เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 20 เมษายน 2024, 02:23:10
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ห้องนั่งเล่น (ผู้ดูแล: แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-., ©®*)
| | |-+  บันทึก นักเรียน ในหน่วยสืบราชการลับ ที่เก่งที่สุดในโลก (แปลแล้ว)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน บันทึก นักเรียน ในหน่วยสืบราชการลับ ที่เก่งที่สุดในโลก (แปลแล้ว)  (อ่าน 1346 ครั้ง)
Ironmaiden
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,531



« เมื่อ: วันที่ 25 พฤศจิกายน 2014, 11:49:09 »

ถึงจุดนี้นักเรียนทุกคนได้เรียนรู้สิ่งที่เป็นพื้นฐานคร่าวๆแล้ว มีการฝึกที่เรียกว่า “บูติก” วันละ 2 ครั้ง โดยเป้าหมายคือ ฝึกประชุมวางแผนต่อเนื่องหลังจากได้เข้าหาเป้าหมายในครั้งแรกสำเร็จ บางครั้งพวกเราจับตามองการตรวจสอบ นักเรียนในชั้นด้วยกันผ่านกล้องวีดีโอ พวกเราจะประเมิน ความตั้งใจจริง ปฏิกิริยาต่อต้าน ความมุ่งมั่นทุมเทของนักเรียนในชั้นทุกคน... แต่ละคนจะถูกประเมินแบบนี้คนละ 90 นาที.. ในชั่วโมงนี้แต่ละคนในชั้นเรียนจะโชว์ความสามารถในการอ่านวิเคราะห์คนออกมาได้ อย่างน่าสะพรึงกลัว...   ทุกๆคำพูดที่หลุดออกมาจะถูกวิเคราะห์อย่างละเอียด.. ทุกๆการขยับ ทุกๆการกระทำ..... นั้นเป็นกับดักรึเปล่า?  ไอ้หมอนั้นมันบอกมันมีชุดสูทตัวใหม่?..นั้นมันมีความหมายอะไรซ่อนอยู่รึเปล่า? คิดอะไรอยู่....ทำไมถามคำถามนี้?
    ถึงแม้ว่าการทดสอบ “บูติก” จะทำให้ทุกคนกระอักกระอ่วนขนาดไหน... แต่อย่างน้อยพวกเราทุกคนก็ยังหายใจได้สบายดี..มันก็เป็นแค่การทดสอบ!! ในโลกของการจารกรรม...ความผิดพลาดทุกอย่างที่สะกิดให้เกิดความสงสัย....นั้นหมายถึงชีวิต!!
 
  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 25 พฤศจิกายน 2014, 11:56:14 โดย Ironmaiden » IP : บันทึกการเข้า
Ironmaiden
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,531



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 25 พฤศจิกายน 2014, 11:52:26 »

 พวกเราต้องการทำคะแนนให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้.. ยิ่งเราทำได้ดี..เรายิ่งมั่นใจเวลาที่ออกไปทำงานจริงๆ... ตั้งแต่ผมได้เข้ามาอยู่ใน MOSSAD…. ดูเหมือน โลกของผมข้างนอกนั้นมันหายไปโดยสิ้นเชิง ...ความรู้สึกตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนอะดรีนาลีนมันพุ่งอยู่ในตัวตลอดเวลา...
 
    ต่อมาพวกเราเข้าคอร์ส อบรมโดย เยอาร์ (Amy Yaar) หัวหน้าฝ่ายประสานงานของตะวันออกไกลและแอฟริกา ..เรื่องราวที่เขาเล่าให้ฟังมันสุดยอดมาก... จนพอจบชั่วโมง มีแต่คนถามคำถามว่า “ผมอยากเข้าทำงานในหน่วยของท่าน ผมต้องทำอย่างไรครับ?”


 
  หน่วยของ เยอาร์ แทรกซึมอยู่ทั่วตะวันออกกลาง.. พวกเขาทำงานเรื่องข่าวกรองเพียงเล็กน้อย.. หลักๆเขาทำเกี่ยวกับ การแทรกคนลงไปหน่วยงานธุรกิจ และแวดวงการทูต เครือข่ายพวกนี้ของ เยอาร์ แน่นมาก!!... มีครั้งนึงคนของ เยอาร์ แทรกซึมอยู่จากาต้า แล้วถูกจับได้ว่าเป็น MOSSAD เครือข่ายของ เยอาร์ ก็ช่วยเหลือเรื่องการหลบหนีโดยภารกิจก็บรรลุได้ตามเป้า... นอกจากนี้งานหลักของ เยอาร์ คือหาตลาดปล่อยอาวุธ.. คนของ เยอาร์ อยู่ ทั้งใน อินเดีย มาเลย์เซีย ญี่ปุ่น แอฟริกา และศรีลังกา... ศูนย์ปฏิบัติการของ เยอาร์ อยู่ที่เกาะSeychelles (เกาะเล็กๆเป็นอาณานิคมอังกฤษ เหนือมาดากัสก้า) พวกเขาพบปะกันที่นั้นและมีปาร์ตี้กันสุดเหวี่ยงทุกครั้ง…


   เอาแค่ขายอาวุธใน แอฟริกา ก็ได้เงินหลายล้านดอลลาห์แล้ว... พวก MOSSAD ทำงานใน 3 ขั้นตอนคือ เมื่อเข้าไปในประเทศนั้นๆ MOSSAD จะหาว่าประเทศนี้ต้องอะไรเร่งด่วน.. พวกเขาหวาดกลัวอะไร... ศัตรูของพวกเขาคือใคร...... ข้อมูลคำตอบพวกนี้จะถูกรวบรวมจากทุกๆทางเท่าที่ทำได้...เพื่อวัตถุประสงค์หลักคือ....  ให้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการ!!! พวก MOSSAD จะสร้างความสัมพันธ์ในระดับลึกและ.. ถึงโอกาสก็บอกว่า “อิสราเอลสามารถให้อาวุธที่คุณต้องการได้.. แถมมีโปรโมชั่นฝึกสอนให้ด้วย!!”เมื่อแน่ใจว่าพวกเขามีความต้องการแน่นอนแล้ว... MOSSAD จะส่งคนไปบอกผู้นำของประเทศนั้นประมาณว่า...”ถ้าท่านไม่รีบซื้อก็รู้จะว่าไงแล้วครับ โอกาสแบบนี้หาไม่ง่ายนะ!!” ..นอกจากอาวุธแล้ว MOSSAD ยังจัดหาอุปกรณ์การเกษตรส่งให้ประเทศนั้นๆด้วย แลกกับการเปิดสัมพันธ์การทูตกับอิสราเอล .. ส่วนเรื่องการขายอาวุธบางครั้ง อิสราเอลไม่ต้องเปิดสัมพันธ์ทางการทูตเลยด้วยซ้ำ!! ซึ่งตามปกติประเทศที่ไม่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจะไม่มีการติดต่อ ค้าขาย หรือไปมาระหว่างกัน.. ..ทำไมอิสราเอลถึงยังติดต่อค้าขายได้? ก็เพราะบางอย่างประเทศพวกนั้นเขาไม่ต้องการให้ใครรู้ว่ากำลังติดจ่อกับอิสราเอลน่ะสิ!!!
 
   ในศรีลังกา MOSSAD ในหน่วยงาน เยอาร์ ขายอาวุธให้ทั้งกบฏพยัคทมิฬและรัฐบาลศรีลังกา!! (เลวบริสุทธิ์จริงๆผับผ่าสิ..)แต่ MOSSAD แอบทำโดยไม่ให้ทั้ง 2 ฝ่ายรู้...มีครั้งนึง เยอาร์ ขายเรือลาดตระเวนชายฝั่ง(PT boat)ให้รัฐบาลศรีลังกา… แล้วก็แอบไปขายอาวุธต่อต้านเรือลาดตระเวณชายฝั่งให้พวกกบฏพยัคทมิฬ....ส่วนการฝึกทหารทางอิสราเอลก็ส่งคนไปฝึกหน่วยรบพิเศษของทั้ง 2 ฝ่ายให้ในเวลาแค่สั้นๆ..







