พาสปอร์ตรถนี้ไปได้แค่ลาวประเทศเดียวครับ ไปที่อื่นไม่ได้
ตามข่าวนี้...
ขนส่งฯ แจงพาสปอร์ตรถยนต์ ใช้ขับได้เฉพาะลาวขนส่งทางบก แจงการใช้พาสปอร์ตรถยนต์ในต่างประเทศ เป็นความตกลงร่วมกันเฉพาะไทย-ลาว ชี้ใบอนุญาตขับรถรูปแบบใหม่ สามารถใช้ขับรถในอาเซียนได้ทันที...
นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่ากรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในโซเชียลเน็ตเวิร์กว่า สามารถนำพาสปอร์ตรถยนต์ไปขับได้ในกลุ่มประเทศอาเซียนนั้น กรมการขนส่งทางบกขอชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวเป็นความเข้าใจผิด เพราะปัจจุบันการนำพาสปอร์ตรถยนต์ไปใช้ในการขับรถต่างประเทศนั้น สามารถทำได้เฉพาะกับประเทศลาวประเทศเดียวเท่านั้น เนื่องจากได้มีการทำความตกลงร่วมกันระหว่างไทย-ลาว ให้สามารถนำรถยนต์ รถโดยสาร และรถบรรทุกไปใช้ในประเทศลาวได้ ส่วนประเทศกัมพูชาได้มีความตกลงร่วมกันเฉพาะรถโดยสารและรถบรรทุกเท่านั้นไม่มีส่วนของรถยนต์ส่วนบุคคล
สำหรับประเทศอื่นๆ ในกลุ่มอาเซียนยังไม่มีข้อตกลงร่วมกันในเรื่องนี้ โดยการทำพาสปอร์ตรถยนต์ไปใช้ในประเทศลาวจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 55 บาท หลังจากนั้นจะต้องทำการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถเป็นภาษาอังกฤษแผ่นป้ายละ 100 บาท จำนวน 2 แผ่น โดยสามารถยื่นขอได้เฉพาะที่สำนักงานที่รถจดทะเบียนไว้เท่านั้น
ขณะที่ ในส่วนของใบอนุญาตขับรถที่เป็นรูปแบบใหม่ที่ถ่ายรูปบนบัตร สามารถใช้ขับรถได้ในกลุ่มประเทศอาเซียนทั้ง 10 ประเทศได้ทันที ประกอบด้วย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย บรูไน เวียดนาม ลาว เมียนมาร์ และกัมพูชา เพราะเป็นใบอนุญาตขับรถที่กรมการขนส่งทางบกได้พัฒนาเป็นรูปแบบใหม่ (แบบพลาสติก) ด้านหน้าบัตรจะต้องมีภาพธงชาติไทย มีรูปตราสัญลักษณ์ กรมการขนส่งทางบก เป็นลายน้ำ 7 สี และมีรูปกราฟิกตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดของแต่ละจังหวัด และมีสติกเกอร์ภาพสะท้อนแสง พร้อมระบบป้องกันการปลอมแปลงซึ่งซ่อนอยู่ในบัตร มีข้อมูลของผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถที่เป็นภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ภาพถ่ายของผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถเป็นภาพถ่ายจริง ณ วันที่ทำใบอนุญาตขับรถ พร้อมระบุจังหวัดที่ออกใบอนุญาตขับรถ
ส่วนด้านหลังบัตรจะมีแถบแม่เหล็กเก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ มีการบันทึกข้อจำกัดในการใช้ใบอนุญาตขับรถ มีภาพอธิบายประเภทของรถที่ได้รับอนุญาตตามชนิดของใบอนุญาตขับรถ มีลายเซ็นของนายทะเบียนจังหวัดที่ออกใบอนุญาตขับรถ และระบุที่อยู่ของผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถตามข้อมูลของทะเบียนราษฎร ซึ่งยากต่อการปลอมแปลง ดังนั้น กรณีที่ผู้แอบอ้าง หรืออาสาดำเนินการแทนมักเป็นการปลอมแปลงใบอนุญาตขับรถรูปแบบเก่า (แบบกระดาษ) จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ เพราะนอกจากต้องเสียเงินและเอกสารสำคัญแล้วยังได้รับเอกสารปลอม ซึ่งหากนำไปใช้จะมีความผิดตามกฎหมายฐานใช้เอกสารราชการปลอมด้วย.
http://www.thairath.co.th/content/450006