ไม่เข้าใจคนสร้างสะพานข้ามน้ำแม่สรวย หน้าอำเภอแม่สรวย

[$LASSMUOO$]

ผมคนในพื้นที่ครับ เห็นสร้างเสร็จมาแล้วก็หลายปี แต่ไม่ค่อยได้ใช้งาน แถมเป็นแบบ 3 สะพานเรียงกันอีก หลายท่านผ่านไปคงเคยใช้งานกันครับ ที่สร้างใหม่ก็สร้างขนาบข้างสะพานเก่าซะงั้น แถมที่ได้ใช้งานอยู่จนถึงตอนนี้ก็ยังคงเป็นสะพานเก่าอีก ไม่รู้จะสร้างให้เปลืองงบเพือ? (ปล.แค่มาระบายปนสงสัยครับ ไม่รู้ว่าเค้าจะมีโครงการขยายถนนหรือยังไง ถึงขยายใหม่ก็ไม่รู้ว่าจะแบ่งช่องจราจรยังไงนะครับ คริๆ )

[BeNz-LoDsToNe]

งง  ตวย คน ครับ 

[teetee2011]

คงยังไม่ถึงเวลาเปิดใช้มั้งครับ   สะพานแห่งนี้ถือว่าเป็นสะพานประวัติศาสตร์ของอำเภอแม่สรวย  และ ของจังหวัดเชียงรายก็ว่าได้ เพราะวาเป็นสะพานคอนกรีตแห่งแรกของจังหวัดเชียงราย   สร้างเมื่อปี  พ.ศ  2497  สนับสนุนโดย  พันเอก นายวรการบัญชา  อดีต ส.ส. เชียงราย และ นายบุญช่วย   ศรีสวัสดิ์ โดยมีั  นายเสนอ  แสงสุวรรณ  เป็นวิศวกร
การก่อสร้าง (เกร็ดความรู้ ) 1. สะพานประวัติศาสตร์ แห่งแรก  2.  ชื่อ นายวรการบัญชา คำว่า "วรการ"เป็นชื่อสัญญาบัตรหรือราชทินนามที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เหมือนตำแหน่ง ขุน, หมื่น  3. นายบุญช่วย  ศรีสวัสดิ์   เป็นบุตรของคุณพ่ออินตา  ศรีสวัสดิ์  ซึ่งไม่มีบุตรจึงได้มากราบไหว้พระธาตุจอมแจ้งเพื่อขอบุตร เมื่อได้สมปรารถนาจึงตั้งชื่อว่า "บุญช่วย"  4. นายเสนอ  แสงสุวรรณ  ได้อยู่ทำการจนได้เป็นเขยของแม่สรวย (ปัจจุบันท่านยังมีชีวิตอยู่ได้ย้ายไปอยู่ที่อำเภอเมืองเชียงราย)  ทราบมาว่าในวันมงคลสมรสของท่าน  ได้ทำการปิดสะพานแห่งนี้จัดงานเลี้ยงรับรองแขกที่เชิญมาอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นอนุสรณ์ของท่าน  (ตอนนั้นสะพานยังไม่ได้เปิดทำการ ) และเกร็ดที่ควรจำไว้มาก ๆ และจงภูมิใจได้เป็นคนแม่สรวย  เนื่องจากอำเภอแมสรวยเป็นอำเภอเล็ก ๆ แต่ได้มี พระมหากษัตริิ์ยได้เสด็จพระราชดำเนิน 1.สมเด็จพระนเรศวรมหาราช  2. พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7  ได้เสด็จมาพักแรมที่บ้านท่าก๊อพลับพลา  (คำว่าพลับพลาคือที่พักหรือที่ประทับ) 3. เมื่อ พ.ศ 2420  เจ้าดารารัศมี พระราชชายา  ในสมเด็จพระปิยมหาราช ราชกาลที่ 5 ก็ได้เสด็จมาประทับพักที่วัดพระเจ้าทองทิพย์  ตำบลศรีถ้อย  4.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวราชกาลปัจจุบัน ได้เสด็จพร้อมสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถเมื่อ  พ.ศ 2512 (ถ้าจำไม่ผิด)  ต่อมาสมเด็จพระนางเจ้าก็เสด็จเป็นการส่วนพระองค์อีก และในอดีตยังมีเจ้านายชั้นผู้ใหญ่มาพักอยู่อีก 2 ท่าน (กำลังค้นคว้าอยู่) เราคนแม่สรวยจงภูมิใจว่าอำเภออื่น ๆ นั้นต่างก็มีประวัิศาสตร์เหมือนกันหมดแต่ยังไม่มีโอกาสเหมือนอำเภอแม่สรวยเรา  ที่มีพระมหากษัตริย์ได้เสด็จเช่นนี้   สำหรับคนแม่สรวยใครพอจะทราบถึงที่มาของคำว่า "ศรีถ้อย"บ้าง

