ข้อมูลจากอ้าย boondham
สถิติบ่าเดี๋ยวกับตะก่อนนี้ต่างกันปอสมควรเลยน่อ
ถ้าไปถามเรื่องเขตก๋านก้าเสรีในเจียงฮาย บ่ฮู้จะมีคนที่เข้าใจ๋แต้ๆกี่เปอร์เซ็นต์
น่าจะมีก๋านสำรวจผ่อเนาะ
ผมว่าคนเชียงรายโดยเฉพาะท่านประธานหอการค้าท่านฮู้ดี ครับอยากฮื้ออ่านบทสัมภาษณ์ขอเอามาลงอีกครั้ง ครับ
วันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4168 ประชาชาติธุรกิจ
ประธานหอฯเชียงราย "วิรุณ คำภิโล" ยุค "หยุดตรึกตรอง" ครั้งใหญ่
สัมภาษณ์
โดย กรรณิกา เพชรแก้ว
ถูก จัดเป็นประตูสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจและจีนตอนใต้มาเกือบ 20 ปี ผ่านการผลักดันอย่างแข็งขันจากภาคเอกชนต่อเนื่อง มีหอการค้าจังหวัดเป็นหัวหอกวิ่งเต้น ผลักดัน เรียกร้องมาตลอด เมื่อถึง
ประธานหอการค้าคนใหม่ "วิรุณ คำภิโล" ที่มีภาพลักษณ์เป็นนักการศึกษาคนนี้ มาดูว่าทิศทางจังหวัดใหญ่ หัวเมืองทางเหนืออย่างเชียงรายจะเป็นเช่นไร
ถ้าพูดเรื่องการค้าการลง ทุนข้ามชาติ
สิ่งที่เรากังวลคือการคุ้มครองผู้บริโภคของบ้านเรา และดูแลคนในพื้นที่ให้ได้มรรคผลจริง ๆ ทุกวันนี้การส่งออกไปจีนของเรา ลดลง ขณะที่สินค้าของเขาลงมาบ้านเรามากขึ้น ที่ลดเพราะกฎเกณฑ์ของบ้านเขา กำแพงการค้าของเขาเยอะมาก และเพราะเส้นทางมันมีหลายเส้นทาง ไม่ใช่ผ่านเราทั้งหมด อย่างผลไม้ที่ท่านนายกฯไปเจรจาก็ไปทางสาย R9 (มุกดาหาร- สะหวันนะเขต-เวียดนาม) คือภาพรวมเราไม่รู้ แต่ที่เชียงรายนี่การส่งออกไปจีนลด แต่ถ้ารวมทั้ง 3 ด่าน (แม่สาย-เชียงแสน-เชียงของ) การค้ากับพม่าดีขึ้นเยอะ
- สินค้าอะไรที่ส่งไปพม่าได้มากขึ้น
พวก อุปโภคบริโภค ตัวเลขรวมของ 3 ด่านทั้งขาไปขากลับ โตราว 10% จีนลด ในลาวเองก็ไม่โตเท่าไร มีแต่พม่าที่โตมาก สินค้าในลาวก็มีจากจีนเข้ามา เวียดนาม เข้ามาแข่ง แต่ก็ยังพอมีช่องว่างให้สินค้าของเรา เพราะชื่อเสียงที่ใช้กันมานาน
- ตั้งแต่เริ่มโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจมากว่า 10 ปี และเชียงรายถูกกำหนดเป็นเกตเวย์ ได้แสดงบทบาทนั้นจริงจังแค่ไหน
จริง ๆ แล้วยังไม่ได้ แต่โดยภูมิศาสตร์มันบีบให้ต้องเป็น แต่การเตรียมพร้อมคนในพื้นที่ยังไม่ได้ การประสานกันระหว่างภาคการศึกษากับภาคเอกชนยังไม่เต็มที่ น่าจะต้องเตรียมประชาชนให้ไวกว่านี้ที่จะเป็นเกตเวย์ ถ้าไม่พร้อมมันข้ามหัวเราไปมา ทุกวันนี้ประตูเปิดแล้ว ความเจริญ ข้ามหัวไปแล้วจริงหรือ- ยัง ๆ ทุกวันนี้มันยังไม่เสร็จเสียทีเดียว ต้องเร่งเรื่องศูนย์กระจายสินค้า มีนักลงทุนที่มีประสิทธิภาพ เราไม่ได้คิดว่าจะต้องเป็นลงทุนในพื้นที่หรือนักลงทุนไทย แต่อยากให้เอาศักยภาพของแรงงาน ของคน ของทรัพยากรในพื้นที่มาใช้ ไม่อยากให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ไปขายการท่องเที่ยวเหมือน กับที่คนอื่นเขามี ไม่อยากให้เป็นแหล่งอุตสาหกรรมที่ทอดทิ้งวิถีชีวิตดั้งเดิม
