เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 28 มีนาคม 2024, 18:29:38
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  เรื่องล้านนา ภาษากำเมือง
| | |-+  กว่าจะเป็นเชียงราย
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 [3] 4 5 พิมพ์
ผู้เขียน กว่าจะเป็นเชียงราย  (อ่าน 59963 ครั้ง)
Giftzy
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 37


« ตอบ #40 เมื่อ: วันที่ 13 กันยายน 2011, 15:58:42 »

น่าสนใจมากค่า...  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
magicmo
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #41 เมื่อ: วันที่ 07 ตุลาคม 2011, 09:27:37 »

 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม  ขอบใจจร้าา  ยาวจริงๆๆๆ
IP : บันทึกการเข้า
AserityShop
มีของก็ขาย ไม่มีก็ไม่ขาย ก็แค่นั้นครับ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,700


¬AserityShop¬


« ตอบ #42 เมื่อ: วันที่ 18 ตุลาคม 2011, 22:54:33 »

ขอบคุณครับ  ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ซื้อขายมั่นใจ 100% เช็คประวัติได้ เป็นคนง่ายๆไม่ซับซ้อน (^_^)
ติดต่อ Tel: 099-2494781,0643273958
ไลน์:aserityshop

งดคุยเล่นในเวลาราชการ หลัง 22.00 น.งดติดต่อทุกกรณี
Nick_Marine
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #43 เมื่อ: วันที่ 31 ตุลาคม 2011, 03:53:22 »

พยายามเรียนรู้ประวัติอยู่ครับ.. ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า
chate
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,023


« ตอบ #44 เมื่อ: วันที่ 13 พฤศจิกายน 2011, 10:55:46 »

ภูมิใจ๋ตี่เกิดมาเป็นคนเจียงฮาย บ่อเสียจาดเกิดแต้ๆ อ่านบ่อจบเตียเน้อ ลายหูลายตา อิอิอิ.....
IP : บันทึกการเข้า
nes_
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 96



« ตอบ #45 เมื่อ: วันที่ 24 พฤศจิกายน 2011, 18:53:09 »

สุดยอดที่เกิดมาเป็นเชียงราย
IP : บันทึกการเข้า

จำหน่ายและรับสั่งอะไหล่รถยนต์
nung78
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 77


« ตอบ #46 เมื่อ: วันที่ 08 มกราคม 2012, 21:02:08 »

ผมคนชลบุรี แต่ชอบวัฒนธรรมและทางเหนือแม่สาย เชียงแสน น่าสนใจมากขอบคุณครับ
IP : บันทึกการเข้า
shiff2007
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,150



« ตอบ #47 เมื่อ: วันที่ 10 มกราคม 2012, 23:04:26 »

ขอบคุณเจ้าของกระทู้สำหรับข้อมูลดี ๆ มีสาระ ครับ  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม คนเด่นต้องมีคนด่า
คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี คนทำงานดีจึงมีคนริษยา
เวียงเก่า
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 280



« ตอบ #48 เมื่อ: วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2012, 09:20:34 »

เข้ามาอ่านแล้วอึ้งครับ กับความสอดคล้ิองสัมพันธ์กันของประวัติศาสตร์ของอานาจักรเก่าแก่ต่างๆที่อยู่ในภูมิภาคนี้ เพราะเท่าที่ผมเคยอ่านประวัติศาสตร์มา มันเหมือนจะขาดสิ่งหนึ่ง คือความสืบเนื่ิอง ว่าอาณาจักรนั้นล่มสลาย แล้วอยู่ดีๆมาเกิดอา๊ณาจักรใหม่ขึ้นได้อย่างไร ขอบคุณ คุณแมงคอลั่นมากครับ ที่ทำให้ผมได้มองภาพความต่อเนื่องของประวัติศาสตร์ภูมิภาคล้านนา ว่าเรามีการสืบต่อประวัติศาสตร์ยาวนานมาเป็นพันกว่าปี ถึงแม้ว่าข้อมูลส่วนใหญ่ ก่อนสมัยพญามังราย จะมาจากพงศาวดารก็ตาม  ยิ้ม ยิ้ม
เมื่อไหร่คุณล้ิอล้านนา ทำเป็นรูปเล่มเสร็จ บอกด้วยนะครับ จะแวะเข้าไปอุดหนุน ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ผลมันไม่ออกมาตามที่คาดหวัง จะมานั่งเสียใจไปทำไม เมื่อได้พยายามทำเหตุให้ดีที่สุดแล้ว
somnuk-wd
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31