  เมื่อรัฐบาลศรีลังการบพุ่งยาวนานจนถังแตก.. ก็ MOSSAD นี่แหละ ที่แนะนำวิธีโกง World bank !! ….เนื่องจากประเทศศรีลังกายากจน การลุกฮือของชาวนาบ่อยครั้งในบางพื้นที่ทำให้รัฐบาลต้องการแก้ปัญหาอย่างถาวรด้วยการย้ายชาวนาที่มีปัญหาพวกนั้นไปที่อื่น.. เยอาร์ ได้เสนอความคิดที่เรียกว่า Mahawili project  คือ การแปรรูปแม่น้ำมหาวิไล ให้เป็นพื้นที่แห้งๆเพื่อจะได้พื้นที่การเกษตรเพิ่มขึ้นกว่า 750,000 เอเคอร์.. ตอนนั้นพวกกลุ่มนักลงทุนของ World bank ก็เห็นด้วย.. พวกเขาอนุมัติเงินในโครงการกว่า 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อโครงการยักษ์ที่ใช้เวลากว่า 30 ปีนี้...


 
  
IP : บันทึกการเข้า
Ironmaiden
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,531



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 25 พฤศจิกายน 2014, 11:53:25 »

MOSSAD ใช้ศาตราจารย์จาก ม.เยรูซาเรม ในคณะนิเวศวิทยา กับคณะเกษตร เขียนวิจัยผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและผลประโยชน์ที่ได้จากการเกษตร โดยแนะนำให้ชาวนาต้องอพยพออกจากพื้นที่นั้นด้วย!!.. เมื่อ world bank อนุมัติงบประมาณ.. ผู้รับเหมาคงเป็นใครไม่ได้นอกจาก...บ.ก่อสร้างยักษ์ใหญ่ Solel Bonahจากอิสราเอล!! เมื่อได้เงินล็อตแรก 250 ล้านเหรียญ.. ทางคณะกรรมการจาก world bank มาดูงาน... พวก MOSSAD ต้องพาเดินอ้อม ให้เห็นแต่สิ่งที่จัดฉาก... โดยอ้างเหตุผลง่ายๆ ที่พวกคณะกรรมการพวกนี้ปฏิเสธไม่ได้คือ “ความปลอดภัย” ..ส่วนสิ่งที่จัดฉากบริเวณเล็กๆนั้นมีการก่อสร้างจริง ก็เอาไว้แสดงให้เห็นว่า “ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ดี ไม่มีอะไรติดขัด!! ”

   ในคอร์สอบรมต่อมาเจ้าน้าที่ MOSSAD จาก PAHA (Paylut Hablanit Oyenet หรือ หน่วยก่อวินาศกรรมศัตรู) ฟังชื่ออาจจะดูโหดๆ.. แต่เจ้าหน้าที่หน่วยนี้ส่วนใหญ่กลับเป็นเสมียนนั่งโต๊ะ..อ้าว!! แต่นี่เป็นหน่วยงานวิจัยที่เยี่ยมที่สุดของ MOSSAD!!... พวกเราถูกพาเข้าไปในตึกสำนักงานนี้ ซึ่งเป็นห้องโถงโล่งๆประมาณตึก 6 ชั้น  มีแผนที่โลกใหญ่ประมาณ 100 ฟุต  ซึ่งเป็นแผนที่โดยละเอียดตั้งแต่ขั้วโลกเหนือยันขั้วโลกใต้... เมื่อเราพิมพิ์ชื่อคนที่เราตามหาผ่านคอมพิวเตอร์ลงไป เช่น อาราฟัต.. จะขึ้นเป็นไฟกระพริบๆบนแผ่นที่ว่าคนๆนั้นอยู่ส่วนไหนของโลก.. โดยไฟกระพริบสีจ้าหน่อยก็บ่งบอกถึงที่อยู่ปัจจุบัน... สีอ่อนหน่อยก็บ่งบอกว่ากิจกรรมนั้นผ่านแล้วกี่วัน..ยิ่งจางเท่าไรยิ่งบ่งบอกว่านานเท่านั้น….   


    ในสาระบบของ PAHA มีรายชื่ออยู่ 1.5ล้านรายชื่อ... ซึ่งส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดจะเป็น PLO.. ถ้าหากพวกคนสำคัญๆของ PLO ไปอยู่ไหนพร้อมๆกันแสดงว่าต้องมีการประชุมเพื่อทำอะไรสักอย่าง? เป็นเรื่องที่ MOSSAD ต้องสืบรู้ และวางแผนล้วงความลับที่ว่านี้ให้ได้!!...  ตำแหน่งต่างๆของคนพวกนี้มีการส่งข้อมูลมาทุกวัน บางครั้งอัพเดทเป็นนาที!!
 
   ความเร็วในการอัพเดทขึ้นอยู่กับว่ากิจกรรมของ PLO พวกนั้นน่าจะเป็นภัยกับอิสราเอลขนาดไหน.... ตัวอย่างเช่น รถบรรทุกของ PLO 2 คันมาจอดที่ค่ายพวก PLO ในเลบานอน.. ใครอยู่บนนั้น? บรรทุกอะไรมา? กรณีแบบนี้ต้องรายงานให้ละเอียดที่สุด.... โปรแกรมเมอร์ของ PAHA จะลงข้อมูลพวกนี้ในสาระบบ.. โดยใช้โปรแกรมพิเศษที่พวกเขาเขียนกันขึ้นมาเอง... แม้แต่ตัวคอมพิวเตอร์พวกเขาก็ใช้ของประหลาดๆคือ Burroughs ในขณะที่กองทัพใช้ IBM (ในช่วง 1970s-1980s เทคโนโลยีเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ IBM คืออันดับ 1 ของโลก..ตอนนั้น Intel และ AMD ยังไม่เกิด)


  จากประสบการณ์ของเราบอกว่า “คลื่นลมจะสงบก่อนพายุกระหน่ำเสมอ”หากเราพบความสงบเกินเหตุ...นั้นหมายถึง  พวกเราต้องตื่นตัวระวังอันตราย .. ในวิกฤติการณ์เลบานอน 1981…. MOSSAD ได้รับแจ้งว่ามีเรือขนเนื้อวัวมาที่ค่ายพวก PLO ซึ่งปกติไม่เคยมีมาก่อน ..MOSSAD รู้ว่าพวก PLO วางแผนจะลอบโจมตี แต่ไม่รู้เมื่อไร... เมื่อเนื้อวัวพวกนั้นถูกใช้ในการฉลองอาหารเย็น ... MOSSAD แน่ใจว่า พวกPLO จะเริ่มการโจมตีในเร็วๆนี้แน่นอน.. เมื่อจับตามองใกล้ชิด.... ท้ายสุด MOSSAD ให้สัญญาณกองทัพเรือยิงขีปนาวุธถล่มพวก PLO …ขณะกำลังขึ้นเรือยางออกไปปฏิบัติภารกิจ.. ทำให้พวก PLO 11 คน ถูกกวาดหายในพริบตา.... นี่เป็นตัวอย่าง การรายงานที่มีประสิทธิภาพ......

