|
|
oishibenz07
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 05 เมษายน 2011, 20:53:37 » |
|
|
|
|
|
>:l!ne-po!nt:<
~: ดาบราชบุตร :~
แฟนพันธ์แท้
ออฟไลน์
กระทู้: 10,256
~>: แขกดอย :<~
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 06 เมษายน 2011, 02:33:45 » |
|
เจ้าของกระทู้ได้ความฮู้เพิ่มผมกะพลอยได้ฮับไปตวย ขอบคุณ เชียงรายพันธุ์แท้ ครับข้อมูลมีประโยชน์เย่อะมากมายหลายกระทู้เลยครับ
|
!!!!! กว่า ๑,๑๐๐ กม.จากยอดดอยสู่ทะเล...ตะวันออก !!!!! www.facebook.com/1100kilometer||||| ธรรมชาติสร้างอากาศบริสุทธิ์ ส่วนมนุษย์นั้นสร้างอาวุธเพื่อทำลาย |||||
|
|
|
|
ลูกหล้าแม่อุ้ย
ชั้นประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 332
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 07 เมษายน 2011, 18:48:59 » |
|
ตะก่อนมันมีต้นเป้านักน่ะครับ เปิ้นเลยตั้งจื่อตวยลักษณะของปื้นที่ว่า "เวียงป่าเป้า"
ส่วนเวียงก๋าหลงอันนี้ที่มาของจื่อบ่แน่ชัด แต่ตะก่อนเป๋นเวียงเก่า เป๋นแหล่งผลิตเครื่องถ้วยสำคัญ และเป๋นจุมตางก๋านก้าระหว่างลุ่มน้ำวัง กก และปิง ทฤษฎีหนึ่งว่าเป๋นเพราะผังเวียงเก่ามันสลับซับซ้อน มีตางเข้าออกได้หลายตาง ขนาดอีก๋ายังหลง เปิ้นเลยตั้งจื่อว่า เวียงก๋าหลง อี้หนา
ส่วนนี่เป๋นประวัติเวียงป่าเป้าตี้อยู่ในเว็บต่างๆครับ อำเภอเวียงป่าเป้า เป็นเมืองเก่าแก่ อายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี เจ้าอินทวิชยานนท์ ผู้ครองเมืองเชียงใหม่ เป็นผู้ก่อตั้งโดยมอบหมายให้พระยาไชยวงค์ นำราษฎรชาวเชียงใหม่ขึ้นมาถางป่าอ้อหญ้าไซ ซึ่งอยู่ห่างตัวอำเภอไปทางใต้ แล้วสร้างเมืองชื่อว่า “เมืองเฟยไฮ” และพระยาไชยวงค์( ต้นตระกูล "บุญชัยวงศ์" ในปัจจุบัน )เป็นเจ้าผู้ครองเมือง ต่อมาประมาณปี พ.ศ.2430 พระยาไชวงค์เห็นว่าเมืองเฟยไฮเป็นที่ราบลุ่ม พอเข้าฤดูฝนน้ำจะท่วมประจำทุกปี จึงให้ราษฎรขึ้นมาถางป่าไม้ที่มีไม้เป้า(เป้าน้อย ซึ่งเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง) แล้วตั้งขึ้นเป็นเมืองชั่วคราว ในปี พ.ศ.2440 พระยาไชยวงค์ได้ถึงแก่กรรม พระยาเทพณรงค์ (ต้นตระกูล”ทาอุปรงค์”ในปัจจุบัน ) ผู้เป็นบุตรเขย ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าผู้ครองเมืองป่าเป้าสืบแทน และได้ใช้อิฐก่อเป็นกำแพงเมือง (ปัจจุบันจะเห็นร่องรอยบริเวณวัดป่าม่วง - วัดศรีคำเวียง) และตั้งชื่อเมืองว่า”เวียงป่าเป้า” ต่อมาพระยาเทพณรงค์ ได้ถึงแก่กรรม พระยาขันธเสมาบดี ( ต้นตระกูล ”ธนะชันขันธ์” ในปัจจุบัน ) ซึ่งเป็นน้องเขยได้รับการแต่งตั้งให้ครองเมืองสืบแทน ประมาณปี พ.