« ตอบ #49 เมื่อ: วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2012, 08:41:05 »

มาให้กำลังใจครับ 
IP : บันทึกการเข้า
isuzuman
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 125


.............


« ตอบ #50 เมื่อ: วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2012, 00:08:28 »

ขอบคุณครับสำหรับความรู้ที่ท่านนกมาเผยแพร่ อ่านจบแล้วทึ่งกับเหล่าบรรพบุรุษของเราสมัยโบร่ำโบราณจริงๆครับ
IP : บันทึกการเข้า
tonkla
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,334


ธรรม=ธรรมชาติ ธรรมดา ธรรมนูญ


« ตอบ #51 เมื่อ: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2012, 21:22:51 »

ขอบคุณ ความรู้ดีที่มีให้ครับ
IP : บันทึกการเข้า

"เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง"(ไว้เตือนตนเอง)
13th
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 709



« ตอบ #52 เมื่อ: วันที่ 02 มีนาคม 2012, 00:26:10 »

ตำนาน อาณาจักรโยนก ที่ว่าด้วยเรื่อง การล่มสลายของเมืองกลายเป็นหนองน้ำใหญ่

ทำไมถึงไปคล้ายตำนาน หนองหนาน ของสกลนครเป็นอย่างยิ่งครับ

เท่าที่ดู น้ำหนัก ความเป็นมาของเนื้อเรื่องน่าจะเอียงไปทาง หนองหาน มากกว่านะครับ

IP : บันทึกการเข้า
Jeekuk
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #53 เมื่อ: วันที่ 03 มีนาคม 2012, 09:41:11 »

ตำนานหลายๆ ที่มักจะมีความเหมือน เช่นเกาะแม่หม้ายก็มีหลายที่ เป็นต้น
 กรณีนี้เช่นกัน ถ้าจำไม่ผิดเป็นเรื่องราวที่คล้ายกันและยุคสมัยก็ใกล้เคียงกัน
ถ้าจะให้คิดแบบวิทยาศาสตร์ อาจจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในยุคนั้นก็ได้
แต่การเล่าเรื่องราวต่าง ๆ การใส่สี ใส่ไข่ก็คงจะเพิ่มความสนุกและตื่นเต้นให้แก่ผู้ฟ้งได้มาก แม้แต่กษัตริย์ในตำนานบางพระองค์ก็ยังเป็นเทพจุติได้ เพื่อเสริมบารมีให้ปกครองได้ง่าย ส่วนเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารแล้ว ขาดได้ซะที่ไหน
   อันนี้เป็นความเห็นของผมเองเท่าที่ความหยักในสมองที่พึงจะมี ท่านใดมีข้อคิดเห็นอื่นใดก็โปรดช่วย ๆกันหน่อยครับ จะทำให้เรื่องราวต่าง ๆในตำนาน มีข้อคืดหลาย ๆแง่มุม
   ####มีชื่อชุมชนในตำนานที่ยังคงใช้ชื่อนี้อยู่ซึ่งอยู่บริเวณนั้นด้วยเช่น
            -แม่ลาก    -แม่ลัว(ครัว หรือ ชำแหละ ภาษาล้านนา)  -น้ำแม่กก (สับ ตัด)
             เป็นชื่อที่ตั้งตามตำนนาน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านแล้วแสดงความคิดเห็น
IP : บันทึกการเข้า
Michael
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 35



« ตอบ #54 เมื่อ: วันที่ 04 มีนาคม 2012, 22:54:56 »