[$LASSMUOO$]

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมครับ ขอแถมครับ โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่(ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ)ก็อยู่แม่สรวยครับตำบลผมเอง เริ่มนอกเรื่องสะพานไปด้วยคน 5555 ภูมิใจที่เป็นคนแม่สรวยอยู่แล้วครับ แต่งงว่าเค้าจะสร้างทำไปถึง 3 อันเรียงกัน มันแปลกๆครับ แถมจะเปิดใช้หรือยังไงก็ไม่มีข่าวคราว คนใช้บ้างไม่ใช้บ้างมันก็ตะงิดๆยังไงไม่รู้ครับหรือว่าจะเป็นเรื่องเงินล้วนๆน้อ

[lomluang]

สะพานที่สร้างใหม่แห่งนี้ เปิดใช้อยู่พักหนึ่งครับ แต่ปัญหามันเกิดขึ้นเนื่องจากสะพานสั้นและโค้งรถที่ขับมาขึ้นสะพานจะกระโดด เป็นอันตราย ไม่ปลอดภัยก็เลยเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ ให้คนงงๆ กันไปก่อน ถ้าได้งบทำถนนใหม่คงทำถนนสูงให้รองรับความโค้งสะพานและคงใช้ได้อีกครั้ง

[วสันต์ กอนสุวรรณ์]

ผมคนในพื้นที่ ยังไม่เข้าใจ๋เลยครับ เคยเปิดให้ทดลองใช้แล้วหนา(ไม่เป็นทางการ)  แต่ปรากฎว่า คอสะพานทรุด จากนั้นก็เอายางบ่าตอยมาลงโป่ะไว้ หลังจากนั้นมาก็ อย่างที่เห็นในปัจจุบันครับ

[บัญชา_มาร]

เมื่อก่อนผมก็สงสัยเหมือนหลายๆท่านนี่แหละครับ แต่พอผมได้ลองขับขึ้น-ลงสะพาน (แม่สรวยเข้าเชียงราย)ด้วยความเร็วประมาณ 80km/h ผลปรากฎว่า เกือบตายกันครับ รู้สึกว่ากำลังจะออกไปแตะขอบฟ้าเลยทีเดียว ทั้งผมทั้งเพื่อนนี้ใจคอไม่ดีเลย ปล.รถกระบะครับ

[ponyo_msw]

