พระกรุ

[montrik]

พระซุ้มกอ พิมพ์ขนมเปี้ยเล็ก
สวย หายาก

ราคา 3,000 บาท

[montrik]

พระสามเกลอ ซุ้มกอ กรุกำแพงเพชร เนื้อดิน คราบกรุฝังแน่นมาก เนื้อแห้งจัด
สภาพสวย

ราคา 2,000 บาท

[montrik]

นางพญากรุนครไทยพิษณุโลกพิมพ์ใหญ่สองหน้าสวยแชมป์อายุกว่า 800 ปี หายากสุดๆ

ราคา 4,500 บาท

นางพญากรุนครไทยพิษณุโลกพิมพ์ใหญ่สวยแชมป์อายุกว่า 800 ปี เนื้อเขียว ด้านหลังเป็นนางขวางหาอยากสุดๆ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดค้ำดวง หนุนดวง นิยมชมชอบ
พระนางพญาพิฆาตสลากกินแบ่ง (นางพญาเขียว กรุนครไทย) พิมพ์ใหญ่ เรียกเงินเรียกทองขั้นสูง เล่นหุ้น ประมูลงาน รับเหมาก่อสร้าง ขายประกัน มหาอำนาจ เสริมความรัก เรียกเนื้อคู่ เลื่อนขั้น เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง สอบแข่งขัน ชิงทุนการศึกษา ผู้มีปัญหาทางการเงินทุกประเภท มีไว้ติดต่อธุรกิจค้าขายหมื่นล้าน ผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ บูชาแล้วดีมากๆๆๆ หายาก!!!มากๆๆๆ***
 
“พระนางพญาพิฆาตสลากกินแบ่ง” หรือ “พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย) นี้ อายุเก่าแก่มาก แต่ไม่ทราบว่าผู้ใดสร้างแน่นอน แต่สันนิษฐานว่า “พ่อขุนบางกลางท่าว” และ “พ่อขุนนาวนำถม” เจ้าเมืองบางยาง (ปัจจุบันคือ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก) เป็นผู้สร้างบรรจุไว้ ณ. ที่นี่ โดยเมืองบางยางมีอายุราวประมาณ 800 ปี พระนางพญาเขียวก็คงน่าจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเมืองบางยางสมัยนั้นเช่นกัน
“พระนางพญาเขียว” กรุนครไทย นี้ เอกลักษณ์ของพระกรุนี้คือ เนื้อขององค์พระมีลักษณะพิเศษ คือ เนื้อขององค์พระจะมี “สีเขียว”ทุกองค์ละสวยงามมาก แต่ละองค์จะมีคราบกรุเป็น “ดินลูกรังแดง”เกาะแน่นรอบองค์พระ
ตามประวัติ“พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย) เคยแตกกรุในสมัยรัชกาลที่ 5 มาครั้งหนึ่งแล้ว โดยรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประพาสมาที่ อ.นครไทย ซึ่งได้มีคนนำเอา “พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย) ที่แตกกรุนี้ นำออกมาถวายแก่รัชกาลที่5 ท่านจึงได้แจกจ่ายให้กับข้าราชบริพาร และประชาชนที่มารับเสด็จในครั้งนั้น ส่วนที่เหลือ ก็ได้นำ“พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย)บรรจุกรุไว้ตามเดิม และ“พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย) ก็ได้แตกกรุอีกเมื่อประมาณปี 2535 (บ้างก็ว่าแตกกรุปี 2539)
เมื่อแตกกรุประมาณปี2535 (บ้างก็ว่าแตกกรุปี 2539)ชาวบ้านผู้ที่ไปค้นพบจึงได้นำมาถวายแก่วัดที่อยู่ใกล้บริเวณที่แตกกรุ และได้นำเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์พระกรุนี้จึงไม่ปรากฏ ณ. ที่อื่นเลย

พุทธลักษณะของ“พระนางพญาพิฆาตสลากกินแบ่ง” หรือ “พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย) นี้เมื่อพิจารณาภายนอกทั่วไปจะเหมือนกับพระนางพญาสามเหลี่ยม ในชุดเบญจภาคีทั่วไปเนื้อข้างนอก มีสีแดงดินกรุติดแน่นมาก ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 พิมพ์ คือ
1. “พิมพ์ใหญ่” มีขนาดเท่าหัวแม่มือ
2. “พิมพ์กลาง” มีขนาดเท่านิ้วกลาง และ
3. “พิมพ์เล็ก” มีขนาดเท่านิ้วก้อย
โดยแต่ละพิมพ์นั้นมีความสวยงามชัดเจนเป็นอย่างมาก