ยุคหิรัญนครเงินยาง
              ได้กล่าวถึงลวจังกราชหรือลวจักกราช ปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์นี้ ซึ่งในหลักฐานบางฉบับเรียกว่า ราชวงศ์ลาว เนื่องจากพระนามของกษัตริย์ในราชวงศ์นี้ล้วนขึ้นต้นด้วยคำว่า “ลาว” มีอำนาจอยู่ในเมืองเชียงลาว (เชียงเรือน) สันนิษฐานว่าอยู่ใกล้บริเวณดอยตุงและแม่น้ำสาย ต่อมาได้ขยายจากเมืองเชียงลาวมาสู่เมืองเงินยางหรือเงินยัง ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง สันนิษฐานว่าเมืองเงินยางนี้อยู่ใกล้กับเมืองเชียงแสน หรืออาจเป็นบริเวณเดียวกันก็เป็นได้ เมืองเงินยางมีชื่อเรียกเป็นภาษาบาลีว่า “หิรัญนคร” อันเป็นที่มาและเรียกชื่อเมืองนี้ว่า หิรัญนครเงินยาง                                                                                 
         ลวจังกราชเป็นใครมาจากไหน จากตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ฉบับของวัดพระงาม โดยอินทวังสภิกขุ  จารไว้เมื่อ จ.ศ.๑๒๑๖(พ.ศ. ๒๔๖๙) กล่าวไว้ว่า  หลังจากที่อาณาจักรโยนกล่มสลายลงแผ่นดินถิ่นล้านนาหามีกษัตริย์ใดที่พร้อมจะทะนุบำรุงพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองได้ กษัตริย์อนิรุทธรรมิกราช และท้าวพระญาต่าง ๆในชมพูทวีปจึงร้องขอต่อองค์อินทราธิราช เพื่อหาผู้มาปกครองแผ่นดินล้านนา แล้วองค์อินทราธิราชเจ้าก็เห็นยังเทวบุตรตนหนึ่งชื่อ ลวจังกรเทวบุตร อันมีบุญสมพารหากได้กัตตาธิการมามากอยู่เสวยทิพย์สมบัติในชั้นฟ้าตาวติงสา มีอายุจักเสี้ยงดั่งอั้น องค์อินทราธิราชจึงได้เข้าไปสู่สำนักของ ลวจังกรเทวบุตรแล้วกล่าวอัญเชิญให้ไปเกิดในเมืองมนุษย์ที่เมืองเชียงลาวเพื่อเป็นมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่เหนือผู้ใดในแว่นแคว้นล้านนาและช่วยรักษาพุทธศาสนาไว้ด้วย
         “ลวจังกรบุตรก็รับเอาคำพระยาอินทาว่า สาธุ ดีดีแล ว่าแล้วก็จุติแต่ชั้นฟ้าลงมากับบริวารแห่งตน หนึ่งพัน ก่ายเกิ๋นเงินลงมาจากชั้นฟ้า บ้างก็ว่า ก่ายมาจากปลายดอยตุง ลงมาเกิดเป็นมานพน้อยวัย ๑๖ ขวบปี โดยมีเครื่องทรงอันอลังการบนอาสนะใต้ต้นพัทระ หรือต้นตัน หรือพุทรา ริมฝั่งน้ำแม่ใสใกล้เมืองชยวรนคอรหรือว่าเมืองเชียงลาวส่วนบริวารทั้งพันทั้งหญิงแลชายก็เกิดเป็นกุมารแลกุมารี อันได้ ๑๖ ขวบเช่นกันฝ่ายผู้คนในเมืองเชียงลาวเห็นเป็นอัศจรรย์จึงได้อัญเชิญให้เสวยราชสมบัติเป็นใหญ่ในเมืองชยวรนคอรได้ชื่อว่า    ”พระญาลวจังกราชะ”และในการนับปีจุลศักราชก็เริ่มขึ้นในปีนี้เอง    (เริ่มนับปีจุลศักราชที่ ๑ที่ พ.ศ. 1181)
        (การอ้างความเป็นเทวบุตร ช่วยให้การปกครองง่ายขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นลูกหลานปู่เจ้าลาวจก แห่งดอยตุง ซึ่งเดิมเป็นชาวป่าชาวดอยต่อมาได้รับเอาอารยะธรรมจากโยนกที่ความเจริญรุ่งเรืองก็มีการพัฒนาตัวเอง เมื่อราชวงศ์สิงหนวัติล่มสลาย เชื้อสายลวจักราชมีความเข้มแข็งจึงยกตนเป็นผู้นำ –(ผู้เรียบเรียง)   