- ตอนนี้บทบาทของเชียงรายเป็นแค่เมืองการค้าชายแดน แต่ไม่ใช่เกตเวย์ของการค้าระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคอย่างที่หวัง
ถูก ต้อง แล้วจะยกระดับการค้าชายแดนขึ้นมาให้เป็น international linkage ได้ยังไง เราอยากให้
ทำแบบมีพื้นฐานไม่อยากให้เปิดตูมขึ้นมาโดยคนพื้นที่ไม่ได้มรรคผล อะไร หรือทิ้งการค้าชายแดน เดิม ๆ ไป เข้าใจว่าเป็นผลเสียมากกว่า เพราะว่าคนในพื้นที่ส่วนหนึ่งต้องถอยร่นไป- หลังจากสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงของเสร็จ ภาพของเชียงรายจะเปลี่ยนไปมากไหม
มาก เลย การค้าชายแดนที่เป็นอยู่ประมาณปีละหมื่นล้านจะเพิ่มขึ้น 3 เท่า หรืออาจ 5 เท่า 10 เท่าในไม่นาน จะเป็นตัวดูดเอานักลงทุนใหญ่ ๆ ในบริเวณนั้น มืออาชีพ
ทุนผูกขาดทั้งหลายจะเข้ามาทำให้การแข่งขันคนในพื้นที่จะยากขึ้น จะทำอย่างไรให้คนในพื้นที่พร้อมกับเรื่องพวกนี้ แทนที่จะเป็นเหยื่อของการเปลี่ยนแปลง ก็เป็นผู้นำของการเปลี่ยนแปลง เป็นโจทก์ที่คนเชียงรายจะต้องคิด ที่จริงไม่ใช่คน เชียงรายอย่างเดียว คนในจังหวัดใกล้เคียงที่จะได้รับผลกระทบก็ต้องคิดด้วย- เมื่อสะพานเสร็จ นักลงทุนจะไปลงทุนที่สะพานฝั่งเราหรือฝั่งลาว
ขึ้น อยู่ว่าจะจัดการตัวเราเองได้แค่ไหนอย่างไร ศูนย์กระจายสินค้าเราเป็นอย่างไร ถ้าไปดูที่สะหวันนะเขตกับมุกดาหาร รถจะไม่จอดในฝั่งไทยเลย จะไปจอดแต่ฝั่งลาว ต้องไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น ส่วนนักลงทุนจะไปลงทุนฝั่งไหนผมไม่รังเกียจ แต่เราจะเป็นผู้ผลิตสินค้าตัวไหนที่เป็นฐานของคนของเราพอจะมีช่องทางแข่งขัน กับเขาได้
- หอฯเชียงรายภายใต้ทีมบริหารชุดปัจจุบัน ไม่ได้เร่งที่จะเรียกหานักลงทุน แต่อยากอยู่นิ่ง ๆ คิดให้มากก่อนจะรับการลงทุน
ถูก ต้อง ๆ แต่ไม่ใช่ขอคิดมาก ๆ ขอแค่ว่าเราอยากให้ผลประโยชน์มันอยู่กับคนในพื้นที่บ้าง อยากจะกลับมาสู่การ เตรียมพร้อมผู้คนที่จะได้มรรคผลกับการพัฒนาตรงนี้- แสดงว่าการพัฒนาในสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ไม่ได้ให้มรรคผลต่อคนเชียงรายเท่าไร
จริง ๆ แล้วมันก็เหมือนการพัฒนาในหลาย ๆ ที่ของประเทศ ยิ่งพัฒนาไปก่อนหน้าเท่าไร โภคทรัพย์ทั้งหลายก็อยู่ในมือคนที่ไม่ใช่คนพื้นที่ มีคนจากต่างประเทศเยอะแยะไปหมด ระบบเป็นอย่างนี้เราก็ต้องยอมรับ แต่ก็อยากเตรียมพร้อมคนพื้นที่ว่ามันจะมาแล้วนะ คุณจะต้องพัฒนาตัวเองนะ ลูกหลานคุณจะอยู่ตรงนี้
ที่
ผ่านมาเราได้ขายที่ดิน มีสตังค์ก็พอแล้ว แต่เราต้องสู้กันทางความคิด ต้องปรับกัน ต้องเรียนรู้ ตั้งองค์กรแห่งการเรียนรู้ อาจเป็นคำที่สูงไป แต่มันก็ต้องทำ และอย่าซ้ำเติมพวกเดียวกันเอง หาช่องให้ทุนของพวกเราโตขึ้นมาได้บ้าง ไม่ใช่เปิดทางให้แต่ทุนใหญ่ที่เขามีแรงมากอยู่แล้วให้ยิ่งโตบนความทุกข์ยาก ของคนจน ๆหน้า 24
++++++++++++
ผมทำเครื่องหมายเน้นสีแดง
ผมฟังบทสัมภาษณ์นี้เมื่อไร
ไม่รู้สิภูมิใจในวิสัยทัศน์การพัฒนา ครับ....ถ้าให้ตอบผมเชียร์ตามประธานหอการค้าเชียงรายครับ..