“พระนางพญาพิฆาตสลากกินแบ่ง” หรือ“พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย) นั้น เมื่อตอนนำออกจากกรุดินกรุจับแน่นทำให้เห็นองค์พระไม่ค่อยเด่นชัด แต่เมื่อได้นำไปแช่น้ำในแก้วประมาณ 15 นาที จะสังเกตเห็นองค์พระ จะมีฟองอากาศติดองค์พระในน้ำไม่แตกออกจากกันนานนับเป็นชั่วโมง แสดงให้เห็นถึงเนื้อพระจะแห้งและเก่าแก่มากแต่อายุพระนั้นน่าจะเก่าแก่ไม่ต่ำกว่า 800 ปี หลังจากนำพระแช่น้ำประมาณ 15 นาทีแล้วเอาไม้จิ้มฟันธรรมดา เซาะร่ององค์พระก็จะเห็นรูปทรงพุทธศิลป์ “ชัดเจน” สวยงามตามากพระนางพญาเขียวนี้ จะเห็น “เนื้อข้างใน” มี ”สีเขียว” ได้ตามผิวขององค์พระที่นูนขึ้นตามพิมพ์บางส่วนหรือต่อเมื่อพระแตกหักชำรุดเท่านั้น

“พระนางพญาพิฆาตสลากกินแบ่ง” หรือ“พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย) นี้ มีประสบการณ์สูงมากๆๆๆ ครับโดยมีประสบการณ์ติดต่อกันมาแล้วหลายรายคาดว่าไม่เกินปีหน้าจะดังเป็นพลุแตกสนั่นเมืองอย่างแน่นอนครับ และเริ่มหายากและจะมีราคาแพงมากขึ้นตามลำดับวันและเวลาด้วยครับ เพราะคนรู้ก็เก็บเงียบส่วนคนไม่รู้ก็จะไม่รู้เลย
ซึ่งตามประสบการณ์ของ “พระนางพญาพิฆาตสลากกินแบ่ง” หรือ “พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย) นี้ ที่ได้ลงในนิตยสารพระยักษ์ใหญ่รายปักษ์โดยผู้มีประสบการณ์ เช่น

รายแรกเป็นเรื่องพุทธคุณในทางด้านการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล โชคลาภเสี่ยงดวง

ซึ่งเป็นเรื่องของ คุณศุภโชค อยู่จังหวัดเชียงราย ได้บูชา“พระนางพญาพิฆาตสลากกินแบ่ง” หรือ “พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย) นี้ ขึ้นคอแขวนเดี่ยว แล้วอธิษฐานก่อนไปซื้อที่จะไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลปรากฏว่าถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล ติดต่อกันถึง 2 งวดกิจการการค้าจากเมื่อก่อนหน้านี้ที่เคยย่ำแย่ แต่เมื่อได้บูชา“พระนางพญาพิฆาตสลากกินแบ่ง” หรือ “พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย) นี้ ปรากฏว่าดีขึ้นทันตาเห็น มีออเดอร์สั่งงานเข้ามาไม่ขาดสาย ผลิตของส่งออกแทบไม่ทันตลอดจนจะคิดทำการงานสิ่งใด มักราบรื่นตลอดไม่ค่อยมีปัญหาและอุปสรรคใดๆขวางกั้นเลย

รายที่สอง เป็นประสบการณ์พุทธคุณทางด้านปกป้องคุ้มครองแคล้วคลาด 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินป้องกันอุบัติเหตุและอุบัติภัยทุกชนิด

ซึ่งเป็นเรื่องของ คุณมานะชาวจังหวัดราชบุรี ได้เช่าบูชา “พระนางพญาพิฆาตสลากกินแบ่ง” หรือ “พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย) นี้ไว้ แล้วนำมาแขวนขึ้นคอบูชาเพียงองค์เดียวในวันเกิดเหตุได้ขับรถยนต์กลับบ้าน ขณะที่ขับรถมาตามถนนสายปากท่อเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ยางล้อหน้าข้างซ้ายแตก เสียหลักแฉลบลงไหล่ทางซึ่งมีต้นไม้ใหญ่อยู่ และต้องขับไปชนกับต้นไม้อย่างไม่มีทางเลือก ซึ่งในตอนนั้นคุณมานะ คิดว่าอย่างไรเสีย ชีวิตเราก็คงไม่รอดแน่ๆ แต่ทันใดนั้น จิตใจได้นึกถึง“พระนางพญาพิฆาตสลากกินแบ่ง” หรือ “พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย)ที่ตนได้ไปบูชาแขวนขึ้นคอ และเหมือนเกิดปาฏิหาริย์ ฉับพลันนั้น ปรากฏว่า จู่ๆรถยนต์ของคุณมานะกลับหมุนหันหน้าขึ้นมาอยู่บนไหล่ทางด้านซ้าย และได้หมุนอยู่ประมาณ2 รอบรอดตายมาได้อย่างปลอดภัยปาฎิหาริย์