 ลวจังกราช (ลาวจง) มีราชบุตร 3 พระองค์ คือ ลาวครอบ ลาวช้าง และลาวเกล้าแก้วมาเมือง ลวจังกราชได้ส่งราชบุตรออกไป สร้างบ้านแปงเมือง คือ ให้ลาวครอบราชบุตรองค์โตไปครองเมืองเชียงของ ลาวช้างราชบุตรองค์ที่สองไปครองเมืองยอง ส่วนลาวเกล้าแก้วมาเมือง ราชบุตรองค์เล็กนี้ให้ครองเมืองเชียงลาวสืบเนื่องมา ด้วยเหตุนี้ภายหลังจึงทำให้ราชวงศ์ลาว (ลวจังกราช) เป็นต้นของราชวงศ์เมืองต่าง ๆ เช่น พะเยา เชียงของ เชียงคำ จนถึงสมัยพญามังรายได้สร้างเมืองเชียงรายแล้ว พบว่าเจ้าเมืองต่าง ๆ ได้มีเชื้อสายมาจากวงศ์ลวจังกราชด้วยกัน จึงมีพระราโชบายรวบรวมให้เป็นปึกแผ่นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
รายนามกษัตริย์ราชวงศ์ลาว (ลวจังกราช หรือวงศ์หิรัญนคร)
รัชกาลที่ 1 ลวจังกราช (ลาวจง)
รัชกาลที่ 2 ลาวเกล้าแก้วมาเมือง
รัชกาลที่ 3 ลาวเส้า (ลาวเสา)
รัชกาลที่ 4 ลาวตัง (ลาวพัง)
รัชกาลที่ 5 ลาวกลม (ลาวหลวง)
รัชกาลที่ 6 ลาวเหลว
รัชกาลที่ 7 ลาวกับ
รัชกาลที่ 8 ลาวคิม (ลาวกิน)
รัชกาลที่ 9 ลาวเคียง
รัชกาลที่ 10 ลาวคิว
รัชกาลที่ 11 ลาวเทิง (ลาวติง)
รัชกาลที่ 12 ลาวทึง (ลาวเติง)   รัชกาลที่ 13 ลาวคน
รัชกาลที่ 14 ลาวสม
รัชกาลที่ 15 ลาวกวก (ลาวพวก)
รัชกาลที่ 16 ลาวกิว (ลาวกวิน)
รัชกาลที่ 17 ลาวจง
รัชกาลที่ 18 จอมผาเรือง
รัชกาลที่ 19 ลาวเจิง (ลาวเจื๋อง)
รัชกาลที่ 20 ลาวเงินเรือง
รัชกาลที่ 21 ลาวซิน (ลาวชื่น)
รัชกาลที่ 22 ลาวมิง
รัชกาลที่ 23 ลาวเมือง (ลาวเมิง)
รัชกาลที่ 24 ลาวเมง
       ลาวจง(ร.17)มีราชบุตร 2 พระองค์ องค์พี่ชื่อ ลาวชิน ได้ให้ปกครองเมืองไชยนารายณ์(เวียงไชย) ส่วนผู้น้องชื่อจอมผาเรืองนั้น ให้ครองเมืองเชียงลาว ต่อมา ขุนขอมธรรมโอรสองค์ที่ ๒ ของขุนเงินได้ไปสร้างเมืองภูกามยาว(พะเยา)ในปี พ.ศ. ๑๖๐๒ หรือ จ.ศ. ๔๒๑  มีราชบุตรชื่อลาวเจื่อง (ขุนเจื่อง)ขุนเจื๋องตอนประสูติโหรถวายคำพยากรณ์ว่าราชบุตรองค์นี้จะเป็นจักรพรรดิราชปราบชมพูทวีป  มีบุญญาธิการมาก เวลาประสูติ มีของทิพย์เกิดขึ้น 3 อย่าง คือ แส้ทิพย์ พระแสงทิพย์ คนโททิพย์   ชื่อว่า“ขุนเจื๋อง” ต่อมาอีก 3 ปี  ได้ราชบุตรอีกพระนามว่า “ขุนจอง” หรือ “ชิง” เมื่อขุนเจื๋องเจริญวัยขึ้น ทรงศึกษาวิชายุทธศาสตร์ เช่น วิชาดาบ มวยปล้ำ เพลงชัย จับช้าง จับม้าและเพลงอาวุธต่างๆ พระชนมายุได้ 16 ปี พาบริวารไปคล้องช้างที่เมืองน่านเจ้าผู้ครองเมืองน่านเห็นความสามารถแล้วพอพระทัย ยกธิดาชื่อ“จันทร์เทวี” ให้เป็นชายาขุนเจื๋อง พระชนมายุได้ 17 ปี พาบริวารไปคล้องช้างที่เมืองแพร่ เจ้าผู้ครองเมืองแพร่พอพระทัย จึงยกธิดาชื่อ “นางแก้วกษัตริย์” ให้เป็นชายา พระราชทานช้าง 200 เชือก ขุนจอมธรรมปกครองเมืองพะเยาได้ 