TheGoodLife
ชั้นประถม
 ออฟไลน์
กระทู้: 124
|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 07 มิถุนายน 2016, 12:43:40 » |
|
Review: Yamaha P-105 ศึกนี้ใหญ่หลวงนัก!!! โดย เชฟจัมโบ้
Yamaha P105 เป็นเปียโนไฟฟ้าในระดับเริ่มต้น (แต่ยังไม่เริ่มต้นที่สุดครับ เพราะในปัจจุบันนี้ Yamaha มีเปียโนระดับเริ่มแรกออกมาแล้ว นั่นก็คือ P35 ซึ่งมันอยู่ก่อนระดับเริ่มต้นซะอีกครับ 555) ที่ต่อมาจากรุ่น P60, P70, P85 และ P95 ซึ่งจากสเป็คแล้ว ก็ต้องบอกว่า Yamaha ใจถึงพอสมควรเลยครับ ที่กล้าใส่อะไรๆเพิ่มขึ้นมาอีกเยอะเลยเข้าไปใน P105 ตัวนี้ ที่ไม่เคยมีอยู่ในรุ่นก่อนหน้านี้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็น Pure CF Sampling, 128 Note Polyphony, Damper Resonance, Stereo Outputs ไว้เล่นบนเวที, ลำโพง true circle speakers ขนาด 7w x 2 ตลอดจน Pianist Styles & Rhythms เอาล่ะ มาดูกันดีกว่าครับว่า สิ่งใหม่ๆที่ให้มากับเจ้า P105 นี้ “เป็นครั้งแรก” จะต่อกรกับคู่แข่งซึ่งแทบจะทุก Brands ก็ได้ส่งตัวแทนลงมาเล่นในตลาดนี้แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Casio PX-350, Korg SP-280, Kawai ES-100, Kurzweil MPS-10, Roland F-20 ได้หรือไม่
ก่อนอื่นขอไปที่เสียงก่อนเลยครับ ตอนแรกที่เล่นก็รู้สึกเลยถึงความคุ้นเคยกับเจ้าเสียงนี้ พยายามนึกอยู่ว่ามันคล้ายๆอะไร แต่พอเสียบหูฟังเข้าไปเท่านั้นล่ะ ก็ โอ้ววว นี่มันไม่ใช่แค่คุ้นๆ แต่มันใช่ตรงเป๊ะเลยทีเดียว อันนี้มันคือ P-155 ชัดๆ เสร็จแล้วผมก็เลยมา google ดู ก็ใช่จริงๆด้วย Yamaha ไม่ได้พัฒนาเสียงอะไรใหม่สำหรับตัวนี้ แต่เล่นไปเอาเสียงจากรุ่นที่สูงกว่า (แต่เก่ากว่า) อย่าง P155 มาใส่ให้เลย ฉะนั้นสิ่งที่คุณจะได้ ก็คือเสียง Pure CF Sampling ที่ sampled มาจาก CFIIIS ซึ่งเป็นเปียโนที่ แหลม ใส ชัด แต่ก็มีเนื้อและมีความอุ่นในช่วงเสียงกลางอยู่ มี Dynamic ของเสียงที่สมจริง เห็น Articulation ที่ต่างกันอย่างชัดเจนระหว่าง ppp-fff มี Damper Resonance ที่ทำให้เสียงฟังดู Organic ขึ้นมากเวลาเหยียบ Damper และสามารถเล่น Legato ได้อย่างดีเลยทีเดียว ไม่ต้องมานั่งกังวลกับปัญหาเสียงกุดที่มักเกิดขึ้นกับเปียโนในราคานี้ จำนวน Polyphony ก็มีถึง 128 เท่ากับ P-155 เป๊ะเลย ถ้าเดาไม่ผิดตัว tone generator/engine ก็คงหนีไม่พ้นตัวเดียวกันอีกล่ะครับ มาถึงจุดนี้คุณอาจจะเริ่มถามผมแล้วว่า อ้าว งี้ก็ต้องรีบวิ่งไปซื้อเลยสิ?