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ส่วนหนึ่งของผู้ที่ได้บูชา“พระนางพญาพิฆาตสลากกินแบ่ง” หรือ “พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย) นี้ซึ่งยังมีอีกหลายรายที่มีประสบการณ์ จึงนับได้ว่า “พระนางพญาพิฆาตสลากกินแบ่ง” หรือ“พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย) นี้พุทธคุณสุดยอดจริงๆๆๆ

จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธารวมไปถึงผู้นำ นักการเมือง นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้นข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย นายทหารทุกเหล่าทัพ(โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูดนักขาย (ที่ต้องหายอดลูกค้า) นักเดินทางรอบโลก นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดงเด็กเสี่ย ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภทนักทำมาหากินทุกอาชีพ มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม ผู้มีอิทธิพลผู้ที่มีศัตรูมากมีคนคิดจ้องจะทำร้ายอยู่เสมอๆๆๆ ผู้มีอรรถคดี ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นความทั้งคดีแพ่ง และคดีอาญา พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกันควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อเทียบกับเงินเพียงน้อยนิดที่ท่านเสียไปแต่ก็ยังสามารถหาใหม่ได้แต่ความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การมีชื่อเสียง ตำแหน่งที่สูงขึ้นการมีโชคลาภขั้นสูง มหาเสน่ห์ มหานิยมที่รุนแรงต่อเพศตรงข้ามการชนะเหนือคู่แข่งขันทั้งหลาย นี้สิครับที่หาได้ยากยิ่งกว่า โอกาสมาถึงแล้วน่ะครับอย่าปล่อยให้หลุดมือไปน่ะครับ เสียดายแทนและยังเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้นมากกว่าเดิมที่เคยเป็นอยู่ด้วย

[montrik]

นารายณ์ทรงปืน กรุลพบุรี ตัดเฉพาะองค์พระ และนาคปรก เนื่องจาก องค์พระส่วนใหญ่แตกชำรุด พร้อมเลี่ยมจากเจ้าของเดิม

พระเก่าหลายร้อยปี มีประสบการณ์

ราคา 2,500 บาท

[montrik]

ปิดรายการ นางพญากรุนครไทยพิษณุโลกพิมพ์ใหญ่สองหน้า ขอบคุณทุกท่านที่สนใจครับ

[montrik]

พระร่วงยืนก้นหอย เนื้อดิน กรุสุโขทัย สีเทา ด้านล่าง และด้านหลัง มีเศษโลหะมีค่าผสมอยู่ ความสูง 9.5 ซม ยุคกลาง อายุประมาณ 400 ปี
ทรงนี้หายาก

ราคา 1,500 บาท

[montrik]

พระนางพญาเนื้อดิน กรุวังมะสะ พิษณุโลก
ได้มาจากลุงคนพื้นที่ 1 กระป๋องเก่าๆ พิจารณาพระแต่ละองค์ มีความแห้ง แกร่งมาก ใกล้เป็นหิน ส่วนใหญ่มีสีออกเทาน้ำตาล น่าสนใจและเก็บไว้บูชา อายุกรุนี้ 800 กว่าปี สมัยพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า

รอทะยอยลงครับ

[montrik]

พระนางพญา กรุวังมะสะพิษณุโลก องค์ที่ 1 สีออกน้ำตาล

ราคา องค์ละ 3,000 บาท

[montrik]

พระนางพญา กรุวังมะสะพิษณุโลก องค์ที่ 2
สีออกเทาน้ำตาล

ราคา องค์ละ 3,000 บาท

[montrik]

พระนางพญา กรุวังมะสะพิษณุโลก องค์ที่ 3
สีออกเทาน้ำตาล

ราคา องค์ละ 3,000 บาท

[montrik]

พระนางพญา กรุวังมะสะพิษณุโลก องค์ที่ 4
สีออกเทาน้ำตาล และหนาเป็นพิเศษ

ราคา องค์ละ 3,000 บาท

[montrik]