24 ปี พระชนมายุได้ 49 พรรษา ก็สิ้นพระชนม์ขุนเจื๋องได้ครองราชสืบแทน ครองเมืองได้ 6 ปี มีข้าศึกแกว (ญวน) ยกทัพมาประชิดนครเงินยางเชียงแสน ขุนชินผู้เป็นลุง ได้ส่งสาส์นขอให้ส่งไพร่พลไปช่วยขุนเจื๋องได้รวบรวบรี้พลยกไปชุมนุมกันที่สนามดอนไชยหนองหลวง และเคลื่อนทัพเข้าตีข้าศึกแตกกระจัดกระจายไป เมื่อขุนชินทราบเรื่องก็เลื่อมใสโสมนัสยิ่งนัก ทรงยกธิดาชื่อ “พระนางอั้วคำคอน” ให้และสละราชสมบัตินครเงินยางเชียงแสนให้ขุนเจื๋องครองแทนเมื่อขุนเจื๋องได้ครองราชเมืองเงินยางแล้ว ทรงพระนามว่า “พระยาเจื๋องธรรมมิกราช” ได้มอบสมบัติให้โอรสชื่อ“ลาวเงินเรือง” ครองเมืองพะเยาแทนหัวเมืองใหญ่น้อยเหนือใต้ยอมอ่อนน้อม ได้ราชธิดาแกวมาเป็นชายานามว่า “ นางอู่แก้ว” มีโอรส 3 พระองค์คือ ท้าวผาเรืองยี่คำห้าว ท้าวสามชุมแสง ต่อมายกราชสมบัติเมืองแกวให้ท้าวผาเรือง ให้ท้าวคำห้าวไปครองเมืองล้านช้าง ท้าวสามชุมแสงไปครองเมืองน่าน ต่อมาได้โยธาทัพเข้าตีเมืองต่างๆ ที่ยังไม่ยอมสวามิภักดิ์ ทรงชนช้างกับศัตรูเสียทีข้าศึกเพราะชราภาพ จึงถูกฟันคอขาดและสิ้นพระชนม์บนหลังช้าง พวกทหารจึงนำพระเศียรไปบรรจุไว้ที่พระเจดีย์เมืองหิรัญนครเชียงแสน ขุนเจื๋อง ประสูติเมื่อปีพุทธศักราช 1641 ครองราชย์สมบัติเมื่อพระชนมายุ 24 ปีครองแค้วนล้านนาได้ 24 ปี ครองเมืองแกวได้ 17 ปี รวมพระชนมายุได้ 67 ปี   ในสมัยของลาวเจื่องนี้ได้ให้ราชบุตรอีกหลายพระองค์ไปครองยังเมืองต่าง ๆ เช่น เมืองล้านช้าง เมืองน่าน เป็นต้น อันเป็นการกระจายราชวงศ์ลาว   (ลวจังกราช) ไปยังหัวเมืองต่าง ๆ อีกสมัยหนึ่ง(ในยุคนี้ ล้านนา และล้านช้างเป็นปึกแผ่นเดียวกัน และมีความมั่นคงมากที่สุดยุคหนึ่งท่านน่าจะเป็นมหาราชอีกสักพระองค์เพราะความเก่งกล้าสามารถของท่านจนได้เกิดตำนาน ท้าวฮุ่ง ท้าวเจื๋องซึ่งเป็นวรรณกรรมพื้นบ้านของอีสาน-กิจจา)
       มาจนถึงสมัยลาวเมง(ร.24) ลาวเมืองพระบิดาได้สู่ขอนางอั้วมิ่งจอมเมืองหรือนางเทพคำขยาย ธิดาท้าวรุ้งแก่นชาย เจ้านครเชียงรุ้ง เมืองใหญ่แว่นแคว้นสิบสองปันนา มาอภิเษกเป็นชายาเจ้าลาวเมง ครั้นภายหลังอภิเษกแล้วไม่นานเท่าใด นางเทพคำขยายก็ทรงมีครรภ์แล้วประสูติพระราชโอรส เมื่อจ.ศ. ๖๐๑( พ.ศ. 1782) ทรงพระนามว่า “เจ้ามังราย”
       อาณาจักรหิรัญนครเงินยาง (เชียงลาว หรือเชียงเรือง หรือหิรัญนครเงินยางเชียงแสน ก็เรียก) นั้น เคยมีความรุ่งเรืองมาก่อน มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน ได้มีกษัตริย์ปกครองสืบต่อกันในราชวงศ์ลวจังกราชมาหลายพระองค์ มาจนถึงสมัยพญามังราย จึงได้มีการสร้างเมืองใหญ่ขึ้นที่เชียงราย(จ.ศ.๖๒๔-พ.ศ.๑๘๐๕) และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้เริ่มมีความชัดเจนขึ้น เนื่องจากมีการใช้อักษรล้านนาบันทึกเรื่องราวต่างๆนับแต่การสร้างเมืองเชียงรายเป็นต้นมา