   
IP : บันทึกการเข้า
Ironmaiden
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,531



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 25 พฤศจิกายน 2014, 11:54:18 »

เมื่อสิ้นสุดเดือนที่ 2 พวกเราได้รับแจกอาวุธประจำกายคือ .22 บาเร็ตต้า.... เหตุผลคือมันมีขนาดเล็ก แบน และใช้ได้มีประสิทธิภาพ.... ปืนชนิดนี้สามารถเอาไว้ในเสื้อแจ็คเก็ตบางๆได้โดยไม่ถูกสังเกต ..แต่เจ้าหน้าที่ MOSSAD ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยพกปืน ในหลายๆประเทศอย่างเช่น อังกฤษ การพกปืนนั้นผิดกฎหมาย เรื่องอะไรเราต้องเสี่ยงให้โดนจับ สู้ทำตัวให้ไม่น่าสงสัยและ เมื่อมีปัญหาก็วิ่งหนีเอาง่ายกว่า...

   เจ้าหน้าที่ MOSSAD ส่วนใหญ่มักจะเอาปืนแนบไว้ข้างเอว ตรงช่วงเข็มขัด.. ไม่ค่อยมีใครใช้ซองใส่ปืน.. ในการฝึกใช้อาวุธมันก็เหมือนปั่นจักรยาน.. คุณปั่นได้ครั้งเดียว คุณจะปั่นมันได้ตลอดไป... ทันทีที่คุณล้วงปืนคุณออกมา หมายความว่าสมองคุณส่งสัญญาณออกมาแล้วว่า “คนที่อยู่หน้าคุณต้องตาย.. ไม่งั้นก็คุณนั้นแหละที่ต้องตาย!!” การเอาปืนแนบไว้ข้างๆเอวมีข้อดีคือ เวลาคุณล้วงปืนคุณต้องเอี๊ยวตัว ลดการเป็นเป้าการถูกยิงลงได้ประมาณครึ่งนึง .. ทันทีที่คุณยิงก็จงยิงจนกว่าเป้าหมายจะล้มลง... และเมื่อเป้าหมายนอนอยู่คุณต้องยิงซ้ำที่หัวของเป้าหมายอีก 1 นัด เพื่อความแน่ใจ..

   กระสุนที่พวก MOSSAD ใช้กันคือ dum-dum หรือกระสุนหัวแบน เมื่อกระสุนกระทบเป้าหมายหัวกระสุนจะบานออกทำให้เกิดการทำลายในระยะประชิดสูงสุด... ที่ฝึกยิงปืนของเราอยู่ใกล้ๆ Petah Tikvah… ซึ่ง บริเวณนี้เป็นที่ฝึกทหารให้รัฐบาลชาติอื่นๆด้วย.. การฝึกเราเริ่มตั้งแต่พื้นฐานคือ ยืนยิงเป้านิ่ง เป้าคลื่อนไหว ..เคลื่อนไหวแล้วยิง.. มีการสร้างสถานที่ให้เหมือนกับโรงแรม โดยให้เราสวมรอยเป็นบ๋อย หรือ จารชน เดินไปที่ห้องที่เรามีกุญแจ ทันใดนั้นจะมีประตูเด้งออกมา เราต้องยิงเป้าที่เป็นกระดาษแข็งที่หลบอยู่ตามห้อง... พวกเราจะถูกสอนให้ทิ้งทุกอย่างก่อน จึงชักปืนออกมายิง!!

  พวกเราถูกสอนให้ยิงในทุกๆอิริยาบถ.. แม้กระทั่งเวลานั่งอยู่ในร้านอาหาร..... จะนั่งยิง ยืนยิง หรือจะหมอบใต้โต๊ะ.. บางคนถีบโต๊ะให้ล้มแล้วพิงอยู่หลังโต๊ะ.. ซึ่งผมก็ไม่ค่อยชำนาญวิธีนี้เท่าไร...


  แล้วถ้ามีผู้บริสุทธิ์อยู่แถวๆนั้นเขาจะไม่ซวยเหรอ? พวกเราถูกสอนแค่ว่า คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่พวกนั้นก็แค่คนที่จะเป็นพยาน ในกรณีคุณเดี้ยงเป็นศพ หรือไม่ก็ ศัตรูของคุณ.... แล้วคุณจะไปสนทำไมว่าใครมันจะเจ็บจะตาย..ช่างแม่ง...? สิ่งที่คุณต้องสำเนียกไว้ตลอดคือ นี่คือเรื่องของการเอาตัวรอด ....ไม่ฆ่าก็ถูกฆ่า ..ลืมไอ้คำว่า“มนุษยธรรม”นั้นซะ!! ..แล้วทำภารกิจของ MOSSAD ให้บรรลุ........ ไม่ต้องละอายใจที่จะต้องเห็นแก่ตัว!!

    หลังจากกลับมาจาก ฝึกยินปืน Riff ก็บอกพวกเราว่า “ฝึกยิงปืนแล้วใช่ไหม? เฮ้ออ.. ลืมมันซะ คุณไม่ค่อยได้ใช้มันหรอก..” อ้าว...เห้..พวกเรามีปืนที่ดีที่สุดของโลกตะวันตก..แถมฝึกใช้มันจนคล่อง.... Riff ทำให้พวกเราเซ็งอย่างแรง.. ถึง Riff จะพูดยังไงผมก็แน่ใจว่าผมได้ใช้มันแน่!!

   ระหว่างนี้เรายังฝึก สะกดรอย และสังเกตการณ์ถูกสะกดรอยกันอยู่ในทุกวัน.. จนวันนึงเราต้องเรียนเรื่อง “การพลางตัว และ การตรวจหาอาวุธยุโปกรณ์ต่างๆ” โดยผู้พันแก่ๆของกองทัพอิสราเอลคนนึง...ตลอด 6 ชม.ที่ยาวนานเหมือน นรก.. ท่านผู้พันสอนเล็คเชอร์ด้วยเสียงต่ำโมโนโทน.. การขยับอย่างเดียวที่ผู้พันทำก็คือ ขยับนิ้วเพื่อเปลี่ยนสไลด์..... พวกเราเห็นสไลด์เป็นพันรูป พร้อมด้วยคำบรรยายแค่ว่า “นี่คือรถถังอียิปต์สีน้ำตาล..เห็นไหมมันสังเกตได้ยากบนทะเลทราย..” “นี่เครื่องบินอิยิปต์มันพลางตัว...” “นี่รถจี๊บอเมริกัน”... กว่าผู้พันแกจะไล่อาวุธและสีพลางของประเทศศัตรูของเราหมด.. ผมก็ตาปรือ.. นี่เป็นการเล็คเชอร์ที่โครตจืดชืดที่สุดในชีวิตผม...แล้วพวกนักเรียนก็คิดแบบเดียวกันหมด..
 


 


    เล็คเชอร์ต่อมาเป็นเรื่องที่สำคัญมากคือ เรื่อง เอกสาร ใบอนุญาต บัตรเครดิต และพาสปอร์ต... ซึ่งเอกสารที่สำคัญสุดของ MOSSAD คือ พาสปอร์ต.. แบ่งความสำคัญได้เป็น  4 ระดับคือ ระดับสุดยอด. , ชั้นสอง, .ใช้ปฏิบัติการภาคสนาม และใช้ทีเดียวทิ้ง

 พาสปอร์ทแบบใช้ทีเดียวทิ้ง มักถูกขโมยมา ไม่ก็ถูกเก็บได้..(ใครไปเที่ยวอิสราเอลคงหนาวๆร้อนๆแล้วล่ะ..) เป้าหมายของการใช้ พาสปอร์ทชนิดนี้คือ.. แค่โชว์ผ่านๆ ไม่ใช่เอามาระบุตัวตนอะไรชัดเจนมากมาย.. รูปอาจถูกตัดเปลี่ยน ชื่ออาจถูกแก้ แต่จะแก้ไขให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้.. โดนรวมเป็นยังค่อนข้างหยาบ.. หากเอามาตรวจสอบโดยระเอียดมักจะถูกจับได้...  รายละเอียดที่ถูกเขียนใน พาสปอร์ทคุณไม่จำเป็นต้องรู้อะไรเลยก็ได้...

