุ่มนี้มีคุณสมบัติในการละลายน้ำได้ และสามารถดูดซับสารที่ละลายในน้ำไว้กับตัว เช่น เพคติน (Pectin) กัม (Gums) มิวซิเลจ (Mucilage) พบมากในพืชจำพวกถั่ว รำข้าวโอ๊ต ผักและผลไม้ เป็นสารที่ละลายในน้ำที่ร่างกายย่อยไม่ได้ พบได้ภายในเซลล์พืช มีส่วนทำให้อาหารผ่านไปในทางเดินอาหารช้าลงโดยไม่ช่วยเพิ่มมวลของอุจจาระ ไฟเบอร์กลุ่มนี้หลายตัวยังช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล ตัวอย่างไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำได้แก่ อะเคเซีย กัม
สมาคมนักกำหนดอาหารของสหรัฐอเมริกา (The American Dietetic Association หรือ ADA) แนะนำว่าร่างกายควรได้รับไฟเบอร์ประมาณวันละ 20 – 35 กรัม ซึ่งปัจจุบันนี้คนอเมริกันส่วนใหญ่ได้รับไฟเบอร์โดยเฉลี่ยเพียง 14 กรัมต่อวัน ในขณะที่คนไทยได้รับ 15 กรัมต่อวัน การได้รับประทานไฟเบอร์ที่เพียงพอทำให้ห่างไกลปัญหาโรคและความผิดปกติในทางเดินอาหาร รวมทั้งริดสีดวงได้
ซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ขายในท้องตลาดมากกว่า 400 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งถ้าเราจะหาแหล่งไฟเบอร์จากแหล่งอาหารธรรมชาติ จะแบ่งได้ดังนี้
1. ผัก ได้แก่ แครอต ข้าวโพด ผิวมันฝรั่ง บร็อกโคลี่ ผิวมะเขือเทศ และผักโขม
2. ผลไม้ ได้แก่ กีวี มะละกอ กล้วย ส้ม แอปเปิ้ล อะโวคาโด ฝรั่ง มะม่วง รวมทั้งเบอร์รี่บางชนิด เช่น ราสเบอร์รี่ สตอเบอรี่ และแบล็กเบอร์รี่
3. ถั่ว ได้แก่ อัลมอนด์ ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วลิสง เมล็ดทานตะวัน เฮเซลนัต พิสตาชโอ เมล็ดฟักทอง เป็นต้น
4. ธัญพืช ได้แก่ ข้าวกล้อง พาสต้า ข้าวโอ๊ต มักกะโรนี โฮลวีต คอร์นเฟล็ก ขนมปังขาว
จะเห็นได้ว่าการหารับประทานไฟเบอร์ให้ได้ทุกวันนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้ามีอาการเจ็บปากทวารหนัก มีติ่งริดสีดวงเสียแล้ว การรับประทานไฟเบอร์อาจจะไม่ทันการ โทร 094-102-3766 หรือกรอกข้อมูลขอคำปรึกษาที่
http://www.leejangmeng.com/บทความเพื่อสุขภาพ/ริดสีดวงทวารกับไฟเบอร์.html