งั้นคนล้านนาทั้งหมดก็สืบเชื้อสายมาจากชาวลาวใช่ไหมครับ
IP : บันทึกการเข้า
Chilla_King
midafXD
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 209


อย่าดีแต่เป็นคน...แต่จงเป็นคนที่ดี.


« ตอบ #55 เมื่อ: วันที่ 23 มีนาคม 2012, 21:32:49 »

ขอถามไว้เป็นความรู้นะครับ คือ
1.เมื่อก่อนเคยเรียนประวัติศาสตร์ว่า ไทยเราอพยพมาจากเทือกเขาอัลไต ในประเทศจีน
แล้วถอยร่นมาเรื่อย ๆ จนสร้างอาณาจักรขึ้นมา อยากทราบว่าจริงเท็จแค่ไหน แล้วอาณาจักร
ที่สร้างครั้งแรกชื่ออาณาจักรอะไร ใครเป็นผู้ก่อตั้ง ถือว่าเป็นไทแล้วไหรือยัง
2.อพยพมาทางไหน พม่าหรือลาว ตอนเรียนเห็นมีอาณาจักรอ้ายลาวด้วย
3.ที่เราอยู่ปัจจุบันนนี้ เมื่อก่อนเคยเป็นของขอมมาก่อนใช่ไหม แล้วเรามาขับไล่เขา
แสดงว่าขอมมีมาก่อนเรา และเรืองอำนาจมากถูกหรือไม่ แล้วพวกขอมมาจากไหนนิ
4.ชื่อเมืองต่าง ๆ ขอมเขาตั้งมาก่อน หรือว่าเราตั้งขึ้นมาใหม่ เพราะก่อนมาปราบชนชาติขอม
มีชื่อเมืองอยู่ก่อนแล้ว