พระซุ้มกอพิมพ์กลาง กำแพงเพชร เนื้อมะขามเปียก ยุคต้น กว่า 700 ปี
สภาพใช้ เนื้อแห้ง แก่ว่าน สวย

ราคา 80,000 บาท

[montrik]

ปิดแล้วครับ

ซุ้มกอ กำแพงเพชร พิมพ์ใหญ่
เนื้อมะขามเปียก
เก่าแกร่ง ยุคต้น

ราคา 250,000 บาท

[montrik]

พระซุ้มกอ พิมพ์ขนมเปี้ยขนาดกลาง มีแร่ ราดำ
เนื้อแห้ง สวย

ราคา 5,000 บาท

[montrik]

พระกรุเม็ดกระดุมศรีวิชัย ไม่ทราบที่
เนื้อดินดิบ
เก่า แห้ง ยุบตัว
หายาก

ราคา 2,500 บาท

[montrik]

ปิดรายการนี้ครับ

ซุ้มกอ กำแพงเพชร พิมพ์ใหญ่
เนื้อมะขามเปียก
เก่าแกร่ง ยุคต้น

ราคา xx,xxx  บาท

[montrik]

พระกรุจุฬามณีสองหน้า พิษณุโลก หน้าพระพุทธชินราช หลังฤๅษี กว้าง 1.7 สูง 2.6 ซ.ม.
เนื้อดินผสมว่าน
องค์นี้คนแก่วางไว้ในเชี่ยนหมาก

ราคา 3,000 บาท

วัดจุฬามณี จัดเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของจังหวัดพิษณุโลก ตั้งอยู่ริมลำน้ำน่านทางฝั่งตะวันออกของจังหวัด สันนิษฐานว่าสร้างโดยขอมเมื่อสมัยเรืองอำนาจ อยู่ในดินแดนสุวรรณภูมิ และน่าจะเป็นเมืองศูนย์กลางทางศาสนา ด้วยปรากฏเทวสถานเป็น "พระปรางค์ศิลาแลง" เก่าแก่ประดับลายปูนปั้นงดงามมาก แม้ในปัจจุบันจะชำรุดเสียหายไปมาก แต่ร่องรอยแห่งฝีมือชั้นครูและคติเทวสถานของขอมยังปรากฏให้เห็นอยู่ครับผม

ชื่อ "วัดจุฬามณี" นี้ พบเป็นครั้งแรกในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับกรมพระปรมานุชิตชิโนรส ปรากฏความว่า "ศักราช 810 ปีมะโรง สัมฤทธิศก สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเจ้า สร้างพระวิหารวัดจุฬามณี" และ "ศักราช 811 ปีมะเส็ง เอกศก สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเจ้าทรงผนวช ณ วัดจุฬามณี ได้แปดเดือนแล้วลาผนวช" ซึ่งไปตรงกับพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับจักรพรรดิพงษ์ (จาด) ที่กล่าวไว้ว่า "ศักราช 810 ปีมะโรง สัมฤทธิศก สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเจ้า สร้างพระวิหารวัดจุฬามณี" อันแสดงให้เห็นว่า วัดจุฬามณีมีความสำคัญมากในสมัยอยุธยาเรืองอำนาจ ถึงขนาดพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทรงปฏิสังขรณ์ สร้างโบราณสถานต่างๆ จนถึงทรงผนวชอยู่นาน 8 เดือน
 
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีการตั้ง "โบราณคดีสโมสร" ขึ้น เพื่อสืบค้นประวัติศาสตร์และโบราณคดีของไทยอย่างจริงจัง ในระยะนี้มีความพยายามที่จะเสาะหา "วัดจุฬามณี" ซึ่งมีปรากฏในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ก็มิได้พบสถานที่ใดจะมีความเป็นไปได้ตามหลักฐานที่ปรากฏ จนกระทั่งรัตนโกสินทร์ศกที่ 126 (พ.ศ.2451) สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนลพบุรีราเมศวร์ เสด็จขึ้นไปตรวจราชการหัวเมืองฝ่ายเหนือ ได้ทรงพบวัดวัดหนึ่งชื่อวัดจุฬามณี ที่เมืองพิษณุโลก มีศิลาจารึกปรากฏอยู่บริเวณหน้ามณฑปรอยพระพุทธบาทจำลอง โดยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงโปรดฯ ให้จารึกไว้ในคราวที่ทรงจำลองรอยพระพุทธบาทที่สระบุรี ซึ่งค้นพบในสมัยพระเจ้าทรงธรรม มาประดิษฐาน ณ วัดจุฬามณี แห่งนี้ เมื่อจุลศักราช 1180 (พ.ศ.2222) ความว่า "ตีความตามนาม 'จุฬามณี' นั้นเป็นชื่อของพระมหาเจดีย์จุฬามณี ตามคติพุทธศาสนาที่เชื่อว่าเป็นมหาเจดีย์ประดิษฐานพระเกศธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระมหาเจดีย์นี้ประดิษฐานอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นที่เคารพสักการะของเทพยดาทั้งมวล ผู้ใดทำกุศลผลบุญอันมหาศาลจะได้ขึ้นไปสักการะองค์พระมหาเจดีย์จุฬามณีนี้