  พาสปอร์ทแบบ ใช้ปฏิบัติการภาคสนาม เป็นพาสปอร์ทแบบที่ใช้ปฏิบัติการในประเทศหนึ่งๆ โดยจะไม่มีการใช้ข้ามพรมแดน.. การพาสปอร์ทปลอมเป็นสิ่งที่ MOSSAD พยายามหลีกเลี่ยงเสมอ.. ยกเว้นในกรณีที่เลี่ยงการตรวจจับจากเจ้าหน้าที่ไม่ได้จริงๆก็อาจใช้วิธีอื่น.. โดยยื่นเป็นเอกสารการทูตที่อยู่ซอง “ลงยาง”(เอาขี้ผึ้งปิดที่ซองจดหมายหนาๆแล้วปั๊มตราลงไปก่อนขี้ผึ้งจะเริ่มแข็ง วิธีการส่งเอกสารแบบนี้ยังใช้กันระว่างสถานทูตจนบัดนี้..) ซึ่งผู้ที่สารที่มี”ลงยาง” แบบนี้จะมีสิทธิพิเศษทางการทูต สามารถเลี่ยงการถูกตรวจค้นได้...

   พาสปอร์ท ชั้นสอง เป็นพาสปอร์ที่สมบูรณ์แบบ คือ เป็นพาสปอร์ทปลอมซึ่งคนที่เราสวมรอยไม่มีตัวตนอยู่จริง... เราจะได้รับการบอกเรื่อง ประวัติปลอม รายละเอียดในพาสปอร์ทว่า เคยอยู่เมืองไหน เพื่อนบ้านชื่ออะไร เราจะต้องรู้ทั้งหมด..

   พาสปอร์ทระดับสุดยอด .. เหมือนกับพาสปอร์ทชั้นสอง แต่ MOSSAD เตรียมพยานบุคคลยืนยันเรื่องที่เราแต่งขึ้นไว้ด้วย ถ้าหากมีการตรวจสอบอย่างละเอียดกับรัฐบาลเจ้าของพาสปอร์ท แม้จะโทรไปเช็คทุกอย่าง ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้..

   
IP : บันทึกการเข้า
Ironmaiden
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,531



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 25 พฤศจิกายน 2014, 11:54:48 »

การผลิตพาสปอร์ต แต่ละประเทศจะใช้กระดาษต่างๆกัน... แน่นอน.. รัฐบาลแคนาดาคงไม่ขายกระดาษที่ใช้ทำพาสปอร์ตให้กับใครแน่ๆ.... ดังนั้น MOSSAD จะมีแผนกเคมีวิจัย และโรงงานทำกระดาษ อยู่ในศูนย์ของ MOSSAD… พวกนักเคมีจะวิเคราะห์กระดาษอย่างถี่ถ้วน แล้วส่งให้โรงงานเป็นผู้ผลิต... ถ้าหาก MOSSAD ค้นพบสูตรการทำกระดาษได้เมื่อไรล่ะก็.. พวก MOSSAD ก็พร้อมจะปั๊มพาสปอร์ทปลอมเท่าไรก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการ.... 

   โกดังกระดาษในโรงงาน ถูกเก็บอย่างมิดชิด สะอาด ความชื้นทุกอย่างถูกควบคุมอย่างเหมาะสม.. MOSSAD มีตัวอย่าง พาสปอร์ทจริงกองพะเนิน... แค่พาสปอร์ทแคนาดาอย่างเดียวที่ผมเห็นก็ไม่น่าต่ำกว่า 1,000 ฉบับ...  โดยแยกแบ่งตามชาติต่างๆ ส่วนพาสปอร์ทปลอมก็มีพร้อมใช้เกือบทุกชาติในโลก!! โดยแบ่งเป็นประเทศต่างๆ  เมืองต่างๆ บางเมืองยังมีแยกตามเขตลงไปอีก ชื่อแบบยิว-ไม่ใช่ยิว อายุช่วงต่างๆ... เวลาจะเรียกใช้ก็กดคอมพิวเตอร์ค้นหาเอา  อีกปฏิบัติการนึงที่ MOSSAD เคยทำ คือ โจมตีค่าเงินของ จอร์แดน โดยปั๊มเงิน ดีนาห์ของจอร์แดนแล้วปล่อยออกมาซื้อเงินดอลลาห์สหรัฐ ทำให้ค่าเงินจอร์แดนดิ่งลงเหว... และ เศรษฐกิจจอร์แดนต้องปั่นป่วนอย่างหนักในช่วงนั้น…

  นอกจากทำพาสปอร์ทปลอมแล้ว.. MOSSAD ยังทำ ตราปั๊มของปลอมและลายเซ็นปลอมด้วย.. เวลาจะสวมรอยพาสปอร์ทของใคร ในกรณีที่มีประวัติเคยไปเที่ยวไหนมาบ้างจะมีรอยตราปั๊มของประเทศที่ไปเที่ยว... ซึ่งของพวกนี้ตรวจสอบได้ง่าย.. MOSSAD จะปั๊มตราผ่านแดนและเซ็นกำกับด้วยลายเซ็น เจ้าหน้าที่ซึ่งคุมด่านในเวลานั้นๆ อย่างไม่มีผิดพลาด... บางพาสปอร์ทต้องปั๊มตรามากกว่า 20 ครั้ง.. ในประวัติการทำงานอันยาวนานของแผนกนี้.. ยังไม่เคยมี MOSSAD คนไหนถูกจับได้เพราะถือพาสปอร์ทปลอม!!!

   สมมุติ ในพาสปอร์ทนั้นเคยมีตราปั๊มของ เอเทนท์... เจ้าหน้าที่ MOSSAD ต้องท่องด้วยว่า วันนั้นไปทำอะไรที่เอเทนท์.. MOSSAD จะให้ข้อมูลให้ เจ้าหน้าที่ท่องเอาแค่รายละเอียดอย่าง ประมาณว่า อากาศเป็นไง อะไรเด่นๆที่นั้น เรื่องไหนที่คนไป เอเทนท์ มักประทับใจแล้วจะพูดกัน..(การพูดละเอียดมากไป อาจดูน่าสงสัย) หาก MOSSAD สวมรอยเป็นตัวปลอมที่เคยใช้ปฏิบัติงานมาก่อน.. เจ้าหน้าที่ MOSSAD จะได้รับสคริปสั้นๆประมาณว่า ตอนนี้คุณชื่ออะไร? คราวก่อนคุณไปไหนบ้าง? นอน รร.ไหน? เจอใคร? ที่ไหนบ้าง? คุยกันเรื่องอะไร? ในทุกๆรายละเอียดแม้จะเล็กน้อยแค่ไหน.. เพราะทุกครั้งเจ้าหน้าที่ MOSSAD จะส่งข้อมูลอย่างละเอียดเสมอ... ในบางทีคุณต้องสวมรอยเป็นใครหลายคนในเมืองเดียว คอมพิวเตอร์จะคำนวณให้คุณว่า.. คนที่คุณจะเข้าไปหลอกใช้ เป็นเพื่อนกับคนที่เคยรู้จักกับคุณ(ตอนที่คุณสวมรอยเป็นคนอื่น)ไปแล้วหรือไม่?..