เอาแค่นี้ก่อนครับ มีข้อสงสัยอีกเยอะอยู่ครับ อีกหลายหน้ากระดาษ ประมาณซัก 200 คำถามได้
วานผู้รู้ให้ความกระหน่อยครับ ขอบคุณครับ
IP : บันทึกการเข้า

Jeekuk
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #56 เมื่อ: วันที่ 19 กรกฎาคม 2012, 12:47:10 »

ตามความเห็นของผม คำว่า ลาว เริ่มมีในสมัยราชวงศ์ ลวจังกราช ซึ่งมีเชื้อสายมาจาก ลัวะ หรือ ลวะ(ลองย้อนไปอ่านดู) ซึ่งสมัยนี้ยังไม่มีตัวอักษรใช้ ต่อมาจึงได้มีตัวอักษรใช้ซึ่งหลังจากนั้นมาอีกประมาณเกือบ 700 ปี จึงมีตัวอักษรใช้ คาดว่า คำว่า ลาว น่าจะมาจาก  ลัวะ หรือ ละวะ ผิด ถูกอย่างไร ผู้รู้โปรดชี้แนะ
ส่วนเรื่องที่ข้องใจของท่านเกี่ยวกับชาติพันธุ์ น่าจะมีทั้งอพยพ และชนพื้นเมืองดั้งเดิมอาศัยอยู่กันไป ผสมพันธุ์กันไป จนถึงยุคปัจจุบัน เพราะปรากฎหลักฐานหลายๆอย่างทั้งที่มีจารึกและเรื่องเล่าจากตำนาน
รวมทั้งหลักฐานทางวัตถุ เช่นเครื่องใช้ในยุคหินที่ปรากฎพบกระจัดกระจายในท้องถิ่นทั่วไป
IP : บันทึกการเข้า
tfgc2007
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,874


สมบัติพญามังราย ต้องรักษาไว้


« ตอบ #57 เมื่อ: วันที่ 07 สิงหาคม 2012, 12:52:06 »

สรียินดี กับความฮู้ ที่ได้ฮับ....น่าจะอ่านเมินแล้ว เฮานี้หนา
IP : บันทึกการเข้า

รักษ์กำเมือง....ร่วมส่งเสริมละอ่อนเหนือ อู้กำเมือง....
เชียงรายสถาปนิก'97 รับ ออกแบบ เขียนแบบบ้าน อาคาร รับบริหารงานก่อสร้างและงานระบบทุกประเภท ตรวจสอบอาคาร โดยสามัญวิศวกร สามัญสถาปนิก และ จป.วิชาชีพ
E22YKA
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 90



« ตอบ #58 เมื่อ: วันที่ 08 สิงหาคม 2012, 11:42:52 »

ผมได้ติ๊ดต๋ามเรื่องล้านนา ภาษากำเมียงมาได้ปี๋ป๋ายละ
และก่าได้เสาะหาหนังสือ ประวัติศาสตร์ ล้านนา เพราะว่าไค่ได้เปนเล่มมาอ่าน
สอนละอ่อนตี่โฮงเฮียน สืบมาได้ความว่า มีขายตี่ศูนย์หนังสือจุฬา ต๋อนนี้กะสีท่าจะบ่ามีละก้า
เพราะไปขายตี่ไหนบ่าขายไปขายตี่กุงเตบ
แต่ผมขออนุญาตอ้ายมะคอแลน ก๊อบปี้เด้อ ในห้องนี้ผมก่าก๊อบไว้เปนปึ๊กละ
ขอบคุณครับตี่ยะฮื้อมีความฮู้จาดนัก
อันนี้อู้กั๋นเล่นๆตี่โฮงเฮียนกะครูเขาหนาว่า
เฮามาแบ่ง........(เดาเอาเด้อ มันอู้บ่าได้) 555
IP : บันทึกการเข้า
แมงคอลั่น
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,451



« ตอบ #59 เมื่อ: วันที่ 12 สิงหาคม 2012, 23:20:49 »

เอาไปเลย เอาไปเลย ตำนานเฮา เอาไปได้เลย บ่จิ๊ บ่ขาง บ่เสียสตางค์ เสียค่ากระดาษ กับหมึกเต้าอั้น
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!