จากเวทีการประชุม กรอ.ภูมิภาค เชียงใหม่ ถึงกรอ.ภูมิภาค อุดรธานี
รัฐบาลในทุกยุคทุกสมัยต่างใช้กลไกของคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ในการพัฒนาและบริหารประเทศ ดังนั้น กรอ. ได้ถูกคาดหวังให้เป็นองค์กรที่มีหน้าที่ในการเสนอแนะนโยบายแนวทางแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางเศรษฐกิจ ซึ่งต่อมาได้ขยายออกไปสู่ภูมิภาคจังหวัดต่างๆ (กรอ.ภูมิภาค) เพื่อเสนอแนะนโยบาย แนวทางและมาตรการทั้งในด้านการแก้ไขปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจในจังหวัด
สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ก็ได้ให้ความสำคัญต่อเวทีการประชุม กรอ.ภูมิภาค โดยผลของการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่1 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการนำเสนอสาระสำคัญ 5 ประเด็น ดังนี้
1.การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ (เสนอโดย กกร.) เช่นเสนอโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ การพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เส้นทาง เชียงใหม่-เชียงราย การเร่วรัดแผนการพัฒนารถไฟทางคู่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยและการเพิ่มเส้นทางรถไฟ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ
2.การส่งเสริมการค้าและการลงทุน (เสนอโดย กกร.) มีการนำเสนอการยกระดับจุดผ่อนปรน 3 จุด (จุดผ่อนปรนกิ่วผาวอก เชียงใหม่ จุดผ่อนปรนห้วยต้นนุ่น แม่ฮ่องสอน และจุดผ่อนปรนบ้านฮวก พะเยา )เป็นจุดผ่านแดนถาวร นอกจากนี้มีการนำเสนอเร่งรัดการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อเป็นศูนย์การค้าบริการและการท่องเที่ยวและเป็นประตูสู่เพื่อนบ้าน
3.การส่งเสริมการท่องเที่ยวและบริการ (เสนอโดย กกร. และสทท.) เช่น โครงการ Year of MiCE ในปี 2556 โครงการจัดการศูนย์ประชุมและการแสดงสินค้านานาชาติ จ.เชียงใหม่ แนวทางการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในเขตผังเมืองรวมจังหวัดเชียงใหม่ โครงการฝึกอบรมภาษาต่างประเทศที่มีความจำเป็นให้กับมัคคุเทศก์อย่างต่อเนื่อง
4. การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (เสนอโดย กกร.) การเสนอโครงการสร้างฝายชะลอน้ำแบบบูรณาการ เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำยม และโครงการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรและป้องกันน้ำท่วมอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นเอกภาพ ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติให้ กยน.รับข้อเสนอไปพิจารณาต่อไป
5.การพัฒนาตลาดทุนไทย (เสนอโดย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย) ได้นำเสนอเพิ่มข้อกำหนดเรื่องการยกเว้นภาษี ณ ที่จ่าย เงินปันผล ดอกเบี้ยให้กับบริษัทและกองทุนที่ลงทุนข้ามชาติ, โครงการการเงินขั้นพื้นฐานเพื่อผู้ประกอบการและประชาชนภาคเหนือตอนบน ,การส่งเสริมให้ตลาดทุนเป็นกลไกหลักในการระดมเงินทุนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ
สำหรับข้อเสนอของ กรอ. ทั้ง 5 ประเด็นในที่ประชุมได้รับข้อเสนอตามมติที่ประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ครั้ง1/2555 จังหวัดเชียงใหม่ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการตามมติที่ประชุมและรายงานผลการดำเนินงานให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งที่ 2 ณ จังหวัดอุดรธานี ในระหว่างวันที่ 21-22 กุมภาพันธ์ 2555 มีประเด็นที่ทาง กรอ.จะเสนอ ได้แก่ การพัฒนาโครงข่ายโลจิสติกส์ใน 4 เรื่อง โดยจะขอให้เร่งรัดโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่กรุงเทพฯ – หนองคาย ให้เสร็จในปี 2562 สนับสนุนการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ - หนองคาย ปรับปรุงเส้นทางเลียบแม่น้ำโขง เส้นทางหมายเลข 211 และ 212 ก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายบ้านไผ่ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และนครพนม เพื่อให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสอดรับกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งให้มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจชายแดนที่จังหวัดมุกดาหารและนครพนม พัฒนาอุตสาหกรรมเมือง ที่จังหวัดอุดรธานีและขอนแก่น โดยให้มีสิทธิเศษเท่ากับ 3 จังหวัดภาคใต้ พร้อมนำอีโคทาวน์เข้ามาประยุกต์ใช้
นอกจากนี้ต้องการให้ภาครัฐขยายการเปิดด่านสากลด้านนครพนม ท่าแขก จากเดิมปิดเวลา 18.00 น. เป็นเวลา 22.00 น. บริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรตามลุ่มน้ำโขง เลย ชี และมูล เพื่อใช้ความได้เปรียบด้านแรงโน้มถ่วงของภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้เป็นประโยชน์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวและบริการ โดยสนับสนุนการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง จังหวัดเลย การส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยเร่งรัดจัดตั้งมหาวิทยาลัยเฉลิมพระเกียรติที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสครบรอบ 90 พรรษา ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยก่อสร้างให้เสร็จในปี 2556
เป็นที่น่าจับตามองถึงการนำเสนอและผลการประชุมครั้งนี้จะเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งหากผลการประชุมออกมา ก็จะนำเสนอในโอกาสต่อไป
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : วันวิศาข์ ภาคสุวรรณ์ / ส่วนผลิต Rewriter : วันวิศาข์ ภาคสุวรรณ์ / ส่วนผลิต
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ :
http://thainews.prd.go.th วันที่ข่าว : 10 กุมภาพันธ์ 2555