เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 20 เมษายน 2024, 08:46:48
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ⒷⒼ*, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  Re: รวบรวมกระทู้การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและโครงการพัฒนาเชียงราย
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ... 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 [17] 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 ... 37 พิมพ์
ผู้เขียน Re: รวบรวมกระทู้การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและโครงการพัฒนาเชียงราย  (อ่าน 439985 ครั้ง)
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #320 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2011, 12:32:22 »

ททท. 29 มิ.ย. - ททท.เปิดผลโหวต 100 Amazing Places in Thailand ในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ 68 ประเทศทั่วโลก กรุงเทพฯ ได้รับการโหวตสูงสุดในสถานที่ 20 แห่ง รองลงมาเชียงใหม่ 11 แห่ง สุราษฎร์ฯ 10 แห่ง ชลบุรี 10 แห่ง และภูเก็ต 9 แห่ง แต่หมู่เกาะพีพี-กระบี่ ได้รับโหวตสูงสุด รองลงมาคือเกาะเต่า-สุราษฎร์ฯ และหาดพัทยา-ชลบุรี 

นายประกิตติ์ พิริยะเกียรติ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงผลสำรวจความคิดเห็นการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมสูงสุด 100 อันดับของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เคยมาเที่ยวประเทศไทย ในโครงการ “100 Amazing Places in Thailand” พร้อมเปิดตัวกิจกรรมการแข่งขันในสื่อออนไลน์ Amazing 10 Days in Thailand ชิงรางวัลเที่ยวเมืองไทยฟรี 10 วัน พร้อมเพื่อนร่วม Amazing Thailand Trip อีก 1 คน โดยนายประกิตติ์ กล่าวว่า กิจกรรมทั้ง 2 กิจกรรม ถือเป็นกิจกรรมภายใต้กลยุทธ์สร้างการรับรู้แบรนด์ท่องเที่ยว AMAZING THAILAND : ALWAYS AMAZES YOU ผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อสร้างกระแสให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาประเทศไทย

นายประกิตติ์ กล่าวว่า จากการสำรวจความคิดเห็นนักท่องเที่ยวผ่านระบบออนไลน์ไปยังนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เคยเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยจำนวน 3,389 คน จาก 68 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่เดือน ก.พ.-เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่าอันดับ 1 คือหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ 2.เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี 3.หาดพัทยา จ.ชลบุรี 4 .การแสดงโชว์ อัลคาซาร์ คาบาเรต์ จ.ชลบุรี 5.หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต 6. เกาะเสม็ด จ.ระยอง 7. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา 8. ตลาดนัดจตุจักร กรุงเทพฯ 9. อ่าวมาหยา จ.กระบี่ 10. หาดจอมเทียน จ.ชลบุรี 11. เกาะนางยวน จ.สุราษฎร์ธานี 12. เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี 13.หาดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 14.ถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ 15.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี 16. สระมรกต จ.กระบี่ 17.ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย 18.พระบรมหาราชวัง กรุงเทพฯ 19.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และ 20 อ่าวนาง จ.กระบี่ ฯลฯ

ทั้งนี้ จังหวัดที่มีจำนวนสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกโหวตมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ กรุงเทพฯ 20 แห่ง รองลงมาคือ จ.เชียงใหม่ 11 แห่ง จ.สุราษฎร์ธานี 10 แห่ง จ.ชลบุรี 10 แห่ง และ จ.ภูเก็ต 9 แห่ง

สำหรับการแข่งขัน Amazing 10 Days in Thailand เป็นกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าร่วมแข่งขันทางสื่อออนไลน์โดยส่ง Interactive E-Card ชวนเพื่อนมาเที่ยวประเทศไทยให้มากที่สุด ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 สิงหาคมนี้ ชิงรางวัลพิเศษมากมาย เฉพาะรางวัลที่ 1 ผู้ชนะจะได้เที่ยวประเทศไทยฟรี 10 วัน และได้รับสิทธิชวนเพื่อนมาร่วมทริปด้วย โดยประกาศผลผู้ชนะรางวัลในวันที่ 2 กันยายนนี้ผ่านเว็บไซต์ www.amazing10daysinthailand.com

นายประกิตติ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงภาพรวมการท่องเที่ยวของประเทศไทยว่า ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา พบการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เฉพาะเดือนมิถุนายนอัตราเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 70 โดยสรุปตัวเลขเป้าหมายตลอดปีนี้ 17 ล้านคน ไม่น่าจะเกินความคาดหมาย และประมาณการว่าจะได้ตัวเลขสูงถึง 18.3 ล้านคน และปีหน้าตั้งเป้า 19 ล้านคน. -สำนักข่าวไทย

http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/230860.html
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #321 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2011, 21:19:05 »

IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #322 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2011, 22:38:58 »

เชียงราย - คู่ชิงเก้าอี้ ส.ส.เขต 1 เชียงราย จากพรรคเพื่อไทย-ภูมิใจไทย แข่งชูกนโยบายผลักดันรถไฟเด่นชัย-เชียงราย ที่คาราคาซังมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ชิงคะแนนเสียงโค้งสุดท้าย
       
       ในการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 1 เชียงราย ก่อนที่จะถึงวันเข้าคูหา-กาบัตรเลือกตั้ง 3 ก.ค.54 นี้ ปรากฏว่า คู่ชิง ส.ส.เขต 1 เชียงรายที่เบียดกันอย่างสูสีคือ นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย กับนายวันชัย จงสุทธนามณี ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย ต่างหยิบยกโครงการผลักดันรถไฟในฝันเด่นชัย-เชียงราย ที่ค้างคามานานกว่าครึ่งศตวรรษขึ้นมาหวังเพิ่มคะแนนเสียงให้กับตนเองอย่างเต็มที่
       
       โดยกลุ่มที่เปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมา คือ กลุ่มการเมืองของนายวันชัย จงสุทธนามณี อดีตนายกเทศมนตรีนครเชียงราย ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคภูมิใจไทย ที่ใกล้ชิดกับนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ในการโหมประชาสัมพันธ์เรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง
       
       นายวันชัย กล่าวว่า หากตนได้รับเลือกตั้งให้เป็น ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งนี้จะเดินหน้าผลักดันโครงการรถไฟสาย อ.เด่นชัย จ.แพร่ - จ.เชียงราย ให้ประสบความสำเร็จให้ได้ หลังจากการผลักดันให้เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อครั้นนางรัตนา จงสุทธนามณี ซึ่งเป็นภรรยาของตนเคยดำรงตำแหน่งเป็น ส.ส.เมื่อหลายปีก่อน จนรัฐบาลขณะนั้นมีการศึกษาและออกแบบโครงการ แต่ต่อมาเมื่อนางรัตนา สอบตกไม่ได้เป็น ส.ส.ก็พบว่าโครงการได้หยุดเดินหน้าไปอย่างยาวนานเพราะรัฐบาลชุดต่อๆ มาก็ไม่มีการดำเนินการต่ออีก
       
