ถ้าปลุกไว้ใช้สอยรอบๆพื้นที่ที่เราทำการเกษตรไม่น่าจะมีปัญหาอะไร การปลูกบนคันนาต้องมีคันขนาดใหญ่พอสมควรอย่างน้อยเมตรหนึ่ง เพื่อให้เป็นที่เจริญเติบโตของมัน เวลาไถนาก็ไถตัดรากยูคาที่ลงไปตามขอบคันนาออกให้หมด จะได้ไม่ลงไปแย่งอาหารข้าว และการปลูกยูคาในนาข้าวเมื่อต้นยูคาใหญ่ขึ้นก็จะบังร่มทำให้ข้าวไม่ถูกแสงแดดและใบที่หล่นในนาก็มีส่วนทำให้ข้าวริมคันนาไม่ค่อยโต
ถ้าถามว่าการปลูกยูคาทำให้ดินเสื่ิอมหรือไม่ขอตอบว่าพืชทุกชนิดเมื่อปลูกลงไปในดินก็ทำให้ดินเสื่อม( อาหารและน้ำในดินถูกใช้ไปในการเจริญเติบโตของพืช) อย่างข้าวโพดหวานเวลาเราปลูกมันก็กินทั้งอาหารและน้ำในดิน และเราต้องหาอาหารและน้ำเพิ่มให้อีกอย่างมากบางทีต้องใส่ปุ๋ยถึง 50 กก ต่อไร่ ให้น้ำแบบฝนเทียมอีกด้วย แต่พอปลุกยูคากลับไม่ให้น้ำ ให้อาหารแก่มัน ทำให้มันต้องหากินเอง มันก้หากินเก่งมากๆๆ ดูดทั้งน้ำทั้งอาหารที่มีอยู่ในดิน ไปใช้แล้วโตเร็วมาก ก็ทำให้ดินเสื่อมโทรมเป็นธรรมดา
สิ่งที่อยากบอกคือถ้าปลูกอย่างอื่นได้และราคาดีพอสมควรก็ปลูกไปนะครับ เอายูคาไว้หลังสุด สำหรับดินที่เลว แห้งแล้ง และเจ้าของไม่ค่อยมีเวลาไปดูแล แค่ทำแนวกันไฟ ปีละครั้ง
ตามนั้นเลยครับ
ใบยูคาจะมีน้ำมันมาก(ที่เรียกว่าน้ำมันยูคาลิปนะครับ)
เมื่อใบทับถมลงไปในนาจะทำให้ดินไม่สามารถถ่ายเทอากาศได้