ช้าก่อนครับ... เพราะปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเสียงเปียโนนั้น มันไม่ได้มีแค่ตัวเนื้อเสียงเพียงอย่างเดียว ตัวลำโพงเองและคีย์ ก็เป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากๆเช่นกันครับ ซึ่งถึงแม้เจ้า P-105 จะใช้เสียง Pure CF Sampling แบบใน 155 ก็ตาม แต่ลำโพงที่ใช้ก็เป็นคนละแบบกับที่อยู่ใน 155 อย่าลืมนะครับว่าที่ผมบอกว่าเหมือนกันนั้น นั่นก็คือหลังจากที่ผมเสียบหูฟังเข้าไปแล้ว คีย์ที่ใช้ก็เป็นคนละโลกกันเลย (GHS ใน 105 และ GH ใน 155) ดังนั้นประสบการณ์การเล่น มันจึงต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ
ถ้าจะพูดถึงประสบการณ์เล่น P-105 ในตัวของมันเอง แบบที่ไม่ใช้หูฟังแล้ว ก่อนอื่นก็ต้องขอชมเชย Yamaha ที่กล้าใส่เสียง Pure CF Sampling มาลงในเครื่องระดับนี้ ถึงแม้ว่าเมื่อเล่นผ่านออกมาทางลำโพงจริงๆแล้วมันจะไม่สามารถถ่ายทอดรายละเอียดและความลึกของเสียงได้มากซะเท่าไหร่ก็ตาม เสียงที่ออกมาจากลำโพงจะออกแนว อู้ๆ ประกายและความคมของเสียงแหลมที่เป็นเอกลักษณ์ของ Yamaha จะหายไป ในขณะที่เสียงเบสก็จะตันๆนิดๆ เนื่องจากข้อจำกัดของลำโพงของมันครับ สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ เสียงที่ออกมาจากลำโพงของเจ้า 105 นี้ มันเบากว่า P35 ด้วยซ้ำไปครับ กล่าวโดยสรุปก็คือ ถ้าวัดกันที่เสียงเพียงอย่างเดียว กับราคาระดับนี้ เสียง Pure CF Sampling ของ P105 จะไร้ซึ่งที่ติเลยครับ แต่มันดร็อปลงไปมากกว่าครึ่งเลยทีเดียว จากเสียงที่ แหลม ใส ชัด กลายเป็นทู่ๆนัวๆ นิดๆ เมื่อเล่นผ่านลำโพง ดังนั้นถ้าใครกำลังอยากจะซื้อเปียโนรุ่นนี้ แนะนำเป็นอย่างยิ่งเลยครับว่าลองหาซื้อหูฟังดีๆมาใช้ด้วยจะดีมาก เพราะแค่เพียงเสียบหูฟังลงไปเท่านั้นล่ะครับ คุณก็เรียกได้ว่าแทบจะได้เปียโนตัวใหม่ในทันทีเลย
สำหรับเสียงอื่นๆนั้น ผ่านฉลุยครับ ก็จะเป็นเสียง Recycle ชุดเดิมๆกับเครื่องรุ่นที่ผ่านๆมา ที่หลายๆเสียงทำได้ดีและเป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว อะไรที่ทำได้ดีก็ดีเหมือนเดิม และอะไรที่แย่ก็แย่เหมือนเดิมครับ 555 ที่ดีก็อย่างเช่นพวก Rhodes แนวใสๆ ที่ไม่ได้เหมือนจริงอะไรทั้งนั้น แต่ให้ตายสิมันเพราะมากกกก เสียง FM ในตำนานจาก DX-7 ที่ต้องเป็น Yamaha เท่านั้น ส่วนเสียงที่ไม่ค่อยจะดีก็ตามนั้นเลยครับ ลอกข้อสอบรุ่นเก่ามา เช่น Organ หรือ Strings (ที่ยังเป็น Background Strings เอาไว้รองเปียโนได้ไม่ดี คือมันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เป็น Background Strings ครับ)