       นายวันชัย กล่าวอีกว่า จ.เชียงราย มีความจำเป็นต้องมีเส้นทางรถไฟเนื่องจากเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากกรุงเทพฯ การเดินทางและขนส่งสินค้า ต้องใช้ระยะทางไม่ต่ำกว่า 800 กว่ากิโลเมตร ดังนั้น ต้นทุนต่างๆ อันเกิดจากการขนส่งที่เชียงรายจึงสูงกว่าจังหวัดอื่นๆ การขนส่งสินค้าทางการเกษตรไปจำหน่ายก็ต้องเสียค่าต้นทุนสูง ดังนั้น หากมีเส้นทางรถไฟก็จะลดต้นทุนต่างๆ เพราะรถไฟได้ชื่อว่าเป็นการขนส่งระบบรางที่ให้ค่าต้นทุนต่ำที่สุด รวมทั้งยังสามารถเชื่อมการค้าและการท่องเที่ยวไปถึงจีนตอนใต้ได้อีกด้วย
       
       ทั้งนี้ ในปัจจุบันกระทรวงคมนาคมยุคที่มีนายโสภณ ซารัมย์ เป็น รมว.คมนาคม ได้กลับมาทำการศึกษาเส้นทางเพื่อพัฒนาให้ทันสมัยอีกครั้งด้วยงบประมาณ 175 ล้านบาท เพื่อให้มีรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย ในอีก 5 ปีข้างหน้าต่อไป
       
       ด้านนายสามารถ กล่าวว่า ตนเห็นว่าเส้นทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของเชียงราย แต่แนวทางการพัฒนาเชียงรายของตนคือการมุ่งพัฒนาการท่องเที่ยวโดยเชื่อมกับจีนตอนใต้ โดยเฉพาะการสามารถดึงนักท่องเที่ยวจีนให้เข้ามาเชียงรายให้ได้ เพราะการท่องเที่ยวต้นทุนน้อยเนื่องจากเชียงรายมีความพร้อมด้านต่างๆ อยู่แล้ว
       
       อย่างไรก็ตาม กรณีการก่อสร้างเส้นทางรถไฟไปยัง จ.เชียงราย นั้นที่ผ่านมารัฐบาลสมัยพรรคไทยรักไทยจนถึงพรรคเพื่อไทย ไม่เคยละเลย โดยสมัยพรรคไทยรักไทย เป็นรัฐบาลเคยมีพระราชกฤษฎีกาออกเมื่อปี 2544 เวนคืนที่ดินเพื่อก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายนี้มาแล้วด้วย แต่ต่อมาไม่ได้มีการก่อสร้าง เพราะผลการศึกษาพบว่าไม่คุ้มทุนจึงต้องชะลอไปก่อนโดยแจ้งทางประเทศจีนซึ่งต้องการเชื่อมเส้นทางรถไฟกับ จ.เชียงราย ผ่าน สปป.ลาว ให้ก่อสร้างถนนอาร์สามเอไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ ให้แล้วเสร็จก่อน
       
       นายสามารถ กล่าวอีกว่า จากนั้นได้มีการวางแผนเอาไว้แล้วว่าจะมีการก่อสร้างอีกครั้ง ด้วยการให้เอกชนจีนเข้ามาทำการก่อสร้างด้วยเส้นทางสายใหม่จาก จ.เชียงใหม่ เชื่อมไปยัง จ.เชียงราย โดยตรงโดยเป็นรถไฟความเร็วสูงที่ทันสมัย โดยครั้งนี้คงจะไม่มีปัญหาเรื่องความไม่คุ้มทุนอีก เพราะทางเอกชนจีนจะเป็นผู้เข้ามาก่อสร้างเองทั้งหมดโดยที่รัฐบาลไทยไม่ต้องไปกู้เงินจากต่างประเทศมาก่อสร้างด้วย
       
       รายงานข่าวแจ้งอีกว่า กรณีรถไฟเด่นชัย-เชียงราย เคยมีการศึกษาจากรัฐบาลไทยตั้งแต่ปี 2503 และสำรวจเบื้องต้นเมื่อปี 2512 โดยใช้เส้นทางเด่นชัย-แพร่-สอง-เชียงม่วน-ดอกคำใต้-พะเยา-ป่าแดด-เชียงราย ระยะทางรวม 273 กิโลเมตร ต่อมาก็พบว่าเส้นทางสายนี้กลายเป็นเส้นทางที่แต่ละรัฐบาลใช้เพื่อการศึกษามากที่สุดมากกว่าการดำเนินการอื่นๆ
       
       โดยปี 2537-2538 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทำการทบทวนผลการศึกษาได้ข้อสรุปให้ก่อสร้างตามแนวเด่นชัย-แพร่-สอง-งาว (ลำปาง)-พะเยา-เชียงราย ย่นระยะทางเหลือประมาณ 246 กิโลเมตร กระทั่งปี 2539-2541 รฟท.ได้ว่าจ้างเอกชนให้สำรวจออกแบบรายละเอียดและศึกษาผลกระทบ จนมีพระราชกฤษฎีเวนคืนที่ดินในปี 2544 แต่ไม่มีการก่อสร้างจนถึงปัจจุบัน


http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000079831
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
easyman
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 26


« ตอบ #323 เมื่อ: วันที่ 01 กรกฎาคม 2011, 19:30:24 »

กำลัง ตามมาหลายๆกระทู้   ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม รอท่าน WM ย้ายอยู่

อยากให้มาอยู่ ห้องนี้ ครับ..จะได้ตรงกับห้อง ส่วนมาก ห้องบอร์ดเชียงราย คุุยเรื่องทั่วไป หาคู่ มากกว่า..ครับ.. ยิงฟันยิ้ม
ตามหากระทู้ที่มีเนื้อหาอย่างนี้มานานเหมือนกัน ขอบคุณที่เจอ
IP : บันทึกการเข้า
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #324 เมื่อ: วันที่ 02 กรกฎาคม 2011, 10:47:21 »

 ไม่ว่าผู้นำรัฐบาลจะหน้าสวย-หล่อ ขนาดไหน ก็ขอให้นำพาประเทศนี้ไปด้วยดีแล้วกัน
อย่าให้ตามตูดกุมเป้าต้อยๆ ตามเขา ไม่ว่าพรรคไหนได้เป็นผมก็เชื่อว่าต้องมี รางคู่หรือ
รถไฟความเร็วสูง เพราะถ้ายังลูกไม้เดิมๆ รับลองล่มจมแน่ๆ ประเทศนี้ เพราะอย่างที่ผม
ได้กล่าวไปว่า ปี 58 นี้จะมี AEC +3 ด้วย ถ้าทั้ง 3G โลจิสติกส์ กฎหมาย  แรงงาน
คอร์รัปชั่น ฯลฯ ไม่พัฒนาไปในทางที่ดี ผมว่าถอยหลังลงคลองแสนแสบแน่ ๆ พี่ไทย
แล้วก็จะ ชิพ+หาย เค้าไปประเทศเพื่อนบ้านแน่ๆ แล้วใครมันจะมาเที่ยวมาลงทุนประเทศท่าน
ธุรกิจท่าน ๆ จะมีใครมาจับจ่าย ประชาชนท่านๆ จะทำมาหากินเช่นใด
...นักการเมืองหวังการเลือกตั้งสมัยหน้า รัฐบุรุษ หวังคนรุ่นหน้า...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 03 กรกฎาคม 2011, 11:45:09 โดย Temujin » IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #325 เมื่อ: วันที่ 04 กรกฎาคม 2011, 22:55:10 »

สหกรณ์ยางฯ พะเยา เดินหน้าขยายข่ายรับซื้อ-เชื่อมตลาดจีนตอนใต้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   4 กรกฎาคม 2554 10:19 น.