คงยังไม่ถึงเวลาเปิดใช้มั้งครับ   สะพานแห่งนี้ถือว่าเป็นสะพานประวัติศาสตร์ของอำเภอแม่สรวย  และ ของจังหวัดเชียงรายก็ว่าได้ เพราะวาเป็นสะพานคอนกรีตแห่งแรกของจังหวัดเชียงราย   สร้างเมื่อปี  พ.ศ  2497  สนับสนุนโดย  พันเอก นายวรการบัญชา  อดีต ส.ส. เชียงราย และ นายบุญช่วย   ศรีสวัสดิ์ โดยมีั  นายเสนอ  แสงสุวรรณ  เป็นวิศวกร
การก่อสร้าง (เกร็ดความรู้ ) 1. สะพานประวัติศาสตร์ แห่งแรก  2.  ชื่อ นายวรการบัญชา คำว่า "วรการ"เป็นชื่อสัญญาบัตรหรือราชทินนามที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เหมือนตำแหน่ง ขุน, หมื่น  3. นายบุญช่วย  ศรีสวัสดิ์   เป็นบุตรของคุณพ่ออินตา  ศรีสวัสดิ์  ซึ่งไม่มีบุตรจึงได้มากราบไหว้พระธาตุจอมแจ้งเพื่อขอบุตร เมื่อได้สมปรารถนาจึงตั้งชื่อว่า "บุญช่วย"  4. นายเสนอ  แสงสุวรรณ  ได้อยู่ทำการจนได้เป็นเขยของแม่สรวย (ปัจจุบันท่านยังมีชีวิตอยู่ได้ย้ายไปอยู่ที่อำเภอเมืองเชียงราย)  ทราบมาว่าในวันมงคลสมรสของท่าน  ได้ทำการปิดสะพานแห่งนี้จัดงานเลี้ยงรับรองแขกที่เชิญมาอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นอนุสรณ์ของท่าน  (ตอนนั้นสะพานยังไม่ได้เปิดทำการ ) และเกร็ดที่ควรจำไว้มาก ๆ และจงภูมิใจได้เป็นคนแม่สรวย  เนื่องจากอำเภอแมสรวยเป็นอำเภอเล็ก ๆ แต่ได้มี พระมหากษัตริิ์ยได้เสด็จพระราชดำเนิน 1.สมเด็จพระนเรศวรมหาราช  2. พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7  ได้เสด็จมาพักแรมที่บ้านท่าก๊อพลับพลา  (คำว่าพลับพลาคือที่พักหรือที่ประทับ) 3. เมื่อ พ.ศ 2420  เจ้าดารารัศมี พระราชชายา  ในสมเด็จพระปิยมหาราช ราชกาลที่ 5 ก็ได้เสด็จมาประทับพักที่วัดพระเจ้าทองทิพย์  ตำบลศรีถ้อย  4.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวราชกาลปัจจุบัน ได้เสด็จพร้อมสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถเมื่อ  พ.ศ 2512 (ถ้าจำไม่ผิด)  ต่อมาสมเด็จพระนางเจ้าก็เสด็จเป็นการส่วนพระองค์อีก และในอดีตยังมีเจ้านายชั้นผู้ใหญ่มาพักอยู่อีก 2 ท่าน (กำลังค้นคว้าอยู่) เราคนแม่สรวยจงภูมิใจว่าอำเภออื่น ๆ นั้นต่างก็มีประวัิศาสตร์เหมือนกันหมดแต่ยังไม่มีโอกาสเหมือนอำเภอแม่สรวยเรา  ที่มีพระมหากษัตริย์ได้เสด็จเช่นนี้   สำหรับคนแม่สรวยใครพอจะทราบถึงที่มาของคำว่า "ศรีถ้อย"บ้าง

  สุดยอดเลยครับ สาระ ความรู้ล้วน ๆ คอมเม้นแบบนี้น่าสนับสนุนและส่งเสริมเป็นอย่างยิ่งครับ ขอบคุณครับ 

[เล็กไอคิว คอมพิวเตอร์]

ผมก็สงสัย เหมือนกัน จะเปิดเลนส์ใช้กันยังไง 3 สะพาน 2 เลน ผ่าโขบเอาบ๋อ งง ขนาด อยากฮู้ว่าจะแบ่งสะพานยังได

[Chirakan]

เมื่อก่อนผมก็สงสัยเหมือนหลายๆท่านนี่แหละครับ แต่พอผมได้ลองขับขึ้น-ลงสะพาน (แม่สรวยเข้าเชียงราย)ด้วยความเร็วประมาณ 80km/h ผลปรากฎว่า เกือบตายกันครับ รู้สึกว่ากำลังจะออกไปแตะขอบฟ้าเลยทีเดียว ทั้งผมทั้งเพื่อนนี้ใจคอไม่ดีเลย ปล.รถกระบะครับ

ใช่ครับ เสียววาบ เกือบแตะขอบฟ้าเหมือนกันครับ

[LingJakJak]

ศรีถ้อย เป็นคำเมือง
ศรี หรือ สรี หมายถึงต้นศรีมหาโพธิ์ หรือต้นโพธิ์ (คนเมืองฮ้องว่า ต้นสรี หรือเค้าไม้สรี)
ถ้อย คืออาการเรียงกันเป็นทิวแถว (คนเมืองฮ้องว่า เรียงเป็นถ้อย)

ศรีถ้อย หรือ สรีถ้อย คือ บริเวณที่มีต้นโพธิ์ขึ้นหรือปลูกเรียงรายกันเป็นทิวแถว ส่วนมากจะอยู่ในหรือใกล้พุทธศาสนสถาน


คติ : ชื่อบ้านนามเมืองนั้นมีที่มา บ่งบอกภูมิศาสตร์ ประวิติศาสตร์ อัตตลักษณ์ท้องถิ่น หากไม่มีความจำเป็นอันใดแล้วอย่า 'อุตริ' คิดเปลี่ยนชื่อสถานที่โดยละทิ้งรากเหง้า โดยศักดิ์แต่ว่าชื่อใหม่นั้นมีความไพเราะกว่า ภาษางดงามกว่า ดูมีระดับกว่า แต่ไม่สามารถสะท้อนหรือเชื่อมโยงถึงรากเหง้าของท้องถิ่นได้เลย.... หันมานักละ