  ในตลอด 1 สัปดาห์ผมต้องเรียนเรื่อง อิสลาม วันละ 1 ชม... ต่อเนื่องกันนาน 6 สัปดาห์.. คนที่สอนคือ ศาตราจารย์จากมหาวิทยาลัย.. เราต้องรู้เกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ พิธีการ การแต่งตัว ขนบธรรมเนียมในชีวิตประจำวันซึ่งแบ่งเป็นหลายส่วนมาก อันไหนอนุญาต อันไหนทำไม่ได้ วันหยุดตามศาสนาอิสลาม สิ่งไหนที่พวกมันชอบทำ สิ่งไหนคือข้อจำกัดของมัน... นี่เป็นสิ่งช่วยเติมเต็มรูปภาพของศัตรูพวกเราซึ่ง ทำให้ผมรู้ว่าจะหลอกลวงพวกมันยังไง.... ในวันสุดท้ายพวกเราใช้เวลาสอบ 1 วันเต็มๆ ในการเขียนรายงานเรื่อง ..”ความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกกลาง”…
 
  เราถูกสอนให้รู้จัก bodlim.. ผู้ทำงานเป็น ตัวประสานงานระหว่าง Katsas กับ สถานทูตอิสราเอล... โดยปกติ Katsas จะไม่สามารถเข้าไปในสถานทูตได้ (ขึ้นกับลักษณะภารกิจด้วย) ..bodlim จะเป็นคนถือเอกสารต่างๆจากสถานทูตมาให้ Katsas …แล้วก็เอาเอกสารจาก Katsas กลับไปสถานทูต... bodlim จะถูกสอนเกี่ยวกับการสะกดรอยและวิธีป้องกันการถูกสะกดรอยจาก APAM… bodlim จะถือเอกสาร”ลงยาง” ของสถานทูตเพื่อป้องกันการถูกตรวจค้นด้วย..

   Bodlim ทั่วๆไปจะเป็นเด็กอายุประมาณ 20 ปี.. อย่างน้อยสุด bodlim ต้องมีประวัติฝึกอยู่ในกองทัพอิสราเอล ส่วนใหญ่เหตุผลที่มาอยู่ต่างประเทศ คือ มาศึกษาต่อ...  พวก bodlim เป็นคนที่ไว้ใจได้..เซพเฮาส์ต่างๆที่ MOSSAD จะใช้ในการปฏิบัติการ.. bodlim สามารถ กิน อยู่ หลับนอนในบ้านนั้นได้ฟรี.. แต่มีข้อแม้ว่าห้ามพาเพื่อน หรือแฟน มานอนด้วย...

   ในฐานปฏิบัติการหนึ่งจะมี bodlim อยู่ประมาณ 2-3 คน... แต่ละคนจะดูแลเซพเฮาส์ประมาณ 6 หลัง.. เมื่อเพื่อนบ้านเห็นบ้านมีคนอยู่.. มีคนรับจดหมาย หนังสือพิมพ์ ..มันทำให้ดูไม่น่าสงสัย..bodlim ต้องเติมอาหารลงในตู้เย็น จ่ายบิลต่างๆให้บ้านทุกหลัง.. ค่าตอบแทนของพวกเขา คือ.. MOSSAD จะจ่ายค่าเล่าเรียนให้พวกเขาทั้งหมด บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ รวมทั้งให้เงินเดือน 1,000-1,500 เหรียญสหรัฐต่อเดือน.. สำหรับนักศึกษามันช่างเป็นข้อตกลงที่ไม่เลวเลย...

    หัวข้อต่อมาคือ Mishlasim หรือการสารลับ.. เช่น การทิ้งข้อความรหัส หรือส่งกระดาษสารลับ สิ่งที่ต้องคิดไว้ในใจเสมอคือ.. การส่งข้อความแบบนี้เป็นการส่งจาก katsa ทางเดียว.. วันใดที่คนรับข่าวสารจากเราพยายามติดต่อเรากลับด้วยวิธีใดๆนั้นหมายถึงกับดัก!!
 
    หัวใจสำคัญสำหรับการส่งสารลับ แบบนี้มี 4 ข้อ ที่จะรับประกันความสำเร็จหลังจากที่คุณพิจารณาแล้วว่าคุณมีสิ่งที่ต้องส่งด้วยวิธีนี้ คือ

1  เวลาที่ คุณนำ”สารลับ”ไปทิ้งไว้ต้องสั้นที่สุด

2  เวลาที่คุณทิ้ง “สารลับ” นั้น .. ต้องไม่เป็นที่สะดุดตา

3 สถานที่ซึ่งจะนัด คนจะมารับ “สารลับ” ต่อจากคุณต้องง่ายในการอธิบายบอกต่อให้เข้าใจ

4 เมื่อคนรับ”สารลับ” ของคุณไปต่อ ต้องไม่ดูเป็นที่สะดุดตา

   พวกเราเรียนรู้จุดซ่อนของง่ายๆในบ้าน... ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นจุดบอดที่ใครๆก็ไม่เคยมองหา... ในกรณีที่คุณมีสิ่งที่ต้องซ่อนอย่างรวดเร็ว คือ..  ประตูบ้านยิ่งเป็นประตูไม้อัดยิ่งดีเพราะ ประตูพวกนี้จะเอาไม้มาประกบกัน 2 ด้านแล้วมีไม้อีกอันทำเป็นสันขอบประตูซึ่งแกะได้ง่าย เราสามารถเปิดรูบนประตูแล้วซ่อนของได้..  อีกอันคือท่อของราวแขวนผ้า ถึงตู้เสื้อผ้าคุณจะโดนรื้อค้นกระจุยกระจายยังไง สิ่งที่ใครๆก็มักไม่แตะต้องคือ ราวแขวนผ้า!!

   สำหรับการซ่อนเอกสารหรือ สิ่งของที่ง่ายสุดคือซ่อนในหนังสือพิมพ์ หรือ หนังสือ คุณแค่กรีดช่องในหนังสือพวกนี้ให้เป็นรูแล้วซ่อนสิ่งที่คุณต้องการลงไป ....คุณสามารถยื่นหนังสือพวกนี้ให้เจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจแล้วข้ามมาได้ง่ายๆ
 
  อีกหนึ่งการทดสอบเรียกว่า “กาแฟ” พวกเราจะถูกแบ่งเป็นกลุ่มละ 3 คน.. ถือพาสปอร์ตปลอม และมีประวัติปลอมกันทุกคน.. พวกเรานั่งทานกาแฟอยู่ที่ล็อบบี้โรงแรม... เมื่ออาจารย์ผู้สอนเดินเข้ามา เขาจะสุ่มเรียกพวกเราให้ไปหาเรื่องทำความรู้จักใครก็ตามที่อาจารย์สั่ง... บางครั้งอาจารย์ก็เตี๊ยมไว้ บางทีก็ไม่... หลักๆที่เราต้องรู้เรื่องของคนที่เราคุยด้วยให้ได้มากที่สุด แล้วนัดเจอกันในครั้งต่อไปให้ได้....

  ผมเดินไปหาชายคนหนึ่งหน้าตาออกแนวแอฟริกาเหนือ... เริ่มต้นการสนทนาด้วยว่า “พี่ชาย พอจะมีไม้ขีดไฟเปล่า?” ..ชายคนนั้นได้เริ่มหันมาสนใจผม..นั้นแหละเขาติดกับผมแล้ว!!.. ดูเหมือนผมทำได้ดีทีเดียว.. แล้วก็เหมือนเดิม..ท้ายสุดพวกผมต้องมาเขียนรายงาน เกี่ยวกับเรื่องที่คุย และทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างนั้น ..วันรุ่งขึ้นพวกเราก็มาอภิปรายกันในชั้นเรียน บางครั้งคนที่เราไปคุยด้วยก็มานั่งหัวเด่อยู่ในชั้นนั้นแหละ!!