       พะเยา - สหกรณ์ยางฯ พะเยา ตะลุยตลาดหาพันธมิตรซื้อ-ขาย พร้อมวางแผนการตลาดเชื่อมโยงจีนตอนใต้
       
       นายเจตพร สังข์ทอง ผู้จัดการสหกรณ์ชาวสวนยางพะเยา จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ถึงฤดูกาลเปิดกรีดหน้ายางแล้ว โดยเกษตรกรเริ่มเปิดกรีดหน้ายางกันตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน 2554 ที่ผ่านมา ทำให้เริ่มมีการซื้อขายยางในกลุ่มเกษตรกรและกลุ่มผู้ค้ามากขึ้น สำหรับสหกรณ์ ฯ ได้มีแผนงานด้านการตลาด โดยมุ่งขยายเครือข่ายของลูกค้าที่จะมาร่วมซื้อขายยางพารากับสหกรณ์ฯ มากขึ้น วัตถุประสงค์หลักคือเกษตรกรที่ได้กรีดยางแล้วมีความมั่นใจว่ามีแหล่งรับซื้อยางพาราในราคาใกล้เคียงกับตลาดกลางทางภาคใต้ พร้อมทั้งไม่หวั่นไหวต่อการถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง เพราะทางสหกรณ์ฯ ได้เปิดเผยราคาซื้อขายยางจากตลาดกลางที่ภาคใต้ให้ลูกค้าที่สนใจจะทำการซื้อขายทุกวันอย่างตรงไปตรงมา
       
       ผจก.สหกรณ์ฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ฝ่ายการตลาดของสหกรณ์ฯ ยังได้ออกพื้นที่ในจังหวัดใกล้เคียง เช่น เชียงราย ซึ่งพบว่ามีเจ้าของสวนยางหลายแห่งกรีดและเก็บยางพร้อมส่งขายครั้งละไม่ต่ำกว่า 1 ตัน หลายราย ตรงนี้สหกรณ์ฯ ได้มองแผนการสร้างเครือข่ายสวนยางที่จะมาเป็นพันธมิตรทางการค้า เพื่อนำไปสู่ยั่งยืนของชาวเกษตรกรชาวสวนยางไม่ถูกเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลางอีกต่อไป เพราะเกษตรกรทุกรายที่ต้องการจะขายยางสามารถสอบถามราคาได้ล่วงหน้า
       
       พร้อมกันนี้ยางที่สหกรณ์ฯ รับซื้อได้มีบริษัทกลุ่มทุนจากประเทศจีนทางตอนใต้เข้ามาร่วมทุนกับบริษัทเอกชนในพื้นที่และตั้งฐานการผลิตในพื้นที่ จ.เชียงราย และกำลังจะขยายมาในพื้นที่ จ.พะเยา ดังนั้น เกษตรกรชาวสวนยางจะได้รับความมั่นใจว่าไม่ถูกเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลางอีกต่อไป เพราะสามารถส่งขายตรงในรูปแบบของสหกรณ์ฯ
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #326 เมื่อ: วันที่ 05 กรกฎาคม 2011, 16:53:54 »

ทุนท้องถิ่นเมืองพ่อขุนผุดคอมเพล็กซ์100ล.บ.




เมืองท้องถิ่น พ่อขุนผุดคอมเพล็ก100ล้านบาท สู้ยุคแข่งขันรุนแรง ปรับตัวหวังให้สามารถแข่งในยุคปัจจุบันที่มีกลุ่มทุนใหญ่ๆ มารุกถึงถิ่นเมื่อเร็วๆนี้นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์การค้า “สินธานีคอมเพล็กซ์” ตั้งอยู่เลขที่ 111 หมู่ 25 ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ โดยศูนย์การค้าดังกล่าวเป็นของกลุ่มทุนท้องถิ่นตระกูล “เลาหะวีร์” ที่ได้สืบทอดการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของ จ.เชียงราย และพะเยา มายาวนานร่วม 30 ปี ซึ่งในพิธีเปิดทางผู้บริหารของเครือสินธานีนำโดยสังข์ เลาหะวีร์ ประธานในเครือสินธานี นายธีระศักดิ์ เลาหะวีร์ กรรมการผู้จัดการ นายวีระศักดิ์ เลาหะวีร์ รองกรรมการผู้จัดการ และนายภาคภูมิ เลาหะวีร์ ผู้จัดการทั่วไปบริษัทสินธานีอิเล็คทรอนิกค์ จำกัด นำคณะผู้บริหารเข้าร่วมโดยมีตัวแทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเดินทางไปร่วมแสดงความยินครบครันรายงานข่าวแจ้งอีกว่าสำหรับศูนย์การค้าสินธานีคอมเพล็กซ์ดังกล่าว เป็นศูนย์กลางของสินค้านานาชนิดที่อยู่ในเครือสินธานีโดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าและรถจักรยานยนต์ เนื่องจากเครือสินธานีมีบริษัทและโชว์รูมในเครืออยู่หลายแห่ง และได้สร้างขึ้นเพื่อทดแทนศูนย์การค้าแห่งเดิมซึ่งตั้งอยู่ในจุดเดียวกันแต่เกิดเหตุไฟไหม้จนเสียหายอย่างหนักเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา จนต้องมีการก่อสร้างใหม่ ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตุว่าศูนย์การค้าท้องถิ่นแห่งนี้ได้มีการปรับตัวให้มีรูปแบบอาคารและการตกแต่งภายในที่ทันสมัย ซึ่งทางผู้บริหารระบุว่ากลุ่มทุนท้องถิ่นจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถแข่งขันในยุคปัจจุบันที่มีกลุ่มทุนใหญ่ๆ ไปตั้งกิจการใน จ.เชียงราย แล้วหลายรายและมีหลากหลายสาขา เช่น บิ๊กซี โลตัส แมคโคร และล่าสุดคือเซ็นทรัลพลาซ่า โรบินสัน ฯลฯ

เชียงใหม่นิวส์
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #327 เมื่อ: วันที่ 05 กรกฎาคม 2011, 17:01:55 »

...ครับ..ต้องปรับตัว ไม่งั้นได้หามกันไปฉีดเซรุ่มแน่...

อีก 3-4 ปี AEC+3 หนักกว่านี้... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

เทรนต่อไป E-Comฯ OfficeMate จะมา ผมกำลังหาเงินสะสมหุ้นเค้าอยู่... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 05 กรกฎาคม 2011, 17:04:56 โดย Temujin » IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #328 เมื่อ: วันที่ 05 กรกฎาคม 2011, 21:16:43 »



หอฯ เชียงใหม่ระบุเอกชน-ต่างชาติเชื่อมั่น รบ.ใหม่ เตรียมผลักดันสร้างทางด่วนเชื่อมเชียงใหม่-เชียงราย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   5 กรกฎาคม 2554 17:11 น.


คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้นศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ชี้รัฐบาลใหม่มีเสียงสนับสนุนมากเป็นเรื่องที่ดี ระบุทำให้ภาคเอกชนเกิดความเชื่อมั่นและเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ พร้อมเชื่อ “ยิ่งลักษณ์” ว่าที่นายกฯ เป็นคนเชียงใหม่ เป็นผลดีต่อการพัฒนาเชียงใหม่และภาคเหนือ เพราะจะทราบถึงความต้องการของพื้นที่เป็นอย่างดี เผยเตรียมทำข้อเสนอรัฐบาลใหม่เร่งผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เป็นรูปธรรม พร้อมยกระดับ “กิ่วผาวอก” เป็นด่านถาวร และหนุนโครงการก่อสร้างทางด่วนเชื่อม เชียงใหม่-เชียงราย
       
       นายณรงค์ คองประเสริฐ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ แสดงความเห็นถึงการจัดตั้งรัฐบาลภายหลังทราบผลการเลือกตั้งที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งอย่างท้วมท้นและเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลว่า เบื้องต้นมองว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลมีเสียงสนับสนุนจำนวนที่สูงมาก โดยขณะนี้ในส่วนของภาคเอกชนเองถือว่ามีความเชื่อมั่นในรัฐบาลใหม่ที่กำลังจะจัดตั้งขึ้น รวมทั้งต่างประเทศก็ให้การยอมรับด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เหลือเพียงการคัดสรรผู้ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำหน้าที่ในการบริหารเท่านั้น และคาดหวังว่าจะทำให้เกิดความปรองดองขึ้นในชาติบ้านเมืองด้วย
       
       ขณะเดียวกัน ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า การที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี เป็นชาวจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็นผลดีต่อจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนืออย่างมาก เพราะน่าจะทราบถึงความต้องการต่างๆ ในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี โดยในส่วนของภาคเอกชนจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมข้อเสนอถึงรัฐบาลใหม่ให้ผลักดันโครงก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
       
       นอกจากนี้ยังเตรียมที่จะเสนอให้รัฐบาลใหม่พิจารณาเกี่ยวกับการยกระดับจุดผ่อนปรนชายแดนชั่วคราวกิ่วผาวอก อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เป็นด่านถาวร เพื่อเพิ่มโอกาสการค้าชายแดนไทย-พม่า ที่จะช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้กับจังหวัดเชียงใหม่อีกปีละหลายพันล้านบาท ตลอดจนผลักดันโครงการก่อสร้างทางด่วนเชื่อมโยงจังหวัดเชียงใหม่-เชียงราย ที่เป็นเมืองศูนย์กลางธุรกิจ รองรับถนน R3a และการขยายตัวของการค้าการลงทุนในอนาคตด้วย


http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000082473
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #329 เมื่อ: วันที่ 05 กรกฎาคม 2011, 21:17:34 »

...ครับ..ต้องปรับตัว ไม่งั้นได้หามกันไปฉีดเซรุ่มแน่...

อีก 3-4 ปี AEC+3 หนักกว่านี้... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

เทรนต่อไป E-Comฯ OfficeMate จะมา ผมกำลังหาเงินสะสมหุ้นเค้าอยู่... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม  รวยแล้วอย่าลืมมาแบ่งปันกันนะครับ..
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #330 เมื่อ: วันที่ 05 กรกฎาคม 2011, 22:18:55 »

...ครับ..ต้องปรับตัว ไม่งั้นได้หามกันไปฉีดเซรุ่มแน่...

อีก 3-4 ปี AEC+3 หนักกว่านี้... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

เทรนต่อไป E-Comฯ OfficeMate จะมา ผมกำลังหาเงินสะสมหุ้นเค้าอยู่... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม  รวยแล้วอย่าลืมมาแบ่งปันกันนะครับ..
กลัวรวยไม่รู้เรื่องอะดิ...ตอนนี้ถังจะแตกแล้ว...ค่าครองชีพพุ่ง..!. ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #331 เมื่อ: วันที่ 06 กรกฎาคม 2011, 20:15:02 »

อุตรดิตถ์ -13 หอการค้าเหนือ เล็งชงรัฐบาลใหม่ ทำรถไฟฟ้าความเร็วสูงจากกรุงเทพฯยันเชียงใหม่-เชียงราย เผย 3 ประเทศทั้งจีน ญี่ปุ่น เยอรมนี สนใจลงทุน
       
       นายทวีศักดิ์ ปึงวงศานุรักษ์ ประธานหอการค้า จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า หอการค้า 3 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ 13 จังหวัด ประกอบด้วย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย เพชรบูรณ์ พิษณุโลก และอุตรดิตถ์ เตรียมเสนอโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงให้กับรัฐบาลใหม่ ที่นำโดยพรรคเพื่อไทย โดยเริ่มต้นโครงการจากกรุงเทพฯ-เด่นชัย แยกขวาไป พะเยา เชียงราย และแยกซ้ายไป ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่
       
       นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า โครงการนี้จะไม่พัฒนาจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่มีอยู่แล้ว เพราะติดขัดที่อิทธิพลภายใน ร.ฟ.ท.โดยเฉพาะสหภาพแรงงาน ร.ฟ.ท.จุดตัดถนนมีมากเกินไป แต่การลงทุนจะเป็นภาคเอกชนต่างประเทศเข้ามาไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น และเยอรมนี ที่มีความสนใจลงทุนอยู่แล้ว เพียงแต่รัฐบาลไทยจะต้องนำเข้าสู่โครงการพัฒนาประเทศรูปแบบเมกะโปรเจกต์ เพราะโครงการนี้มีความเป็นไปได้สูง เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของประเทศ
       
       “ร.ฟ.ท.คงทำไม่ได้ ส่วนการพัฒนาสนามบินให้เปิดใช้อีกครั้งก็ยิ่งไม่มีความเป็นไปได้เลย แต่การลงทุนโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง มีความปลอดภัยสูงเพราะไม่มีจุดตัด ลดความสูญเสียทางรถยนต์ เพราะการก่อสร้างเป็นทำเสายกสูง ใช้ไฟฟ้าลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง คนทุกระดับได้ใช้บริการ เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว เนื่องจากหากโครงการนี้สำเร็จประเทศจีนก็จะทำโครงการเชื่อมต่อกับประเทศไทยด้วย” นายทวีศักดิ์ กล่าว


http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000082875

IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #332 เมื่อ: วันที่ 08 กรกฎาคม 2011, 13:34:58 »



วันที่ 08 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7526 ข่าวสดรายวัน


เดินหน้าทางรถไฟ'เชียงของ'



ลำปาง - นายจเร รุ่งฐานีย วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ประธานกรรมการบริการโครงการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย มอบหมายให้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา คือ บริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด บริษัทเอพซิลอน จำกัด Nippon Koei Co.,Ltd. และบริษัท เอ็นริช คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการศึกษาโครงการเพื่อศึกษาทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมฯ ของโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เพื่อสร้างความเข้าใจและเปิดโอกาสในการรับทราบข้อมูลข่าวสารที่ชัดเจนถูกต้อง รวมถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในการให้ข้อคิดเห็น เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาจัดทำโครงการในทุกๆ ด้านที่เกี่ยวข้อง และก่อประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและชุมชนท้องถิ่น การรถไฟแห่งประเทศไทย จึงขอเรียนเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมการประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 1 (ปฐมนิเทศโครงการ) โครงการเพื่อศึกษาทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมฯ ของโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ในวันอังคารที่ 12 ก.ค. เวลา 09.00-12.00 น. ณ ห้องประชุมที่ว่าการอ.งาว จ.ลำปาง

หน้า 29
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #333 เมื่อ: วันที่ 08 กรกฎาคม 2011, 13:37:12 »

สะพานข้ามโขง 4 เลื่อนเปิด 1 ปี เจอปัญหาซ้ำน้ำหลาก-หินแข็งใต้น้ำโขง

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน   5 กรกฎาคม 2554 22:08 น.



รูปแบบสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ที่คาดว่าต้องเลื่อนออกไปอีก 1 ปี เพราะเจอปัญหาหลายอย่าง

       เชียงราย - แผนงานก่อสร้างสะพานข้ามน้ำโขง 4 เชื่อมเชียงของ - สปป.ลาว-จีน เจอปัญหาซ้ำ หลังเคยป่วนด้วยปัญหาจีนจ่ายค่าจ้างเป็นหยวนมาแล้ว ล่าสุดเจอหินแข็งท้องน้ำโขง-น้ำหลาก อาจต้องเลื่อนวันฉลอง 1 ปี
       
       รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า การก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เชื่อม อ.เชียงของ กับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ที่รัฐบาลไทยและจีน ตกลงจัดงบประมาณสนับสนุนฝ่ายละ 50% ต่อมามีการว่าจ้างกลุ่มซีอาร์ 5-เคที จอยท์เวนเจอร์ ประกอบไปด้วยบริษัทไชน่า เรลเวย์ โน.5 เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป จำกัด จากประเทศจีน และบริษัทกรุงธนเอ็นยิเนียร์ จำกัด ของประเทศไทย กำหนดตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.2553 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 10 ธ.ค.2555 ระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน ด้วยงบประมาณ 1,486.5 ล้านบาท
       
       ล่าสุดพบว่า โครงการก่อสร้างยังคงเป็นไปด้วยความล่าช้า และปัจจุบันการตอกเสาเข็มเพื่อวางเสาตอม่อต้องยุติลงชั่วคราว เนื่องจากเข้าสู่ฤดูน้ำหลาก ทำให้น้ำโขงลึกมากขึ้น จึงเหลือเพียงงานก่อสร้างริมฝั่งและถนนเท่านั้น ขณะที่การก่อสร้างในภาพรวมคืบหน้าไปได้เพียงประมาณ 6%
       
       นายสุวัฒน์ ด้วงปั้น นายด่านศุลกากร อ.เชียงของ เปิดเผยว่า ทางศุลกากร ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการกำกับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ก็ได้เฝ้าติดตามความคืบหน้าของโครงการอย่างต่อเนื่อง เพราะในอนาคตจะมีความเกี่ยวข้องกับการนำเข้าและส่งออกสินค้าทางด้าน อ.เชียงของ เชื่อมกับ สปป.ลาว-จีนตอนใต้ บนถนน R 3a อย่างมาก
       
       ทั้งนี้ พบว่า การก่อสร้างสะพานได้ล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดเอาไว้ประมาณ 1.7% โดยเฉพาะการก่อสร้างสะพานที่ยังไม่สามารถตอกเสาเข็มลงเสาตอม่อได้และกำลังพบกับอุปสรรคของฤดูน้ำหลากพอดี ส่วนการก่อสร้างถนนและอาคารด่านพรมแดนในฝั่งไทยถือว่าเร็วกว่าที่กำหนดบวก 3% แต่ในฝั่ง สปป.ลาว ติดลบ 7%
       
       ดังนั้น จากการที่คาดการณ์กันว่าน่าจะทำให้โครงการล่าช้าออกไปประมาณ 9 เดือน สรุปได้ว่าจะมีความล่าช้าเพิ่มออกไปเป็น 1 ปี โดยปัญหาหลักเกิดจากการยังไม่ได้ก่อสร้างเสาตอม่อ หรือสร้างฐานรากของตัวสะพานให้ได้ และปัญหาเรื่องที่ทางการจีนจ่ายงบประมาณก่อสร้างเป็นเงินหยวน ซึ่งเมื่อเปลี่ยนเป็นเงินดอลลาร์และนำไปจ่ายให้เอกชนเกรงจะมีความผันผวน
       
       “แต่ถ้าลงเสาตอม่อแล้วเสร็จ จะทำให้งานคืบหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว เพราะเมื่อมีฐานรากสิ่งก่อสร้างต่างๆ ด้านบนก็จะมีความสะดวกมากขึ้น และจากความล่าช้าออกไปเล็กน้อยดังกล่าวก็ได้ ทำให้กรมศุลกากรมีเวลาในการรอการส่งมอบที่ดินในการก่อสร้างด่านศุลกากรแห่งใหม่บริเวณห่างจากตัวสะพานประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งหากไม่มีสิ่งขัดข้องใดๆ คงจะสามารถก่อสร้างอาคารแห่งใหม่ได้ในเดือนพ.ย. 54 " นายสุวัฒน์ กล่าว
       
       ด้านนายสมพอน ปันยาดา ประธานสภาการค้าและอุตสาหกรรม แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว กล่าวว่า ความล่าช้าในการก่อสร้างสะพานเริ่มมีมาตั้งแต่การรอเรื่องพิธีวางศิลาฤกษ์ แต่จากนั้นเมื่อมีการลงมือก่อสร้าง เอกชนที่รับจ้างก่อสร้างก็ได้แบ่งงานกันโดยให้เอกชนจีนสร้างตัวสะพานและเอกชนไทยสร้างถนนและอาคารด่านพรมแดน แต่ปรากฏว่าเอกชนจีนเจอปัญหาเรื่องหัวเจาะใต้ท้องแม่น้ำโขง เพื่อจะวางเสาตอม่อ โดยเมื่อเจาะลงชั้นใต้ดินลงไปถึงหินประมาณ 151 เมตร พบสภาพเป็นหินที่แข็งมากจนทำให้หัวเจาะเสียหายไปหลายอัน เป็นผลทำให้ไม่สามารถวางเสาตอม่อได้และเกิดสภาพน้ำหลากมาเสียก่อน นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านการเงินดังกล่าวด้วย
       
       อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าท้ายที่สุดการก่อสร้างจะสามารถเดินหน้าไปได้ตามปกติ และทำให้สะพานแห่งนี้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ภูมิภาคนี้ต่อไป
       
       สำหรับสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ดังกล่าว ออกแบบให้มีเสาตอม่อ 4 ตอม่อ มีความกว้าง 14.70 เมตร โดยเป็นสะพานขนาดสองช่องจราจรๆ ละ 3.50 เมตร และไหล่ทางข้างละ 2 เมตร และทางเท้าข้างละ 1.25 เมตร ความยาว 480 เมตรเมื่อรวมกับถนนติดขอบฝั่งก็จะยาวประมาณ 630 เมตร และโครงการก่อสร้างถนนตัดแยกจากถนนหมายเลข 1020 หรือสายเชียงราย-เชียงของ ในฝั่งไทย เพื่อเป็นจุดสลับการจราจรในฝั่งไทยก่อนไปถึงตัวสะพานอีกประมาณ 5 กิโลเมตร และถนนในฝั่ง สปป.ลาว อีกประมาณ 6 กิโลเมตร สวนอาคารด่านพรมแดนทั้งฝั่งไทยและ สปป.ลาว รูปทรงล้านนาประยุกต์เพื่อใช้เป็นจุดตรวจปล่อยร่วมกัน ณ จุดเดียวตามหลักประตูเดียว (Single Stop Inspection) รวมเนื้อที่ฝั่งไทยทั้งหมดประมาณ 400 ไร่
       
       สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เคยประมาณการณ์ว่า สะพานแห่งนี้จะทำให้มูลค่าการค้าผ่านด่านศุลกากรเชียงของ เพิ่มมากขึ้นเป็นปีละกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าจะมีมูลค่ามหาศาล จากปัจจุบันก็มีอัตราการเพิ่มขึ้นของมูลค่านำเข้าและส่งออกเดือนต่อเดือน จนทำให้ตัวเลขการค้ารวมตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2554 ถึงเดือน มิ.ย.มีมูลค่าประมาณ 4,900 ล้านบาทแล้ว เท่ากับมูลค่าการค้าตลอดทั้งปีงบประมาณ 2553 ขณะที่ในปีงบประมาณนี้ยังเหลือเวลาอีกกว่า 3 เดือนหรือ 1 ไตรมาสถึงจะหมดปีงบประมาณ ดังนั้นมูลค่าการค้าตลอดปีงบประมาณนี้จะเพิ่มมากขึ้นกว่าปีก่อนจำนวนมากแน่นอน
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #334 เมื่อ: วันที่ 08 กรกฎาคม 2011, 14:22:16 »

แห่งที่ 3 บ้านผมล่ะท่านบุญฯ ผมไม่ได้ติดตามเลย ว่าอะไร เป็นไง...?
IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
N.wind
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5


« ตอบ #335 เมื่อ: วันที่ 10 กรกฎาคม 2011, 11:40:07 »


เรื่องเทคนิคการก่อสร้างก็ทำให้งานล่าช้าได้ เหมือนกัน
ผู้รับเหมาจะขาดทุนหรือเปล่า หรือสามารถจะ Claim ได้ เป็นเรื่องน่าติดตามครับ
IP : บันทึกการเข้า
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #336 เมื่อ: วันที่ 11 กรกฎาคม 2011, 21:32:20 »

พาณิชย์ดัน “แม่สลอง” ทำ “ชาอินทรีย์”เชื่อราคาเพิ่ม 10 เท่ารับอาเซียน-จีน

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน   11 กรกฎาคม 2554 19:25 น.


       เชียงราย - พาณิชย์เดินหน้าดัน”ชา”เชียงราย เป็นผลิตภัณฑ์อินทรีย์รับตลาดจีนและอาเซียน เชื่อส่งผลให้ราคาเพิ่มอีกร่วม 10 เท่าตัว
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย ได้จัดการอบรมกลุ่มผู้ผลิตชาเชียงราย ตามโครงการส่งเสริมและพัฒนาการตลาดสินค้าและบริการของจังหวัด (One Province One Product) และโครงการส่งเสริมและพัฒนาย่านการค้าชาดอยแม่สลอง จ.เชียงราย (Doi Maesalong Tea Trade Chiang Rai Province) ณ แม่สลองวิลล่า อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โดยมีกลุ่มผู้ผลิตชาจากดอยแม่สลอง ดอยตุง ดอยวาวี ประมาณ 50 คนเข้าร่วมการอบรม
       
       นายเฉลิมพล พงศ์ฉบับนภา พาณิชย์จังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า เชียงรายถือเป็นแหล่งผลิตชาที่มีคุณภาพดี มีชื่อเสียงทั้งตลาดใน-ต่างประเทศ เดิมผู้ผลิตชาจะทำการตลาดด้วยตนเองและการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ชา ขึ้นอยู่กับศักยภาพของผู้ผลิตแต่ละราย โดยชาที่มีคุณภาพดีจะสามารถจำหน่ายได้ราคาสูงแต่ยังมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ต่อมาเมื่อจังหวัดเข้ามาส่งเสริมพัฒนาคุณภาพ-ส่งเสริมด้านการตลาด ทำให้ผลิตภัณฑ์ชาของเชียงรายมีศักยภาพพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์โดดเด่นมากขึ้น
       
       ดังนั้น สำนักงานพาณิชย์จึงได้จัดทำโครงการฯ นี้ขึ้น เพื่อให้ผู้ผลิตชาและผู้ประกอบการชา มีทักษะความรู้ พัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันเชิงธุรกิจ สามารถเขียนแผนธุรกิจและบริหารด้านการตลาด ขณะเดียวกันยังเป็นการพัฒนาเครือข่ายผู้ประกอบการเพื่อสร้างความเข้มแข็งในด้านการตลาด รองรับกรณีปลายปี 2556 สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 อ.เชียงของ จะแล้วเสร็จสามารถเชื่อมถนนR 3 a ไทย-สปป.ลาวจีน และปี 2558 ซึ่งจะก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 10 ประเทศบวกจีน ซึ่งเชียงราย จะมีโอกาสและศักยภาพด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวเตรียมพร้อมรองรับการแข่งทางการค้าเสรีให้ได้ต่อไป
       
       ด้านนายสุทธิศักดิ์ เลาหชีวิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายพัฒนาคุณภาพชาเชียงรายสู่ระดับพรีเมียม สามารถทำตลาดได้ทั้งในระดับตลาดกลางและตลาดบนให้ได้ราคาสูง โดยกำหนดว่าจะต้องเป็นชาอินทรีย์และมีเอกลักษณ์โดดเด่นรวมทั้งบรรจุภัณฑ์น่าสนใจ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า และจะผลักดันให้ชาเชียงรายเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและประเทศที่ประชาชนนิยมดื่มชา เช่น จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง
       
       ในปี 2556 จะส่งเสริมให้มีการประกวดชาเชียงราย เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านชาต่างประเทศเป็นกรรมการตัดสิน เพื่อยกระดับการประกวดเป็นระดับนานาชาติต่อไป รวมทั้งจะจัดโรดโชว์นำผู้ผลิตชาเชียงรายไปทำตลาดในต่างประเทศ พร้อมทั้งมีแผนพัฒนาย่านการค้าชาดอยแม่สลองให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมากยิ่งขึ้นด้วย
       
       ปัจจุบัน ไร่ชาบนดอยแม่สลองมีจำนวนทั้งหมดประมาณ 60,000 ไร่ แบ่งเป็นชาอูหลงประมาณ 18,000 ไร่ ชาพื้นเมืองหรือชาอัสสัม ประมาณ 32,000 ไร่ เกษตรกรมีต้นทุนในการปลูกไร่ละประมาณ 30,000-40,000 บาท เมื่อปลูกเสร็จก็มีค่าดูแลไร่ละ 3,000 บาทต่อเดือน ที่ผ่านมาใบชาอูหลงเบอร์ 12 มีราคากิโลกรัมละ 40-100 บาท หากพัฒนาเป็นชาอินทรีย์หรือไม่ใช้สารเคมีจะมีราคาที่สูงกว่าชาปกติทั่วไปกว่า 10 เท่าตัว โดยชาอินทรีย์อูหลงเบอร์ 12 มีราคาสูงถึงกว่า 2,000 บาทต่อกิโลกรัม และเบอร์ 17 กิโลกรัมละ 1,000-3,600 บาท
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #337 เมื่อ: วันที่ 11 กรกฎาคม 2011, 21:33:59 »

ฟท. เดินหน้าสร้างทางรถไฟ เส้นทาง เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของหาแนวทางและข้อเสนอคิดเห็นจากผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่

การรถไฟแห่งประเทศไทยเดินหน้าหาแนวทางและข้อเสนอคิดเห็น ต่อโครงการศึกษาและออกแบบก่อสร้างทางรถไฟเส้นทาง เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ จากผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่โครงการ คาดได้ข้อสรุปและสามารถเริ่มก่อสร้างได้ในอีก 2 ปี