เอาล่ะ ต่อมามาดูที่คีย์กันบ้างครับ อันนี้ก็ตามสเต็ปเดิมเลยครับ นั่นก็คือ GHS -_-! ซึ่งหลายๆท่านที่ติดตามเว็บ TheSoundChef มา ก็จะพอรู้ว่าจริงๆแล้วผมไม่ค่อยได้จะเรื่องมากเท่าไหร่ในเรื่องคีย์นะครับ คีย์ชุดไหนที่มันเชื่อมกับผู้เล่นได้ดี ถ่ายทอดความรู้สึกของนักเปียโนลงไปบนคีย์ได้ดี ผมก็ว่าดีทั้งนั้น แต่สำหรับ GHS ของ Yamaha ที่ออกมาตั้งแต่รุ่น P70 นั้น มันก็ยังเป็นคำถามของผมจนมาถึงทุกวันนี้ ว่าทำไม้ ทำไม ต้องจงใจทำให้มันแย่ลงด้วย คือต้องท้าวความนิดนึงครับ บรรพบุรุษของ P-105 นี่ก็เริ่มมาตั้งแต่ P-60 ครับ ซึ่งในสมัย P-60 นั้น Yamaha เองจะยังไม่มีคีย์รุ่น GHS ครับ จะมีแต่ GH ซึ่งคีย์ชุดเดียวนี้ ใช้กันทั้งบริษัทเลยครับ ตั้งแต่ถูกสุดไปยันแพงสุด ดังนั้นหากใครต้องการเปียโนเอาไว้ฝึก ก็จัด P-60 ได้เลย เพราะคีย์มันเป็นแบบเดียวกับรุ่นใหญ่เป๊ะๆเลย พอเกิดภาวะนี้ขึ้น ยามาฮ่าก็เลยบอกว่า ไม่ได้ละ จะให้ของถูกมาสกัดดาวรุ่งของแพงไม่ได้ ก็เลยพัฒนาคีย์ชุดใหม่มาที่มีชื่อว่า GHS หรือ Graded Hammer Standard ที่เริ่มใช้มาตั้งแต่รุ่น P70 เป็นต้นไป เอาไว้ใส่ในเปียโนรุ่นที่ราคาไม่สูง จะได้แบ่งชนชั้นชัดเจน ระหว่างรุ่นธรรมดา กับรุ่นเทพ
เข้าเรื่องครับ กลับมาที่ P-105 ต่อ ถึงแม้ว่า Yamaha จะใจป้ำ ให้ Pure CF Sampling มาใน P-105 แต่ใจป้ำไม่พอให้ GH ครับ ก็ยังต้องเป็นคีย์แบบ Economy Class ต่อไป นั่นก็คือ GHS ถามว่า GHS เป็นยังงัย มันไม่ดีตรงไหนเหรอ คือมันเป็นคีย์ที่ก็มีน้ำหนักตอนกดลงไปละม้ายคล้ายคลึงกับเปียโนนั่นล่ะครับ ออกจะหนักหน่อยด้วยซ้ำไป แต่ที่หลายๆคนรู้สึก “ติด” กับคีย์ชุดนี้ก็ตรงการตอบสนองอันหนืดและไม่เป็นธรรมชาติของมันครับ ความรู้สึกมันจะเหมือนเราเอาแยมทาขนมปังไปทาไว้ที่ใต้คีย์ คือมันจะเด้งกลับแบบหนืดๆหน่อย ช้า ซึ่งทำให้เล่นพวก arpeggio และ trill ได้ยาก แต่สำคัญกว่านั้นคือ มันทำให้รู้สึกไม่จริงนี่สิครับ อาการนี้จะคล้ายๆกับคีย์ NH ใน Korg SP-170 เลยครับ จริงๆแล้วเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมามากมายในเว็บต่างประเทศนะครับ หลายๆคนก็บอกว่า ก็แน่ล่ะสิ You get what you pay คือในราคาเท่านี้ Yamaha ให้ Pure CF Sampling มาก็บุญแล้ว จะมาหวังอะไรมากไปกว่านี้อีก ก็จริงครับถ้าเป็นเมื่อซักปีสองปีที่แล้ว ในขณะที่คุ่แข่งยังตามไม่ทัน ทำได้ยังไม่ค่อยดี ยิ่งในสมัยตอนประมาณ P-60 ที่ใช้คีย์ GH นี่ ผมยังรู้สึกเลยว่า Yamaha ทำของดีเกินไปในราคาที่ถูกเกินไป และทิ้งคู่แข่งไกลเกินไป ไม่เห็นฝุ่นเลย แต่ในปัจจุบันนี้ คู่แข่งที่ขับเขี้ยวกันมาติดๆอย่าง Casio พี่แกเล่นให้คีย์ชุดใหม่ที่มี 3 sensors เหมือนคีย์ GH3 ที่อยู่ในรุ่นสูงๆของ Yamaha เลย ทำให้คีย์มัน Responsive มากๆ แถมยังให้ Synthetic Ivory & Ebony Key Textures มาอีก ที่ปกติจะอยู่ในเปียโนที่มีราคาสูงเท่านั้น ทำให้ฟีลของ Casio นั้นมันล้ำไปไกลเลยครับ ในสถานการณ์แบบนี้ ผมว่า Yamaha ควรจะพิจารณาให้ GH หรือ GH3 ลงมาในรุ่นแบบนี้ได้แล้วครับ เพราะการแข่งขันมันเดือดจริงๆ ไม่ใช่แค่เพียง Casio นะครับ อย่าง Roland เค้าก็มี Ivory-G หรืออย่าง Kawai ก็มี AHA-IV ส่งลงมาแข่งในสมรภูมิเปียโนราคาเท่านี้ ดังนั้นแล้ว นาทีนี้ถ้ามีไม้ตายจะเก็บไว้ไม่ได้แล้ว ต้องงัดออกมาใข้แล้วครับ
ก่อนจะจากกันไปในวันนี้ ก็ขอสรุปให้ฟังสั้นๆละกันครับ Yamaha P-105 เป็นเปียโนที่มีอะไรดีๆในตัวมันอยู่เยอะพอสมควรเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็น Pure CF Sampling ที่ Yamaha ไม่เคยปล่อยออกมาในระดับราคานี้มาก่อน, มี 128 Note Polyphony, มี Line Outs สามารถแบกไปเล่นบนเวทีหรือสตูดิโอได้ เรียกได้ว่าหากใครมีแผนการจะซื้อ P-35 อยู่ ผมฟันธงเลยครับว่าเพิ่มเงินอีกนิด แล้วมาเล่นตัวนี้ ดีกว่าเยอะมากๆครับ อย่างไรก็ดีที่ราคาขนาดนี้ Yamaha ก็ไม่ได้ปล่อยอะไรดีๆออกมาให้หมดครับ เริ่มตั้งแต่ลำโพงยังไม่สามารถถ่ายทอดความสมจริงและรายละเอียดของ Pure CF Sampling ได้ดีเท่าทีควร (ซึ่งตรงนี้ก็ว่าไม่ได้ครับ ก็เป็นปกติของเปียโนราคาเท่านี้) ก็ต้องไปฟังกับหูฟังเอา ส่วนในเรื่องของคีย์ ก็ยังคงเป็น GHS ซึ่งผมแนะนำให้ไปลองเล่นดูจะดีที่สุดครับ หากใครโอเคกับความรู้สึกแบบนั้น ก็ไม่ต้องคิดมากครับ ลืมที่ผมพูดไปซะ แล้วจัดได้เลย!!
|
หน้าหลักเว็บไซต์
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."
ผู้เขียน