ศ 2448 พวกเงี้ยว (ไทยใหญ่) ได้ก่อจารจลขึ้นที่ตัวเมืองเชียงรายและเชียงใหม่ ได้ขึ้นอยู่ในเขตปกครองของอำเภอแม่พริก (บ้านแม่พริก อำเภอแม่สรวยในปัจจุบัน และต่อมาอำเภอแม่พริกได้ย้ายมาอยู่ริมน้ำแม่สรวย และขนานนามใหม่ว่าอำเภอแม่สรวย )อำเภอเวียงป่าเป้าเป็นอำเภอหนึ่งซึ่งอยู่ทิศใต้ของจังหวัดเชียงราย จากทั้งหมด 16 อำเภอ 2 กิ่ง อยู่ห่างจากตัวจังหวัด 90 กิโลเมตร การคมนาคมสะดวก ด้วยถนนลาดยาง ทางหลวงหมายเลข 118 ระยะทาง 180 กิโลเมตร จากจังหวัดเชียงราย – จังหวัดเชียงใหม่ และทางหลวงหมายเลข 1035 จากเขตเทศบาลแม่ขะจานไปยังอำเภอวังเหนือ ถึงจังหวัดลำปาง ยาวประมาณ 120 กม. และทางหลวงหมายเลข 1150 จากตำบลบ้านโป่งเทวีไปยังอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ยาวประมาณ 53 กม.ลักษณะที่ตั้งของอำเภอเป็นที่ราบระหว่างภูเขา มีแม่น้ำไหลผ่านจากภูเขาผีปันน้ำ( ดอยนางแก้ว ) เรียกแม่น้ำลาว ไหลลงสู่แม่น้ำกก โดยผ่านอำเภอแม่สรวย อำเภอแม่ลาว อำเภอเมือง และอำเภอเวียงชัย ตามแผนที่สากลจะอยู่ประมาณ ละติจูดที่ 15 – 19 องศาเหนือ ลองติจูดที่ 99 องศาตะวันออก สูงกว่าระดับน้ำทะเล 547 เมตร พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1,217 ตร.กม. หรือ 765,625 ไร่ เป็นพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 205,353 ไร่พื้นที่ป่าไม้ 560,272 ไร่
ขอบคุณจ๊าดนักครับอ้าย เจียงฮายพันธ์แท้ ขอบคุณครับ อ้ายเจียงฮายพันธ์แท้ครับผมได่งิน คนเฒ่าอู้กันเรื่องตำนานพระเจ้าดวงติ๊บลอยน้ำมา 3 กาว่า 5 เนี้ยผมบ่าแน่ใจ๋ (ตี่วัดบ้าบผมมีองค์) เปิ้ลลอยลุกตังได่ครับ ขอบคุณครับ
|
|
|
|
|
|
|
|
ลูกหล้าแม่อุ้ย
ชั้นประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 332
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 09 เมษายน 2011, 07:24:20 » |
|
อ้ายเจียงฮายพันธ์แท้ครับผมได่งิน คนเฒ่าอู้กันเรื่องตำนานพระเจ้าดวงติ๊บลอยน้ำมา 3 กาว่า 5 เนี้ยผมบ่าแน่ใจ๋ (ตี่วัดบ้าบผมมีองค์) เปิ้ลลอยลุกตังได่ครับ ขอบคุณครับ
จื่อเปิ้น "พระเจ้าดวงติ๊บ" กาว่า "พระเจ้าตองติ๊บ" ครับพระเจ้าดวงติ๊บครับ รบก๋วนถามแหมกำครับว่า วัดไหน หมู่บ้านอะหยัง ตำบลนี่ ตำบลเวียงก๋าหลงแม่นก่อครับวัดศรีบุญโยงต๋งม่านครับ)
|
|
|
|
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 2,024
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 09 เมษายน 2011, 22:20:31 » |
|
|
001.jpg (32.33 KB, 480x393 - ดู 630 ครั้ง.)