นายอภิชาติ เทียวพานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานการประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 1 โครงการเพื่อศึกษาทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการก่อสร้างทางรถไฟเส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เพื่อนำเสนอและชี้แจงความเป็นมาของโครงการฯ รวมทั้งเหตุผลการพัฒนาโครงการ ตลอดจนรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่โครงการ ที่โรงแรมนครแพร่ทาวเวอร์ อำเภอเมืองแพร่

นายประชา ติยะธะ ผู้จัดการโครงการจัดสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว เริ่มดำเนินการโดยการรถไฟแห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี 2503 โดยได้เริ่มทำการสำรวจเส้นทางเบื้องต้น เมื่อปี พ.ศ. 2512 ระยะทางรวม 273 ก.ม.และได้ทำการศึกษา สำรวจ วิจัยหาผลกระทบ มายาวนานถึงปี พ.ศ.2547 จนมาถึงรัฐบาลปัจจุบัน มีนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เป็นกำกับดูแล มีนโยบายในการพัฒนาโครงข่ายระบบรางและการให้บริการรถไฟ ซึ่งการรถไฟ ฯได้เสนอแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟ พ.ศ 2553-2557 ต่อคณะรัฐมนตรี และมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 17 พ.ย.52 รวมทั้งเห็นชอบแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟฯ เมื่อวันที่ 27 เมษายน ระยะเร่งด่วน 176,808 ล้านบาท การรถไฟได้จัดจ้าง บริษัทที่ปรึกษาเพื่อเตรียมการจัดสร้าง ในปี 2554 ประกอบด้วย บริษัท เอ็มเอเอ คอนซัลแตนท์ จำกัด ,บริษัท เอพวิลอน จำกัด ,บริษัท เอ็นริช คอนซัลแตนท์ จำกัด ระยะการดำเนินการ 14 เดือน ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย 2554 -28 มิถุนายน 2555 ส่วนแนวเส้นทางโครงการมีระยะทางรวมประมาณ 326 กิโลเมตร สถานี 26 แห่ง ผ่านพื้นที่ทั้งหมด 4 จังหวัด คือ จังหวัดแพร่ จังหวัดลำปาง พะเยา และจังหวัดเชียงราย สำหรับแนวเส้นทางร่วมจังหวัดแพร่นั้น มีระยะทางประมาณ 82 กม. ผ่านพื้นที่ 5 อำเภอ 23 ตำบล จำนวน 6 สถานี คาดว่าโครงการดังกล่าวจะดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ แล้วเสร็จและได้ข้อสรุปเสนอขออนุมัติ ซึ่งสามารถเริ่มก่อสร้างได้ในอีก 2 ปี

โดยในที่ประชุมมีตัวแทนหน่วยงานต่าง ๆ ผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่โครงการ ต่างแสดงความเป็นห่วงในการดำเนินการหลายประเด็นเช่น ปัญหาทางรถไฟอาจจะสร้างปัญหาระบบชลประทาน ควรต้องหาปรึกษาหน่วยงานชลประทานในพื้นที่และผู้รับผิดชอบหลักในการประสานการแก้ปัญหา รวมทั้งปัญหาความปลอดภัยทางตัดผ่านถนนและพื้นที่การเกษตร นอกจากนี้การสร้างอุโมงผ่านภูเขายาวกว่า 8 กิโลเมตรจากอำเภอสองจังหวัดแพร่ ไปทะลุอำเภองาวจังหวัดลำปาง ซึ่งพื้นที่อยู่ในเขตป่าสงวน ต้องมีการสำรวจผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อนเพื่อจะได้ไม่เป็นปัญหาในอนาคต
    
ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : แพร่(สวท.) เอนก จินดาหลวง   Rewriter : ธิดารัตน์ แบบวา
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th


 วันที่ข่าว : 11 กรกฎาคม 2554
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #338 เมื่อ: วันที่ 12 กรกฎาคม 2011, 19:08:51 »

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   12 กรกฎาคม 2554 14:16 น.


       เชียงราย - ประธานหอการค้าเมืองพ่อขุนฯ เตือนรัฐบาลใหม่เน้นแจก ทำอนาคตสังคมไทยล่มสลาย ขณะที่เมกะโปรเจกต์กลับกระจุกในส่วนกลาง เมินโครงการเชิงยุทธศาสตร์ในส่วนภูมิภาค ทำไทยเสียโอกาสจากกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค
       
       หลังการเลือกตั้ง 3 ก.ค.54 ที่กำลังจะทำให้เกิดการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล จากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคเพื่อไทย ได้ทำให้บรรดานักธุรกิจต่างเฝ้าจับตาการดำเนินการนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่อย่างเต็มที่ เนื่องจากมีหลายโครงการเกี่ยวข้องกับภาคเศรษฐกิจ ทั้งในภาพรวมและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน มีผลต่อกำลังซื้อในตลาด อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะในหลายกรณี
       
       นายชวลิต ฉัตรอุทุมพร ประธานหอการค้า จ.เชียงราย เปิดเผยว่า รูปแบบการพัฒนาประเทศของไทยมักจะเน้นนโยบายที่มาจากส่วนกลางหรือโครงการใหญ่ที่ดำเนินการที่ส่วนกลางเป็นส่วนใหญ่ ส่วนประชาชนในส่วนภูมิภาคหรือท้องถิ่น มักจะเป็นผู้ที่ถูกอุ้มชูด้วยการลด แลก แจก แถม ซึ่งตนเกรงว่าสภาพเช่นนี้จะทำให้สังคมไทยเรามีปัญหาในอนาคต เพราะไม่ได้สะท้อนตัวปัญหาของประเทศไทยที่แท้จริง แต่เป็นการกระจุกความเจริญไว้ที่ส่วนกลางโดยไม่กระจายความเจริญไปสู่ส่วนภูมิภาค
       
       วิธีการพัฒนาประเทศเช่นนี้ จะทำให้เราไม่สามารถรองรับการทะลักเข้ามาของกลุ่มเศรษฐกิจต่างๆ เช่น ไทย-จีน อาฟตา (อาเซียน) ฯลฯ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยนโยบาย ยุทธศาสตร์และการปฏิบัติที่มุ่งไปสู่การพัฒนาส่วนภูมิภาคภายใน 3-5 ปีนับจากนี้ เพราะภูมิภาคเป็นประตูสู่กลุ่มเศรษฐกิจต่างๆ ในภูมิภาคนี้โดยเฉพาะ จ.เชียงราย ถือเป็นประตูสู่ทั้งกลุ่มอาเซียนและจีน หากรัฐบาลใหม่ไม่ปรับตรงนี้ตนเชื่อว่าจะทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสอย่างมาก
       
       นายชวลิต กล่าวว่า นอกจากนี้ ตนอยากให้รัฐบาลใหม่ได้เอาใจใส่เรื่องกลไกตลาดให้มากโดยเฉพาะการบิดเบือนกลไกตลาดการเกษตร และเม็ดเงินจากโครงการช่วยเหลือไม่ได้ถึงมือเกษตรกรอย่างแท้จริงด้วย ยกตัวอย่างเรื่องการจำนำข้าว ซึ่งมีการประกาศจะดำเนินการว่าที่ผ่านมามักจะมีการดำเนินการช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งถือว่าผิดหลัก เพราะข้าวได้หลุดออกจากมือเกษตรกรไปแล้วและกลายเป็นคนกลางได้ประโยชน์ ส่วนเม็ดเงินที่แท้จริงไม่ถึงมือเกษตรกร ทั้งนี้ตนไม่ได้หมายถึงว่า คนกลางไม่มีประโยชน์แต่ควรจะเน้นให้ถึงมือเกษตรกรให้เต็มที่ด้วย
       