 
(รูป เด็กและผู้หญิงซึ่งพวกมุสลิมมักเอามาเป็นโล่มนุษย์ และระเบิดพลีชีพ)

   .ในอดีต MOSSAD เคยเจาะข้อมูล PLO สำเร็จ..โดยเริ่มจาก ปลอมเป็นนักข่าวไปทำข่าวการประชุมของ PLO ใน ตูนีเซีย ..หลังจากนั้นเขาตีสนิทพวก PLO ได้ก็ ล้วงข้อมูลวงในออกมาได้มากมาย

    ทุกๆการทดสอบพวกเราจะได้ทำมันซ้ำแล้วซ้ำอีก.. จนดูเหมือนความคิดและสิ่งต่างๆที่ได้เรียนมาเริ่มบูรณาการชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ...  ง่ายๆคือ เราหาเป้าหมายที่จะเข้าโจมตี.. ทุกๆคำของการสนทนาเต็มไปด้วยกับดักตั้งแต่คำว่า “สวัสดี!!” ทุกครั้ง MOSSAD มักจะสวมรอยเป็นคนที่ร่ำรวย... แต่การระบุอาชีพ ต้องอย่าให้มันชัดเจน..... แต่ก็เช่นเดียวกัน อย่าให้มันคลุมเครือเกินไปเดี๋ยวมันจะเหมือนโจร.. (อย่างโบราณเขาว่า มีเงินนับน้องมีทองนับพี่...ใครๆก็อยากรู้จักกับคนรวย..)
 
    ไปๆมาๆผมชักรู้สึกว่า สถาบันแห่งนี้เป็นสถาบันสอนการต้มตุ๋นที่เจ๋งที่สุดในโลก!! ... ปัญหาที่ผมทำใจไม่ค่อยได้ก็ คือ ..เมื่อกี้ผมยังเป็นเจ้าสัวร้อยล้านอยู่เลย..อยู่ๆผมก็ตื่นจากความฝัน..โอ๊วว แม่เจ้า..นี่กูเป็นข้าราชการนี่หว่า..และ ตอนนี้ได้เวลาต้องเขียนรายงานส่งแล้ว!!

    ถ้าหากมองจากคนภายนอก อาจมองพวกผมเป็นระดับ โครตเทพแห่งการต้มตุ๋น แต่.. หากเป็นคนที่อยู่ในวงการเดียวกันอาจไม่ปลื้มก็ได้.. นักเรียนร่วมชั้นคนนึงชื่อ Yoade เขาเป็นคนที่ตายตอนจบ อย่างน่าสงสาร.. ขณะ Yoade ทำการทดสอบ”กาแฟ” Yoade สร้างเรื่องของตัวเองดูหลุดโลกมาก เรื่องของYoade ถูกอภิปรายหลายครั้ง แต่Yoade ก็ยังทำแบบเดิมซ้ำๆ

  วันนึง Shai Kauly อาจารย์ฝึกได้เดินมาเรียกชื่อเต็มๆของ Yoade ..

“ครับ!! ผมเอง” Yoade ขานรับ

“เก็บข้าวของ แล้วไสหัวไปจากที่นี่ซะ!!”
 
“อะไรนะ!!” Yoade อ้าปากค้าง ทั้งๆที่กัดแซนวิซไปครึ่งคำ “ทำไม!!”

“จำเรื่องการทดสอบเมื่อวานได้ไหม.. นั้นแหละฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้อูฐหลังหัก!!..”     
 
    เรื่องมีอยู่ว่า Yoade เดินไปหาเป้าหมายแล้วพูดว่า “โทษทีครับขอนั่งตรงนี้ด้วยคนได้ไหม?” …Yoade ก็นั่งลงไปแล้วเขาก็ปิดปากเงียบ...แต่ดันไปเขียนรายงานถึงการสนทนาอย่างมีออกรสชาติ....นิ่งเสียตำลึงทอง..สุภาษิตนี้ดูท่าจะใช้ไม่ได้ในตอนนี้.. การกระทำระยำๆของYoade ทำให้อาชีพของเขาต้องสิ้นสุดลง โดยใครก็ช่วยอะไรไม่ได้!!

    ตอนนี้ในทุกเช้าพวกเราต้องใช้เวลาครึ่ง ชม. ในการอ่านข่าวสารใหม่ๆที่เกิดขึ้นบนโลก และวิเคราะห์มันอย่างลึกซึ้ง.. การที่พวกเราอยู่ในโลกแบบนี้ มีสิทธิที่จะหลุดจากข้อมูลข่าวสารจากโลกแห่งความเป็นจริงได้  ..และนั้นมันก็อันตรายถึงชีวิต...หลังพวกเราอ่านข่าวพวกนี้เสร็จ นักเรียนบางคนอาจถูกสุ่มไปพูดสรุปเหมือนเล่าข่าวเช้านี้ พร้อมวิเคราะห์หน้าชั้นเรียน หลายครั้งที่พวกเราจับผิดข่าวพวกนี้ได้ว่า แม่งนั่งเทียนเขียน!!


   อีกเล็คเชอร์นึงคือ การวิเคราะห์การต่อต้านการก่อวินาศกรรม โดย PAHA เป็นอาจารย์สอน โดยสมมุติว่าเราได้เบาะแสว่าจะมีการก่อการร้ายกับสาธารนูปโภคในประเทศหนึ่งๆ เราจะประเมินสถาณการณ์และยับยั้งมันอย่างไร? ข้อสรุปคือ..

1 พื้นฐานสุดคือ ถ้าการก่อวินาศกรรมนั้นไม่เปิดอันตรายกับอิสราเอล ...คุณสามารถแจ้งเบาะแสผ่านโทรศัพท์สาธารณะที่มีเกลื่อนถนน หรือบอกผ่านผู้ติดต่อประสานงานให้บอกต่อกันไปเป็นทอดๆ... คุณห้ามบอกที่มาของแหล่งข่าว.. แต่คุณสามารถบอกเกี่ยวกับตัวคุณเองได้ใน..กรณี ที่ประเทศนั้นๆจะได้เป็นหนี้บุญคุณอิสราเอล......

2 เป็นการก่อวินาศกรรมกับประเทศอิสราเอล คุณต้องทำทุกวิถีทางที่จะหยุดยั้งมันให้ได้!! แม้ว่าต้องเปิดเผยแหล่งข่าวซึ่งมันเป็นการเสียสละที่ต้องทำ!!! หรือส่งคนไปทำลายไอ้พวกก่อการร้ายถึงนอกประเทศ!! 

3 ถ้าหากเป็นการก่อวินาศกรรมกับประเทศที่อิสราเอลไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรร่วมด้วยเลย ก็ปล่อยมันไป..นั้นไม่ใช่เรื่องของ MOSSAD หากคุณจะมีมนุษยธรรมบ้างก็เตือนในระดับอ่อนๆไม่ต้องชัดเจนมาก.. ซึ่งคุณและแหล่งข่าวของคุณไม่ต้องเดือดร้อน.....

      เรื่องนี้แค่จะสอนเราให้เราคิดไว้เสมอว่า ..เราทำในสิ่งที่เป็นผลประโยชน์กับเรา ส่วนคนอื่นก็ช่างหัวแม่ง..เถอะ!! ถ้าเราเดือดร้อนจริงๆใครมันจะมาช่วยเรา..ถ้าเราไม่ช่วยตัวเอง!!!
 
     ในเราได้รับการสอนเรื่อง การจัดตั้ง “เจ้าหน้าที่เตือนภัย”... ซึ่งคนพวกนี้จะถูกส่งไปในที่ธรรมดาๆ เช่น พยาบาลผู้ชาย ในสถานพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง   สิ่งที่ เจ้าหน้าที่เตือนภัยพวกนี้ควรต้องส่งข้อมูลมาให้เราก็คือ .. ตอนนี้มีการสั่งเพิ่มเตียงพิเศษ สต็อกยาเพิ่ม ขยายตึกใหม่? อะไรก็ตามที่ดูเป็นการเตรียมตัวจะทำสงคราม.. MOSSAD เคยได้ข้อมูลประมาณว่า เจ้าหน้าที่เตือนภัยที่ท่าเรือแจ้งมาว่าตอนนี้มีเรือเข้ามากเป็นพิเศษ.. หรือ เจ้าหน้าที่เตือนภัยที่ห้องสมุดบอกว่าพนักงานประมาณครึ่งนึงถูกเรียกเกณฑ์ทหาร.. หลังจากนั้นไม่นอนสงครามก็ระเบิด!!