|
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
ลูกหล้าแม่อุ้ย
ชั้นประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 332
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 14 เมษายน 2011, 14:21:46 » |
|
หากจะกล่าวถึงพระเจ้าตองติ๊บ วัดศรีบุญโยง (โต้งม่าน) ก็ต้องย้อนไปอู้ถึง พระเจ้าตองติ๊บ ที่ศรีถ้อย แม่สรวยก่อนน่อ
พระเจ้าตองติ๊บ หรือ พระเจ้าทองทิพย์ ของ ต.ศรีถ้อย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
ประวัติพระเจ้าตองติ๊บ ต.ศรีถ้อย
พระเจ้าทองทิพย์"เป็นนามของพระพุทธรูปเก่าแก่เดิมอยู่กรุงศรีสันตนาคนหุต(หลวงพระบาง)ประเทศลาวโดยมีอายุประมาณพันปีเศษแล้ว เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ในการขอพรให้มีบุตร ดังปรากฏในเรื่องราวแต่หนหลังดังนี้
เมื่อ พ.ศ.2063 พระเจ้าโพธิสารซึ่งเป็นโอรสของพระเจ้าวิชุลราช ขึ้นครองนครเชียงทอง (หลวงพระบาง) พระเจ้าโพธิสารขึ้นครองราชย์เมื่ออายุ 19 พรรษา ต่อมาได้ไปขอ “พระนางยอดคำทิพย์” ราชธิดาพญาเกศ กษัตริย์เชียงใหม่ มาเป็นมเหสี ทั้งสองพระองค์ครองราชย์สมบัติร่วมกันเป็นเวลาหลายปีก็ไม่มีโอรส พระเจ้าโพธิสารทรงวิตกว่าภายหน้าจะไม่มีผู้สืบราชต่อไปจึงได้ดำริขึ้นว่า "พระเจ้าทองทิพย์เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของนครเชียงทองประจำนครมาแต่โบราณกาล สามารถดลบันดาลให้ผู้ที่ไปขอพรสมความปรารถนาได้ดังที่ขอ" ดังนั้นในวันวิสาขบูชาพระเจ้าโพธิสารพร้อมด้วยพระนางยอดคำทิพย์และบริวารจึงได้ นำดอกไม้ธูปเทียนไปนมัสการพระเจ้าทองทิพย์ตามประเพณีนิยมในวันวิสาขบูชา เมื่อนมัสการแล้วก็ขอพรตั้งสัตยาธิฐานต่อหน้าพระเจ้าทองทิพย์ขอให้พระนางยอดคำทิพย์มีพระโอรสด้วย ไม่ช้า พระนางยอดคำทิพย์ก็ทรงมีพระครรภ์ เมื่อครบกำหนดก็ประสูติเป็นพระโอรสทรงพระนามว่า "ไชยเชษฐากุมาร" (ต่อมาคือ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช)
เมื่อพระไชยเชษฐาเจริญวัย มีอายุ 14 พรรษา พระอัยกาธิบดี (ตา) หรือพญาเกศ กษัตริย์ผู้ครองนครเชียงใหม่สวรรคตและเกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในการเมืองล้านนา เสนาอำมาตย์และพระสงฆเจ้าทั้งหลายของนครเชียงใหม่นำโดย พระยาสามล้านอ้าย และพระยาเชียงแสนพร้อมกันมาทูลขอพระเจ้าไชยเชษฐาไปครองนครเชียงใหม่พระเจ้าโพธิสารก็ทรงอนุญาตให้พระโอรสไปครองนครเชียงใหม่โดยพระเจ้าโพธิสารได้ทรงตกแต่งขบวนแห่และยกทัพใหญ่ไปส่งพระโอรสด้วย ก่อนที่พระไชยเชษฐาจะเสด็จไปนครเชียงใหม่ พระเจ้าโพธิสารได้บอกให้พระโอรสอัญเชิญพระเจ้าทองทิพย์ไปด้วย เพราะเสมือนให้กำเนิดมาเมื่อตอนไปขอให้พระมเหสีมีพระโอรส พระเจ้าไชยเชษฐาจึงได้อัญเชิญพระเจ้าทองทิพย์ ลงเรือไปด้วยเพื่อจะนำไปยังนครเชียงใหม่
พระองค์ทรงลงเรือพระที่นั่งขึ้นมาตามลำน้ำโขงเข้าสู่แม่น้ำกกและแม่น้ำลาวตามลำดับ ครั้นเรือมาถึงหน้าวัดพระเจ้าทองทิพย์ปัจจุบัน เรือพระที่นั่งก็มาติดอยู่ทั้งๆที่ไม่มีสิ่งขีดขวางอะไรเลย ลูกเรือพยายามจะถ่อเรือขึ้นเรือก็ไม่ขึ้น จะถ่อเรือลงเรือก็ไม่ลง เหตุที่เป็นเช่นนั้น สันนิษฐานกันว่าเทพยดาที่ปกปักรักษาพระเจ้าทองทิพย์ทรงล่วงรู้ว่าที่เชียงใหม่นั้นมีปูชนียสถานและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนมากมายอยู่แล้ว จึงใคร่ที่จะให้พระเจ้าทองทิพย์ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระเจ้าทองทิพย์นี้ จึงบันดาลให้เรือพระที่นั่งติดอยู่ที่หน้าวัดพระเจ้าทองทิพย์ปัจจุบัน เมื่อพระเจ้าไชยเชษฐาทรงเห็นว่าลูกเรือพยายามจนสุดความสามารถแล้ว จึงสั่งให้บรรดาท้าวพระยาเสนาอำมาตย์ นิมนต์พระเจ้าทองทิพย์ขึ้นไว้ที่วัดพระเจ้าทองทิพย์ปัจจุบันและทรงโปรดให้สร้างมณฑปไว้เป็นที่ประดิษฐานองค์พระเจ้าทองทิพย์ โดยคิดว่าเมื่อไม่ได้ประดิษฐานไว้ใกล้เชียงใหม่สมดังความประสงค์ ถ้ามีธุระไปหลวงพระบางก็ดี หรือกลับเชียงใหม่ก็ดี จะแวะไปทำการสักการบูชาหรือถวายเครื่องทรงได้สะดวก เมื่ออาราธนานิมนต์พระเจ้าทองทิพย์ประดิษฐานที่นั่นแล้วก็เสด็จไปนครเชียงใหม่
พระเจ้าไชยเชษฐาครองราชย์ที่นครเชียงใหม่ได้เพียงสองปี พระเจ้าโพธิสารก็สวรรคต เสนาอำมาตย์นครเชียงทองจึงมาทูลเชิญพระเจ้าไชยเชษฐากลับ ในปี พ.ศ.2090 พระเจ้าไชยเชษฐาจึงได้กลับไปครองหลวงพระบาง เป็นกษัตริย์ล้านช้าง ขณะที่ทางล้านนาได้ตั้งกษัตริย์องค์ใหม่ คือ พญาแม่กุ ส่วนพระเจ้าทองทิพย์ที่ศรีถ้อยก็ถูกผู้คนหลงลืมไป
เวลาผ่านไปหลายร้อยปี ในปีขาล ราว พ.ศ.2368 ครูบายาโณพร้อมด้วยอุบาสกสามคน คือ ท้าวสงคราม แสนขวาง หมื่นขันธ์ ได้ลงขันกันสร้างวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าทองทิพย์ท่ามกลางป่านั้น และได้บอกเล่าให้ประชาชนรู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าทองทิพย์ ประชาชนเกิดความเลื่อมใสเคารพนับถือกันมาจนถือเป็นประเพณีสักการบูชาประจำปี
ต่อมาในปี พ.ศ 2397 ท่านครูบายะ ครูบาถา ครูบาพรหมตลอดถึงเจ้าธรรมลังกา (เจ้าหลวงเมืองเชียงราย) และพระยาไชยวงค์ผู้รักษาเมืองหนองขวาง (อำเภอแม่สรวยปัจจุบัน) ได้เป็นประธานโดยการนำราษฎรมาช่วยกันบูรณะ วิหารเป็นที่ประดิษฐานของพระเจ้าทองทิพย์ ครั้นถึงพ.ศ. 2461 เจ้าดารารัศมีและเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครอง นครเชียงใหม่ ได้ทำการสักการบูชาพระเจ้าทองทิพย์และมาพักแรมอยู่ที่นั้นหลายคืนเห็นว่าวิหารนั้นชำรุดมากจึงแนะนำให้ครูบาชัยวุติวชิรปัญญาพร้อมด้วยคณะสงฆ์และคณะศรัทธาช่วยกันบูรณะวิหารจนเสร็จในปีนั้น
ประวัติพระเจ้าตองติ๊บในวัดเขต อ.แม่สรวย และ อ.เวียงป่าเป้า
องค์พระเจ้าทองทิพย์ที่ประดิษฐานอยู่ตามวัดต่างๆในเขตอำเภอแม่สรวยและเวียงป่าเป้า เหตุที่เรียกว่า พระเจ้าทองทิพย์เนื่องจากได้นำ พระพุทธรูปจาก วัดพระเจ้าทองทิพย์ไปสักกาบูชา จึงเรียกชื่อตามพระเจ้าทองทิพย์
"องค์จริงดั้งเดิมยังคงประดิษฐานอยู่ที่วัดพระเจ้าทองทิพย์จนถึงปัจจุบัน" ลักษณะของพระเจ้าทองทิพย์ อยู่ในปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 80 ซม. สูง 120 ซม.
พระคาถาบูชาพระเจ้าทองทิพย์ ตั้งนะโม 3 จบ
ยัง วะระคุณะ สัมปันนัง ทิพพะ สุวรรณัง พุทธะปะฏิมา ฆะรัง ตัง สิระสา นะมามิ เอเตนะ สักกาเรนะมัยหัง สะทา โตถิ โหน ตุ ขิปปัง เม ตัสสานุภาเวนะ สัพพะ ธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตูติ ฯ ข้าพเจ้าขอน้อมบูชาพระเจ้าทองทิพย์ ที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วยเศียรเกล้า ด้วยอานุภาพแห่งการน้อมบูชานี้ ขออำนาจคุณพระเจ้าทองทิพย์ จงอำนวยอวยพรและปกปักรักษาข้าพเจ้าให้มีความสุข ความเจริญ ปราศจากทุกข์โศกโรคภัยทั้งปวง ปรารถนาสิ่งใดให้สำเร็จทุกประการเทอญ
ขอบคุณครับ แล้วบ่าได่จะถึงคิวบ้าบผม ดัน ดัน
|
|
|
|
|
|