       “ปัจจุบันประเทศไทยยังมีเกษตรกรเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ดังนั้น มาตรการต่างๆ ที่ประกาศกันไปแล้วควรให้ถึงมือเกษตรกรจริงๆ เพราะถ้าชาวบ้านมีรายได้แม้ต้นทุนจะสูงขึ้นก็จะมีกำลังซื้อและกระตุ้นภาคเศรษฐกิจอื่นๆ ของประเทศได้ทั้งหมด แต่เท่าที่เห็นขณะนี้คือ กำลังจะมีการเทเมกะโปรเจกต์ใหญ่ๆ ที่ส่วนกลาง ซึ่งเห็นว่าไม่สะท้อนการพัฒนาที่แท้จริง” นายชวลิต กล่าว
       
       ประธานหอการค้าเชียงราย บอกอีกว่า สำหรับเรื่องใกล้ตัวของ จ.เชียงราย ที่น่าจับตามองอีกอย่างคือเรื่องโครงการผลักดันรถไฟผ่าน จ.เชียงราย ไปยังเชื่อมกับจีนตอนใต้ โครงการนี้รัฐบาลที่กำลังจะหมดวาระออกไปทุ่มงบประมาณ 175 ล้านบาท เพื่อการศึกษาเส้นทางสาย อ.เด่นชัย จ.แพร่-จ.เชียงราย แต่มีข่าวเรื่องรัฐบาลใหม่กำลังผลักดันรถไฟความเร็วสูงจาก จ.เชียงใหม่-เชียงราย โดยอ้างว่าที่ผ่านมาไม่ได้ดำเนินการ เพราะผลการศึกษาไม่คุ้มค่า
       ซึ่งตนอยากจะเสนอว่าควรมีการเปิดเผยผลศึกษาความคุ้มค่าของโครงการ เช่น การลดปริมาณการจราจรทางรถยนต์ จูงใจให้เกิดการลงทุน ความสะดวกสบาย การท่องเที่ยว ฯลฯด้วย
       
       เขาย้ำว่า โครงการรถไฟไป จ.เชียงราย ถือเป็นการกระจายความเจริญไปสู่ส่วนภูมิภาคอีกโครงการหนึ่ง เพราะเชียงรายเป็นประตูสู่กลุ่มอาเซียนและจีนตอนใต้ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยในภาพรวมด้วย ไม่ใช่คนเชียงรายหรือภาคเหนือกลุ่มเดียว แต่สภาพปัจจุบันคือเราไม่มีการก่อสร้างทำให้ประเทศจีนมุ่งขยายเศรษฐกิจไปทางภาคตะวันออกผ่านมณฑลกวางสี-เวียดนาม-สปป.ลาว มากขึ้น ดังนั้น ตนอยากให้ผลการศึกษาครอบคลุมทุกด้านรวมถึงเรื่องการเปิดเผยว่า จะให้ความสำคัญกับระบบขนส่งสินค้า หรือการขนส่งมวลชนด้วย


http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000085466
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #339 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2011, 17:59:21 »

พะเยา - การรถไฟแห่งประเทศไทย กางผังเส้นทางรถไฟเด่นชัย-เชียงราย ให้ชาวพะเยาร่วมแสดงความเห็น เผยแม้เริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2503 และผ่านการศึกษามาแล้วหลายรอบยังแจ้งเกิดไม่ได้ แต่วันนี้หากไม่มีปัญหา คาดเริ่มวางแนวเส้นทางได้ปีหน้า (2555) ผู้ว่าฯมั่นใจ พะเยาได้ประโยชน์หลายด้าน


       
       วันนี้ (13 ก.ค.) ที่ห้องประชุมภูกามยาวชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดพะเยา การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ได้จัดประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 1 (การปฏิรูปโครงการ) โครงการศึกษาทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มีนายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาเป็นประธาน เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนถึงความเหมาะสมโครงการฯ โดยมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่กว่า 200 คน
       
       นายนันทชัย หวังเลี้ยงกลาง ผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เริ่มดำเนินการโดย ร.ฟ.ท.ตั้งแต่ปี 2503 สำรวจเส้นทางเบื้องต้น เมื่อปี 2512 จากสถานีเด่นชัย-แพร่-สอง-เชียงม่วน-ดอกคำใต้-พะเยา-ป่าแดด-เชียงราย ระยะทางรวม 273 กิโลเมตร และได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทบทวนผลการศึกษาอีกหลายครั้งจนพบว่า ยังเป็นเส้นทางที่มีความเหมาะสมมากที่สุด พร้อมกันนี้ยังขยายเพื่อเชื่อมโยงกับประเทศจีนตอนใต้ได้
       
       ต่อมาคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2553 เพื่อพัฒนาปรับปรุงโครงข่ายทางรถไฟทั้งระบบ ระยะเร่งด่วน 176,808 ล้านบาท ซึ่งรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนดังกล่าว จึงได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาและออกแบบเพื่อเตรียมการก่อสร้างทางรถไฟสายนี้ในปี 2554 ระยะทาง 326 กิโลเมตร ผ่าน 4 จังหวัด คือ แพร่ ลำปาง พะเยาและเชียงรายมี 28 สถานี
       
       ทั้งนี้ เพื่อศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม สำรวจและจัดทำแบบรายละเอียดเพื่อการก่อสร้าง ประมาณราคาค่าก่อสร้างและจัดทำเอกสารประกวดราคา
       
       สำหรับการจัดการประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชนในจังหวัดพะเยา ตามผลการศึกษาจะมีทางรถไฟผ่าน 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ภูกามยาว เขต ต.ดงเจน ต.แม่อิง และ ต.ห้วยแก้ว อ.ดอกคำใต้ เขต ต.ห้วยลาน และ ต.ดอกคำใต้ และ อ.เมืองพะเยา เขต ต.แม่กา ต.จำป่าหวาย และ ต.ท่าวังทอง
       
       “ทั้งนี้หากไม่ติดปัญหาอะไร คาดว่าจะสามารถออกแบบทางรถไฟทั้งระบบได้ประมาณปี 2555 ที่จะถึงนี้”
       
       ด้าน นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า หากโครงดารดังกล่าวแล้วเสร็จ จังหวัดพะเยาจะได้รับประโยชน์หลายด้านด้วยกัน โดยเฉพาะด้านการขนส่ง ทั้งในเรื่องของสินค้าทางการเกษตร อุตสาหกรรมการเกษตร รวมไปถึงการเดินทางของพี่น้องประชาชน ที่สะดวกรวดเร็วขึ้น
       
       นอกจากนี้ยังถือเป็นโอกาสทองของจังหวัดพะเยาที่จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ชื่นชอบการเดินทางด้วยรถไฟ และชมธรรมชาติ มายังจังหวัดพะเยาเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจของจังหวัดดีขึ้นตามไปด้วย ขณะที่ความเป็นอยู่ประชาชนก็ยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเช่นกัน


http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000086056
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
หน้า: 1 ... 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 [17] 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 ... 37 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!