  การทำสงครามมีรายละเอียดที่หยุมหยิมและต้องเตรียมการมากมาย.. ถ้า ปธน.ซีเรีย แหกปากปาวๆว่าจะทำสงคราม อย่างที่เขาทำบ่อยๆ.. แต่ไม่มีจัดเตรียมอะไรก็ไม่ต้องสนใจมัน.... ถ้าคราวนี้มันแหกปากจะทำสงครามแล้วมีการขนส่งที่ผิดปกติในประเทศ.... นั้นแหละเขาพูดเรื่องจริงแล้ว.....

   David Diamond หัวหน้าหน่วย neviot (หน่วยสอดแนม) ได้สอนเรื่องการจับตามองเป้าหมายนิ่ง.. เช่น ตึกต่างๆ ซึ่งเรื่องนี้ พวกเราไม่มีภาคปฏิบัติมีแต่ คุยเรื่องเหตุการณ์สมมุติว่า พวกเราต้องการเข้าไปหาเป้าหมายในตึก 6 ชั้นแห่งหนึ่งเพื่อสอดแนมเอกสารที่เขาเป็นเจ้าของต้องทำอย่างไร?..... ตั้งแต่สังเกตเครื่องหมายจราจรทุกอย่างแถวตึกนั้น ปริมาณเจ้าหน้าที่ตำรวจแถวนั้น จุดอันตรายที่เราไม่สามารถสังเกตนานๆได้เช่นหน้าธนาคาร.. วิธีการลอบเข้า และวิธีการหนี....

   พวกเราเรียนเรื่องการส่งข่าวสารลับอีกเล็กน้อย คราวนี้เป็นเรื่องการส่งวิทยุ โดยเจ้าหน้าที่แต่ละคนต้องเปิดวิทยุในเวลาที่แน่นอนแล้ว ต้นเครือข่ายจะแพร่เสียงต่อเนื่องกันราว 5 นาทีโดย มีการเปลี่ยนรหัสทุก 1 สัปดาห์ วิธีติดต่อสื่อสารพิเศษอื่นๆก็มีไมโครฟิล์มติดกับซองจดหมายซึ่งเราสารถเห็นได้ด้วยวิธีเอาไมโครฟิล์มมาวางใต้แก้วแล้วส่องด้วยแว่นขยาย ก็จะอ่านข้อความทั้งหมดได้

   หลักการไม่มีอะไรมากไปกว่า พยายามทุกวิธีเพื่อให้ส่งข่าวให้ได้!! ในเจ้าหน้าที่บางคนที่อยู่ในพื้นที่มานาน เมื่อเขาได้อุปกรณ์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ท้ายสุดพวกเขาลงเอยคล้ายๆกันคือ.. พวกเขายิ่งใช้อุปกรณ์พวกนั้นมาก พวกเขาก็ยิ่งกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ


      เพื่อเติมเต็มจิตวิญญาณแห่งความรักชาติของพวกเรา.. จึงมี 1 วันเต็มๆให้เราไปเยือน House of the Diaspora ที่ ม.เยรูซาเลม ซึ่งเป็นที่พิพิธภัณฑ์ การก่อกำเนิดประเทศยิว และแบบจำลองโบสถ์ยิวทั้งหมดในประวัติศาสตร์ทั่วโลกรวมอยู่ในนั้น

  หลังจากนั้นพวกเราก็ฟังเล็คเชอร์เกี่ยวกับ ปาเลสไตน์และจอร์แดน ,สรุปปฏิบัติการของกองทัพอียิปต์ทั้งหมดในรอบ 10 ปี ,ปฏิบัติการของ Shaback และ PAHA ในอิสราเอลที่ผ่านมาทั้งหมด....

    ที่สุดของการฝึกคือ ทำอย่างไรให้เราเข้าหาคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ หลอกถามข้อมูลจากเขาให้ได้มากที่สุดและนัดพบอีกครั้งเผื่อจะได้ข้อมูลมากขึ้น... ถึงจุดนึงคุณจะมองทุกๆคนบนท้องถนนเหมือนอุปกรณ์ชนิดนึงที่คุณอยากใช้เมื่อไรก็ได้.... คุณจะถูกฝึกให้พูดแต่เรื่องโกหก จนรู้สึกว่าการพูดเรื่องจริงมันน่ากระอักกระอ่วน..
 
   ตอนแรกของการฝึกว่ามันเหมือนกับการไต่เขา.. ตอนนี้ผมทำสำเร็จแล้ว!!...

   คนอิสราเอลเป็นชนชาตินักรบ การได้เข้าสู่สนามรบคือเกียรติสูงสุด และ MOSSAD คือสัญลักษณ์หน่วยสืบราชการลับที่แกร่งที่สุดในโลกที่ทุกชาติในโลกต่างครั่นคร้ามและยอมรับ... ตอนนี้ผมได้เป็นส่วนนึงของมัน..ความรู้สึกปลาบปลื้มแทบล้นทะลักเป็นสิ่งที่ผมไม่รู้จะบรรยายออกมายังไง!! น้อยคนในอิสราเอลที่จะได้มีโอกาสแบบผม!!....
IP : บันทึกการเข้า
Joobjaeng
Single mom
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,297



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 25 พฤศจิกายน 2014, 13:25:48 »

ตอนนี้ชักเริ่มกลัวคุณ Ironmaiden แระ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม เศร้า เศร้า เศร้า เศร้า
IP : บันทึกการเข้า

https://www.facebook.com/herbcareclub/?ref=aymt_homepage_panel

Line: joobjaengka
Tel : 0931387459 / 0873036897
Ironmaiden
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,531



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 25 พฤศจิกายน 2014, 13:43:52 »

ตอนนี้ชักเริ่มกลัวคุณ Ironmaiden แระ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม เศร้า เศร้า เศร้า เศร้า
หงะ กลัวว่า?
ความรู้น่ะครับ อย่าซีเรียส
IP : บันทึกการเข้า
Joobjaeng
Single mom
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,297



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 25 พฤศจิกายน 2014, 21:07:42 »

ตอนนี้ชักเริ่มกลัวคุณ Ironmaiden แระ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม เศร้า เศร้า เศร้า เศร้า
หงะ กลัวว่า?
ความรู้น่ะครับ อย่าซีเรียส

ล้อเล่นคร๊าบ กลัวที่ไหน  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ขอบคุณสำหรับความรู้คับลวกเพ่
IP : บันทึกการเข้า

https://www.facebook.com/herbcareclub/?ref=aymt_homepage_panel

Line: joobjaengka
Tel : 0931387459 / 0873036897
wayu
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 116


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 25 พฤศจิกายน 2014, 21:16:57 »

แล้วกฏเหล็กรอเหมือนของไทยก่
IP : บันทึกการเข้า

เมื่อสายลมพัด สัมผัสต้องกาย  รับรู้ไว้
ความคิดถึง ห่วงใย  ของฉัน ได้โอบกอดรอบกายเธอ
Ironmaiden
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,531



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 26 พฤศจิกายน 2014, 00:45:44 »

แล้วกฏเหล็กรอเหมือนของไทยก่
คนที่ตามไม่ทัน จะถูกละไว้ แต่จะมาตามหาทีหลัง หลังจากงานเสร็จ
IP : บันทึกการเข้า
ยินดีครับ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,814