วัดสำคัญที่เก่าแก่ผ่านยุคผ่านสมัยมาหลายร้อยปีดังเช่นวัดจุฬามณี ก็ย่อมต้องมีพระเครื่องที่มีชื่อเสียงอย่างแน่นอน ซึ่งได้รับการขนานนามตามชื่อวัดว่า "พระกรุวัดจุฬามณี" หรือบางท่านก็เรียก "พระกรุน้ำ" เนื่องจากสมัยโบราณวัดจุฬามณีอยู่ริมลำน้ำน่าน เมื่อผ่านกาลเวลาเนิ่นนาน พระเจดีย์ที่บรรจุพระจึงถูกน้ำกัดเซาะ ทำให้พระส่วนใหญ่แช่อยู่ในน้ำ ลักษณะเป็นพระเนื้อดินเผา สีขององค์พระจึงมีหลายวรรณะ แต่จะมีพุทธลักษณะโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์สำคัญ คือ องค์ พระมีขนาดเขื่อง ขอบพิมพ์ทรงไม่สู้จะเรียบร้อยนัก ลักษณะการกดแม่พิมพ์มีทั้งกดด้านหน้าและด้านหลัง จึงมักจะปรากฏขอบวงนอกของแม่พิมพ์ด้านที่กดพิมพ์หลังปลิ้นขึ้นมาเล็กน้อย ผิวพื้นด้านที่กดพิมพ์หลังจะเว้าเป็นแอ่งกระทะน้อยๆ

ส่วนด้านที่กดพิมพ์หน้าพื้นผิวจะแอ่นโค้งออก ไม่ปรากฏขอบวงนอกปลิ้นขึ้น และไม่จำเป็นจะต้องกดด้านใดด้านหนึ่ง ดังนั้นด้านหน้าอาจจะมีขอบวงแม่พิมพ์ปลิ้นและพื้นเว้า ส่วนด้านหลังอาจจะไม่มีขอบปลิ้นและแอ่นโค้งก็เป็นได้ และเนื่องจากการกดแม่พิมพ์ทั้งสองด้านนี้เอง ทำให้พระกรุวัดจุฬามณีแบ่งแยกออกเป็นหลายพิมพ์ อาทิ พิมพ์หน้าฤาษี หลังนาง, พิมพ์หน้าฤาษีเปลวเพลิง หลังนาง, พิมพ์ชินราช หลังนาง, พิมพ์รัศมี หน้าเดียว และพิมพ์หน้านาง หลังนาง เป็นต้น จุดสังเกตสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ องค์พระส่วนใหญ่แช่อยู่ในน้ำ ผิวขององค์พระจะไม่เรียบตึง จะมีรอยหดเหี่ยวและรูพรุนน้อยๆ บางองค์เห็นเม็ดกรวดทรายอย่างชัดเจน

พระกรุวัดจุฬามณี จังหวัดพิษณุโลก นับเป็นพระกรุสำคัญของพิษณุโลกที่มีอายุเก่าแก่ และมีพุทธศิลปะที่เป็นไปตามคติและฝีมือช่างพื้นเมือง ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำให้เป็นที่นิยมสะสมกันอย่างแพร่หลาย ครับ

[montrik]

พระซุ้มกอ พิมพ์กลาง มีกนก กรุลานทุ่งเศรษฐี
เนื้อหา ตามภาพ ผิวแห้งธรรมชาติ รารัก คราบกรุ เม็ดแร่สวย
สีดอกพิกุล

ราคา 60,000 บาท

[montrik]

พระกรุกำแพงเพชร เนื้อดิน สภาบใช้ ถักลวดทองแดงโบราณ

ราคา 2,000 บาท

[montrik]

พระสมเด็จกรุบางขุนพรหม พิมพ์สามเหลี่ยม

สวย แท้ ดูง่าย สมบูรณ์ เลี่ยมพลาสติกเก่า

 

ราคา 50,000 บาท