ติดต่อได้ตลอดเวลาครับ


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 27 พฤศจิกายน 2014, 20:02:19 »

สนุกมากๆ
IP : บันทึกการเข้า

คลิกลิ้งติดต่องาน https://www.facebook.com/profile.php?id=100054820356981
Ironmaiden
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,531



« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 27 พฤศจิกายน 2014, 20:13:15 »

สนุกมากๆ
ขอบคุณครับ
มีกำลังใจโข
IP : บันทึกการเข้า
มะระหวาน
ถ้าไม่เริ่มต้นค้นคิดสิ่งใหม่ๆ ก็ ไม่ต่างอะไรจากการเดินย่ำซ้ำที่เก่า
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,498


พึ่งจะเริ่มหัดเดิน ขอเผชิญโลกภายนอกอย่างกล้าแกร่ง


« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 27 พฤศจิกายน 2014, 20:23:35 »

ยังไม่ทันได้อ่าน แต่เรื่องบางอย่างที่น้าเอามาลงทุกเรื่องผมว่าเป็นความรู้ดีนะบางอย่างเราไม่ค่อยได้ศึกษาเรื่องราวต่างๆๆเหล่านี้ นับเป็นสิ่งที่ดีครับเผื่อว่าคนที่ไม่ค่อยได่อ่านเรื่องประเภทนี้เข้ามาอ่านและได้ทำความเข้าใจในเรื่องนั้น
IP : บันทึกการเข้า

ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Ironmaiden
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,531



« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 27 พฤศจิกายน 2014, 21:45:15 »

ยังไม่ทันได้อ่าน แต่เรื่องบางอย่างที่น้าเอามาลงทุกเรื่องผมว่าเป็นความรู้ดีนะบางอย่างเราไม่ค่อยได้ศึกษาเรื่องราวต่างๆๆเหล่านี้ นับเป็นสิ่งที่ดีครับเผื่อว่าคนที่ไม่ค่อยได่อ่านเรื่องประเภทนี้เข้ามาอ่านและได้ทำความเข้าใจในเรื่องนั้น
ขอบคุณคร๊าบบ ที่ให้กำลังใจ...
ว่าแต่ เรียกพี่ได้ไหมอ่ะ น้าเลย...แม๊...ฮ่าๆๆๆๆ
IP : บันทึกการเข้า
Joobjaeng
Single mom
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,297



« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 28 พฤศจิกายน 2014, 19:58:01 »

ยังไม่ทันได้อ่าน แต่เรื่องบางอย่างที่น้าเอามาลงทุกเรื่องผมว่าเป็นความรู้ดีนะบางอย่างเราไม่ค่อยได้ศึกษาเรื่องราวต่างๆๆเหล่านี้ นับเป็นสิ่งที่ดีครับเผื่อว่าคนที่ไม่ค่อยได่อ่านเรื่องประเภทนี้เข้ามาอ่านและได้ทำความเข้าใจในเรื่องนั้น
ขอบคุณคร๊าบบ ที่ให้กำลังใจ...
ว่าแต่ เรียกพี่ได้ไหมอ่ะ น้าเลย...แม๊...ฮ่าๆๆๆๆ

กำลังใจเยอะแยะ "ลุง" คงปลื้มน่าดูเบยยย  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

https://www.facebook.com/herbcareclub/?ref=aymt_homepage_panel

Line: joobjaengka
Tel : 0931387459 / 0873036897
Ironmaiden
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,531



« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 28 พฤศจิกายน 2014, 19:59:35 »

ยังไม่ทันได้อ่าน แต่เรื่องบางอย่างที่น้าเอามาลงทุกเรื่องผมว่าเป็นความรู้ดีนะบางอย่างเราไม่ค่อยได้ศึกษาเรื่องราวต่างๆๆเหล่านี้ นับเป็นสิ่งที่ดีครับเผื่อว่าคนที่ไม่ค่อยได่อ่านเรื่องประเภทนี้เข้ามาอ่านและได้ทำความเข้าใจในเรื่องนั้น
ขอบคุณคร๊าบบ ที่ให้กำลังใจ...
ว่าแต่ เรียกพี่ได้ไหมอ่ะ น้าเลย...แม๊...ฮ่าๆๆๆๆ

กำลังใจเยอะแยะ "ลุง" คงปลื้มน่าดูเบยยย  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
อ้าววว
ปลื้มมม ก่ะ น้อง
IP : บันทึกการเข้า
Joobjaeng
Single mom
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,297



« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 28 พฤศจิกายน 2014, 20:19:34 »

ยังไม่ทันได้อ่าน แต่เรื่องบางอย่างที่น้าเอามาลงทุกเรื่องผมว่าเป็นความรู้ดีนะบางอย่างเราไม่ค่อยได้ศึกษาเรื่องราวต่างๆๆเหล่านี้ นับเป็นสิ่งที่ดีครับเผื่อว่าคนที่ไม่ค่อยได่อ่านเรื่องประเภทนี้เข้ามาอ่านและได้ทำความเข้าใจในเรื่องนั้น
ขอบคุณคร๊าบบ ที่ให้กำลังใจ...
ว่าแต่ เรียกพี่ได้ไหมอ่ะ น้าเลย...แม๊...ฮ่าๆๆๆๆ

กำลังใจเยอะแยะ "ลุง" คงปลื้มน่าดูเบยยย  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
อ้าววว
ปลื้มมม ก่ะ น้อง

ปากบ่ออก เป็นลุงแต่เรียกเราน้อง  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

https://www.facebook.com/herbcareclub/?ref=aymt_homepage_panel

Line: joobjaengka
Tel : 0931387459 / 0873036897
มะระหวาน
ถ้าไม่เริ่มต้นค้นคิดสิ่งใหม่ๆ ก็ ไม่ต่างอะไรจากการเดินย่ำซ้ำที่เก่า
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,498


พึ่งจะเริ่มหัดเดิน ขอเผชิญโลกภายนอกอย่างกล้าแกร่ง


« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 28 พฤศจิกายน 2014, 20:49:37 »

เห็นว่า ทำงานแถวอ่าวอุดมหรือแหลมฉบัง หรือเปล่าครับถ้าใช่ว่างไไจะแวะเข้าไปทักทายครับ
IP : บันทึกการเข้า

ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Ironmaiden
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,531



« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 28 พฤศจิกายน 2014, 21:34:49 »

เห็นว่า ทำงานแถวอ่าวอุดมหรือแหลมฉบัง หรือเปล่าครับถ้าใช่ว่างไไจะแวะเข้าไปทักทายครับ

ผิดคนแล้วมังครับ ผมอยู่ กทม ครับ
IP : บันทึกการเข้า
Ironmaiden
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,531



« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 28 พฤศจิกายน 2014, 21:35:59 »

ยังไม่ทันได้อ่าน แต่เรื่องบางอย่างที่น้าเอามาลงทุกเรื่องผมว่าเป็นความรู้ดีนะบางอย่างเราไม่ค่อยได้ศึกษาเรื่องราวต่างๆๆเหล่านี้ นับเป็นสิ่งที่ดีครับเผื่อว่าคนที่ไม่ค่อยได่อ่านเรื่องประเภทนี้เข้ามาอ่านและได้ทำความเข้าใจในเรื่องนั้น
ขอบคุณคร๊าบบ ที่ให้กำลังใจ...
ว่าแต่ เรียกพี่ได้ไหมอ่ะ น้าเลย...แม๊...ฮ่าๆๆๆๆ

กำลังใจเยอะแยะ "ลุง" คงปลื้มน่าดูเบยยย  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
อ้าววว
ปลื้มมม ก่ะ น้อง

ปากบ่ออก เป็นลุงแต่เรียกเราน้อง  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
กำ นี่ก้ออีกคน เรียกๆๆๆๆ พี่ สิน้อง เคิ๊วววววววว
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!